วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2567

เรื่องเล่าของผัวเมีย #10

 

 

   "น้าเทพกับอ้น น้าหลานผู้โชคดี 1"

   โรงพักที่ผมทำงานจะมีการปรับปรุงตัวอาคารที่ทำการซึ่งแต่เดิมเป็นอาคารไม้ค่อนข้างทรุดโทรม โดยจะมีการรื้อหลังคารื้อผนังทั้งชั้นบนและล่างออกทั้งหมดเพื่อจะทำการปรับปรุงใหม่

   บริษัทที่รับงานอยู่ในตัวจังหวัดได้ส่งคนงานมาทำทั้งหมด 10 คนใช้เวลา 1 เดือน โดยคนงานจะพักที่ห้องว่างข้างอาคารที่ทำการ ทำงานจันทร์ถึงศุกร์ เย็นวันศุกร์ก็จะพากันกลับบ้านแล้วกลับมาทำงานต่อในเย็นวันอาทิตย์

   ด้วยว่าห้องว่างที่คนงานพักนั้นคับแคบไม่สามารถรับคนงานเข้าพักได้ทั้งหมด จึงมีสองคนที่ออกมาพักที่แฟลตเก่าข้างห้องพักของผม คือน้าเทพ หัวหน้าคนงาน กับเจ้าอ้น หลายชายของแก

   แฟลตตำรวจใหม่สามหลังได้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วและตำรวจที่อยู่แฟลตหลังเก่าก็พากันย้ายเข้าพักแฟลตหลังใหม่กันเกือบหมด เหลืออยู่ที่ไม่ได้ย้ายแค่ไม่กี่คน สองห้องอยู่รอเกษียณ อีกห้องคือห้องผม

   ผมกับกลอยเรามีโครงการว่าจะปลูกบ้านอยู่ข้างนอก เราก็เลยตกลงกันว่าเอาไว้ให้สร้างบ้านเสร็จแล้วค่อยย้ายกันทีเดียวดีกว่าจะขนข้าวของหลายเที่ยวให้เหนื่อยเปล่าๆ

   สภาพห้องข้างห้องผมเป็นห้องที่สะอาด ไม่รกและยังมีสภาพดีที่สุดกว่าหลายๆ ห้องในแฟลตหลังเก่า ผมเคยไปสำรวจหลังจากที่เจ้าของห้องเดิมได้ขนของออกไปอยู่แฟลตหลังใหม่หมดแล้ว บริเวณชั้นล่างสภาพฝาผนังห้องดูเรียบร้อยดี แต่พอสังเกตุดีๆ กลับเจอร่องรูที่ข้างฝาสามารถส่องเข้ามองในห้องผมได้ชัดเจนมาก ส่วนชั้นบนตรงห้องนอนก็มีรูข้างฝาตามรอยแยกหลายรูทีเดียว ผมสำรวจในห้องน้ำพบรูแหว่งเว้าเต็มฝาผนังเลย นี่ผมโดนถ้ำมองจากคนห้องข้างๆ มาตลอดเลยหรือนี่ ตัวผมไม่เท่าไหร่แต่กลอยนี่สิ เธอคงโดนส่องจนทะลุปรุโปร่งไปหมดแล้วแหละ

   เย็นวันแรกที่คนงานมาทำงาน น้าเทพกับอ้นหลานชายพากันมาทำความสะอาดห้องพัก ผมกับกลอยอยู่ห้องพอดีจึงได้ไปด้อมๆ มองๆ ดูสองน้าหลาน ผมนำน้ำเย็นไปให้พร้อมกับการสนทนาพาทีกัน

   ทั้งสองคนอยู่ง่ายๆ มีมุ้งพับคนละอัน มีหมอน ผ้าห่มคนละชุด มีหม้อหุงข้าว มีพัดลมคนละตัว ถ้วยจานเล็กน้อย นอกนั้นก็เป็นเสื้อผ้าและอุปกรณ์งานช่างต่างๆ ที่พึงจะมี

   วันนั้นผมครึ้มใจหน่อย เห็นมีเพื่อนมาพักข้างๆ ห้องเลยออกไปซื้อเหล้าขาวมาขวดใหญ่มานั่งเป็กที่ซุ้มหลังห้อง

   ซุ้มหลังห้องผมเป็นแคร่ขนาดใหญ่ที่ต่อเติมขึ้นเป็นโครงหลังคามุงหญ้าคาอยู่ใต้ร่มกระถินณรงค์ใหญ่ ด้านหลังถัดไปเป็นทุ่งนาชาวบ้านบรรยากาศยามเย็นมันน่านั่งร่ำสุราดีนัก หรือวันไหนอากาศร้อนๆ ผมก็ได้แคร่นี้แหละคลายร้อนด้วยการออกมานอนรับความเย็นๆ นอกบ้าน

   ผมเรียกน้าหลานทั้งสองคนมานั่งพักหลังจากได้เคลียร์ห้องเสร็จแล้ว ทั้งสองไม่ปฎิเสธเหล้าของผม พวกเราดื่มไปพลางพูดคุยกันจนเริ่มสนิทสนมกันพอสมควร

   น้าเทพ เป็นชายวัยกลางคน อายุประมาณ 50 ต้นๆ  ตัวแกเตี้ยกว่าผมหน่อย ร่างผอมผิวคล้ำ กล้ามเนื้อเป็นสัน เส้นเอ็นตามมือแขนขาปูดโปนแสดงถึงการตรากตรำทำงานหนักมามาก เจ้าอ้นผู้เป็นหลานอายุน่าจะใกล้เคียงกับกลอย รูปร่างสันทัด เตี้ยกว่าน้าเทพ แต่ตัวหนาใหญ่ บึกบึน ผิวคล้ำพอๆ กัน

   เหล้าขาวหมดขวดอย่างรวดเร็ว ทั้งสองน้าหลานคอทองแดงดีๆ นี่เอง ไม่มีทีท่าว่าจะเมามายอะไร ส่วนผมนี่มึนเอาการอยู่อยากต่ออีกขวดแต่ทั้งสองบอกว่าพอแล้วพรุ่งนี้ต้องทำงานต่อ

   ผมชวนทั้งสองคนกินข้าวด้วยกัน ผมเห็นทั้งสองคนหิ้วกับข้าวถุงมาจากตลาดเมื่อตอนเย็นคงจะเป็นอาหารค่ำของวันนี้ กลอยทำผัดเผ็ดปลาดุกกับน้ำพริกปลาดุก ผมจึงจัดสำรับกันที่ซุ้มนั่งนั่นเลย

   น้าเทพเอ่ยชมกลอยไม่ขาดปากว่าทำกับข้าวได้อร่อย กลอยได้แต่ยิ้มขอบคุณไปตามมารยาท ส่วนเจ้าอ้นก็พลอยผสมโรงไปด้วยทำให้บรรยากาศการรับประทานอาหารครึกครื้นอย่างยิ่ง

   ผมสังเกตุดูทั้งสองคนแล้วค่อนข้างจะเป็นคนเงียบๆ แต่พอเหล้าเข้าปากมีอาการมึนๆ หน่อย ดูจะเริ่มพูดมากกว่าก่อนกินเหล้า และสายตาของทั้งสองที่มองกลอยผมก็รู้ได้ทันทีว่าทั้งสองคิดยังไง พลันผมก็นึกถึงรูที่ข้างฝาขึ้นมาทันใด

   หลังจากที่ผมไปสำรวจห้องข้างๆ และพบรูจำนวนมากที่สามารถส่องเข้าห้องผมในหลายๆ จุด แต่ผมก็ไม่ได้บอกกับกลอยเพราะคิดว่ามันผ่านไปแล้วและคงจะไม่มีใครกลับมาพักในห้องนั้นอีก แต่เมื่อมีสองน้าหลานมาพักในห้องนั้น ความคิดประหลาดๆ ก็เกิดขึ้นในใจผม

   ความคิดที่ว่าอยากให้คนมองกลอยอยากให้มีคนแอบดูเธอ ไม่ว่าจะเป็นร่างเปลือยเปล่าในห้องน้ำ ร่างเซ็กซี่ในชุดนอนบางๆ หรือแม้แต่ตอนที่ผมกับกลอยประกอบกามกิจร่วมกันก็อยากจะให้มีคนแอบดู จากสายตาทั้งสองคนที่มองกลอยผมรู้ทันทีว่าข้างฝาห้องผมต้องมีคนจับจ้องมองเป็นแน่แท้

   พวกเราแยกย้ายกันเข้าห้องเกือบๆ 3 ทุ่ม ผมกับกลอยมานั่งๆ นอนๆ ดูโทรทัศน์บนโชฟายาวข้างฝาที่ติดกับห้องพักสองน้าหลาน ความครึ้มอกครึ้มใจของผมเรื่องจะมีคนแอบดูทำให้เจ้างูเขียวผมแข็งตัว มันดันกางเกงจนโป่งนูน กลอยสังเกตุเห็นเธอหัวเราะคิกๆ บอกว่ารอก่อน ยังไม่อาบน้ำ

   เพราะความเป็นสามีภรรยากัน เรื่องราวต่างๆ เราไม่เคยปิดบังต่อกัน ผมกับกลอยเลยรับรู้และทราบในเรื่องของกันและกันเสมอ อย่างเรื่องนี้ที่เธอรู้ว่าถ้าผมได้กินเหล้าแล้วผมจะมีอารมณ์ทางเพศมาก

   ประมาณสี่ทุ่ม ผมอาบน้ำเตรียมตัวนอน ส่วนกลอยเข้าอาบทีหลังผม เมื่อเธออาบน้ำเสร็จเดินออกมาจากในห้องน้ำ เธอทำหน้าสงสัยเมื่อเห็นผมจัดที่นอนเพื่อจะนอนข้างล่าง ผมบอกเธอไปว่าขี้เกียจขึ้นไปนอนข้างบน

   โต๊ะเครื่องแป้งหน้าห้องน้ำที่กลอยกำลังทาครีมทาผิว ผมเดินไปโอบกอดด้านหลังเธอ กลิ่นสบู่ผสมกลิ่นครีมทาผิวหอมอบอวลเต็มจมูก ผมปลดผ้าขนหนูเธอออกจากร่าง สองเต้าน้อยๆ ขาวนวลสะท้อนกระจกอยู่ตรงหน้า เอวที่เริ่มหนาแต่ก็ยังคอดอยู่ หน้าท้องหย่อนหน่อยตามอายุที่เพิ่มและตามประสาคุณแม่ลูกสอง เนินเนื้อที่มีขนสีดำปกคลุมถูกตัดแต่งให้สั้นไม่รกรุงรัง สะโพกผายอวบอิ่มด้วยหนันเนื้อน่าเคล้าคลึง

   ผมฝังจมูกลงที่ซอกคอกลอย เธอหลับตาพริ้ม สองมือผมลูบคลำไปทั่วร่างกายเธอ แม้จะอยู่ร่วมกันมาหลายปีดีดักแล้วแต่เนื้อเนียนนุ่มของกลอยก็เป็นทีเด็ดมัดใจผมตลอดมา ผมผ่านผู้หญิงมาก็มากแต่ก็ไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่มีเนื้อเนียนนุ่มน่าสัมผัสแบบเธอเลยสักคน

   มือผมขยำขยุ้มสองเต้าของกลอยและกรีดนิ้วผ่าร่องเนินหว่างขา มันฉ่ำแฉะแบบเตรียมความพร้อมที่จะสู้ศึก

   ผมดันร่างกลอยไปที่นอนกลางห้อง ไฟกลางห้องถูกปิดเหลือไว้แค่ไฟหน้าห้องน้ำแต่ก็พอที่จะมองเห็นเรื่อนร่างผุดผ่องของกลอยได้เต็มๆ ตา ผมซุกหน้าลงหว่างขาโลมลิ้นเลียร่องสวาทเธออย่างคนหิวกระหาย กลอยดิ้นเร่าๆ ผมทั้งดูดทั้งเลียผ่าร่องทั้งดุนเม็ดเสียวจนกลอยเสร็จสมด้วยปากผม

   ผมสอดใส่ดุ้นเนื้อเข้าสู่ร่องเสียวกลอย ความคุ้นเคยวัวเคยขามาเคยขี่ทำให้มันเข้าร่องรูอย่างง่ายดาย ผมควบร่างเธออย่างเมามันและเธอก็ตอบสนองอย่างดี อารมณ์ผมกระเจิดกระเจิงเมื่อคิดว่ามีคนกำลังแอบมองอยู่

   ผมจับร่างกลอยไปที่โชฟายาวดันเธอให้หันหน้าเข้าฝาหันสะโพกมาทางผม นมน้อยๆ ของกลอยคาดว่าอยู่ในระดับสายตาของคนที่แอบดู ผมกระแทกเอวใส่กลอยอย่างแรง เสียงกลอยกัดฟันกรอดๆ มือท้าวฝาผนังห้อง สองเต้าส่ายระริกไปมา ผมปล่อยให้มันส่ายอย่างนั้นโดยที่ไม่เอื้อมมือไปคลึงเคล้น เพราะกลัวว่าจะไปบังสายตาคนแอบดู

   "อู๊....ซี๊ด.."
   กลอยละเมอเบาๆ เหมือนจะส่งสัญญาณเมื่อผมอัดสะโพกหนักๆ เข้าใส่เธอ ผมจึงใส่แรงเต็มที่โถมร่างใส่กลอยจนตัวโยน

  กลอยฟุบหน้าลงบนแขนที่ท้าวอยู่บนผนังร้องอุ๊บเบาๆ ร่างสั่นน้อยๆ หายใจหอบบ่งบอกว่าเธอสุขสมแล้ว ส่วนผมก็เร่งแรงกระแทกใส่หนันสะโพกเธอดังผับๆ อยู่สักครู่แล้วก็พ่นน้ำเข้ารูกลอยอย่างท่วมท้นและรุนแรงกว่าทุกๆ ครั้ง ด้วยความรู้สึกที่ว่ามีคนแอบจ้องมองดูอยู่

   ผมนั่งลงบนโชฟาโดยที่กอดร่างของกลอยให้นั่งทาบทับคาอยู่เหมือนเดิม มือลูบไล้ตามร่างงามเพื่อให้เธอผ่อนคลายเหมือนจะอวดเรือนร่างเธอต่อผู้ที่แอบดูอยู่ในที

   ถ้าหูผมไม่แว่วไปเอง ผมได้ยินเสียงกุกกักเบาๆ ข้างฝาซึ่งไม่ทราบว่าฝั่งทางห้องนั้นทำอะไรกัน  แต่ก็บ่งบอกได้อย่างแน่นอนว่าต้องมีคนแอบบดูผมกับกลอยแน่ๆ จะเป็นลุงเทพ เจ้าอ้น หรือทั้งสองคนเลยนั้นผมก็ไม่อาจทราบได้ แต่มันทำให้ควยผมที่อยู่ในรูเสียวของกลอยค่อยๆ ขยายตัวขึ้นอีกหลังจากอ่อนตัวไปพักหนึ่ง

   กลอยรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงนั้น เธอส่ายเอวยั่วยวนพร้อมบอกว่าถ้ามีแรงก็เอาเลย ซึ่งผมก็สนองเธอด้วยการจัดการเธอจนเราทั้งสองเสร็จสมอารมณ์กามอีกครั้ง

   เรานอนก่ายเกยกันอย่างโรยอ่อน กลอยถามผมว่าวันนี้ทำไมมีแรงเยอะจัง  ผมไม่ตอบในทันทีแต่ซุกหน้าลงหอมซอกคอเธอแทน

   "ก็...เมียพี่สวย น่ารักขนาดนี้ เป็นใครก็อดใจไม่ไหว"

  กลอยค้อนขวับแต่ก็ยังยิ้มให้ผม เราทั้งสองนอนกอดกันอยู่อย่างนั้นจนหลับไป

   อ๊ะๆ..เหตุการณ์จะดำเนินไปอย่างไร คนข้างห้องผมจะแอบดูผมกับกลอยอยู่นานขนาดไหน แล้วพวกเขาจะโชคดีอะไร โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น