วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2567

ฟาร์มฮัก ตอนที่ 7 "แอ๋ม คุณครูสาว"

 



 
 

   "แอ๋ม คุณครูสาว"

   บ้านผมอยู่ในตัวอำเภออำเภอหนึ่งที่ติดกับแม่น้ำโขง พ่อมีฟาร์มเลี้ยงโคขุนอยู่ห่างจากตัวอำเภอออกไปกว่า 10 กม. ผมเลยต้องไปนอนเฝ้าที่ฟาร์มมีบ้านน็อคดาวน์หลังเล็กๆ ที่มีพร้อมทุกอย่างเป็นวิมานส่วนตัว ส่วนมากก็ไม่มีอะไรเพราะงานในฟาร์มผมก็มอบให้หัวหน้าคนงานคอยดูแลเรื่องงานและคนงานประจำที่มีอยู่อีก 9 คน อีกทั้งบริเวณฟาร์มที่เนื้อที่กว่า 100 ไร่ ก็มีรั้วรอบขอบชิดจึงไม่ได้กังวลอะไรมาก
   ฟาร์มของผมอยู่ห่างจากถนนสายหลักที่เข้าสู่ตัวอำเภอสัก 2 กม.ได้โดยมีถนนลาดยางทางหลวงชนบทผ่านหน้าฟาร์ม โรงเรียนของหมู่บ้านซึ่งผมใช้วิ่งออกกำลังกายนั้นที่ตั้งจะมาทางฟาร์มผมเกือบกิโล ผมไปออกกำลังกายประจำก็เลยคุ้นเคยกับครูและนักเรียนดี มีการขอความช่วยเหลืออะไรผมกับโรงเรียนก็ร่วมมือกันมาตลอด
   วันหนึ่งผมได้รับโทรศัพท์จากพี่ยุซึ่งเป็นครูผู้หญิงที่ผมรู้จักดีได้บอกกับผมว่า ช่วยมาเป็นผู้ฝึกสอนเด็กๆ เล่นวอลเลย์บอลหน่อยจะส่งแข่งซึ่งทางอำเภอจัดขึ้น พี่ยุเล่าต่อว่า จะส่งวอลเลย์บอลหญิงเข้าแข่งขันจึงได้สมัครไปเมื่อเดือนที่แล้วและอีกหนึ่งเดือนจะแข่งแล้ว อาทิตย์ที่แล้วพี่ยุไปตรวจครรภ์และรู้ว่าท้องจึงต้องหยุดซ้อมเพราะต้องดูแลตัวเองเพราะเธอพยายามตั้งท้องมาหลายครั้งซึ่งครั้งนี้สมหวังก็จะขอเซฟตัวเอง ผมรับปากว่าเย็นพรุ่งนี้จะไปพบเธอที่โรงเรียน
   พี่ยุอยู่ในชุดข้าราชการครูยืนส่งเสียงกระตุ้นเด็กๆ โดยมีหญิงสาวผอมเพรียวคนหนึ่งยืนอยู่ข้างๆ พี่ยุเห็นผมเธอก็ยิ้มกว้างเดินเข้ามาหาผม เราทักทายกันครู่หนึ่งแล้วเธอก็แนะนำให้รู้จักกับ "แอ๋ม"
   แอ๋ม เป็นครูบรรจุใหม่พื้นเพเป็นคนกรุงเทพฯ รูปร่างผอมเพรียวตาโตใบหน้าคมเข้มผมยาวประบ่าผิวสีน้ำผึ้งดึงดูดสายตาผมทีเดียวคาดว่าน่าจะมีเชื้อสายแขกอยู่ในตัว พี่ยุบอกว่า แอ๋มมีทักษะวอลเลย์บอลอยู่บ้างแต่ไม่ได้เก่งอะไรมากนัก กลัวจะเป็นภาระให้กับเธอจึงให้ผมมาช่วยหน่อย
   ด้วยความสูงของผมตั้งแต่ประถมยันมหาวิทยาลัยผมจึงได้เล่นกีฬาที่เกี่ยวกับการใช้ส่วนสูงจนชำนาญคือบาสเก็ตบอลและวอลเลย์บอล ผมมองดูเด็กๆ ซ้อมวอลเลย์บอลแล้วก็ไพล่หันไปมองแอ๋มด้วย หน้าคมๆ จมูกโด่งเป็นสันก็ทำเอาผมไม่อยากละสายตา
   ผมไปฝึกเด็กๆ ที่โรงเรียนแล้วก็เห็นรองเท้านักเรียนที่พวกเด็กๆ ใส่ซ้อมซึ่งไม่เหมาะกับใส่เล่นกีฬาแล้วก็คิดต้องเตรียมการใหญ่เสียแล้วเรา ผมจึงบอกนักกีฬาทั้ง 12 คนว่า เย็นวันนี้ไม่ต้องซ้อมจะพาเข้าห้างกินไก่กัน แต่ผมกับแอ๋มได้พูดคุยกันแล้วโดยผมชวนเธอก่อนหน้าแล้วว่า ให้ไปช่วยเด็กๆ เลือกรองเท้าหน่อย
   เด็กๆ ถูกเซอร์ไพรส์ด้วยรองเท้าใหม่ต่างก็ดีอกดีใจใหญ่ก่อนที่ผมจะพาเข้าร้านไก่ทอด ผมมองดูเด็กๆ หัวเราะอย่างสนุกสนานและเอร็ดอร่อยกับเมนูที่เขาเลือกผมก็พลอยยิ้มไปด้วย
   "ขอบคุณแทนเด็กๆ ด้วยนะคะ" ผมหันไปตามเสียงก็เจอหน้าสวยคมกำลังยิ้มให้
   "เห็นคุณครูยิ้มผมก็ชื่นใจแล้วล่ะครับ" ผมยิ้มหวานกลับใส่แอ๋ม
   ผมอยากจะเก็บตัวนักกีฬาจึงเสนอให้ฟาร์มผมเป็นที่พักโดยจะให้นักกีฬามานอนที่ฟาร์ม ตอนเช้าผมจะพาออกกำลังกายแล้วฝึกซ้อมก่อนจะไปโรงเรียน ส่วนตอนเย็นให้ซ้อมที่โรงเรียนก่อนจะกลับมานอนที่ฟาร์ม โดยผมได้จัดทำสนามวอลเลย์บอลข้างโรงอาหาร ส่วนอาหารเช้าเย็นผมรับผิดชอบทั้งหมด
   ความใกล้ชิดของผมกับแอ๋มก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อต้องรับผิดชอบเด็กร่วมกัน ตอนเช้าถ้าเธอว่างก็จะมาร่วมซ้อมกับเด็กๆ ด้วย ยิ่งช่วงนี้เข้าฤดูหนาวทำให้ไร่กว้างของผมมีหมอกตอนเช้าๆ ผมเห็นเธอสูดอากาศยามเช้าอย่างสดชื่น เธอบอกว่า เติบและโตในกรุงเทพฯ ไม่ค่อยได้ออกต่างจังหวัดบ่อยนักเลย พอสอบครูได้ก็เลยเลือกลงต่างจังหวัดเพราะชอบอากาศที่ดีกว่ากรุงเทพฯ เธอเล่าให้ผมฟังพร้อมกับซับเหงื่อบนใบหน้าจนผมอยากเข้าไปซับให้
   "ถ้าชอบก็อยู่ตลอดไปนะครับ" ผมเอ่ยแล้วทำตาหวานใส่
   แอ๋มหน้าแดงหลบสายตาผม ผมมองตามแผ่นหลังที่เดินออกไปหาเด็กๆ ที่กำลังซ้อมวอลเลย์บอล ผมมองดูเวลาแล้วก็เห็นว่าสมควรแล้วจึงสั่งเลิกฝึกบอกเด็กๆ ให้อาบน้ำแล้วเตรียมกินข้าวและเอ่ยปากชวนแอ๋มด้วย
   "ฟาร์มพี่กว้างดีนะคะ มีที่ให้เด็กออกกำลังกายเยอะดี อากาศก็บริสุทธิ์ด้วย" แอ๋มเอ่ยพร้อมตักข้าวเข้าปาก
   "ไม่เหม็นขี้วัวเหรอครับ?"
   "ก็...ไม่นี่คะ"
   "ชอบจังเลยคนที่ไม่เหม็นขี้วัวนี่" ผมทำหน้าทะเล้น
   "ทำไมเหรอคะ?"
   "ก็...อยากจะหาคนที่ไม่เหม็นขี้วัวมาอยู่ด้วยสักคน หามานานล่ะวันนี้เพิ่งเจอ แต่เอ...ไม่รู้ว่าเขาจะอยากมาหรือเปล่าก็ไม่รู้?" ผมชะโงกหน้าเข้าไปจ้องตาแอ๋ม
   แอ๋มหลบสายตาผมพร้อมพวงแก้มที่แดงปลั่งและรอยยิ้มเขินๆ ออกมาจากปากบางๆ ที่น่าจูบเสียนี่กระไร
   วันเสาร์วันแข่งนัดแรก เด็กๆ ดูเกร็งๆ และเล่นไม่ออกจึงแพ้คู่แข่งแบบขาดลอย ขณะที่วันอาทิตย์นัดที่สอง เด็กๆ กลับมาเล่นอย่างมั่นใจจนชนะได้และเข้ารอบเป็นที่สอง เด็กๆ ดีใจกรูกันเข้ามาห้อมล้อมผมกับแอ๋ม ผมจึงถือโอกาสโอบไหล่เธอและกอดไปกับเด็กๆ ด้วย จากนั้นผมก็พาเด็กๆ เข้าร้านหมูกะทะฉลองการเข้ารอบ
   "วันนี้ดีจังนะคะ เด็กๆ ทำได้ดีและเข้ารอบด้วย หายเหนื่อยไปเหมือนกัน" เรายืนมองเด็กๆ ปั่นจักยานออกจากโรงเรียนแล้วแอ๋มก็หันมาพูดกับผมยิ้มๆ
   "เห็นคุณครูยิ้มแบบนี้แล้วผมนี่หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยครับ" ผมยิ้มทำตาหวานใส่เธอ
   "ทำเป็นพูด" แอ๋มสะเทินอาย
   "สัญญาก่อนนะว่าจะไม่ทิ้งผม" ผมจับมือแอ๋มมากุม
   "อะไร๊ เราเป็นแฟนกันตอนไหนเนี่ยะ?" แอ๋มหน้าแดงยิ้มอายๆ
   "ก็ไม่ได้บอกว่าเป็นแฟนนี่นา"   
   ผมทำหน้าทะเล้นใส่แล้วหัวเราะหึหึยกมือเธอขึ้นมาจูบ แอ๋มเอ่ยเบาๆ ว่า ก็เห็นบอกจะไม่ทิ้งกันอะไรนี่ ผมยิ้มก้มหน้ามองเธอแล้วบอกว่า ก็อย่าทิ้งไปทำทีมอี่นล่ะ ทำทีมนี้ให้ชนะก่อน
   "แต่ถ้า...เป็นแฟนจริงๆ นี่จะได้ไหมล่ะ?" ผมกระซิบข้างหู
   หน้าแดงปลั่งหลบวูบด้วยความเขินอายก่อนจะพูดเบาๆ ว่า พี่นี่ พูดอะไรก็ไม่รู้ แล้วแอ๋มก็ค่อยๆ ดึงมือออกจากมือผมแล้วหันหลังกลับเข้าบ้านพักอย่างเร็ว
   จันทร์ถึงพฤหัสบดีผมก็เคี่ยวนักกีฬาอย่างหนักสำหรับรอบต่อไปแม้จะเหนื่อยแค่ไหนแต่มีครูสาวมายืนเคียงข้างก็ทำให้หายเหนื่อยลงทันที วันศุกร์ผมงดซ้อมเพื่อให้เด็กๆ พักเพื่อจะได้แข่งวันพรุ่งนี้
   วันเสาร์เด็กๆ ทำได้ดีสามารถชนะเข้ารอบรองชนะเลิศและเข้าชิงชนะเลิศได้ โดยรอบชิงจะเจอกับทีมที่ชนะเรามาในนัดแรกซึ่งเป็นทีมเต็งแชมป์ด้วย เด็กทำได้ดีมากเมื่อเล่นได้อย่างสูสีแต่ก็สู้ความหนักไม่ได้จึงแพ้ไปแบบสูสีแต่ชนะใจคนดู เด็กๆ ดูเคร้าจนผมต้องปลอบประโลมบอกกับเด็กๆ ว่า ปีหน้าเราจะเอาแชมป์ ก่อนจะพาเด็กๆ เข้าร้านหมูกะทะเช่นเคย
   คราวนี้กว่าจะกลับถึงโรงเรียนก็ค่ำแล้ว เราจัดการกับเด็กเรียบร้อยแล้วก็ยืนคุยกันอยู่ข้างรถผม แอ๋มขอบใจสำหรับทุกอย่างที่ผมทำให้ ผมไม่พูดอะไรแต่ดึงตัวเธอเข้ามากอดหลวมๆ แอ๋มเหมือนจะตกใจที่ผมจู่โจมเร็วจนเธอตั้งตัวไม่ติด เหมือนจะขืนตัวอยู่บ้างแต่ก็ปล่อยเลยเมื่อผมพูดว่า ขอบคุณคุณครูเหมือนกันที่อยู่ข้างๆ ผม เราจ้องตานิ่งกันอยู่สักครู่ก่อนที่ผมอดใจไม่ไหวโน้มปากลงจูบกับปากบาง
   แอ๋มดูอ่อนระทวยอยู่ในวงแขนเมื่อถูกประกบปากจากผม ปากบางเผยออ้ารับการสอดลิ้นดวงตากลมโตพริ้มหลับในอ้อมแขน ความรู้สึกซาบซ่านจากรสจูบหอมหวานก็ไม่เนิ่นนานนักเมื่อมีแสงไฟจากหน้ารถแล่นเข้ามาในโรงเรียน เราสองคนแยกออกจากกันอย่างเร็ว แอ๋มหน้าแดงซ่านยิ้มอายๆ กล่าวลาแล้วก็เดินเข้าบ้านพักไป
   เย็นวันหนึ่งหลังเลิกเรียน แอ๋มโทรศัพท์บอกว่า ให้พาเข้าอำเภอซื้อของใช้หน่อย ผมรีบตอบรับแล้วพาไปทันที เมื่อซื้อของเสร็จก็พากันไปกินข้าว ผมสั่งเบียร์พร้อมกับรินให้แอ๋ม เธอยกขึ้นจิบแล้วยิ้มอายๆ บอกว่าไม่ได้กินเบียร์มานานแล้วตั้งแต่ฉลองสอบครูได้
   ผมมาส่งแอ๋มที่บ้านพักครูเกือบสี่ทุ่ม ผมเดินไปส่งเธอที่หน้าประตูบ้าน แอ๋มยืนหันหลังพิงประตูแล้วเอ่ยขอบคุณผมที่ช่วยเหลือในวันนี้ ผมเอามือซ้ายยันประตูแล้วก้มหน้าลงไปชิดใบหน้าคมสมส่วนจ้องมองนัยน์ตาที่มีประกายบางอย่างลุกวาวอยู่ข้างใน ดวงตานั้นค่อยๆ หรี่ลงพร้อมกับคางที่เชิดขึ้น ผมประทับจูบลงทันที
   คราวนี้เนิ่นนานหวานหอมและเร่าร้อนกว่าเดิม ผมถอนปากออกมาจ้องตากับแอ๋มก่อนจะประกบปากกันอีกครั้ง และก็เป็นแอ๋มที่ผลักอกผมออกแล้วรีบเข้าห้องไป ผมถอยหลังออกมายืนยิ้มโบกมือให้กับเธอที่เปิดหน้าต่างชั้นบนออกมากล่าวคำขอบคุณอีกครั้ง
   ปีใหม่ทุกปีผมจะเลี้ยงฉลองกับคนงานและครอบครัวที่ลานหลังบ้านผม ปีนี้พิเศษหน่อยที่มีนักกีฬาของผม (ที่เรียกผมว่าครูไปแล้ว) และคณะครูด้วย แอ๋มมากับรถพี่ยุและสามี ไม่ถึงชั่วโมงพี่ยุก็ขอตัวกลับเพื่อพักผ่อนพร้อมกับบอกผมให้ไปส่งแอ๋มด้วย ผมนี่รับปากอย่างไว
   งานเลี้ยงเลิกสี่ทุ่มผมกับแอ๋มนั่งคุยกันเบาๆ ใต้ซุ้มที่ประดับไฟแสงสี ผมเห็นเธอหน้าแดงน่าจะเพราะฤทธิ์เบียร์ที่ผมเห็นเธอยกดื่มกับเพื่อนครูอยู่หลายแก้ว จังหวะหนึ่งที่ผมหันไปมองแอ๋มก็เห็นเธอจ้องหน้าผมอยู่ก่อนหน้าแล้ว
   "ไม่คิดว่าพี่จะ...ยังโสด" แอ๋มจ้องหน้าผมนิ่งก่อนจะเอ่ยเบาๆ
   "ทำไมล่ะ?" ผมยิ้มยั่วอยากให้เธอเอ่ยออกมา
   "ก็..."
   แอ๋มไม่ได้พูดต่อแต่เอื้อมมือมาลูบเคราสั้นของผมไปมา ผมจ้องตาเธอนิ่งก่อนจะก้มหน้าลงจูบปากกับเธอเบาๆ แล้วถอนออกมารอปฏิกิริยาของเธอ มือเธอยังประคองอยู่ที่แก้มผมนิ่งพร้อมหลับตาพริ้ม คราวนี้เร่าร้อนกว่าครั้งแรกเมื่อผมบดปากลงอีกครั้งลิ้นของเราก็เกี่ยวตวัดรัดกันทันที มือของแอ๋มเลื่อนมาคล้องคอผมพร้อมร่างของเธอก็อยู่ในอ้อมกอดของผมแล้ว มือผมป่ายลูบไล้หลังและสะโพกพร้อมถอนปากออกแล้วเลื่อนลงที่ซอกคอระหง เสียงหายใจแรงๆ ของแอ๋มบ่งบอกถึงอารมณ์พิศวาทเมื่อผมขยี้เรียวหนวดสั้นและลมหายใจอุ่นๆราดรดที่ซอกคอ
   "คืนนี้จะกลับบ้านพักไหมครับคุณครู?"
   ผมกระซิบข้างหูแต่แอ๋มไม่ตอบอะไร ผมกระซิบถามย้ำอีกครั้งพร้อมถูเคราไปมาที่ลำคอและส่งลมหายใจอุ่นแรงๆ เพิ่มเข้าก่อนจะเห็นเธอส่ายหน้าช้าๆ ผมเลื่อนปากไปประกบปากเล่นลิ้นกับแอ๋มอีกหน่อยแล้วก็ลุกจูงมือเธอขึ้นบนบ้าน
   เมื่อไฟกามารมณ์ได้จุดติดขึ้นในหัวใจแล้วก็ยากที่จะดับมอดลงโดยง่าย เรายืนจูบกันอย่างเร่าร้อนพร้อมกับที่ผมปอกร่างงามไปด้วย เสื้อคลุมไหล่,เสื้อยืดและกางเกงสแลคของแอ๋มถูกผมถอดออกจนเหลือชั้นในสองชิ้น ส่วนผมเหลือบ็อกเซอร์ตัวเดียว ร่างเพรียวบางนอนบิดตัวอยู่บนเตียงเมื่อถูกผมพรมจูบไปทั่วทั้งกาย
   ผมปลดตะขอบราก่อนที่สองเต้ากระเปาะน้อยจะเผยโฉม สองมือผมตะโบบบีบพร้อมปากที่ลงดูดดุน สองเม็ดบัวชูชันรับลิ้นที่ละเลงสลับกันไปมาทำเอาเจ้าของร่างดิ้นพล่านมือป่ายเปะปะจนจับหัวพร้อมกับขยี้ผมของผมอย่างคนเสียวซ่าน ผมละใบหน้าออกมามองร่างงามชัดๆ แล้วเลื่อนตัวลงล่างสองมือน้อยๆ รูดกางเกงในตัวจ้อยออกอย่างละมุน
   เนินเนื้อขนาดพอดีที่มีขนสีดำสนิทปกคลุมอยู่บางๆ บ่งบอกการใส่ใจความสะอาด เนินนูนลาดลงต่ำที่มีกลีบร่องรูเบียดสนิทชิดโคนขา ผมลูบคลำมือไปมาตามเส้นขนละเอียดอ่อนก่อนจะซุกหน้าลงลิ้น แอ๋มสะดุ้งเฮือกเมื่อลิ้นของผมแหวกร่องหลืบแคบกระทบกับเม็ดเสียว ผมตวัดลิ้นฉับๆ ดูดเลียจนเธอแอ่นอกหราร้องครางซี๊ดๆ เบาๆ สองมือกุมอยู่ที่สองเต้าของตัวเอง
   "อ๊า...พี่ อูย...ซี๊ด..."
   สองมือแอ๋มเปลี่ยนไปกางเหยียดขยุ้มที่นอนเมื่อผมกดคางเข้าใส่ร่อง เคราสั้นคงจะทำเอาเธอซ่านเสียวไม่ใช่น้อยแต่เสียงครางของเธอก็ดังแค่แผ่วๆ เท่านั้น สองมือผมแหวกสองกลีบอ้าแยงลิ้นสลับกวาดตวัด นิ้มโป้งบดบี้เม็ดเสียวพร้อมเอวคอดที่ส่าย แอ๋มหอบฮักๆ ครางกระชั้นถี่ก่อนที่จะมีเสียงยาวดังอยู่ในลำคอ ร่างบางเกร็งกระตุกหงึกๆ ก่อนจะถอนหายใจยาว
   ผมคลานขึ้นไปจูบไล้ที่อกน้อยแล้วเลื่อนหน้าขึ้นไปหอมแก้มแดงที่สุกปลั่ง แอ๋มหลับยาพริ้มผ่อนลมหายใจที่เริ่มมาเป็นปกติ ผมก้มประกบปากเล่นลิ้นกับเธออีกครั้งก่อนจะเลื่อนตัวลงต่ำพร้อมถอดบ็อกเซอร์ขยับเข้าหว่างขาเตรียมพร้อม ท่อนเนื้อจ่อที่ร่องรูแล้วผมก็ค่อยๆ ดันเข้าออกช้าๆ แอ๋มเงยหน้าขึ้นมามองแล้วร้องอุ๊ยมีแววตาหวาดหวั่นก่อนจะนำมือมายันหน้าท้องผมไว้ ท่อนลำขนาดใหญ่ที่แอ๋มเห็นอยู่ต่อหน้าคงจะทำให้เธอกลัวกลัว ผมจึงส่งยิ้มปลอบให้แอ๋มไว้ใจ
   ความคับแน่นที่บีบกระชับลำแท่งมีมากจนผมร้องซี๊ดเมื่อดันเข้าไปถึงครึ่ง แอ๋มตัวสั่นระริกร้องอือๆ อยู่ในคอพร้อมกัดฟันกรอดๆ ผมขยับเอวเร็วบ้างช้าบ้างส่งผลให้แอ๋มส่งเสียงครางตลอดเวลา ท่อนเนื้อผมค่อยๆ เข้ารูเสียวจนจมมิดเมื่อผมขยับอีกหลายครั้งและผมก็ยังขยับต่อเนื่องไม่แช่นิ่ง แอ๋มบิดตัวเร่าๆ เมื่อผมซอยออกสุดเข้าสุดพร้อมเด้งสะโพกสวนผมกลับคืน
   "พี่ โอย...ไม่ไหวแล้ว เร็วๆ ซี๊ด..."
   เสียงกระเส่าแผ่วแว่วดังมาจากปากบางพร้อมสองมือมาเกาะสองแขนผมแน่น สองมือผมจับเอวคอดดึงสวนเอวเร็วขึ้นทำเอาร่างบางสะท้านจนสองเต้าน้อยสะเทือน แอ๋มเกร็งร่างก่อนจะกระตุกพร้อมกัดฟันร้องอยู่ในลำคอบ่งบอกถึงความสุขสมอีกครั้ง ผมหยุดเอวลูบไล้มือแผ่วๆ บนยอดอกน้อยปลอบประโลมจนเธอหายหอบ
   ผมเอนนอนพร้อมจับแอ๋มขึ้นนั่งทับแล้วโน้มตัวเธอลงมาจูบปาก เมื่อแอ๋มยืดร่างขึ้นเธอก็เริ่มบดยาโดยมีมือผมที่ประคองอยู่ที่เอวคอดคอยช่วยอีกแรง เธอบดเอวไปตาก็หลับพริ้มทำให้ผมได้สำรวจใบหน้าคมขณะที่สองมือก็คลึงเคล้นบีบสองเต้าไปด้วย แอ๋มเหมือนจะพยายามกลั้นเสียงครางแต่ทว่าความเสียวที่เธอได้รับก็มากพอที่ทำให้เสียงกระเส่าดังเล็ดรอดออกจากไรฟัน
   ผมแตะเอวแอ๋มให้หยุดแล้วจับเธอหมุนตัวไปด้านหลัง ท่อนเนื้อบิดหมุนคว้านโพรงลึกจนเธอซี๊ดปาก เธอไม่ยอมเสียเวลาใดใดรีบบดยาต่อทันที ท่อนเนื้ออวบใหญ่ของผมงัดร่องหลืบคับเสียงดังกึกๆ ทำเอาผมสะท้าน สะโพกกลมกลึงส่ายสะบัดไหวยามที่แอ๋มเร่งเอว
   "อ๊า...ไม่ไหว พี่ พี่ อูย..."
   แอ๋มฟุบหน้าลงที่ขาของผมแล้วสาวเอวขึ้นลงแรงโดยมีสองมือผมประคองสองแก้มก้น เธอกระแทกขึ้นลงอยู่หลายครั้งก่อนจะร้องครางบดเอวช้าๆ ใส่ท่อนเนื้อของผมก่อนจะหมอบแนบเท้าพร้อมหายใจหอบระรัว
   ผมก็เดินทางมาถึงด่านสุดท้ายแล้วเหมือนกันจึงจัดท่าเพื่อจะรีดน้ำ ผมลุกนั่งถอนท่อนเนื้อออกจากร่องเสียวที่มีสะโพกของแอ๋มแอ่นตามแล้วประคองสะโพกกลึงให้ลอยโด่งดันท่อนเนื้อสวบเดียวเข้ามิดด้าม แอ๋มแอ่นก้นสู้แล้วร้องครางเบาๆ ผมสาวเอวยาวๆ ใส่ทันทีจนความเสียวมาเยือนอีกครั้ง ผมสาวเอวระรัวอัดหนอกใส่แก้มก้นเป็นระวิง แอ๋มร้องอูยๆ พร้อมเกร็งก้นรับอย่างไม่ยอมแพ้
   "อ๊าย...ไม่ไหว อ๊า...พะ พี่ ซี๊ด..." แอ๋มสงสัญญาณมาด้วยเสียงกระเส่า
   "พร้อมกันนะครับคุณครู อ๊า..."
ผมครางกระกระเส่าไม่แพ้กันกลับไป
   "ขอข้างนอกนะคะ อ๊า...วันนี้ไม่พร้อม ซี๊ด..." เสียงแผ่วเบาละเมอออกมาจากปากบาง
   จากที่ตั้งใจจะรีดน้ำด้วยท่านี้เป็นต้องกลับใจกระทันหัน ผมกระแทกก้นกลมกลึงของร่างบางก่อนจะถอนลำแท่งออกแล้วพลิกร่างงามนอนหงายพร้อมกับดึงร่างงามมาที่ขอบเตียง การจะปล่อยน้ำออกข้างนอกสักครั้งคงต้องดูให้ครบมิติ
   ผมลงมายืนที่พื้นมุมเตียงแล้วแหกขาแอ๋มออกกว้างพร้อมกับสอดแท่งเนื้อเข้ารูเสียวที่เผยออ้ารอรับ ผมประหน่ำเอวทันทีที่ท่อนเอ็นทะลวงเข้าร่องรู แอ๋มเด้งรับขณะที่ผมก็กระหน่ำเอวระรัว เสียงเธอครางอยู่ในลำคอเมื่อความเสียวมาเยือนอีกครา
   สองขาที่พาดบ่าก็ทำให้สะโพกแอ๋มยกสูง ผมยืนสาวท่อนเนื้อใส่ร่องเสียวของแอ๋มอย่างหนักจนเสียงหนอกชนหนอกดังอยู่ผับๆ ร่างเพรียวบางสั่นสะท้านด้วยแรงโยกมีสองเต้าน้อยสั่นไหวระรัว แอ๋มครางกระเส่าหายใจหอบแอ่นอกหราร้องครางเสียงยาวแล้วก็เกร็งกระตุกร่างบ่งบอกถึงความสุขสมอีกครา นั่นคือภาพที่ผมต้องการจะเห็นและความอดกลั้นก็มาถึงตอนสิ้นสุด
   ผมหยุดเอวแล้วรีบถอดลำแท่งออกมาจากรูสวาทพร้อมชักชักกระถอกอยู่ไหวๆ เสียงครางต่ำในลำคอของแอ๋มกระตุ้นอารมณ์สวาทจนทำอารมณ์ผมกระเจิง ผมชักกระตุกแล้วพ่นน้ำขุ่นข้นกระฉูดบนเนินนูนเต็มหน้าท้องและบางส่วนประฉูดไปถึงใบหน้าคมของแอ๋มอย่างสุขสม
   ผมล้มร่างใหญ่อย่างคนหมดแรงลงไปทาบทับแอ๋มที่หายใจหอบไม่แพ้กันอย่างไม่สนใจน้ำขุ่นข้นที่เพิ่งรีดออกไป จมูกซุกไซ้ไปมาที่พวงแก้มสีน้ำผึ้งที่ผมหลงใหลพร้อมกระซิบพร่ำรักกับสาวร่างบางที่โอบกอด
   "พี่ แอ๋มใจจะขาดให้ได้" เสียงแผ่วๆ ละเมอดังใกล้หูของผม
   "ราตรีนี้ยังอีกยาวนานนักนะครับคุณครู"
   "แอ๋มเคยสอนแต่บทเรียน ช่วยสอนบทรักให้แอ๋มหน่อยนะคะ"
   ผมยิ้มให้กับยิ้มหวานที่ส่งมา เป็นคุณครูให้กับเด็กๆ ก็เป็นมาแล้ว คืนนี้คงต้องยอมเป็นครูใหักับคุณครูบ้าง

จบ "ฟาร์มฮัก" ตอนที่ 7 "แอ๋ม คุณครูสาว"





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น