วันศุกร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2566

หลานชายของนายต้น #3

 
 

หลังจากกิจกามสิ้นสุดลง.... พออารมณ์ความเสียวซ่านเริ่มที่จะจางหายไป ก็ทำให้ความรู้สึกผิดที่ถูกเก็บซ่อนอยู่ข้างในลึกๆ ค่อยๆ ไหลย้อนกลับมาครอบงำจิตใจของหยกอีกครั้ง

ภาพคราบน้ำรักขาวขุ่นที่เลอะนองอยู่บนหน้าท้องของเธอ คือภาพสะท้อนของเหตุการณ์ทั้งหมดที่พึ่งจะผ่านพ้นไปได้เป็นอย่างดี.... เธอทั้งรังเกียจตัวเอง ที่เผลอตัวยอมปล่อยใจให้ชายหนุ่มรุ่นน้องได้ฉวยโอกาสทิ่มแทงเย่อเย็ดจนเสร็จกิจ แต่ที่อับอายไปมากกว่านั้นก็คือ เธอเองนั่นแหละ ที่นึกคล้อยตามอารมณ์ความอยากของตัวเอง และรู้สึกสมยอมไปกับเขาด้วย โดยไม่ยอมนึกขัดขืนให้มากกว่านี้ พอคิดแบบนี้แล้ว น้ำตาอุ่นๆ ก็ค่อยๆ ไหลซึมออกมาจากเบ้าตาของเธอทั้งสองข้าง หนุ่มต้นที่เห็นพี่สะใภ้ร้องไห้สะอึกสะอื้น ก็รีบดึงตัวเธอเข้ามากอดเอาไว้แน่น

“อย่าร้องไห้ไปเลยนะครับพี่หยก... เมื่อกี้พี่ยังพึ่งจะมีความสุขกับผมอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?” ต้นพยายามพูดปลอบใจ
“พี่พึ่งจะทำผิดกับเฮียต๋องไปหมาดๆ เองนะต้น... ต้นจะไม่ให้พี่รู้สึกผิดได้ยังไง” หยกย้อนกลับมาด้วยเสียงสั่นเครือ
“อย่าโทษตัวเองเลยนะครับ... ผมรู้ว่าพี่หยกต้องทนฝืนเก็บกดเรื่องพวกนี้มาตั้งนานแล้ว คิดซะว่า... ให้ผมได้ช่วยแบ่งเบาภาระให้พี่กับเฮียต๋องก็แล้วกัน” ต้นพูดกล่อมเธอต่อไปเรื่อยๆ หญิงสาวฟังแล้วอดฉุกใจขึ้นมาไม่ได้
“หมายความว่ายังไง... ต้นไปรู้เรื่องนี้มาจากไหน...?” เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงใคร่สงสัย
“ผมพอจะเดาได้ไม่ยากหรอกครับ ก็ช่วงหลังๆ เฮียเค้างานยุ่งขนาดนี้ ไม่เห็นมีเวลาให้พี่หยกเหมือนเดิมเลย กว่าจะกลับบ้านก็มืดค่ำแล้ว เรื่องนี้มันก็พอจะเห็นๆ กันอยู่” หยกฟังคำตอบแล้วก็นิ่งไป น้ำตาที่เคยไหลรินเป็นสาย ตอนนี้เริ่มที่จะหยุดคลอๆ อยู่แค่ในเบ้า
 
“แต่ว่า.... ถึงยังไงต้นก็ไม่ควรจะทำแบบนี้นะ...” หยกยังอดรู้สึกผิดไม่ได้
“ผมรู้ครับว่ามันไม่ควร แต่ยิ่งเราใกล้ชิดกันมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งหักห้ามใจได้ยากขึ้นทุกทีๆ จนมาถึงวันนี้นี่แหละ...” คำตอบของต้น กระตุ้นเตือนให้หยกต้องลองมองย้อนกลับไปสำรวจความรู้สึกของตัวเองเช่นเดียวกัน ที่ผ่านมา เธอเองก็คอยใช้น้องสามีคนนี้ เป็นเครื่องมือในการคลายเหงาให้กับตัวเองมาโดยตลอด ทั้งคอยอยู่เป็นเพื่อน ไปเที่ยวไปซื้อของด้วยกัน ทดแทนเวลาที่ขาดหายไปจากเฮียต๋อง ซึ่งเมื่อดูจากความใกล้ชิดที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาหลายเดือนนี้ ก็คงไม่น่าแปลกอะไร ถ้าสุดท้ายแล้วเจ้าต้นจะเกิดเผลอใจ และแอบคิดละเมิดล่วงเกินเลยกับเธออย่างที่เกิดขึ้นวันนี้.... พอนึกแบบนี้แล้วสาวหยกก็ได้แต่ทอดถอนใจคนเดียวเบาๆ

“ผมรู้สึกดีๆ กับพี่จริงๆ นะ พี่ไม่รู้สึกอะไรกับผมบ้างเหรอ?” หนุ่มต้นถามจี้ใจดำของเธอขึ้นมาพอดี
“พี่.... พี่ก็ยังรักต้นเหมือนน้องชายคนเดิมนั่นแหละ” เธอพยายามตอบปฏิเสธไปเลี่ยงๆ
“แล้วถ้า... น้องชายคนนี้ จะขอใช้เวลาอยู่กับพี่สองต่อสองแบบนี้อีก... พี่หยกจะว่ายังไงล่ะครับ?” คำถามล่าสุดของต้นปิดทางหลบเลี่ยงของหยกไปจนหมดสิ้น เธอนิ่งเงียบทบทวนความรู้สึกตัวเองอยู่นาน ก็ยังไม่สามารถให้คำตอบอะไรออกไปได้เลย ใจนึงก็อยากนึกปฏิเสธไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่อีกใจนึงก็อดโหยหารสสัมผัสจากความสุขที่พึ่งจะได้รับไปหมาดๆ ไม่ได้
“นะครับ... ผมรับรองครับว่าเฮียต๋องจะไม่มีวันรู้เรื่องนี้โดยเด็ดขาด”
“ฮั่ดเช้ย!... ใครมันนินทากูจังวะ” เสียงเฮียต๋องร้องจามขึ้นมาระหว่างกำลังนั่งดวดเหล้ากับกลุ่มเพื่อนฝูงที่กรุงเทพฯ

สาวหยกฟังแล้วก็นิ่งไป ในใจเกือบจะพยักหน้าตอบรับน้องสามีอยู่แล้ว ถ้าสายตาไม่ดันเหลือบไปเห็นรูปภาพของตัวเองและสามีที่ถ่ายคู่กัน ซึ่งแขวนติดอยู่บนผนังห้องซะก่อน

“ต้นกลับไปก่อนได้มั้ย พี่เอ่อ.. พี่ยังตัดสินใจไม่ได้ ขอพี่อยู่คนเดียวก่อนนะตอนนี้” เธอพูดตัดบทดื้อๆ พลางบุ้ยใบ้ไล่ต้นให้ออกไปจากห้องนอน
“เอ่อ... ก็ได้ครับ” หนุ่มต้นแม้จะแอบเสียดายอยู่ไม่น้อย แต่ก็ยอมทำตามคำขอของเธออย่างว่าง่าย หยิบเสื้อผ้าตัวเองมาสวมแบบลวกๆ พร้อมกับคว้าขวดน้ำมันลุกเดินออกจากห้องไปแบบเซ็งๆ พอชายหนุ่มปิดประตูเรียบร้อย สะใภ้สาวก็ล้มตัวลงนอนหงายอย่างหมดแรง ปล่อยให้ความรู้สึกต่างๆ ที่กำลังผสมปนเปกันอยู่ในหัว ค่อยๆ เอ่อล้นขึ้นมา

ข้างฝ่ายน้องชายสามี พอกลับมาถึงห้องตัวเองก็รับโทรไปรายงานผลกับพี่ชายทันที พอต๋องได้ยินปุ๊บก็หูผึ่ง เอ่ยถามถึงความคืบหน้าทันที

“ตกลงหยกเค้ายอมเอ็งแล้วเหรอวะ?” เฮียต๋องถามด้วยความตื่นเต้น
“ก็... เรียบร้อยแล้วแหละเฮีย” ต้นตอบเขินๆ เพราะอดเกรงใจคู่สนทนาที่พึ่งจะโดนตีท้ายครัวมาหมาดๆ ไม่ได้
“แล้ว... แล้ว ได้แตกในป่ะ?” ต๋องถามต่อ
“ไม่อ่ะเฮีย พี่หยกเค้าให้ปล่อยของนอก” ต้นตอบไปตามตรง
“เออๆ ไม่ต้องคิดมาก คราวหน้าเดี๋ยวก็ได้เองแหละมั้ง” พี่ชายว่าอย่างอารมณ์ดี ในใจนึกตื่นเต้นตามไปด้วย
“ได้เด้ยอะไรล่ะเฮีย เผลอๆ พี่เค้าจะไม่ยอมให้มีคราวหน้าแล้วอ่ะดิ” ต้นบ่นถึงท่าทีของพี่สะใภ้ในช่วงท้ายๆ ให้ฟัง

สองหนุ่มปรึกษาพูดคุยกันอีกพักใหญ่ๆ ก่อนที่ต๋องจะขอวางหูไปก่อน ปล่อยให้ต้นได้แต่คิดกังวลอยู่คนเดียวในใจ ว่าตอนนี้พี่สะใภ้จะนึกรังเกียจเขาแล้วหรือไม่ และถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ทั้งเขาและเธอก็คงจะต้องอึดอัดกันน่าดู ถ้าต้องคอยมาหลบหน้าหลบตากันตลอดเวลา ทั้งๆ ที่บ้านก็ติดกันซะขนาดนี้.... แต่ความกังวลของต้นก็ดูจะไม่จำเป็นมากนัก เพราะเพียงเช้าวันต่อมา สาวหยกก็เอ่ยปากทักทายทันทีที่ได้พบหน้ากันในครัว ราวกับว่าเมื่อคืนไม่เคยมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นระหว่างคนทั้งคู่

“พี่หยก... สบายดีนะครับ?” ต้นเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงลังเลนิดๆ พี่สะใภ้คนสวยฟังแล้วก็ทำหน้ายิ้มๆ อย่างเป็นกันเอง
“สบายดีจ้ะ ต้นนวดซะจนพี่หายปวดหายเมื่อยไปทั้งตัวเลย” เธอตอบกลับมาพร้อมกับยิ้มหวานน่ารัก คำตอบของหยกทำให้ต้นพอจะคลายความกังวลใจลงไปได้บ้าง จึงตัดสินใจเอ่ยถามต่อ
“งั้น... แสดงว่าพี่หยก ตอบตกลงแล้วใช่มั้ยครับเรื่องเมื่อคืน?”
“บ้า! มาพูดอะไรกันตรงนี้ ไม่เอา เดี๋ยวมีใครได้ยินหรอก” หยกรีบร้องห้ามปรามเบาๆ
“ไว้ค่อยคุยกันนะ” เธอว่าต่อแล้วยกจานผลไม้เดินหายออกจากครัวไปไวๆ

หลังจากที่ได้ร่วมรักกันไปครั้งแรก ต้นก็ดูเหมือนจะติดอกติดใจเรือนร่างขาวๆ ของหยกอย่างถอนตัวไม่ขึ้น เขาเฝ้าแต่จะหาเวลาอยู่ใกล้ชิดกับพี่สะใภ้แบบสองต่อสองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งคอยออดอ้อนขอเธออยู่เป็นระยะๆ และแม้ว่าเฮียต๋องเองก็จะพยายามเปิดโอกาสช่วยน้องชายด้วยอีกทางนึงหนึ่ง แต่จนแล้วจนรอด ซ้อหยกก็ยังไม่ยอมให้เขามีอะไรด้วยง่ายๆ อยู่ดี

“พี่หยกใจร้าย...” เสียงต้นออกอาการบ่นหน้ามุ่ย หลังจากที่ความพยายามออดอ้อนเขาเอาเธอเป็นรอบที่ล้านแปด ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
“เอ้า... อะไรอ่ะ?” หยกตอบกลับมาอย่างงงๆ
“ก็พี่หยกใจร้ายจริงๆ นี่นา... เล่นปิดโอกาส ไม่ยอมให้ผมได้กอด ได้หอมพี่เลยซักครั้ง” ต้นพูดงอนๆ
“เอ๊ะต้นนี่ยังไง พี่เป็นเมียพี่ชายเธอนะ จะมาลามปามกันได้ยังไง?”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ ทีก่อนหน้านี้ พี่ยังปล่อยให้ผมลามปามจนมิดด้ามมาแล้วนี่นา” ต้นพูดหน้าทะเล้น

“ว้าย! น่าเกลียด! ทำไมต้นพูดอะไรน่าเกลียดแบบนี้ เดี๋ยวใครมาได้ยินเข้าหรอก” ซ้อหยกร้องวี้ดว้ายเขินๆ
“ไม่มีใครได้ยินหรอกครับ วันนี้เฮียต๋องเค้าพาเตี่ยกับโกวไปเยี่ยมบ้านหยี่แปะกันเมื่อกี้นี้เอง กว่าจะกลับมาก็คงมืดๆ นั่นแหละครับ... จะเหลือก็แค่ผมกับพี่หยกนี่แหละ ที่ยังเฝ้าบ้านกันอยู่สองคน”
“อ้าว... แล้วทำไมเฮียเค้าไม่เห็นบอกพี่เลย?” หยกอดสงสัยขึ้นมาไม่ได้ หันไปมองดูนาฬิกาก็พึ่งจะ 10 โมงเช้าเท่านั้น
“คือ... พอดีเตี่ยเค้าอยากไปกะทันหันขึ้นมานะครับ เฮียเค้าเห็นพี่กำลังเก็บห้องค้างอยู่ ก็เลยไม่อยากกวน” ต้นรีบพูดแก้ตัวตะกุกตะกัก สาวหยกที่ได้ฟังก็แอบฉุนนิดๆ ที่ถูกทิ้งให้เฝ้าบ้านอยู่แบบนี้
“โธ่... ตาผัวบ้า ทิ้งเราให้นั่งทำงานบ้านอยู่คนเดียว คอยดูนะ กลับมาจะบ่นให้หูชาเลย”
“คนเดียวที่ไหนกันครับ มีผมอยู่ด้วยทั้งคน” ต้นพูดจบก็รีบขยับเข้าไปกอดรัดพี่สะใภ้ตัวเองจนแนบแน่น

“อุ๊ย! ไม่เอานะต้น” หยกพยายามเอ่ยปากร้องห้ามปรามเบาๆ ออกแรงดิ้นขัดขืนอยู่ในอ้อมกอดของต้นอย่างทุลักทุเล ชายหนุ่มก้มหน้าลงไปหอมแก้มเธอฟอดใหญ่ พร้อมกับซุกไซร้ซอกคอขาวๆ ของเธอจนชื่นใจ
“ผมอยากหอมพี่แบบนี้มานานแล้ว” ต้นกระซิบเสียงกระเส่า ก่อนจะอ้าปากงับลงไปเบาๆ ข้างหูเธอ สาวหยกที่เจอแบบนี้ก็มีอ่อนระทวยลงไปเหมือนกัน เรี่ยวแรงที่เคยขัดขืนก็ดูจะหมดสิ้นลงไปอย่างกะทันหัน
“อือออ.... อย่ารังแกพี่ อุ่..!” เธอพูดออกมาได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่จะถูกน้องสามีประกบปากเข้ากับริมฝีปากบางสวยได้รูปของเธอ ต้นออกแรงบดปากหนักๆ พยายามสอดลิ้นเข้าไปในปากเธอให้ได้ สาวหยกเม้มปากต้านรับเป็นพัลวัน แต่สุดท้ายแล้วก็ต้านไม่ไหว ต้องยอมให้หนุ่มรุ่นน้องกดลิ้นสอดเข้าไปพัวพันกับลิ้นของเธออย่างน่าดูชม

“อื้ออออ.... อื้อออออ....” หยกครางอู้อี้ เมื่อถูกต้นใช้มือซ้ายบีบหมับลงไปเบาๆ บนหน้าอกของเธอ ฝ่ามือใหญ่หนาของต้น ทั้งบีบทั้งบี้ทรวงเต้าของเธอด้วยความมันเขี้ยวผ่านเสื้อยืดตัวหลวมโคร่ง ก่อนจะค่อยๆ ลูบไล้นิ้วมือไล่ต่ำลงมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมันมุดหายเข้าไปในกางเกงผ้ายืดของเธอในที่สุด

เมื่อปลุกอารมณ์ของพี่สะใภ้จนฉ่ำแฉะและเปียกเยิ้มได้ที่แล้ว ต้นจึงค่อยๆ ถอนปากออกมาช้าๆ มองเห็นคราบน้ำลายของทั้งคู่ติดพันยืดยาวออกมาเป็นสายใสๆ ริมฝีปากบางๆ ของซ้อหยกเผยออ้าออกค้างไว้เหมือนไม่อยากแยกจากกัน สายตาของหญิงสาวรุ่นพี่ตอนนี้เคลิบเคลิ้มเหมือนคนกำลังเมายา ใบหน้าแดงระเรื่อด้วยเลือดลมที่คอยสูบฉีดไม่เป็นจังหวะ เมื่อเห็นว่าอารมณ์ของเธอกำลังได้ที่แล้ว ต้นจึงลองเอ่ยปากขออนุญาตล่วงเกินเธออีกครั้ง

“เราขึ้นไปต่อกันข้างบนดีมั้ยครับพี่?” คำถามของต้นทำเอาหญิงสาวใบหน้าร้อนผ่าวๆ ขึ้นมาทันที ในหัวของเธอพยายามหยิบยกเหตุผลต่างๆ ขึ้นมาอ้างอิงเพื่อหาทางออกปากปฏิเสธชายหนุ่มไวๆ แต่สุดท้ายแล้วเหตุผลทั้งหมดนั้น ก็ถูกอารมณ์ดิบที่กำลังแฉะชื้นอยู่กลางหว่างขา หักล้างออกไปจนหมดสิ้น หลงเหลือไว้แต่เพียงภาพตอนที่เธอโดนชายหนุ่มรุ่นน้อง นวดคลึงให้จนตัวเบาสบายไปเมื่อหลายคืนก่อน พอนึกถึงเหตุการณ์วันนั้นแล้วหยกก็อดใจสั่นรู้สึกร้อนวาบๆ ไปทั้งตัวขึ้นมาไม่ได้ และหลังจากที่ตัดสินใจเงียบๆ อยู่นาน หญิงสาวจึงค่อยๆ ก้มหน้าเขินๆ มองพื้น พร้อมกับพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงตอบรับออกมา

หนุ่มต้นที่เห็นแบบนั้นก็ยิ้มร่า พลางรีบจูงมือหญิงสาวรุ่นพี่เดินขึ้นห้องไปทันที และเมื่อเสียงประตูห้องนอนถูกปิดสนิทลง... อารมณ์ความปรารถนาที่ต่างโหยหาซึ่งกันและกันของคนทั้งคู่ ก็ถูกปลดปล่อยให้ระเบิดออกมา พร้อมกับเสียงครวญครางของความเงี่ยนง่าน ที่ดังสนั่นไปทั่วทั้งบ้าน.....

=======================================

และหลังจากครั้งที่สองผ่านไปด้วยความยุ่งยากเล็กน้อย ครั้งที่สามและสี่ ก็ตามมาแบบติดๆ ไม่สิ ต้องเรียกว่าเบิ้ลเลยต่างหาก ทั้งน้องสามีและพี่สะใภ้ ต่างหาโอกาสลักลอบเย็ดกันอีกอยู่เป็นระยะๆ ตามแต่ที่เวลาและสถานที่จะเอื้ออำนวย ซึ่งหลักๆ ก็คือช่วงเวลาที่เฮียต๋องไม่ได้อยู่ติดบ้านนั่นเอง เนื่องจากสาวหยกเองจะยอมเปิดทางให้ก็ต่อเมื่อเธออยู่ไกลห่างจากสามีตัวเองเท่านั้น เหตุผลข้อแรกก็คือกลัวว่าจะถูกเฮียต๋องจับได้ขึ้นมา และสองคือเธอเองก็ยังทำใจกับความรู้สึกผิดไม่ได้อย่างร้อยเปอร์เซนต์ เวลาที่ต้องแอบหนีมาหาความสุขร่วมกันกับต้นลับหลังสามีแบบนี้ ซึ่งหนุ่มต้นเองก็พอจะเข้าใจถึงความคิดของพี่สะใภ้ดีพอ จึงไม่ได้ไปยุ่มย่ามอะไรในส่วนนี้มากนัก เพราะแค่การได้เย็ดเธอไปเรื่อยๆ แบบนี้ ก็ถือว่าคุ้มเกินคุ้มสำหรับต้นแล้ว

แต่แม้ว่าจะแอบเย็ดกันมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว ซ้อหยกก็ยังดูจะมีอาการเขินอายในทุกๆ ครั้งที่ลักลอบได้เสียกันทุกที เธอยังคงใจแข็งไม่ยอมให้ต้นได้เย็ดเธอแบบสดๆ โดยไม่มีถุงยางเด็ดขาด รวมไปถึงยังไม่ยอมเป็นฝ่ายขึ้นขย่มด้วยตัวเองตามที่ต้นอ้อนขอ และที่สำคัญที่สุดคือเธอยังไม่ยอมใช้ปากดูดควยให้ต้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้ว่าต้นจะทั้งดูดทั้งเลียจนหีเธอเปื่อยไปหมดแล้วก็ตาม ซึ่งข้อห้ามต่างๆ เหล่านี้ ก็ดูจะสร้างความหนักใจให้กับต้นอยู่ไม่น้อย จนต้องแอบไปปรึกษากับเฮียต๋องลับหลังอีกรอบ ก่อนที่จะได้คำแนะนำเด็ดๆ กลับมา... นั่นก็คือการหาโอกาส ตะบันเย็ดซ้อหยกในช่วงไข่ตกซะเลย! ซึ่งไอ้เจ้าช่วงเวลาไข่ตกที่ว่านี้ ก็คือช่วงเวลาหนึ่งวัน ที่สาวๆ ทุกคน มักจะมีอารมณ์ความต้องการสูงผิดปกติ อันเป็นผลมาจากฮอร์โมนสำหรับสืบพันธุ์ในร่างกายนั่นเอง

หลังจากนัดแนะกับเฮียต๋องเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ต้นต้องทำก็มีเพียงแค่การรักษาระยะห่าง ปล่อยให้ซ้อหยกสะสมอารมณ์กำหนัดเอาไว้ให้มากพอ แล้วค่อยรอคอยสัญญาณบอกวันเวลาจากเฮียต๋อง เพื่อปิดฉากรวบหัวรวบหางเผด็จศึกพี่สะใภ้คนสวยที่กำลังเงี่ยนง่านเต็มที่ ให้น้ำแตกกระฉูดคารูหีของเธอนั่นเอง!

แผนการทุกอย่างค่อยๆ ดำเนินราบรื่นไปอย่างช้าๆ ซ้อหยกที่แม้จะสงสัยในท่าทีแปลกๆ ของต้น แต่ก็ไม่ได้เปิดปากซักถามอะไรออกไป เนื่องจากผู้หญิงเรียบร้อยอย่างเธอ จู่ๆ จะให้เป็นฝ่ายไปเอ่ยปากร้องถามถึงท่อนลำของชายอื่น มันก็ดูจะยังไงๆ อยู่ ขณะที่เฮียต๋องตัวแสบ ก็คอยกระตุ้นอารมณ์เงี่ยนของภรรยาไปอีกทางหนึ่ง ด้วยการปล่อยให้เธอต้องค้างคาไม่ถึงฝั่งฝันอยู่เป็นระยะๆ จนโดนภรรยาสาวบ่นงุบงิบๆ ด้วยความน้อยใจ แม้จะรู้สึกสงสารเธออยู่บ้าง แต่ชายหนุ่มก็ยังคงฝืนใจแข็งคอยแกล้งยั่วเธอต่อไปเรื่อยๆ

และแล้ว... เวลาที่พี่น้องทั้งคู่รอคอยก็มาถึง หนึ่งวันก่อนช่วงเวลาตกไข่ เฮียต๋องที่นับนิ้วเฝ้ารอวันเวลามาเนิ่นนานอย่างใจจดใจ่อ ก็รีบหาจังหวะกระซิบกระซาบนัดหมายให้ต้นเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมทันที โดยที่เฮียต๋องจะทำทีเป็นชวนทั้งสามคนไปเที่ยวพักผ่อนค้างคืนบนเกาะราชาด้วยกัน 1 คืน เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ โดยจองห้องนอนรวมไว้เพียงห้องเดียวเพื่อความสะดวก แล้วพอไปถึงเกาะ ต๋องก็จะแสร้งทำทีเป็นว่าติดธุระด่วนที่เกสท์ฯขึ้นมากะทันหัน ต้องรีบกลับมาเคลียร์ปัญหาคนเดียว โดยเปิดโอกาสให้ภรรยากับน้องชายของตัวเอง ได้มีโอกาสบรรเลงเพลงรักกันแบบถึงพริกถึงขิง... เนื้อแนบเนื้อ... โดยที่ไม่มีถุงยางมาคอยขวางกั้นให้รำคาญใจ....

=======================================

“โห ฟ้าสวยดีจังเลยเนาะเฮีย” สาวหยกร้องว้าวตาโต เมื่อได้เห็นภาพบรรยากาศท้องฟ้าสีครามปรอดโปร่งบนเกาะ
“อื้อ สวยน้อยกว่าเมียเฮียนิดนึง” ต๋องพูดขำๆ กลับไปแบบอารมณ์ดี
“แหม ปากหวานจังเลย... วันนี้เฮียกินอะไรผิดสำแดงมาป่าวเนี่ย?” สาวหยกแกล้งแซวกลับไปบ้าง
“อะไรกัน เฮียก็แค่พูดไปตามที่เห็นเท่านั้นเอง ก็ช่วงนี้เมียเฮียดูเปล่งปลั่งสวยวันสวยคืนนี่นา ไม่รู้ไปได้ยาดีมาจากไหน” ต๋องแกล้งพูดยั่วๆ ให้เธอสะกิดใจเล่นๆ สาวหยกที่ได้ฟังก็แอบสะดุ้งเล็กน้อย แต่ยังคงเก็บอาการได้ดีอยู่ จึงรีบพูดเปลี่ยนเรื่องทันที
“โอ๊ย! เฮียก็พูดไปเรื่อย หยกไปเดินเล่นก่อนนะ” เธอว่าแล้วก็รีบจ้ำอ้าวเดินลงไปเล่นน้ำทะเลกับต้นที่ชายหาด

ต๋องยืนมองจ้องไปที่เงาร่างของทั้งสองคนพร้อมกับคิดอะไรเงียบๆ อยู่คนเดียว ในใจก็นึกเสียดายต่อโชคชะตา ที่กำหนดให้ตัวเองไม่สามารถมีลูกร่วมกับภรรยาได้ และพอมองไปเห็นหน้าเจ้าต้นที่กำลังยิ้มแย้มอย่างมีความสุข ก็ยิ่งนึกเจ็บใจตัวเองมากขึ้นไปอีก ที่ต้องมาคอยฝากฝังภาระในการสืบสกุลไว้กับน้องชายตัวเองอยู่แบบนี้....

“เอ้าเฮีย ไม่ลงไปเล่นน้ำกับพี่หยกเหรอ?” เสียงต้นเอ่ยทักขึ้นมาขณะกำลังเดินดุ่มๆ ขึ้นมาจากฝั่งในช่วงบ่ายๆ
“เฮียว่าแดดมันแรงไปหน่อยว่ะ เดี๋ยวผิวเสียหมด” ต๋องพูดยิ้มๆ
“แหม พูดเป็นสาวๆ ไปได้นะเฮีย ปกติก็ดำอยู่แล้ว จะมาห่วงอะไรเอาตอนนี้” ต้นพูดแซวขำๆ ต๋องที่ฟังอยู่ก็แค่ยิ้มๆ แต่ไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับมา สายตาจับจ้องไปยังภาพเรือนร่างของหญิงสาวในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้น ที่กำลังใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพน้ำทะเลอย่างเพลิดเพลิน คลื่นลมทะเลเกือบจะพัดเอาหมวกปีกบานของเธอ ให้ลอยละลิ่วปลิวหลุดออกจากศีรษะ

“ต้น... ต้นอึดอัดมั้ยที่เฮียขอให้ช่วยแบบนี้?” ต๋องเอ่ยปากขึ้นมาเพื่อทำลายความเงียบ หนุ่มต้นที่ได้ฟังก็หันหน้าไปมองพี่ชายแบบงงๆ แล้วตอบกลับไป
“ก็... ไม่เท่าไหร่อ่ะเฮีย? ทำไมเหรอ?”
“อืม ไม่อึดอัดก็ดีแล้ว เฮียอยากให้ต้นมีความสุข... อยากให้หยกมีความสุข... แล้วก็อยากให้เตี่ยมีความสุขเช่นกัน” ต๋องเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเบาหวิวๆ สายตาจ้องมองเหม่อลอยไปที่ภรรยาตัวเอง
“เออ เฮีย แล้วนี่เตี่ยกับโกวเค้าไม่รู้ใช่มั้ยว่าตกลงแล้วเฮียเป็นหมันน่ะ” ต้นเอ่ยถามสิ่งที่ค้างคาใจอยู่
“ไม่รู้หรอก ถ้าเค้ารู้แล้ว เฮียจะกล้าปล่อยให้หยกมันมาท้องกับเอ็งเหรอวะ เตี่ยคงได้ช็อคตายกันพอดี”
“เออจริงว่ะ” ต้นเออออตาม
“ยังไงเฮียฝากด้วยแล้วกันนะ” ผู้เป็นพี่เปิดปากพูดทิ้งท้าย ตบไหล่น้องชายเบาๆ
“อืม” ต้นทำได้เพียงขานรับตอบพี่ชายไปเบาๆ

และพอตกเย็น ต๋องก็เริ่มต้นทำตามแผนการทันที ด้วยการแกล้งโวยวายเสียงดังผ่านโทรศัพท์มือถือที่ไม่มีผู้รับสาย แสร้งทำทีเป็นว่าคนงานที่เกสท์เฮ้าส์กำลังมีปัญหาใหญ่ ต้องรีบกลับไปเคลียร์ทันทีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งแม้ว่าภรรยาสาวจะดูไม่พอใจอยู่นิดๆ แต่สุดท้ายแล้วก็ยอมปล่อยให้สามีติดเรือขนส่งข้ามฝั่งกลับไปดูแลกิจการที่บ้านแต่โดยดี

“เฮ้อ... เฮียนะเฮีย ขนาดมาเที่ยวกันแบบนี้ ก็ยังจะมัวบ้างานอยู่อีก” หยกบ่นงึมงำๆ ออกมาเบาๆ ขณะกำลังนั่งทานมื้อเย็นที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้ ฝ่ายหนุ่มต้นที่เข้าใจสถานการณ์ต่างๆ ของพี่ชายดีจึงรีบเข้ามาช่วยแก้ต่าง
“อย่าไปโกรธเฮียต๋องเลยนะครับพี่หยก แกยอมเสียสละรับหน้าที่ดูแลกิจการให้ที่บ้านแทนผม เลยต้องคอยวิ่งวุ่นหัวปั่นอยู่แบบนี้ ไม่ใช่ว่าเฮียแกไม่อยากจะใช้เวลาอยู่กับพี่หยกซะหน่อย”
“เรื่องนั้นพี่ก็รู้ แต่แหม... มันก็ข้ามฝั่งกันมาถึงนี่แล้วป่ะ น่าจะลองปล่อยให้ลูกน้องเคลียร์ๆ กันเองได้มั่งนา” หยกยังคงตัดพ้อไม่หยุด พลางจิ้มชิ้นปลาหมึกย่างเข้าปาก

“อย่าไปคิดมากเลยนะครับพี่ มาๆ เดี๋ยวกินเสร็จแล้วผมจะรับหน้าที่ดูแลพี่เอง จะได้หายเครียดซักที” ต้นพูดพร้อมกับทำหน้าเจ้าเล่ห์ สาวหยกที่ได้ยินก็รีบทำยิ้มเขินๆ อย่างรู้ทัน
“แน่ใจนะว่าจะดูแล ไม่ใช่ว่าจะมารังแกอะไรพี่อีกนา....” เธอพูดเสียงยานคางล้อเลียน
“ดูแลสิครับ รับรองเลยว่าพี่หยกต้องแฮปปี้แน่นอน สัญญา” หนุ่มต้นว่าพลางชูนิ้วทำท่าสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะ อาหารอร่อยๆ กับเบียร์เย็นๆ แล้วก็คู่สนทนาที่รู้ใจ พอจะช่วยให้สาวหยกคลายความหงุดหงิดลงไปได้บ้างพอสมควร

พอทานข้าวเย็นกันเสร็จแล้ว สองหนุ่มสาวก็พากันมาเดินเล่นดูคลื่นลมทะเลที่ชายหาด โดยมีเครื่องดื่มมึนเมาขวดสีเขียวๆ ติดมือมาด้วยคนละขวด แสงไฟจากเกาะภูเก็ตเปล่งประกายวิบวับ ไม่แพ้ดวงดาวที่ลอยล่องอยู่บนท้องฟ้า ลมทะเลตอนกลางคืน พัดหวิวๆ ชวนให้ผิวกายของหญิงสาวรู้สึกหนาวเย็นขึ้นมากะทันหัน

“หนาวเหรอครับพี่” หนุ่มต้นเอ่ยปากถาม พลางถอดเสื้อนอกเอาไปห่มคลุมกายให้เธอ หลังจากทีเห็นว่าเสื้อเชิ้ตแขนกุดกับกางเกงขาสั้นที่เธอสวมอยู่ ไม่สามารถปกป้องเธอจากความหนาวเย็นของทะเลในยามค่ำคืนได้เลย
“ขอบคุณจ้ะ” หยกกล่าวขอบคุณเรียบๆ สายตาจับจ้องไปที่แสงไฟบนเกาะฝั่งตรงข้าม
“ไม่รู้ป่านนี้ที่เกสท์ฯจะวุ่นวายแค่ไหนเนาะ” ต้นเอ่ยปากขึ้นมาเพื่อทำลายความเงียบ พร้อมกับยกเบียร์ขึ้นจิบ
“อื้อ” หญิงสาวตอบกลับมาสั้นๆ ในหัวยังคงนึกเสียดายไม่หาย ที่สามีของเธอไม่ได้มาใช้เวลาอยู่ร่วมกันในบรรยากาศดีๆ แบบนี้ แล้วเธอก็ยกเบียร์ขึ้นจิบตามเช่นเดียวกัน

“อุ๊ย!” หยกอุทานออกมาเบาๆ เมื่อถูกท่อนแขนยาวๆ ของชายหนุ่มรุ่นน้อง โอบรั้งตัวเธอมากอดไว้แนบกาย
“ขอกอดหน่อยนะครับ ผมเริ่มจะหนาวขึ้นมาแล้วแหละ” หนุ่มต้นพูดแก้ตัวง่ายๆ
“บ้า... ไม่เอา อายเค้า คนอื่นเยอะแยะ” เธอร้องห้าม พลางหันหน้าไปมองยังนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่กำลังชื่นชมกับบรรยากาศบนชายหาดรอบๆ
“มองได้ก็มองไปสิครับ เค้าอาจจะคิดว่าเราเป็นผัวเมียกันเหมือนคู่อื่นๆ ก็ได้” ต้นยังใช้มือโอบเธอไว้แน่นไม่ยอมปล่อย พยายามซุกไซร้ใบหน้าให้แนบชิดเข้ากับแก้มเธอ

“พี่ไม่คิดเลยนะเนี่ย ว่าต้นจะเป็นคนทะลึ่งแบบนี้” สาวหยกพยายามเบี่ยงตัวหลบ ร้องโต้ตอบกลับไปอย่างเขินๆ
“ผมก็ไม่คิดเหมือนกันครับพี่ แต่มือมันไปเองง่ะ” ต้นยิ่งกอดรัดฟัดเหวี่ยงร่างเธอแน่นขึ้นไปอีก
“โอ๊ยพอแล้ว พอแล้วนะ... อายคนเค้า” หญิงสาวร้องอ้อนวอนขอความเห็นใจ
“งั้น... ถ้าเป็นที่ๆ ไม่มีคนอื่น พี่หยกโอเคใช่มั้ยครับ?” ต้นรีบถามจี้ใจเธอทันที ซ้อหยกทำหน้าเขินๆ แก้มแดงแป๊ดพลางร้องปฏิเสธเสียงอ่อน
“บ้า... โอเคที่ไหนเล่า” เธอบ่นงุบงิบๆ พลางก้มหน้าหลบตา พวงแก้มแดงระเรื่อด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ซึมเข้าเส้นเลือด และที่สำคัญที่สุดคือ นี่เป็นช่วงเวลาที่อารมณ์ของหญิงสาวกำลังพลุ่งพล่านที่สุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งจากฮอร์โมนในร่างที่กำลังสุกงอมได้ที่ รวมไปถึงความรู้สึกเสียวซ่านที่ถูกเก็บกดขาดตอนมาจากสามีเป็นระยะเวลาร่วมเดือน... ชายหนุ่มจึงเอื้อมไปจูงมือเธอ แล้วพาเดินนำหน้ากลับไปยังห้องพักทันที...

“ต้น.... ต้นไม่ดูดาวแล้วเหรอ?” สาวหยกร้องถามออกมาเพราะไม่ทันตั้งตัว
“ไม่ดูแล้วครับ ก็ข้างๆ ผมตอนนี้ มีอะไรสวยๆ น่าดูกว่าดาวบนฟ้าตั้งเยอะ” ต้นกล่าวชมจนหญิงสาวหน้าแดงขึ้นไปอีก สองมือที่เคยกุมจับกันแบบหลวมๆ ก็ดูจะแนบแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มที่จะแยกไม่ออกแล้วว่าใครกันแน่ ที่กำลังเป็นฝ่ายกุมมือของอีกคนอยู่ในตอนนี้กันแน่ ทั้งคู่กึ่งลากกึ่งสมยอมพาร่างของกันและกันมาจนถึงห้องพักในที่สุด

ต้นดันร่างของพี่สะใภ้เข้ามาในห้องได้อย่างไม่ยากเย็นเท่าไหร่ พอเอื้อมมือไปกดล็อคประตูเสร็จ ก็ขยับตัวเข้าประกบจูบปากหญิงสาวทันที ริมฝีปากของคนทั้งสองบดเบียดกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ต้นบดปากจูบเธออยู่ร่วมๆ นาที สองมือที่ซุกซนก็คอยขยำขยี้ มุดล้วงเข้าไปเกาะกุมทรวงเต้าของเธอใต้เสื้อไม่หยุด ก่อนจะค่อยๆ ออกแรงดันตัวเธอให้เอนหลังลงไปนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆ พร้อมกับใช้มือถลกชายเสื้อของเธอขึ้น เปิดให้เห็นหน้าท้องขาวๆ แบนราบ กับสะดือสวยเป็นรูดูน่าจูบ มองเลยขึ้นไปเห็นขอบยกทรงสีขาวสะอาดตา กำลังห่อหุ้มเต้านมขาวๆ ของเธอไว้อีกชั้น ต้นก้มหน้าลงไปจุมพิตสลับกับไล่งับหน้าท้องของเธอเบาๆ อย่างมันเขี้ยว

“ว้าย! ฮะๆ ไม่เอา มันจั๊กจี้นะ พอแล้ววว!” สาวหยกดิ้นพล่านๆ สะบัดตัวหนีไปมา หัวเราะก๊ากจนน้ำหูน้ำตาเล็ด ใช้มือจิกลงไปผมของต้นแรงๆ เพื่อห้ามปราม
“โอ๊ยๆๆ พี่หยก ผมเจ็บ” ต้นเงยหน้าขึ้นมาร้องครวญเบาๆ
“ก็ต้นอ่ะ... แฮ่กๆ... แกล้งพี่เองทำไมเล่า... แฮ่กๆ” หยกหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน
“งั้นไม่แกล้งแล้วครับ เอาจริงเลยดีกว่า” ต้นว่าพลางใช้มือแกะกระดุมกางเกงขาสั้นของเธอ พร้อมกับดึงถลกรูดทีเดียวหลุดออก ท่อนล่างของเธอตอนนี้จึงเหลือเพียงแค่กางเกงในผ้าลื่นตัวจิ๋วสีเขียวอ่อน มีโบว์เล็กๆ น่ารักประดับติดอยู่บริเวณด้านบนของเป้าเท่านั้น

เจ้าหนุ่มหน้าใสไม่พูดพร่ำทำเพลง ก้มหน้าลงไปจุมพิตกลางเป้าของเธอทันทีด้วยความนุ่มนวล ใช้ปากดูดเม้มกลีบสาวของเธอผ่านเนื้อผ้ากางเกงใน สลับกับการใช้ลิ้นเลียไปตามร่องแคมเป็นแนวยาว จนสาวหยกต้องแอ่นกายบิดเบี้ยวไปมาเพราะความเสียวที่กำลังเกิดขึ้น ต้นใช้มือดันน่องขานุ่มๆ ของเธอให้ถ่างอ้าออกจากกัน พอปลีน่องอวบอัดถูกจับแบะอ้าแล้ว ก็ทำให้กลีมแคมกลางตัวของเธอ ค่อยๆ เผยออ้าออก จนมองเห็นเม็ดแตดกลมกลึงดันทะลุเนื้อผ้ากางเกงชั้นในออกมา ต้นรีบตวัดลิ้นจู่โจมเม็ดทับทิมของเธออย่างไม่รอรี ทั้งปาด ทั้งดุน จนเจ้าของร่างเกร็งกระตุกแอ่นตัวลอย ก้นเด้งหงึกๆ ไม่ติดเตียง น้ำหีเปียกเยิ้มทะลักทลายออกมาไม่หยุดหย่อน

ต้นค่อยๆ ถอนปากออก ใช้สองมือดึงรูดกางเกงในตัวจิ๋วของเธอผ่านทางหน้าขา ตรงบริเวณกลางเป้าของมันมีคราบน้ำใสๆ เหนียวเยิ้มเป็นดวง แล้วจึงมุดหน้ากลับเข้าไปที่เดิม ค่อยๆ ใช้นิ้วแตะๆ ถูไถเขี่ยปากร่องเสียวไปมา จนคราบน้ำรักมันวาวเกาะติดชุ่มนิ้วกลาง ก่อนที่เขาจะค่อยๆ สอดนิ้วดันมุดเข้าไปในร่องรูที่เผยอรออยู่ ออกแรงกดทีเดียวนิ้วกลางก็หายเข้าไปได้เกือบสุดลำ สาวหยกหลุดปากร้องซี้ดดดส์ออกมาเบาๆ หลับตาปี๋ข่มอารมณ์เอาไว้แน่น มือซ้ายจิกขยำผ้าปูที่นอนไปด้วยเพื่อช่วยคลายความเสียว

“อืมมมมมม....ม์” หยกครางฮืออยู่ในลำคอเบาๆ เมื่อท่อนนิ้วกลางของต้น กดสอดเข้าไปจนสุดมิดด้าม เสร็จแล้วก็ค่อยๆ ถอนมันออกช้าๆ ก่อนจะกดนิ้วมุดกลับเข้าไปอีกเบาๆ เป็นจังหวะ
“ดีมั้ยครับพี่? เสียวไหม?” ต้นกระซิบถามข้างหูเธอ พร้อมกับใช้นิ้วหัวแม่มือไล่คลึงโม่บดเม็ดแตดของเธอด้านนอกไปด้วยเพื่อช่วยกระตุ้นอารมณ์ให้เงี่ยนง่านขึ้นไปอีก
“อือออ... ดะ... ดี... ดีจ้ะ” หยกละล่ำละลักตอบกลับมาเสียงสั่นขาดช่วง ชายหนุ่มที่ได้ยินแบบนี้จึงยิ่งเร่งตกเบ็ดให้สุดฝีมือ ชักนิ้วเข้าออกจนน้ำเงี่ยนของพี่สะใภ้กระเด็นเจิ่งนองไปทั่วผ้าปูที่นอน
“ซี้ดดดดดดส์ อู๊ย! ต้น.....นนนน โอ๊ยยยยยยย.....!” หยกร้องลั่นเมื่อเจอลิ้นสากๆ ปาดเข้าไปที่เม็ดเสียวอย่างจัง ขณะที่ร่องรูด้านในก็โดนนิ้วกลางกับนิ้วนางทะลุทะลวงอย่างถึงกึ๋น เล่นเอาหยกถึงกับกระเจิดกระเจิงไปเลย ริมฝีปากของต้นพยายามดูดกลืนกลีบสาวของเธอเสียงดังซ้วบซ้าบ จนเธอแทบจะขาดใจ

ต้นใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่ เลื่อนขึ้นไปบีบคลึงเต้านมอวบอิ่มพอดีมือของเธอเล่น รู้สึกได้ถึงความชูชันจากปลายยอดปทุมถัน ที่แทงทะลุเนื้อผ้ายกทรงออกมา จึงออกแรงดันยกทรงให้เลื่อนขึ้นไปกองไว้เหนือราวนม เพื่อที่จะได้สัมผัสกับก้อนเนื้อนุ่มๆ ของเธอโดยตรง ขนาดของมันไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมายเหมือนอย่างพวกนางเอกหนังโป๊ที่เขาชื่นชอบ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับแบนราบเรียบจนเป็นไม้กระดานเหมือนอย่างสาวๆ หลายๆ คน ความอวบหยุ่นสู้มือทำให้ต้นอดใจไม่ไหว ใช้ฝ่ามือออกแรงบีบเคล้นคลึงเคล้าด้วยความเมามัน จนมันบิดเบี้ยวผิดทรงผิดรูปไปหมด ปลายนิ้วก็คอยเขี่ยสะกิดหัวนมของเธอเล่นไปด้วย

สาวหยกที่โดนจู่โจมทั้งด้านบนและด้านล่างพร้อมกันแบบนี้ก็สุดที่จะต้านทาน อารมณ์เงี่ยนของเธอที่พยายามกดเก็บมันไว้มานาน ถูกกระตุ้นเร่งเร้าจนมันปะทุออกมาอย่างที่ไม่อาจต้านทานได้ รีบเร่งแอ่นเอวบดสะโพกเบียดอัดกับใบหน้าของชายหนุ่มรัวๆ ดังพรืดๆ ใบหน้าบิดเบี้ยวเร่าร้อน ริมฝีปากเผยออ้าเพื่อเตรียมกู่ก้องร้องครวญครางออกมา ก่อนที่อารมณ์ของเธอจะระเบิดออกมาในที่สุด....

“อ๊ะ..! อาห์ พี่.... พี่ไม่ไหว.... ไม่ไหวแล้ววววว...ววว อ๊ะ!... อ๋าย... อ๊ายยยย.... ซี้ดดดดดดดส์ อ๊ายยยยยยยยยส์....!!”  สองมือของซ้อหยกขยุ้มจิกลงไปบนเส้นผมของต้นอย่างแรง เกร็งร่างกระตุกเฮือกๆ แหกปากร้องกรี๊ดออกมาเสียงดังลั่นห้อง ร่องหลืบเนื้อสาวด้านล่าง ไม่อาจกักเก็บความเสียวไว้ได้อีกต่อไป มันกระตุกพรวดๆ บดสู้กับปลายลิ้นของต้นอยู่ 2-3 ที ก่อนที่น้ำเงี่ยนเหนียวๆ ใสๆ จะพุ่งปรี๊ดทะลักทลายออกมา เลอะปากเลอะคางของชายหนุ่มจนเปียกเยิ้มไปหมด ร่างของหญิงสาวลอยแอ่นค้างอยู่กลางอากาศ ในวินาทีที่อารมณ์ของเธอพุ่งทะยานถึงขีดสุด ลมหายใจขาดห้วง ใจเต้นระรัวราวกับจะฉีกหลุดออกมาจากอก ก่อนที่ทุกอย่างจะค่อยๆ ลดระดับลงกลับสู่เหตุการณ์ปกติ หยกนอนหอบแฮ่กๆ อย่างเหนื่อยอ่อน รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหายใจเอาอากาศเข้าไปไม่ทัน

ต้นรูดกางเกงขาสั้นของตัวเองออกไป ตามด้วยกางเกงชั้นใน ก่อนจะรูดถลกเสื้อยืดของตัวเองออกไปพ้นหัว ร่างเปลือยเปล่าของชายหนุ่ม ขยับตัวเข้ามาทาบชิดกับท่อนล่างอันเปลือยเปล่าของพี่สะใภ้ เขาก้มหน้าลงมาประกบริมฝีปากจูบเธออย่างดูดดื่ม โดยที่เธอเองก็เผลอจูบตอบเขาไปด้วยความคุ้นเคย ลิ้นของทั้งคู่สอดประสานกันอย่างเข้าขารู้ใจ พอคนนึงถอย อีกคนก็ตามรุกไล่ พอจังหวะที่ต้นกำลังจะขยับตัวขึ้นทาบทับร่างของเธอนั้น หยกจึงใช้แรงเฮือกสุดท้ายที่มีติดตัวอยู่ ดันตัวน้องชายสามีออกมาเสียก่อน

“คุยกันก่อนได้มั้ย? พี่อยากเคลียร์ให้รู้เรื่องก่อน” หยกเอ่ยปากด้วยสีหน้าจริงจัง นัยน์ตาแฝงความรู้สึกบางอย่าง
“ครับพี่” ต้นตอบกลับไปสั้นๆ พร้อมกับจ้องหน้าสบตาเธอไปด้วย สายตาเป็นประกายเช่นเดียวกัน
“พี่แค่รู้สึกว่าพักหลังๆ เราสองคนชักจะเตลิดเกินเลยมาเยอะแล้วนะ”
“พี่หยกหมายความว่ายังไง” ต้นถามกลับไปอย่างไม่เข้าใจ
“ก็ที่เรากำลังทำอยู่เนี่ย ต้นไม่คิดว่ามันดูเห็นแก่ตัวเกินไปหน่อยเหรอ...? ขณะที่เฮียต๋องเค้าต้องกลับไปทำงาน แต่เราสองคนกลับ... มานั่งทำอะไรกันอยู่แบบนี้” หยกเอ่ยอ้างไปถึงสามี ผู้ซึ่งตอนนี้กำลังนอนดูทีวีอยู่บ้านสบายใจเฉิบ

“ผมรู้ครับว่าที่ทำอยู่น่ะมันดูไม่ดี แต่ผมอยากขอให้พี่หยกช่วยเห็นใจผมบ้างได้มั้ย ที่ผ่านมาผมก็ได้แต่เก็บซ่อนความรู้สึก ต้องทนเห็นพี่กับเฮียต๋องใช้เวลาอยู่ด้วยกัน มีความสุขด้วยกัน โดยที่ผมเองก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากตอนที่พี่จะยอมเจียดเวลามาหาผมบ้างเท่านั้นเอง” หยกนิ่งไปเมื่อได้ฟังน้องชายสามีระบายความอัดอั้นตันใจออกมา
“อย่างน้อยผมขอแค่คืนนี้อีกคืนเดียว ที่ผมจะได้นอนกอดพี่หยกให้พอหายคิดถึงกันบ้าง มันจะเป็นไปไม่ได้เลยเหรอครับพี่?” ต้นถามเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงน้อยใจเล็กๆ
“พี่....” หญิงสาวไม่รู้จะสรรหาคำใดๆ มาโต้แย้ง เพราะในขณะเดียวกัน เธอเองก็มีความต้องการไม่ต่างอะไรจากต้นเลยแม้แต่น้อย
“ผมสัญญาครับ ว่าผมจะไม่ไปก้าวก่ายเรียกร้องอะไรจากพี่มากไปกว่านี้อีกแล้ว ผมรู้ดีว่าพี่น่ะรักเฮียต๋อง ไม่ได้รักผม.... พี่ไม่ต้องคิดมากนะครับ ยังไงสถานะของเราสองคนก็จะยังคงเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม ขอแค่พี่แบ่งเวลามาอยู่กับผมบ้าง แค่ช่วงสั้นๆ แบบนี้ก็พอ” คำออดอ้อนของต้น กลายเป็นหมัดน็อคที่ทำให้หญิงสาวต้องยอมพ่ายแพ้ต่ออารมณ์ความต้องการของตัวเองในที่สุด

“ต้นเอาถุงยางมาด้วยรึเปล่า?” หยกเอ่ยถามเสียงเบาหวิว
“เปล่าครับ... ผมไม่คิดว่าเราจะได้มาอยู่กันสองต่อสองแบบนี้อ่ะ” ต้นตอบโกหกหน้าตาย
“พี่ก็ไม่คิดเหมือนกัน... แล้วแบบนี้จะเอาไงดี” สะใภ้สาวทำหน้ากังวลขึ้นมา
“ก็เอากันที่นี่แหละครับ ไม่ต้องไปไหนไกลหรอก” น้องสามีแกล้งพูดแซวอย่างอารมณ์ดี
“บ้า! ไม่ใช่ พี่หมายถึงว่า จะทำยังไงดี ถุงยางก็ไม่มีแบบนี้” หญิงสาวใช้มือตีแขนต้นเบาๆ พยายามลากชายหนุ่มให้กลับมาพูดคุยจริงๆ จังๆ อย่างเป็นเรื่องเป็นราว
“ถ้างั้นเดี๋ยวผมเสร็จข้างนอกเหมือนเดิมก็ได้ครับพี่” ต้นเอ่ยย้อนไปถึงประสบกามครั้งแรกของคนทั้งคู่ ซึ่งเกิดขึ้นอย่างฉุกละหุก ไม่ต่างอะไรจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ สาวหยกชั่งใจอยู่แป๊บนึง ก่อนจะยอมพยักหน้า
“อืม.... เอางั้นก็ได้” หญิงสาวตอบ ค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อตัวเอง รูดอาภรณ์สองชิ้นสุดท้ายที่เหลืออยู่ให้หลุดออกมาจากตัว เรือนร่างเปลือยเปล่าของทั้งคู่ จึงออกมาประจันหน้ากันตามลำพัง โดยที่ไม่มีสิ่งใดมาคอยขวางกั้นอีกต่อไป....

ต้นขยับเข้าไปนอนตะแคงข้างๆ เธอ ใช้มือบีบจับลงไปบนหน้าอกเปลือยเปล่า แล้วค่อยๆ ก้มหน้าลงไปจุมพิตเข้าที่ยอดปทุมถันด้วยความนุ่มนวล หยกครางฮือออกมาทันทีที่ถูกปลายลิ้นสัมผัส ชายหนุ่มออกแรง ทั้งบีบ ทั้งคลึงเต้านมจนมันบิดเบี้ยวผิดรูป ปากก็เม้มดูดหัวนมของเธอราวกับทารกน้อยที่กำลังหิวกระหาย พอดูดจนอิ่มหนำสำราญใจแล้ว ต้นจึงเปลี่ยนเป้าหมาย เลื่อนมือลงไปควานเขี่ยที่ปากทางร่องเสียวอันเปียกเยิ้มของเธออีกครั้ง

และจากประสบกามที่เคยร่วมรักกันมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ทำให้ต้นพอที่จะคุ้นเคยกับลีลาสวาทของคู่ขาตัวเองเป็นอย่างดี โดยที่เค้าเองก็ไม่เคยจะคิดมาก่อนเลยว่า ผู้หญิงเรียบร้อยๆ หน้าตาน่ารักๆ อย่างซ้อหยก เวลาที่อยู่บนเตียงนั้นจะมีอารมณ์ร้อนแรงได้ถึงเพียงนี้ ซึ่งแม้ว่าพี่สะใภ้สาวคนสวยจะพึ่งเสร็จกิจจากการโดนลงลิ้นจนตัวลอยไปหมาดๆ แต่เมื่อดูจากสภาพความชุ่มชื้นเปียกแฉะในตอนนี้แล้ว ถ้าหากว่าลองปลุกอารมณ์อย่างต่อเนื่องดีๆ ก็คงเพียงพอที่จะพาเธอพุ่งทะยานขึ้นสวรรค์ไปอีกรอบได้อย่างไม่ยากเย็นเท่าไหร่

ต้นใช้นิ้วแหวกกลีบแคมที่หุบตัวอยู่จนเปิดอ้าออก ตวัดลิ้นชิมรสชาติน้ำเสียวสีขาวหนืดๆ ของเธอทีสองที รสออกเค็มๆ ปะแล่ม มีกลิ่นสาวแปลกๆ ลอยติดจมูกนิดๆ ยิ่งกระตุ้นอารมณ์หื่นของต้นไอ้ปึ๋งปั๋งขึ้นมาอีกเป็นเท่าทวีคูณ สาวหยกที่โดนจู่โจมซ้ำสองที่จุดเดิมถึงกับเสียวจนตัวแอ่น

“โอ๊ยยย... ยังจะเลียอีกเหรอต้น...?” หยกร้องท้วงขึ้นมา เมื่อเห็นว่าต้นไม่เร่งรีบสอดใส่ท่อนลำเข้ามาอย่างที่เธอเตรียมใจในไว้ตอนแรก หนุ่มต้นที่ได้ฟังก็ยิ้มให้เธอ แล้วก้มหน้าก้มตาใช้ลิ้นลากเลียไปตามแนวร่องเสียวของเธอจนน้ำเงี่ยนเปรอะริมฝีปาก บางจังหวะยังแอบลากผ่านไปถึงรูก้นของเธอ จนหญิงสาวต้องรีบใช้มือจิกดึงผมเอาไว้ไม่ให้ลงต่ำไปมากกว่านี้ แม้ว่ารสสัมผัสที่เกิดขึ้นมันจะพาให้อารมณ์ของเธอรู้สึกหวิวๆ แปลกๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ไม่เอานะ! อย่าลงไปแบบนั้น” ซ้อหยกรีบออกปากร้องห้ามเสียงดัง จนต้นต้องยอมผงกหัวขึ้นมาตามเดิม

ต้นพยายามใช้ลิ้นฉกเลียกระตุ้นอารมณ์พี่สะใภ้ด้วยความพิถีพิถัน บางจังหวะก็สอดลิ้นแยงคว้านเข้าไปสำรวจร่องหลืบภายใน สลับกับการลากวนเล่นงานเม็ดแตดที่กำลังบวมเป่ง พอเห็นว่าอารมณ์ของเธอเริ่มขึ้นสูงได้ที่อีกครั้ง ต้นก็จัดแจงลงไปนอนหงายกลับหัวกลับหาง ดันร่างซ้อหยกให้กลับขึ้นมานอนคว่ำในท่า 69 แบบที่เคยเห็นพี่ชายทำในห้องนอน

“ว้าย! ไม่เอานะต้น พี่ไม่ใช้ปากให้นะ” สาวหยกรีบร้องดักคอออกมาทันทีอย่างรู้ทัน
“เปล่านะครับ ผมแค่อยากเลียให้พี่จากด้านล่างบ้างก็เท่านั้นเอง เห็นเค้าว่ามันเสียวกว่ากันเยอะเลย” หนุ่มต้นพยายามหาข้ออ้างข้างๆ คูๆ จากมุมมองด้านล่างที่เห็นอยู่นี้ ทำให้สะโพกพายกับแก้มก้นงอนๆ ของซ้อหยก ลอยแอ่นท้าทายสายตาอย่างน่าดูชม กลีบพูอวบอูมของเธอดูจะเผยออ้าออกมาเล็กน้อย เมื่อต้องมาอยู่ในท่าคุกเข่าคลานสี่ขาแบบนี้ แคมหีอวบๆ มีคราบน้ำสวาทยืดเยิ้มออกมาจากร่องรูภายใน ผสมปนเปกับคราบน้ำลายจากปลายลิ้นของหนุ่มต้นจนเปียกนองไปทั่วง่ามขา ชายหนุ่มเห็นเข้าก็อดใจไม่ไหว ต้องรีบดึงรั้งสะโพกของเธอลงมา เพื่อดูดกลืนน้ำทิพย์จากร่องหีของเธอ เสียงดังซ้วบบบบบ....บบบ!

“อุ๊ย! ต้น! เบาๆ หน่อยซี่....” หยกหลุดปากร้องออกมาเบาๆ แต่ชายหนุ่มดูจะไม่สนใจ ยังคงก้มหน้าก้มตาลงลิ้นกับร่องเสียว จนสาวหยกเผลอเป็นฝ่ายขย่มบดอัดเนินสาวเข้ากับใบหน้าของชายหนุ่มเสียเอง
“ซี้ดดดดดดส์ อาห์... ทำไมมันเสียวแบบนี้นะ.... ฮือออออ” สะใภ้สาวพร่ำเพ้อออกมา สายตาก็พลันสบเข้ากับท่อนเอ็นเปลือยเปล่า ที่กำลังกระดกหงึกๆ ยั่วยวนอยู่ตรงหน้า ปลายหัวบานแดงโร่ ตรงบริเวณรอยหยักมีหยดน้ำกลมๆ ใสๆ เกาะติดอยู่ ดูคล้ายกับหยาดน้ำค้างก็ไม่ปาน ท่อนเอ็นบานอวบส่ายกระตุกไปมาอยู่ห่างจากใบหน้าเธอแค่เพียงคืบ รูปร่างหน้าของมันรึ ก็ดูคล้ายคลึงแทบไม่ต่างอะไรจากแก่นกายของเฮียต๋องผู้เป็นสามีเลยซักนิด

สาวหยกเผลอแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างลืมตัว สายตาก็ยังจับจ้องไปที่อาวุธประจำกายของชายหนุ่มไม่ให้คลาดสายตา หนุ่มต้นที่จับสังเกตได้ว่าพี่สะใภ้กำลังแอบชั่งใจอยู่เงียบๆ จึงพยายามช่วยให้เธอตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ด้วยการเกร็งกระตุกท่อนควยของตัวเองหงึกๆ จนใบหน้าของเธอร้อนผ่าวไปหมด ลมหายใจติดๆ ขัดๆ เหมือนกำลังกลั้นใจอยู่ตลอดเวลา

“พี่หยกใช้มือให้ผมหน่อยได้มั้ยครับ?” ต้นเอ่ยปากอ้อนขอเสียงใส สาวหยกที่ได้ฟังก็ไม่ได้ตอบอะไร เพียงใช้มือซ้ายเอื้อมไปคว้าหมับเข้าที่ท่อนลำอุ่นๆ ค่อยๆ ลูบสัมผัสมันอย่างกล้าๆ กลัวๆ แม้ว่าเธอจะเคยจับสัมผัสมันมาก่อนหน้านี้บ้างแล้ว แต่ทุกครั้งก็ยังอดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้อยู่ดี หยกเองก็อดแปลกใจกับตัวเองไม่ได้ ทั้งๆ ที่กับเฮียต๋องเองเธอก็เคยทำให้หมดแล้ว ทั้งใช้มือ... ใช้ปาก... หรือแม้แต่การขึ้นไปร่อนขย่มด้วยตัวเองจนเสร็จสรรพ ก็ไม่เห็นจะมีอาการประหม่าเขินอายแบบนี้ แบบที่กำลังเกิดขึ้นกับต้น....

หรือเพราะว่ามันคือเซ็กส์ต้องห้าม ที่ต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ หาโอกาสตักตวงความสุขซึ่งกันและกัน จึงทำให้เธอยังคงรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ เหมือนว่าตัวเองกำลังแอบทำความผิดอยู่แบบนี้

ความรู้สึกผิดที่ผิดทางเหล่านี้ กลับยิ่งกระตุ้นอารมณ์ของเธอให้ตื่นเต้นขึ้นไปอีก ภาพหัวควยบานแดงโร่ที่กำลังถูกฝ่ามือของเธอรูดปลิ้นเข้าปลิ้นออก ทำให้เธอต้องแอบกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก! ใช้หัวแม่มือบี้คลึงไปที่รอยแยกบริเวณปลายหัว พร้อมกับออกแรงชักรูดท่อนลำแบบเน้นๆ เล่นเอาหนุ่มต้นต้องเผลอถอนปากออกมาด้วยความเสียวซ่าน เสียงครางสูดปากซี้ดซ้าดของน้องชายสามี ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากการกระทำของเธอ ดูจะสร้างความพึงพอใจให้กับสาวหยกได้เป็นอย่างดี... เธอแอบอมยิ้มนิดๆ ที่สามารถทำให้ชายหนุ่มรุ่นน้อง ต้องออกอาการเสียวซ่านจนตัวเกร็งได้ถึงเพียงนี้

ภาพเบื้องหน้าที่คอยเร่งเร้ากระตุ้นอารมณ์ บวกกับความมั่นใจที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น ทำให้สาวหยกแอบคิดอยากลองทำอะไรให้ชายหนุ่มรู้สึกเสียวซ่านขึ้นไปอีก เธอค่อยๆ เผยอปากอ้า แลบลิ้นออกมาช้าๆ ก่อนจะใช้มันแตะเข้าไปที่บริเวณปลายหัวควยของต้นเบาๆ เพื่อชิมรสชาติน้ำหล่อลื่น

“อุ๊...! ซี้ดดดดดส์” ชายหนุ่มสูดปากครวญเบาๆ หน้าท้องเกร็งแขม่วเมื่อถูกริมฝีปากบางๆ ของหญิงสาว ครอบอมไปที่ดอกเห็ดบานอวบสีแดงโร่ สองมือก็คว้าหมับ บีบคลึงลงไปบนแก้มก้นของซ้อหยกเพื่อช่วยกำกับจังหวะ เธอค่อยๆ ใช้ปากดูดกลืนท่อนเนื้อเข้าไปจนแก้มตอบ ก่อนจะออกแรงรูดผงกศีรษะโยกขึ้นลงเบาๆ เป็นจังหวะ แม้จะเคยมีประสบการณ์กับสามีมาบ้างแล้ว แต่ด้วยกลิ่นคาวและรสชาติอันแปลกใหม่ที่ไม่คุ้นลิ้น ก็เลยทำให้หญิงสาวดูจะเกร็งๆ กล้าๆ กลัวๆ และออกอาการติดขัดอยู่บ้างเล็กน้อยในช่วงแรกๆ ก่อนที่เธอจะเริ่มต้นติดเครื่องได้ในที่สุด

“ดะ.... ดีครับพี่... อืมมมม... แบบนั้นแหละครับ” ต้นสูดปากหลับตาพริ้ม ปล่อยตัวเอนกายให้พี่สะใภ้ ได้ดูดดุนดุ้นเนื้อของตัวเองตามใจชอบ บางจังหวะยังช่วยเกร็งตัวเดาะสะโพกขึ้นจากเตียงเพื่อช่วยเสริมแรง ซ้อหยกตอนนี้หน้ามืดตามัวไปหมดแล้ว ก้มหน้าก้มตาใช้ปากดูดโม้กควยให้หนุ่มต้นอย่างถึงเอร็ดอร่อย ยิ่งเร่งยิ่งรูด จนชายหนุ่มเองไม่กล้านอนเอาเปรียบ ต้องรีบเกร็งคอประกบแนบเข้ากับบั้นท้ายเธอ พร้อมกับลงลิ้นทาสีไปที่พวงเนื้อสาวอย่างถึงพริกถึงขิง

สองหนุ่มสาวสลับกันใช้ปากให้กันและกันจนฉ่ำแฉะหนำใจ ก่อนที่หนุ่มต้นจะค่อยๆ ส่งสัญญาณขอสงบศึกชั่วคราว เพราะเริ่มเสียวหัวควยจนแทบทนไม่ไหว ชายหนุ่มค่อยๆ ขยับชันตัวขึ้นมาคุกเข่าประกบซ้อหยกจากทางด้านหลัง ออกแรงดันตัวเธอให้เอนไปข้างหน้าในท่าคลานคุกเข่าสี่ขา พร้อมๆ กับจรดท่อนเนื้อเปลือยเปล่าเข้าไปจ่อที่ปากทาง ซึ่งกำลังแบะอ้าเตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว ชายหนุ่มสบตากับหญิงสาวเป็นเชิงขออนุญาต ขณะที่ทางฝั่งสะใภ้สาวเองก็ไม่ได้พูดหรือตอบอะไรออกไป เพียงแค่พยักหน้าเบาๆ หนึ่งครั้ง เพื่อเป็นการเชื้อเชิญให้ท่อนเอ็นแข็งอวบ ค่อยๆ มุดแซะเข้ามาในร่องรูอันเปียกชื้นของเธอ

“อ่ะ... อาาา….ห์ อึ่... อึ่กกก..กก  อ๊ะ..! อ๊า.... อ๋าาาา!!” หยกร้องครวญครางเสียงกระเส่า หน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะความจุกเสียด ขณะที่ท่อนควยคล้ำอวบ ค่อยๆ ทะลวงยัดรูหีของเธอจนแคมยู่ยี่ปลิ้นกองอยู่ด้านข้าง รสสัมผัสจากการเสียดสีของผิวเนื้อแบบสดๆ ทำให้ต้นอดรู้สึกมันควยขึ้นมาไม่ได้ เร่งบดอัดท่อนลำ ยงขยี้รูหีของซ้อหยกด้วยความเมามัน จนเธอถึงกับแหกปากร้องเสียงหลงไม่เป็นภาษา
“อ๊ะ! อ๋อยสส.....ซี้ดดดดส์ อู๊ยย ต้น..... พี่เสียววว....ววววว อะ.... อ๊ะ...! โอ๊ยยย....!” หยกสะบัดหน้าไปมา เนื้อตัวสั่นกระเพื่อมด้วยแรงกระแทกจากทางด้านหลัง หน้าอกขนาดพอดีมือของเธอแกว่งไกวไปมา เดี๋ยวซ้ายที เดี๋ยวขวาที โพรงเนื้อด้านล่างก็ถูกคว้านทะลวง จนเธอรู้สึกจุกแน่นไปถึงหน้าท้อง

ต้นเอื้อมมือซ้ายคว้าจับเข้าไปที่พวงเต้าขาวๆ ซึ่งกำลังเอนส่ายไปมาอย่างไร้สมดุล ใช้ปลายนิ้วบี้คลึงเล่นกับปลายยอดปทุมถันของเธออย่างนึกมันเขี้ยว บางจังหวะก็แอบออกแรงบีบบี้มันจนทรวดทรงบิดบวมไปมาอยู่ในฝ่ามือ เขาค่อยๆ ใช้มือขวาอีกข้าง ประคองจับใบหน้าของเธอให้หันกลับมาหา พร้อมกับขยับตัวเข้าไป ใช้ริมฝีปากประกบจูบ บดอัดลงไปทาบทับกับริมฝีปากเรียวบางได้รูปของเธอ ลิ้นของคนทั้งคู่สอดกระหวัดเกี่ยวกันทันทีที่ริมฝีปากถูกทาบเข้าหากันจนแนบสนิท น้ำลายอุ่นๆ หวานๆ ของหยก กระตุ้นอารมณ์ให้ต้นยิ่งเร่งรัดบดอัดกระเด้าควยแทงใส่หีของเธอจากทางด้านหลัง เร็วขึ้น แรงขึ้น

กลีบแคมเนื้อสาวสีแดงแจ๋ ปลิ้นยู่ยี่ไปมาๆ เมื่อโดนท่อนเนื้อเสียดสีมุดเข้ามุดออก คราบน้ำรักเล็ดลอดกระฉอกออกมาไม่หยุดหย่อน สาวหยกรู้สึกเสียวแปล๊บๆ จี๊ดๆ ที่บริเวณหว่างขา ทุกครั้งที่ถูกชายหนุ่มออกแรงกดกระแทกดุ้นเนื้อให้มุดสอดเข้ามาภายในตัว หน้าขาของเธอตอนนี้รู้สึกชาไปหมด ในหัวไม่สามารถคิดคำนึงถึงเรื่องอื่นใดได้อีก นอกจากปล่อยตัวปล่อยใจ ให้ลอยละล่องไปกับรสชาติความเสียวที่คู่ขารุ่นน้องเป็นคนประเคนมาให้ แบบส่งตรงถึงข้างใน ทั้งคู่เย็ดกันในท่าด็อกกี้แบบนี้อยู่ราวๆ 10 - 15 นาที ในที่สุดหนุ่มต้นก็ทนฝืนอดกลั้นเอาไว้ไม่ไหว สูดปากร้องซี้ดๆๆ ใบหน้าเหยเกเพราะความเสียวที่กำลังก่อตัวขึ้นบนท่อนลำ

“อูย....ยยย พี่หยก ผมจะเสร็จแล้วครับ” หนุ่มต้นละล่ำละลักร้องครางออกมา เมื่อรู้ตัวว่าใกล้ถึงที่หมายในอีกไม่ช้า
“อ... อ๊าา...! อ๊ะ...! พ.. พี่.... พี่ก็จะเสร็จแล้วเหมือนกันต้น โอ๊ย...ยยยย” หญิงสาวแหกปากร้องครวญแข่งกับชายหนุ่ม
“ผม... ผมขอปล่อยข้างในเลยได้มั้ยครับ” ต้นลองเอ่ยปากหยั่งเชิงดูเบาๆ พยายามข่มความเสียวเอาไว้ ไม่ให้แตกทะลักออกมาก่อนเวลาอันควร
“ฮืออออ... ไม่เอานะ... อะ... เอาออกมาปล่อยข้างนอกนะต้น... โอ๊ยยยย...” แม้จะเสียวจนขึ้นสมอง แต่สำนึกแห่งความถูกผิดของหยกก็ยังคงทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี หนุ่มต้นที่ได้ยินแบบนี้ก็แอบใจเสีย จึงพยายามทำเป็นหูทวนลม ตั้งหน้าตั้งตาซอยต่อไป พร้อมกับแอบหวังว่าความเสียวที่เกิดขึ้นจะทำให้พี่สะใภ้ลืมเลือนเรื่องนี้ไปได้บ้าง

“อืมมมมม พี่หยกผมเสียว... ชะมัด...” ชายหนุ่มสูดปากร้องซี้ด พร้อมกับเร่งกระดกบั้นท้ายอัดท่อนลำเสียงดังป้าบ..! ป้าบ...บ! ป้าบ...บบบ!!! จนร่างของซ้อหยกกระเด็นกระดอนไปมาเพราะแรงกระแทกที่บั้นท้าย
“โอ๊ย ต้น! เอาออกไปก่อน...นนน” สาวหยกกัดฟันกรอดๆ พร้อมกับร้องสั่งให้น้องชายสามีรีบถอนท่อนควยออกมาแตกข้างนอกรูหีของเธอเช่นเดิม

เมื่อเห็นพี่สะใภ้ยังคงใจแข็งอยู่แบบนี้ หนุ่มต้นจึงเริ่มรู้สึกอับจนหนทางขึ้นมา ขณะที่ท่อนลำบริเวณปลายหัว ก็เริ่มเสียวซ่านจนใกล้ที่จะทนไม่ไหว และกำลังจะน้ำแตกอยู่รอมร่อ....




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น