วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2567

คู่ชีวิต (ชีวิตคู่ 2) วัยเด็กของบีม EP.1

 
 
หนูชื่อบีมเป็นลูกของแม่แพรกับพ่อต้นของหนู ซึ่งท่านได้เสียชีวิตไปแล้วตอนที่หนูเกิด แต่หนูก็ยังมีพ่อเลี้ยงคอยดูแลหนูมาตั้งแต่เด็ก

พ่อเลี้ยงของหนูท่านชื่อ วิน หนูเรียกท่านว่าป๊ะป๋าตั้งแต่จำความได้ท่านเลี้ยงดูหนูเหมือนเป็นลูกแท้ๆ ไปรับไปส่งหนูตั้งแต่เรียนอนุบาลจนถึงมัธยมปลายอยู่ตลอด

ฐานะที่บ้านหนูเรียกว่ารวยมากหนูเกิดมาชีวิตสุขสบาย ไม่เคยสัมผัสคำว่าลำบาก ได้กินอาหารดีๆมีของใช้แพงๆให้ใช้สอยอย่างไม่ขาดมือ ได้เที่ยวต่างประเทศทุกๆ หรือ ช่วงปิดเทอมซัมเมอร์ อยากได้อะไรก็ได้ไม่เคยมีใครขัด

หนูรักและเคารพป๊ะป๋ามากในความที่ท่านเป็นพ่อเลี้ยงที่ดี ท่านดูแลหนูกับแม่ดีทุกอย่างมาโดยตลอด

ตอนเด็กๆป๊ะป๋าจะมารับหนูกลับบ้านหลังเลิกเรียน ท่านจะสอนหนูทำการบ้าน ไม่ว่าจะวิชาไหนๆท่านสอนหนูจนทำได้ทุกวิชา พอทำการบ้านเสร็จก็จะพาหนูออกไปทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น ล้างจาน ทำความสะอาดบ้าน พาออกไปเล่นข้างนอก และ กิจกรรมอื่นๆอีกสารพัด รอแม่หนูกลับจากที่ทำงาน

แม่ของหนูเองท่านก็เป็นข้าราชการตำแหน่งสูง ซึ่งหนูไม่รู้เรื่องระบบราชการมากนัก เท่าที่หนูเห็นแม่ก็จะอยู่ทำงานที่บ้านกับป๊ะป๋า นานๆทีถึงจะเข้าออฟฟิศซักครั้ง หรือ ไม่ก็ช่วงที่ท่านมีประชุม

ถึงชีวิตหนูจะสุขสบายอยู่ในกองเงินกองทอง แต่ป๊ะป๋ากับแม่จะสอนเสมอเรื่องการใช้เงิน และพวกท่านก็จะเน้นย้ำให้หนูขยันเรียนเข้าไว้ ซึ่งหนูก็ทำตามคำสอนของพวกท่านทั้งท่าน หนูไม่เคยเรียนได้ที่โหลของห้อง เกรดเฉลี่ยดีไม่เคยมีปีไหนที่เรียนต้องเรียนเก็บ โดยเฉพะวิชาภาษาอังกฤษกับภาษาจีนเป็นวิชาที่หนูชอบมากๆ และทุกครั้งที่ผลการเรียนออก ป๊ะป๋ากับแม่จะมีรางวัลให้หนูเสมอ เช่น ตอนป.4 พวกท่านพาหนูไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น , ป.5 พวกท่านซื้อน้องแมวพันธุ์นอร์วีเจียน ฟอเรสต์ 2 ตัว กับ น้องหมาพันธุ์บอร์เดอร์ คอลลี่ และ พันธุ์ไซบีเรียนฮัสกีให้หนู , ป.6 ช่วงซัมเมอร์พาหนูไปเที่ยวที่ USA

ช่วงมัธยมต้น ม.1 ซื้อโทรศัพท์ iPhone X ที่ตอนนั้นเปิดตัวมาใหม่ๆ , ม.2 ซื้อเครื่องประดับกับเสื้อผ้าแบรนด์เนมจากต่างประเทศ โดยพานั่งเครื่องบินไปซื้อถึงที่ให้หนูเลือก , ม.3 ตอนแรกจะได้ไปเที่ยว USA แต่เพราะช่วงนั้นเกิดการแพร่ระบาดของ Covid-19 ทริปเที่ยวจึงจำเป็นต้องยกเลิกไป แต่ก็ได้ iPhone 11 Pro ช่วงเปิดตัวมาแทน

ช่วงมัธยมปลาย ม.4-6 เป็นจะเป็นพวกเครื่องสำอาง เสื้อผ้า ของใช้สำหรับผู้หญิง และ iPhone รุ่นใหม่ๆที่ออกในปีนั้นๆ ไม่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศเพราะกลัวติด Covid กลับมา

ทำไมที่บ้านหนูถึงมีฐานะขนาดนี้ เท่าที่หนูรู้มาก็มาจากการทำงานของป๊ะป๋าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว จากโครงการอะไรซักอย่างของรัฐ ซึ่งนั้นทำให้ป๊ะป๋าเจอกับแม่ของหนูซึ่งรายละเอียดหลังจากนั้นหนูไม่รู้ รู้แค่ว่าปัจจุบันป๊ะป๋าเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทมหาชนแห่งหนึ่งแค่นั้น และ ส่วนแม่ของหนูตอนที่หนูอายุประมาณ 10 ขวบถ้าจำไม่ผิด แม่ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ห้าใบ เอาไปรวมกับเงินเก็บของป๊ะป๋า ฐานะที่บ้านก็ยิ่งรวยเข้าไปใหญ่ แต่ปัจจุบันแม่ของหนูก็รับราชการอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าแต่ก่อน

หนูเคยได้ยินป๊ะป๋าถามแม่เรื่องการทำงานกับแม่ว่า "ทำไมถึงไม่ออกจากงานแล้วมาอยู่บ้านไปเลย"

แม่หนูก็ตอบไปแบบทีเล่นทีจริง "ไม่เอา อยู่บ้านเหนื่อย ออกไปทำงานดีกว่า"

ซึ่งหนูในวัยนั้นไม่รู้ว่าพวกท่านหมายถึงอะไรกัน แต่สรุปให้ได้ใจความก็คือชีวิตหนูมีแต่ความสุขสบายกว่าใครๆ แต่ถึงหนูอย่างนั้นนิสัยหนูก็ไม่เหมือนกับเหล่าลูกคุณหนู-ลูกไฮโซ หนูเป็นเด็กนิสัยดีไม่แบ่งชนชั้นว่าใครรวยใครจน หนูสามารถเข้าได้กับทุกคน ยกเว้นแต่ว่าบุคคลนั้นๆมีนิสัยที่หนูไม่ชอบ เช่น เห็นแก่ตัว , ชอบบูลลี่คนอื่น , ขี้นินทาคนอื่น และ นิสัยเสียๆที่หลายคนไม่ชอบ หนูจะไม่คบหาด้วยเลย

เล่าเรื่องชีวิตในช่วงวัยทีนแล้วก่อนจะเข้าเรื่อง หนูขอเล่าอีกนิดหน่อย

ช่วงวัยเด็กแบบเด๊กกกกกเด็ก น่าประมาณ 6 ขวบ มีอยู่คืนหนึ่งหนูฝันร้ายฝันว่ามีใครบางคนยืนมองหนูอยู่ข้างเตียงตอนหนูหลับ เขารูปร่างสูงใส่ชุดสีขาวยืนมองดูหลับแต่ไม่ได้ทำอะไร หนูสะดุ้งตื่นกลัวมากๆร้องไห้เสียงดัง หนูกลัวมากเลยเดินออกจากห้องนอนตัวเอง หนูอยู่ท่ามกลางความมืดซึ่งมันน่ากลัวมากๆแม้จะเป็นบ้านตัวเอง แต่ก็กลัวแบบขนลุกซู่ ด้วยความที่หนูนอนอยู่ชั้นล่าง ป๊ะป๋ากับแม่นอนอยู่ชั้นสอง หนูจึงต้องเดินขึ้นบรรไดไปหาพวกท่านแบบเดินไปก็กลัวว่าจะมีอะไรโผล่มา บ้านตัวเองแท้ๆ 🤣

ตอนนั้นหนูกลัวมากเดินขึ้นบรรไดแบบขาสั่น กว่าจะเดินได้แต่ละขั้นน้ำตาแทบไหล หนูเดินก้าวเท้าขึ้นบรรได้ทีละขั้นช้าๆจนถึงชั้นลอย หนูก็ต้องขึ้นบรรได้อีกขั้นหนี่งก็จะถึงห้องนอนของพวกท่าน

หนูเห็นแสงไฟสลัวจากช่องระบายอากาศ หนูรู้สึกดีใจมากอีกแค่นิดเดียว หนูจะถึงห้องนอนป๊ะป๋ากับแม่แล้ว แต่พอหนูกำลังจะก้าวเท้าตรงพื้นระเบียงหน้าห้อง หนูกลับได้ยินเสียงแม่ของหนูกรีดร้องดังลอดออกมา เสียงของแม่ทำเอาหนูตกใจขวัญเสียจนก้าวเท้าผิดลื่นตกบันได ขาถลอกมีรอยช้ำเจ็บจนนั่งร้องไห้อยู่ตรงชั้นลอย ป๊ะป๋ากับแม่เปิดประตูออกมาดูหนูก็ตกใจมากที่เห็นหนูอยู่ตรงนั้น ภาพที่หนูเห็นตอนนั้นทั้งป๊ะป๋ากับแม่สีหน้าดูเหนื่อยๆ ยิ่งสภาพแม่หนูที่ผมเพลาดูยุ่งเหยิงมากต่างจากก่อนหน้าที่ส่งหนูเข้านอน แม่ดูสวยกว่ามาก ….

เหตุการณ์ก่อนหน้าเวลา 4 ทุ่มในห้องนอนของแพรกับวิน พวกเขากำลังทำเรื่องอย่างกันอยู่ …

"อึ๊… อึ๊.. อ้ะ…อ้ะ ซี๊ดดดด อ๊ะ อ๊ะ อ่าส์.. หู๊ยย เสียวค่ะที่รัก" เเพรครางกระเส่าอย่างมีความสุข

วินจับสะโพกอัดกระแทกเอวถี่ๆทำเอาแพรเสียวซ่านพ่นลมหายใจ ร้องครางเสียงระงม เขาโน้มตัวลงมาจูบปากแลกลิ้น และซุกไซร้ดูต้นคอของเธอ "เมื่อกี้… เมื่อกี้เหมือนได้ยินเสียงลูกเลย?"

"สี่ทุ่มแล้ว อ่าส์ ลูกหลับไปตั้งแต่ 2 ทุ่มแล้วที่รัก ซึ๊ดดด อ่าาส์"

"ฮะ..ฮ๊าาาาา อ่าาาส์ วินขาาา อูยยย"



แพรร้องอย่างมีความสุขในจังหวะที่วินส่งมอบความสุขให้แก่อย่างถึงใจ จังหวะที่อารมณ์กำลังมันส์เธอเสนอจูบให้เขา จากนั้นเธอขยับตัวลุกขึ้นแล้วดันตัวเขานอน โชว์ลีลาเร้าร้อนบำเรอผัวสุดที่รักของเธออย่างถึงใจ ปล่อยให้วินนอนซู๊ดปากเด้งเอวรับกับสะโพกที่กำลังร่อนเอวอย่างเซ็กซี่ แพรร่อนเอวบดวนไปมาพอถึงจังหวะก็ซอยถี่เเบบควบม้า เธอหลับตายิ้มส่งเสียงครางเงยหน้าขึ้นซู๊ดปากร้อง จับสัมผัสอยู่ที่ท้องน้อยของวินก่อนจะมือส่งเสียงระงม



"ซี๊ดด อ๊าาาา วินขาาาา อูยยยย เสียววว"

"รักนะครับ อ่าาาา"

"ซี๊ดด อืมมม รักเหมือนกาน อร๊ายยยยยส์!!!"

เเพรร้องครางพร้อมงอเข่านั่งยองแล้วกระแทกท่อนเอ็นสุดรักของเธอ ตับ.. ตับ… ตับ… ตับ… ตับๆๆๆๆๆ



แพรสัมผัสได้ถึงการขยายตัวของวินทำให้เธอรู้สึกฟินและใกล้จะเสร็จ วินที่ใกล้ถึงสุดจะทนเต็มกลืนลุกขึ้นมาจูบปากเมียสุดที่รักของเขา แล้วโน้มตัวลงนอนอัดกระแทกท่อนเอ็นเสียงดังลั่น ปั่บๆๆๆๆๆๆๆๆ

"โอ๊ยยยย ซี๊ดด..อูยย…ย อ๊ะ.. อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ!!!"

"ไม่ไหวแล้วว"

แพรหลับตาครางอ้าปากร้องระงมอยู่ข้างหูเธอกอดรัดวินแน่น รับแรงกระแทกจากผัวที่สุดรักของเธอสุดอารมณ์จะยั้งได้



เเพรกรีดร้องพร้อมเสียงเนื้ออัดชนกันลั่น ปั้บ ปั้บ ปั้บ ปั้บ ปั้บ ๆๆๆๆๆ

"อร๊าาา…ยยย..ซี้ดดดด……อ๊า อ๊า อ๊าาา โอ๊ยยยย กรี๊ดดดดดดดดดด!!!!"

จังหวะที่พวกเขากำลังจะถึงจุดสุดยอดอยู่ร่อมร่อ จังหวะนั้นเองที่บีมลูกสาวของเธอได้ยินเสียงและผวาตกใจลื่นตกบันไดบ้าน โครม!!! … "แง๊!!!!!!!" ทำเอาทั้งสองสะดุ้งลืมตามองหน้ากันอย่างตกใจหันไปทางประตูห้อง แล้วรีบลุกออกหยิบชุดนอนที่กองอยู่ตรงพื้นมาสวมทั้งคู่ และ ออกไปแบบสภาพเหงื่อตกผมยุ่งแบบนั้น …

"บีมมาทำอะไรตรงนี้ลูก!" แม่เรียกหนูที่กำลังนั่งเจ็บขาร้องไห้เพราะตกบันได

แม่ถามหนูแต่ป๊ะป๋ารีบลงบันไดเข้ามาอุ้มหนูทันที ร่างกายป๊ะป๋าเต็มไปด้วยเหงื่อตอนที่อุ้มหนู ป๊ะป๋าพาหนูลงไปชั้นล่าง เปิดไฟเห็นขาหนูมีแผลช้ำแล้วท่านจึงวางอยู่ที่โซฟา และ นั่งทำเเผลให้หนู ปลอบขวัญหนูจนเลิกร้องไห้ จากนั้นถึงจะถามหนูว่าขึ้นไปทำอะไรข้างบน

"หนูถึงไปทำอะไรข้างบนค่ะ?"

"หนูฝันร้ายค่ะป๊ะป๋า"

"ฝันร้ายเหรอ? โธ่เอ๋ย…" ป๊ะป๋ายื่นมือมาลูบศีรษะหนูแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน "ไม่เป็นไรนะคะ แล้วตุ๊กตาหนูอยู่ไหนค่ะ?"

หนูส่ายหน้าไม่รู้ ป๊ะป๋าเลยลุกเดินออกตามหาตุ๊กตาตัวโปรดของหนูจนเจอแล้วกลับมาให้หนู "ป๊ะป๋าเจอแล้วค่ะ คราวหลังหนูอย่าทิ้งเขานะ ตุ๊กตาตัวนี้จะปกป้องหนูจากฝันร้ายเอง"

หนูก้มหน้าแล้วพยักหน้าตอบ ป๊ะป๋าลูบศีรษะหนูแล้วด้วยความที่หนูเด็กหนูจึงถามป๊ะป๋า "ป๊ะป๋า เมื่อกี้แม่ร้องไห้ทำไมค่ะ?"

ป๊ะป๋ายิ้มแล้วหัวเราะเบาๆก่อนตอบ "แม่เขาฝันร้ายเหมือนกันค่ะ แต่ป๊ะป๋าช่วยไว้แล้ว เหมือนที่ตุ๊กตาตัวนี้จะช่วยหนู หนูต้องรักเขาให้มากๆอย่าทิ้งเขาอีก โอเคไหมค่ะ?"

หนูพยักหน้าตอบแล้วกอดตุ๊กตาในอ้อมแขนแน่นแบบไม่คิดจะปล่อย จากนั้นป๊ะป๋าก็พาหนูเดินกลับเข้าห้องนอนของหนู ป๊ะป๋ากล่อมหนูจนหลับไป…

วินค่อยๆปิดประตูห้องนอนของบีมเบาๆ จากนั้นก็เดินขึ้นบันไดกลับไปที่ห้องนอน แพรที่พึ่งเคลียร์ห้องด้วยการฉีดสเปรย์ดับกลิ่นคาวกามที่มันคลุ้งมาก เธอเดินออกมาจากห้องน้ำเจอวินก็ถามถึงลูกสาว

"บีมเป็นยังไงบ้าง?"

"หลับไปแล้ว มีแผลช้ำนิดหน่อยแต่ไม่ได้ใหญ่มาก ทำแผลให้แล้ว"

"อืม แล้ว… เมื่อกี้ลูกได้ยินไหม"

วินยิ้มแต่ไม่บอกแพรจึงเหลือบตามองบนจากนั้นวินก็เข้ามากอดเธอ ทำท่าจะจูบแต่แพรก็แกล้งขัดขืน

"ไม่เอาแล้ว เดี๋ยวลูกได้ยิน"

"ลูกหลับแล้ว ต่อเถอะเมื่อกี้ยังไม่เสร็จ" วินออดอ้อนแพรด้วยการซุกไซร้าต้นคอ ทำเอาเธอที่อารมณ์ค้างเหมือนกันอ่อนละทวย

"อ่า… ลูกหลับจริงนะ?"

วินพยักหน้าตอบและหลังจากนั้นทั้งสองก็พากันไปกระหน่ำรักกันต่อบนเตียง …



ตอนที่หนูอายุได้ 7 ขวบ แม่กับป๊ะป๋าก็มีน้องให้หนู "อุแว๊… อุแว๊…"

"ยินดีด้วยครับคุณพ่อได้ลูกชาย" คุณหมอเดินออกมาจากห้องคลอด บอกเพศลูกให้ป๊ะป๋ารับรู้ ป๊ะป๋าดีใจมากกระโดดโลดเต้น จากนั้นประมาณ 1-2 ชม. ก็มีนางพยาบาลเดินพาป๊ะป๋าไปหาน้องชาย ป๊ะป๋าเดินไปแบบดีอกดีใจ ยิ้มแป้นยิ้มไม่หุบจนได้เจอกับน้องชายของหนู

หนูที่มองไม่เห็นเพราะตอนนั้นตัวเล็กได้แต่ต้องเขย่งเท้าดูตาม เขย่งมากเกินเลยทรงตัวไม่อยู่กำลังจะล้มลง แต่ตอนนั้นก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งสไลด์ตัวเข้ามารับหนู หนูเลยล้มทับเด็กผู้ชายคนนั้น "โอ้ย!"

"เจ็บๆ" เสียงของเด็กผู้ชายคนนั้นพูด หนูจึงหันไปมองหน้าเขา เขาสีหน้าเจ็บปวดมาก ที่เขาเจ็บปวดแบบนั้นก็เพราะศอกซ้ายหนูแทงไปที่ช้างน้อยของเขา เล่นเอาหน้าเขียวสักพักก็ร้องไห้

"ตะวันเป็นอะไรไหมลูก?" ยายของเด็กผู้ชายคนนั้นวิ่งมา ด้วยความที่ยายหน้าตาดุมากจังหวะที่เขาเช็คดูหลานชายของเขา สักพักเขาก็หันหน้ามามองหนูแล้วชี้หน้า "นี่! ทำอะไรหลานฉัน ฮ่ะ!"

ยายแกเสียงดังชี้หน้าใส่สำเนียงอออีสานหน่อยๆ หนูได้แต่ยืนนิ่งเพราะทำอะไรไม่ถูก สักพักป๊ะป๋าก็เดินเข้ามาขวางยายแก "จะทำอะไรลูกผมครับ?" ป๊ะป๋าออกมาปกป้องหนู

ด้วยความที่หนูเด็กจึงจำเหตุการณ์ตอนนั้นไม่ได้ว่าผู้ใหญ่เขาคุยอะไรกัน แต่ที่หนูจำได้คือก่อนที่ต่างฝ่ายต่างเคลียร์กันลงตัว เด็กผู้ชายคนนั้นหันมาโบกมือให้หนู และหนูเองก็โบกมือตอบ

"เพื่อนหนูหรือเปล่าค่ะ?" ป๊ะป๋าหันมาถามหนูๆก็ส่ายหน้าตอบแบบซื่อๆ

ป๊ะป๋านั่งลงตรงหน้าเช็คร่างกายว่าหนูเจ็บตรงไหน "เมื่อกี้ป๊ะป๋าขอโทษนะคะ มา…เดี๋ยวเราสองคนมาดูน้องชายกันดีกว่าเนอะ"

ป๊ะป๋าอุ้มหนูแล้วก็ชี้ให้หนูดูว่าน้องชายหนูอยู่ตรงไหน "มะ…มาส..?" หนูอ่านออกเสียง

"มากจากคำว่ามาสเตอร์" ป๊ะป๋าหันมายิ้มสีหน้าป๊ะป๋ามีความสุขมากจนหนูเผลอยิ้มตามไปด้วย และป๊ะป๋าก็พูดกับหนูว่า "รักน้องให้มากๆนะคะ"

แววตาของป๊ะป๋าที่มองหนูตอนนั้นเหมือนกำลังรู้สึกดีปนเศร้าอยู่ ตอนนั้นหนูยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวของป๊ะป๋า รู้เเค่ว่าป๊ะป๋าคือพ่อเลี้ยงที่แสนดีสำหรับหนูเพียงแค่นั้น … ....




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น