นี่คืออีกหนึ่งเหตุการณ์จริง ที่ผมได้พบเจอและนำมาเล่ามาแชร์ และในเหตุการณ์ครั้งนี้ ก็เป็นครั้งหนึ่งที่มาจากคนใกล้ตัว อาจจะเพราะตรงที่ผมอยู่ สภาพแวดล้อมรายล้อมไปด้วยผู้หญิงที่มากกว่าผู้ชาย และเรื่องราวในครั้งนี้ มันแตกต่างจากครั้งก่อน ๆ เพราะนี่คือครั้งแรกที่ผมได้มาเจอ กับผู้หญิงประเภทแบบนี้ และซึ่งเธอเองก็เป็นผู้หญิงในแบบที่ตัวผมเอง ไม่คิดว่าจะมีอยู่จริงๆในสังคม "แต่เธอมีจริง" แม้ว่าเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ อาจจะดูเรียบ ๆ แต่มันมีหลาย ๆ จังหวะ หลายสถานการณ์ ที่ผมรู้สึกลุ้น และทั้งตื่นเต้นไปกับเหตุการณ์นี้ ที่เกิดขึ้นได้ซักประมาณ ในช่วงต้นเดือนเมษายน 64 (ช่วงที่ไวรัสโควิดกำลังระบาดหนัก) ในตอนนั่นผมยังคงทำงานฝ่ายอาคารสถานที่ แถวสีลมอยู่ และทางบริษัทผม ก็ไม่มีนโยบายที่จะหยุดงานทั้งหมด แต่มีการแบ่งกันหยุดเป็นแผนก (แต่ละแผนกมาทำงานวันเว้นวัน) โดยที่แผนกผม จะมาทำงานพร้อมกัน กับฝ่าย บัญชี และฝ่าย กฎหมาย นอกนั้นจะหยุดสลับมาอีกวัน และในช่วงนั้นผมก็มีงาน ที่รับผิดผิดชอบ 2 งานหลัก ๆ นั่นคือการประสานงาน กับผู้รับเหมาที่เข้ามา renovation office ชั้น 7 และชั้น 11 ผมยังโชคดีที่ชั้น 11 ยังไม่ถึงกำหนดการเข้าทำ แต่กลับเป็นชั้น 7 ที่ทำให้ผมต้องนั่งปวดหัวหนัก เพราะเป็นงานที่พี่อ๊อด (หัวหน้าแผนก) เพิ่งโยนมาให้ผมทำ ซึ่งที่ชั้น 7 ที่มีปัญหา เพราะว่าทางบริษัทเป็นคนจัดหาผู้รับเหมา ให้กับลูกค้าที่เช่าตึกเอง และผู้รับเหมาเจ้าเดิมก็ทำไม่ถูกใจลูกค้า ซึ่งพอเข้าใจได้ว่ามีผลมาจากสถานการณ์โควิท แต่ลูกค้าไม่เห็นใจ จะเอางานอย่างเดียว จึงมีการเปลี่ยนผู้รับเหมาใหม่ ทุกอย่าง ที่เกี่ยวกับเอกสาร ผมต้องรื้อมาตรวจสอบ ไล่ดูระบบน้ำ ระบบไฟ ตั้งแต่ก่อสร้างทีแรก และปรับแก้ไขใหม่ ซึ่งผมเองต้องประสานงานผ่านธุระการเรื่องเอกสารต่าง ๆ แต่ในช่วงนั้นฝ่ายธุรการ ที่ชั้น 10 ที่ผมสนิท และประสานงานกันทุกครั้ง ก็ดันมาเป็นแผนก ที่ทำงาน และหยุดงานไม่พร้อมกัน ตอนนั้นผมจึงได้โทรไปปรึกษา กับน้องที่เป็นธุรการที่ดิวงานกันประจำ โดยที่น้องก็ได้แนะนำให้ผม ไปติดต่อด้วยตัวเอง ที่ทางฝ่ายธุรการส่วนของชั้นล่าง เพราะข้อมูลแฟ้มส่วนมากจะเก็บไว้ที่ฝ่ายธุรการชั้นล่างและที่สำคัญน้องธุรการได้บอกกับผมว่าให้ผมประสานงานโดยตรงกับพี่แมวเลย จะชัวร์ที่สุด...โอ้วววครับ...พอผมได้ยินชื่อ "พี่แมว" ผมถึงกับสะดุ้งขึ้นมาทันที...แม้ว่าในความเป็นจริง ผมไม่เคยรู้จัก และไม่เคยเห็นแม้แต่เห็นหน้าตาพี่แมว มาก่อนเลย...เพราะส่วนมาก ผมจะรู้จักแต่พนักออฟฟิศ ในสำนักงานใหญ่ที่ชั้น 10 ส่วนของชั้นล่าง มีไม่กี่คนที่จะได้ไปประสานงานหรือไม่ก็เป็นคนเก่า ๆ ที่เขารู้จักกันมาก่อน และในส่วนของพี่แมวเอง...ผมได้ยินชื่อนี้มานานมาก และเป็นชื่อแรก ๆ ที่ผมได้ยินตั้งแต่เข้างานมาใหม่ ๆ เมื่อต้นปีก่อน จากการกล่าวถึงของคนในแผนกผม และที่ได้ยินบ่อย ๆ ก็คือฝ่ายธุรการชั้นเดียวกับผม ที่พูดถึงชื่อพี่แมวบ่อยมาก และคำที่ผมได้ยินจนคุ้นหูอย่างเช่น...พี่แมวแม่งเรื่องมาก , ระวังพี่แมววีนใส่นะ , พี่แมวแกระเบียบมาก , พี่แมวบ่นในเรื่องที่ไร้สาระมาก...และคำพูด คำบ่นเหล่านี้ มันทำให้ผมจินตนาการได้ไม่อยาก ว่าพี่แมวเป็นคนยังไง และบุคลิกยังไง...และยิ่งไปกว่านั้น...เท่าที่ผมรู้มาก่อนหน้านั้น (ผมฟังมาจากการพูดคุยในวงข้าวเที่ยง) โดยประวัติคร่าว ๆ ของพี่แมว พี่แมวเคยแต่งงาน แต่ตอนนี้โสดอยู่คนเดียว เพราะสามีแกเสียไปนานแล้ว และพี่แมวเองเคยอยู่ชั้น 10 มาก่อน เคยเป็นหัวหน้าพี่แจน (พี่แจงคนที่ผมเคยคบ และมีความสัมพันธ์ลับ ๆ ที่ลาออกไปแล้ว ) แต่ว่าพี่แมว ไปมีเรื่องงัดข้อกับระดับผู้บริหาร เลยถูกส่งไปเป็นธุระการทั่วไปด้านล่าง จนกระทั้งพี่แจงที่เป็นลูกน้องพี่แมวมาก่อน ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าแผนกแทน...ส่วนเรื่องอายุพี่แมวน่าจะเกือบ ๆ จะ 50 ปี แล้ว...เพราะพี่แจงเคยเล่าว่าพี่แมวอายุมากเธอเกือบ ๆ 5-6 ปี...และทุก ๆ อย่างเกี่ยวกับตัวพี่แมว...ที่ผมได้ฟัง ๆ มา มันทำให้ผมรู้สึกเหนื่อยหน่าย ที่จะต้องไปดิวงานด้วยในตอนนั้น จนกระทั่งช่วงสายของวันจันทร์ ผมก็ได้เดินไปที่ฝ่ายธุรการส่วนด้านล่าง ที่อยู่ตรงด้านหน้าตึก พอไปผมเปิดประตูกระจกเข้าไป สิ่งแรกที่ผมเห็นก็เป็นส่วนของ พนักงานฝ่ายประชาสัมพันธ์อยู่ริมซ้ายส่วนอีกฝั่งขวา เป็นห้องประชุมเล็ก ๆ (ที่ผมเคยมานั่งสัมภาษณ์งาน) พอผมเดินเข้าไปตามทางเดิน ก็จะเจอพื้นที่โถงโล่ง ๆ มีโต๊ะทำงานสองฝั่งซ้ายมือเป็นโต๊ะทำงานพวกฝ่ายช่าง วิศวะกรไฟฟ้า, เครื่องกล ส่วนด้านขวาเป็นโต๊ะพนักงานซ่อมบำรุง ช่างปะปา ช่างไฟ และด้านในสุดก่อนถึงห้องน้ำ จะเป็นห้องกั้นกระจกฝ้า ซึ่งเป็นห้องทำงานธุรการ...ในจังหวที่ะผมเดินไปถึง แล้วเปิดประตูเข้าไป ผมก็เห็นพนักงานธุระการ 2 คน (รู้ภายหลังชื่อ นิ่ง กับ โบที่เป็นสาวประเภทสอง ) ซึ่งกำลังทำงานอยู่ที่โต๊ะ ที่ติดผนังกระจกด้านขวาจากประตู และพอผมมองไปด้านซ้ายสุดของห้อง ก็เป็นตู้เอกสาร ที่ติดกับโต๊ะทำงานพี่แมว ซึ่งตอนนั้นเธอไม่อยู่ และในจังหวะนั้นเอง นัชกับโบ ก็มองผมแบบงง ๆ ( อาการ เหมือนไม่รู้ผมเป็นใคร) ผมจึงรีบปิดประตู แล้วเดินกลับออกมา ตรงที่ประชาสัมพันธ์ และก็นั่งรอ (ผมต้องเจอพี่แมว ก่อนเพราะต้องขออนุญาต ถึงจะไปค้นแฟ้มได้) ในตอนนั้นเองช่วงที่ผมนั่งรอ ผมก็ไม่แน่ใจว่าพี่แมว เธอมาทำงานรึเปล่า ผมจึงลุกเดินไปที่พนักงานประชาสัมพันธ์แล้วถามว่า "ขอโทษนะครับ คุณสุนิสา (ชื่อจริงพี่แมว) วันนี้เขามาทำงานรึเปล่าครับ" แล้วพนักงานประชาสัมพันธ์ก็ตอบว่า "อ่อ มาค๊ะ พี่แมวก็ยืนอยู่นั่นไงค๊ะ" แล้วก็ชี้นิ้วไปที่ด้านหน้าตึก โดยที่ผมได้เอี้ยวตัวหันหน้าไปมองตาม...โอ้วววครับ...สิ่งที่ผมมองเห็นผ่านผนังกระจกใสไป...ในระยะ 5-7 เมตร...เห็นเป็นผู้หญิงกำลังยืนคุยโทรศัพท์ หน้าตาสวย (สวยมาก) รูปหน้าเรียว ยาว จมูกโด่งพุ่ง ตาชั้นเดียว (ตาเหมือนคนจีน) แถมยังผิวขาวจั๊วะ (ขาวมีออร่า)...ไว้ทรงผมสอยสั้นบ๊อบเท แสกข้างซ้ายไปขวา ส่วนรูปร่างหุ่นดีมาก แบบเพอร์เฟค สูงน่าจะ163 up ที่สำคัญหน้าอกเธอใหญ่มาก (ใหญ่เกินตัว จนมองเป็นจุดเด่น) และยิ่งไปกว่านั้น คือการแต่งตัวที่มีสไตล์ ดูเซ็กซี่แบบสาวมั่น วันนั้นแกใส่เสื้อแขนกุดไขว้หน้าผ้าซาตินสีเขียวเข็ม ทับด้วยกระโปรงสีขาวเอวสูง ทรงสอบเข้ารูป และสั้นเลยเข่าขึ้นมามาก (กระโปรงน่าจะยาวประมาณ 14") จนมองเห็นต้นขาขาว ๆ เห็นแล้วรู้สึกมีอารมณ์ตาม...ส่วนรองเท้าเป็นคัชชูส้นสูงสีดำเงา นาทีที่ผมเห็นพี่แมวครั้งแรก ผมถึงกับอึ้งแบบบอกไม่ถูกจริง ๆ เหมือนผมนั่งดูหนังคนละเรื่องกัน กับสิ่งที่ได้ยิน จากปากทุกคนที่พูดต่อ ๆ กันมา และคงเพราะคำนำหน้าแกว่าพี่ที่ทุกคนเรียกกัน มันทำให้ในหัวผมตอนแรก ผมนึกจินตนาการว่า พี่แมวคงเป็นเหมือน ๆ ผู้หญิงอายุมากทั่ว ๆ ไป ที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ตัวอ้วนหรือไม่ก็เตี้ย จู่จี้ขี้บ่น เดินงุ่มง่าม แต่มันกลับตรงกันข้ามทุกอย่าง พี่แมวเธอกลับเฟอร์เพคมาก และยังสวยแถมดูเซ็กซี่มากในสายตาผมดูไม่เหมือนคนที่อายุเกือบ 50 ปี ด้วยซ้ำ ( ดูเหมือนคนเพิ่งจะอายุ 30 ปลาย ๆ ถึง 40 ต้น ๆ ) เธอดูแลตัวเองดีมาก โดยที่ผมมองก็ยังรู้สึกมีอารมณ์ตาม ผมชอบการแต่งตัวของแกมาก บวกกับรูปร่างหน้าตาแกด้วย มันเข้ากันดีมาก จนกระทั้งพี่แมวได้เดินเปิดประตูเข้ามา ผมเองก็รีบเดินเข้าไปหาเธอ พอเดินใกล้ ๆ ถึงตัวพี่แมว สิ่งแรกที่ผมสัมผัสได้ นั้นคือน้ำหอมจากตัวพี่แมว กลิ่นหอมพุ้งชวนฝันมาก กลิ่นแบบนี้ผมเคยได้กลิ่นจากพวกไฮโซรุ่นใหญ่ ที่ผมเคยสัมผัสมาแล้ว ยอมรับเลยว่าเธอมีระดับกว่าที่ผมคิดไว้เยอะ และในจังหวะเดียวกันนั้น พี่แมวที่เห็นผมแล้ว ก็พูดขึ้นว่า "สวัสดีค่า อ้าว คุณใช่ไหมที่จะมาขอดูแฟ้มเก่า" ผมยกมือไหว้พร้อมกับพูด "สวัสดีครับ ใช่ครับ" แล้วเธอก็พูดต่อขึ้นว่า "งั้นคุณก็เดินย้ายไข่ตามพี่มาเลยค๊ะ" ...โอ้วววครับ...พอผมได้ยินผมอึ้ง และตกใจมากกับสิ่งที่ผมได้ยิน...พร้อมกันกับพนักงานประชาสัมพันธ์ ก็นั่งหัวเราะกันใหญ่...(เล่นเอาผมอายแทบไปไม่เป็น โดนรับน้องเข้าแล้วไง) ต่อด้วยจังหวะที่กำลังเดินผ่านฝ่ายช่าง มีพนักงานช่างซ่อมบำรุง กำลังนั่งเล่นมือถืออยู่ พี่แมวก็ดันพูดขึ้นมาอีกว่า "นั้น ๆ เเอบดูคลิปโป้อีกแล้ววางเป็นไม่ได้ พอดูแล้วเกิดอารมณ์ก็ไปเดือดร้อนเมียที่บ้านอีก พวกแกนี่" พอเธอพูดเท่านั้นทุกคนในก็ฮากันลั่นห้องอีก...แต่ก็มีเสียงพูดสวนจากช่างซ่อมบำรุงว่า "ก็ผมกำลังนั่งดูคลิปพี่แมวสุดสวยไปฟิตเนสอยู่นี่ครับ" ...โดยที่พี่แมวเองก็ไม่ว่าอะไร เพียงแต่ชี้หน้าแล้วพูดว่า "เดี๋ยว ๆ แกโดน ดูเงียบ ๆ " โอ้วววครับ...พี่แมวแกเป็นนางแบบให้ฟิตเนสตึกติดกันนี้เอง ตอนนั้นผมถึงเข้าใจ ว่านั่นคือสไตล์การพูดการแต่งตัวของพี่แมว แกมีเอฟซีนี้เอง ที่แกน่าจะพูดในลักษณะ พูดตรง ๆ แต่ส่อในทางเพศ เป็นปกติของเเก และทุกคนที่นั่นก็คงจะชิน มองเป็นแค่คำพูดโปกฮา เท่านั้นเอง และยิ่งผมสังเกตท่าเดินพี่แมว ที่ดูห้าว ๆ ดูคล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง ซึ่งมันก็ดูตรงข้าม กับหน้าตาภาพลักษณ์ การแต่งตัวของเธอมาก พอเดินมาถึงจนเข้าห้อง พี่แมวก็ได้แนะนำผม ให้นิ่งและโบให้รู้จักกัน โดยที่เธอบอกว่าผมจะมาอยู่นี้ซักระยะ...จากนั้นเธอก็เดินออกไปเพื่อไปแจ้งให้ พวกพนักงานซ่อมบำรุง หาโต๊ะเก้าอี้ให้ผมนั่งทำงานชั่วคราว...หลังจากนั้นพอเสร็จทุกอย่าง ผมเองก็ได้ที่นั่ง ที่เป็นโต๊ะสแตนเลสขาพับ และเก้าอี้พลาสติก โดยที่ผมนั่งหันหลังให้ตู้เก็บแฟ้มทางด้านซ้ายมือผมห่าง 2 เมตร จะเป็นโต๊ะทำงาน ส่วนด้านหน้าห่างประมาณ 3 เมตร ก็เป็นโต๊ะทำงาน นิ่งกับโบ ในช่วงระหว่างนั้นทุกคนก็เริ่มทำงานต่อ ผมเองก็ตั้งหน้าตั้งตาค้นหาข้อมูลจากตู้แฟ้มด้านหลัง ในขณะที่ผมกำลังยืนไล่ดูหมายเลขแฟ้ม อยู่ ๆ พี่แมวก็ลุกขึ้นมาจากโต๊ะ แล้วเดินเข้ามาที่ตู้เก็บแฟ้ม โดยที่เธอจะมาค้นหาแฟ้มเหมือนกัน...และในจังหวะนั้นเอง...ป้าแมวก็ได้ย่อตัวลงนั่งยอง (เพื่อจะหยิบดูแฟ้มชั้นล่าง ) ...แม่เจ้า...พี่แมวเธอนั่งไม่รวบเก็บกระโปรง (เธอนั่งลงแบบดื้อ ๆ ) ในจังหวะนั้นทำให้ชายกระโปรงสีขาวพี่แมว ในส่วนของด้านหลังที่ผ่าหลัง ได้ล่นลงไปด้านล่าง...ทำให้หวอที่ห่อหุ้มด้วยกางเกงในสีขาว โผล่ปลิ้นออกมาจากซอกโคลนต้นขาขาว ๆ ยาวลงไปจนสุดง่ามก้น...ชัดเจนมาก...วินาทีนั้นผมใจสั่นมาก...กับสิ่งที่เห็น...โดยที่พี่แมวเอง ไม่ได้สนใจ (เธอเหมือนไม่รู้ตัวจริง ๆ ) และยิ่งทำให้ผมแทบช๊อกขึ้นไปอีก ในจังหวะเดียวกันนั้น พี่แมวที่อยู่ในท่านั่งยอง ได้ขยับตัวเอื้อมมือไปหยิบอีกแฟ้ม โดยที่ขาขวาเธอได้ขยับก้าวแยกออกมาข้างหน้า...โอ้ววววว ครับ...ช๊อตนั้นไม่ต้องมีอะไรที่ปกปิดอีกต่อไป...โหนกหีรูปสามเหลี่ยมนูน ๆ กางเกงในสีขาวทั้งตัว ทุกอย่างได้เปิดอ้าซ่าออกมา...ในวินาทีนั้น ผมได้เห็นทุกอย่างแม้กระทั้ง ลายดอกไม้ 3 ดอก ที่อยู่บนกางในสีขาว ตรงกลางเป้า รวมทั้งขอบล่างกางเกงใน ที่รั้งง่ามตูดจนเว้าแบะออกเป็นสองง่าม จนไปถึงผมมองเห็น แม้กระทั่งเส้นเลือดใหญ่สีเขียวเข้มที่ขึ้นตามโคลนต้นขาขาว ๆ (ตัวเธอขาวมากเลยเห็นเส้นเลือดชัดเช็ด) ...และในห้วงเวลานั้น ผมได้ยืนดูพี่แมว ด้วยควยที่แข็งโด่ได้นาทีกว่า ผมจึงรีบหันกลับเก้าอี้แล้วนั่งลง แกล้งทำเป็นเปิดแฟ้มดูบนโต๊ะ...เพราะในตอนนั้นผมกลัวว่าพี่แมว เธอจะรู้ตัว เพราะมันจ๊ะ ๆ และโจ่งครึ่มมากจริง ๆ ...และช่วงเวลาตอนที่ผมนั่งอยู่ และไม่กล้าที่จะมองแล้ว พี่แมวเธอก็ยังนั่งค้นแฟ้ม ในท่านั่งแบบนั้นอยู่นานหลายนาที ก่อนจะลุกกลับไป...ตอนนั้นผมควยก็ยังคงโด่แข็งกับภาพนั้น ในสิ่งที่ผมไม่คิดว่าผมจะได้มาเห็นอะไรแบบนี้และผมเองก็มั่นใจว่านั้นไม่ใช่การยั่วหรือจงใจทำให้ผมดู แต่มันเป็นพฤติกรรมส่วนตัวพี่แมวเอง ที่ไม่ชอบระวังและไม่สนใจใครจะมอง จนตลอดวันนั้น ผมแทบไม่มีสมาธิในการทำการทำงานเลย ช๊อตที่เห็นมันตรึงตราตรึงใจ ยิ่งนึกถึงยิ่งเงี่ยน กางเกงในแกที่ขาวแบบโอโม่มาก ๆ กับก้อนเนื้อก้อนใหญ่ ๆ ผมอยากจะเอาหน้าเข้าไปซุกเหลือเกิน ผมโชคดีมากที่ได้เห็นกางเกงในของแก ซ้ำยังเป็นสีขาวแบบสว่างมาก มันทำให้ผมรู้สึกถึงความใสซื่อในตัวแก เพราะผมมีเคล็ดอยู่อย่างหนึ่ง คือถ้าผมได้เห็นหวอใครครั้งแรก ที่เป็นสีขาวแบบโอโม่แบบนี้ ส่วนใหญ่จะจบลงด้วยการที่ผมได้เย็ดเกือบทุกครั้งวันนี้จึงถือว่าฤกษ์ดีมาก แล้วยิ่งเป็นสาวใหญ่แบบนี้ถูกใจผมยิ่งนัก ผมนี้นักล้าแต้มสาวใหญ่เลยทีเดียว หลังจากวันนั้นวันแรก ที่ผมได้เห็นเป้าสามเหลี่ยมของพี่แมว ต่อมา 2-3 วัน ก็ไม่ได้มีอะไรให้ลุ้นอีก เพราะเธอใส่กางเกงขายาว และชุดแซกยาวมาทำงาน แต่ก็ยังพอมีบ้างที่มีจังหวะเสียว ๆ เพราะกางเกงที่แกใส่มันรัด ๆ ฟิต ๆ แนบเนื้อ เวลาแกยืนโก่งตูดให้เห็นร่องตูดและขอบกางเกงใน แต่บางครั้งก็ไม่เห็นขอบกางเกงในน่ะ แกคงจะใส่ไร้ขอบ หรือแกจะใส่จีสตริงนะ ผมแอบคิดเอาเอง รวมไปถึงการได้ยืนส่องเนินหน้าอกขาว ๆใหญ่ ๆ พี่แมวแบบใกล้ชิด ตอนที่ผมเดินไปถามเธอ เรื่องงานเอกสารที่โต๊ะเธอ และอีกส่วนที่ผมได้ยินและได้ฟังบ่อย ๆ อยู่ตลอดที่นั่น ก็คือการพูดจาที่ส่อ ไปทางเพศของพี่แมว ในช่วงที่เธอว่างจากงาน มาพูดคุยเล่นกันกับนิ่งและโบประสาผู้หญิง เช่นว่า "ดาราคนนี้ ดูกล้ามใหญ่นิสัยแบดบอย แต่มีข่าวว่าหำเล็ก เย็ดไม่มันส์ผู้หญิงเลยเลิก" หรือไม่ก็พูดถึงบุคคล ที่เธอเคยร่วมทำงานด้วยว่า "ผู้บริหารชั้นบนพวกที่หำไม่แข็งทั้งหลาย ชอบหอบสังขารไปหลีแคดดี้ เวลาไปออกรอบตีกอล์ฟ พี่รู้หมดหละ" และที่สำคัญ พี่แมวยังเคยหันมาถามผมประมาณว่า "ว่าผู้ชายชอบมีเซ็กกับผู้หญิงสวย หรือผู้หญิง นมใหญ่" หรือไม่ก็ถามว่า "ทำไมผู้ชายชอบดูหนังโป้แล้วเป็นเรื่องปกติ...ส่วนผู้หญิงดูกลับถูกด่าว่าไม่มียางอาย" ...ในตอนนั้นก็ตอบได้บางข้อส่วนที่ตอบไม่ได้ผมก็แค่หัวเราะตาม ผมมองว่ามันคือสีสันการทำงาน ผมเริ่มชินไปแล้ว เพราะมันเป็นนิสัยสไตล์พี่แมว ที่พูดที่ถามในทำนองนั้น ในตอนพักหรือว่างเท่านั้น เพราะในตอนทำงานเธอก็ดูจริงจังมาก จนเหมือนเป็นคนละคนกันเลย แหม่ก็แกเคยเป็นหัวหน้า ถึงจะถูกปลดก็แล้วเถอะ แต่แกก็ถูกลงตำแหน่งเพราะเรื่องส่วนตัว ที่เจ้าของบริษัทจะเอาแกเป็นเมียน้อย แต่ถูกคุณนายจับได้เสียก่อน เลยได้โยกย้ายกันชุลมุนไปหมด เดิมทีแกก็จะลาออกเลย แต่คุณนายขอให้แกอยู่ แต่ย้ายชั้นทำงานอย่างอื่นเหมือนเดิม เพราะท่านประธานแกจะขึ้นไปชั้น 10 ที่เดียว ตอนหลังพอความแตกท่านประทานแทบไม่มาเลย ปล่อยให้กรรมการบริหารงานแทน ข่าวว่าพอแกอกหักจากพี่แมว แกก็ไปได้ที่ดามใจใหม่ เรียกว่าคุณนายตามจิกกันไม่ทันเลย จำต้องหาให้เองเลย แกถึงจะเพลา ๆ ลง ขนาดอายุจะ 70 ปี แล้วนะ
วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2567
แมวสาวใหญ่ 1
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น