ในห้องฉุกเฉิน สาวท้องกำลังนอนร้องไห้น้ำตานองหน้าอยู่บนเตียงด้วยความเจ็บปวดในหัวใจอย่างมากที่ถูกกรรมกรหนุ่มเขมรทิ้งไปโดยไม่คิดสนใจใยดีกับเสียงร้องที่เธอเรียกหามัน
โชคดีที่เสียงร้องของเธอทำให้มีคนมาดูและพาส่งโรงพยาบาลได้ทัน อีกทั้งเพราะหุ่นอวบๆกับสภาพร่างกายที่ยังแข็งแรงอยู่ช่วยปกป้องไม่ให้ลูกในท้องเป็นอะไรจึงหายห่วงกับความเสี่ยงที่อาจแท้งจากการถูกกระทบกระเทือน
เพียงแต่ในตอนนี้แก้วกลับไม่ได้ดีใจเลยที่ได้รู้ว่าลูกในท้องยังปลอยภัยดี ในความรู้สึกของเธอ
การที่ไอ้ทาทำพิธีประจุขวัญของตัวเองเข้ามาสู่ร่างและยังผูกขวัญเธอไว้กับมันก็ทำให้แก้วเหมือนถูกเอาหัวใจไปด้วยเมื่อมันทิ้งไปอย่างนี้
และแม้จะถูกมันทิ้งอย่างไม่ใยดีแต่แก้วก็ไม่คิดโกรธเคือง เธอมีแต่ความโหยหาต้องการกลับไปสู่มันจากขวัญที่เรียกหาร่างเจ้าของ ซึ่งภาพเหล่านั้นก็ไม่รอดพ้นสายตาของเด็กชายที่ยืดสลดอยู่เงียบๆนอกห้องฉุกเฉิน
...ในตอนที่เอกกลับมาพร้อมกับลุงนุ่งขาวห่มขาวคนหนึ่งก็สายมากแล้วแต่เพื่อนบ้านที่เห็นเขากลับมาก็รีบบอกให้เขาไปโรงพยาบาล
จากปากเพื่อนบ้านได้เล่าถึงสภาพของแก้วในตอนที่พบให้เอกได้รับรู้ว่าเธอกำลังนอนเปลือยกายร้องโอดโอยอยู่ ซึ่งเอกก็พอจะเดาได้ว่าแม่ของเขาคงเสร็จไอ้ชั่วนั่นไปแล้วแน่ๆและพยายามทำใจไม่ให้เจ็บมากไปกว่านี้
แต่เหมือนฟ้าจะอยากมอบความเจ็บช้ำให้เขามากกว่านี้ เมื่อมาถึงโรงพยาบาลกับลุงที่เขาพามาจากวัดก็ได้เห็นว่าแก้วกำลังนอนร้องไห้เจียนขาดใจตายอยู่ในห้องฉุกเฉิน อีกทั้งเขายังได้ยินเสียงพยาบาลนางหนึ่งที่คงจะเป็นคนดูแลร่วมกับคุณหมอและได้ยินเสียงร้องของแก้วเช่นกันนินทากับเพื่อนพยาบาลเบาๆว่า
“เคสนี้แขยงมาก ตอนขึ้นขาหยั่งน้ำของผู้ชายนี่เยอะจนไหลออกมาคาวคลุ้งเลย ถ้าคุณหมอไม่สั่งชั้นคงไม่ยอมจับให้แน่ๆ”
“ธุเรศเป็นบ้า...พอสบายตัวแล้วก็ไปเลยอย่างนี้เหรอ แฟนตัวเองกำลังท้องกำลังใส้แท้ๆ ผู้ชายนี่นะพออยากก็ไม่สนอะไรเลยจริงๆ”
“แต่ท่าทางผู้หญิงจะรักมากนะแก โดนทำขนาดนี้ยังเอาแต่ร้องหาอยู่เลย”
เอกถึงกับสะอึก น้ำตาคลอเบ้า แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้หญิงที่เคยบอกว่ารักเขาและจะอยู่ด้วยกันทั้งชีวิตจะมาแอบมีคนอื่นลับหลังทั้งๆที่อุ้มท้องลูกเขาอยู่แบบนี้
“ใจเย็นๆไอ้หนู เมียเอ็งมันโดนของ ไม่ใช่เพราะพิศวาสอะไรหรอก ดูหน้าก็รู้ หน้าดำไม่มีราศีขนาดนี้ ไว้เดี๋ยวเข้าเยี่ยมได้แล้วข้าจะช่วยเอง”
“ขอบคุณครับลุง”
เอกไม่ได้พาหลวงตามาอย่างที่เปรมแนะนำเพราะเมื่อเข้าไปปรึกษากับหลวงตาแล้ว ท่านบอกว่าเป็นพระไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอะไรที่ไม่ใช่เรื่องของสงฆ์ ยิ่งต้องเดินทางออกจากวัดมาเพื่อแก้ของพวกนี้ด้วยยิ่งไม่สมควร ท่านจึงเรียกลุงสัปเหร่อมาให้เป็นธุระช่วยจัดการแทน
ลุงก้อน เมื่อถูกขอให้ช่วยและได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของเอกก็ยินดีจะมาดูให้ด้วยความเวทนาสงสารแม้จะมีดุเด็กชายบ้างที่ได้สร้างความสัมพันธ์อันไม่สมควรนี้ขึ้นมาก็ตาม
เมื่อหมอให้พากลับบ้านได้ ลุงก้อนกับเอกก็พาแก้วนั่งรถไปที่วัดทันทีโดยลุงแกให้พาสาวท้องเข้าไปในบ้านเล็กๆชั้นเดียวหลังวัดที่แกอาศัยอยู่ก่อนจะหยิบโน่นหยิบนี่มาเตรียมพิธี โดยตลอดทางนั้น แก้วได้แต่นั่งน้ำตาซึมมองเหม่ออย่างคนไร้สติอีกครั้ง
“ไอ้นี่มันเล่นของต่ำ มันคงให้กินของสกปรกแล้วสวดเรียกของเข้าตัวแน่ๆ...ท่าทางจะเป็นของเขมรด้วยถึงได้แรงขนาดไม่รู้เนื้อรู้ตัวแบบนี้” ลุงก้อนทักพลางส่ายหน้าด้วยความอดสู
“แล้วพอจะแก้ได้มั้ยครับลุง”
“ต้องอาบน้ำมนต์ กินน้ำมนต์ พูดแล้วเอ็งก็ไปหยิบขันน้ำมนต์หน้าพระประธานในโบสถ์มาหน่อยแล้วกัน ขันนั้นพระท่านสวดมนต์ทำวัตรอยู่ทุกวัน ยังไงก็ถอนของได้แน่ ข้าจะพาเมียเอ็งไปนั่งรอในห้องน้ำ มาถึงจะได้เทราดเลย แต่ถ้าไม่หมดเดี๋ยวข้าจะไปคุยกับหลวงพ่อให้ว่าต้องทำน้ำมนต์เพิ่ม อย่างน้อยถึงพระจะมาจัดการถอนของให้เองไม่ได้แต่ท่านก็พอจะช่วยทำอะไรให้ได้แหละ”
“ครับลุง”
เอกรีบไปหยิบขันน้ำมนต์ซึ่งเป็นขันลงหินถูกตั้งเอาไว้หน้าพระประธาน มีน้ำตาเทียนลอยเหนือผิวน้ำบ่งบอกถึงพิธีกรรมปลุกเสกที่ถูกทำอยู่เสมอ
และเมื่อได้ของจำเป็นกลับมา เอกก็เห็นลุงก้อนกำลังเอาสายสิญจน์คล้องหัวแก้วโยงออกไปยังโต๊ะหมู่บูชาพระด้านนอกห้องน้ำอยู่
“เอามาๆ” ลุงก้อนรับขันน้ำไปเทรดหัวแก้ว ทันใดนั้นเธอก็เกิดอาการหนาวสั่นและเอามือทาบอกคล้ายคนคลื่นใส้ขึ้นมาทันที
“ฮึก! ฮึก! โอ๊กกกกก”
แก้วโก่งคอคายของเหลวคล้ายเมือกสีคล้ำกลิ่นแรงออกมา เธออ้วกแล้วอ้วกอีก และของที่ออกมากับเมือกนั่นก็มีทั้งเล็บมือเล็บเท้าทั้งเส้นผมรวมถึงขนหยิกๆหลายเส้น ซึ่งเดาได้ไม่ยากเลยว่าคือขนเพชรในที่ลับ
“...นี่แค่ข้ารดหัวนะ อ่ะ! ไอ้หนู เอาน้ำมนต์ไปป้อนเมียเอ็งเลย ข้าจะทำพิธีขับของให้”
พิธีกรรมขับของดำเนินไปอยู่ร่วมชั่วโมงกว่าแก้วจะคายเอาของต่ำๆเหล่านั้นออกมาหมดและมีอาการดีขึ้น เธอเริ่มได้สติและยังจำเรื่องราวทุกอย่างได้เป็นอย่างดี ซึ่งมันทำให้หญิงสาวถึงกับร้องไห้โฮ โอบกอดผัวเด็กของเธอเอาไว้ด้วยหัวใจที่แหลกสลาย
“ฮื่อออออออ ผัวขา เมียขอโทษ เมียไม่น่าหลงเชื่อพวกมันเลย ฮื่ออออ”
“ไม่เป็นไร แค่แก้วไม่เป็นอะไรไปก็ดีแล้ว”
“แต่ว่า...แต่ว่าเราหมดตัวแล้วนะคะ เมียเอาของทุกอย่างไปให้มันหมดเลย ตอนนี้แม้แต่ค่าเช่าห้องเมียก็ไม่มีจ่ายแล้ว ฮื่ออออออ”
“ไม่เป็นไรๆ ไว้เราค่อยหาทางกันทีหลังนะครับ วันนี้เรากลับบ้านไปพักผ่อนกันจะดีกว่านะ”
“อย่ากลับเลยไอ้หนู ไม่รู้ที่บ้านจะมีอะไรไม่ดีของมันอยู่รึเปล่า เอ็งนอนนี่แหละเดี๋ยวข้าหาผ้าหาผ่อนให้ นี่ดีนะที่มันใช้แค่ยาสั่ง ไม่ได้เล่นผีเล่นสาง ไม่งั้นอีหนูนี่คงได้โดนเอาไปอยู่กับผีแล้ว” ลุงก้อนเอ่ยด้วยความโล่งใจที่ได้ช่วยเหลือสองคนคู่รักเอาไว้ อย่างน้อยก็ถือว่าได้ทำบุญโปรดสัตว์ร่วมโลก
“ขอบคุณค่ะลุง ฮื่ออออ”
ในที่สุดแก้วก็หลุดพ้นจากคุณไสยแสนสกปรกของไอ้ทา และมันเป็นคืนแรกเลยที่เธอรู้สึกปลอดโปรงแจ่มใสอีกครั้ง แม้จะเจ็บใจที่เสียทั้งตัวเสียทั้งเงินไปแต่การที่มีเอกคอยกอดปลอบให้ความอบอุ่นอยู่เคียงข้างโดยไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจออกมาก็ทำให้แก้วอบอุ่นใจและดีใจเหลือเกินที่เลือกเขามาเป็นคู่ชีวิต เพียงแต่เรื่องราวที่ทุกคนคิดว่าจบลงด้วยดีแล้วกลับไม่ได้จบจริงๆ
คืนนั้นท่ามกลางความมืดมิดหลังจากที่ทุกคนหลับลงไปแล้ว จู่ๆก็มีเงาร่างของใครบางคนย่างกรายเข้ามาหาคู่รักทั้งสอง
“...แก้ว...แก้ว ตื่นสิ นี่ผมเอง”
“...” สาวท้องลืมตาผวาตื่นขึ้นมาเห็นเงาดำนั้นก็ตกใจ แต่ยังไม่ทันจะได้ร้องตะโกนปลุกใคร เงานั้นก็มานั่งลงข้างๆให้เห็นว่าคือร่างของชายหนุ่มแรงงานเขมรข้างห้องเธอนั่นเอง และแทนที่เธอจะหวาดกลัว ความรู้สึกบางอย่างกลับทำให้เธอโหยหา ทอดถอนใจเหมือนได้เจอกับส่วนที่ขาดหายไป
“ผัวขา”
สิ้นเสียง ร่างนั้นก็ยิ้มแสยะชวนขนลุกแล้วขึ้นคร่อมทาบทับบนร่างเธอเอาไว้
แก้วทำในสิ่งที่เธอไม่ควรเข้าแล้ว เธอเผลอไปขานรับเสียงเรียกยามวิกาล ซึ่งมันก็ไม่ใช่ไอ้ทาจริงๆแต่เป็นขวัญของมันที่ผูกกับเธอไว้นั่นเอง
ลุงก้อนไม่ได้ทำพิธีเรียกขวัญของแก้วกลับมาเพราะหากเอาตามความจริงแก้วนั้นถูกไอ้ทาทำพิธีประจุขวัญของมันเอาไว้กับร่างเธอจึงเหมือนคนที่ยังมีขวัญครบ อีกทั้งพิธีดังกล่าวก็ไม่ใช่ไสยดำเรียกผีมาสิงร่าง ลุงก้อนจึงไม่อาจใช้น้ำมนต์ล้างออกไปได้เหมือนเหล่าของสกปรกทั้งหลายในตัวแก้วและสิ่งนี้เองที่เป็นสื่อให้ไอ้ทารู้ว่ามันจะทำให้แก้วกลับมาได้ยังไง
ด้วยขวัญที่ไม่ใช่ของตน เมื่อเจอภูติพรายที่ไอ้ทาผูกจิตปล่อยมาตามลมจึงทำให้เธอโหยหาและไม่อาจห้ามใจตัวเองได้
แก้วสติเลื่อนลอยอีกครั้ง เธอเกิดความต้องการอย่างน่าประหลาดและค่อยๆแยกขาอ้าออกพร้อมกับความรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ค่อยๆสอดใส่ทะลุเนื้อผ้าเข้ามาราวกับว่าเธอกำลังเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ปกปิดก็ไม่ปาน
สวบบบบบ
“อาาา”
“ไม่คิดถึงผมเหรอแก้ว ไม่อยากมาเป็นของผมแล้วได้รู้สึกแบบนี้อีกครั้งงั้นเหรอ” ภูติพรายเอ่ยเชื้อเชิญด้วยน้ำเสียงหวานชวนฟังพร้อมกับที่แก้วรู้สึกเสียวซ่านกับอะไรบางอย่างที่ชอนไชเข้ามาในช่องคลอดลึกขึ้นเรื่อยๆ
“อาาา...”
“มาสิ มาอยู่ด้วยกันตอนนี้เลย...แค่คุณบอกว่าอยากตายก็พอ”
แต่ก่อนที่เธอจะเอ่ยปากรับคำออกไป จู่ๆไฟในห้องก็สว่างขึ้นมาพร้อมกับลุงก้อนที่ถือหวายอาคมในมือหวดเข้ากับร่างภูติตนนั้นอย่างแรง
ควับ!!
“โอ๊ย!!!”
“มึงยังจะมาก่อกรรมทำเข็ญอีกนะ! กูว่าแล้วทำไมสังหรณ์ใจแปลกๆ กลับไปหานายของมึงเดี๋ยวนี้!!”
“กูไม่กลับ!! มันเรียกกูแล้ว กูจะเอามันไปอยู่กับนายกู ถ้ามึงขวาง กูก็จะเอามึงไปอยู่ด้วย!!!”
“ดื้อนักนะมึง!!!”
เสียงแผดก้องจากลุงก้อนกับภูติพรายตนนั้นปลุกให้เอกที่นอนข้างๆแก้วตื่นขึ้นมา เขาถึงกับสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นว่าร่างเงาคล้ายคนนั้นกำลังคล่อมแก้วอยู่ด้วยท่าคล้ายกำลังร่วมรัก และสาวแว่นเจ้าของหัวใจเขาก็เหมือนจะตาเหลือกลอยอย่างช้าๆใกล้ขาดใจตายกับบางสิ่งบางอย่างที่มันสอดใส่เข้าไปในหว่างขา
มันพยายามจะกดส่วนที่ยื่นเข้าไปในช่องคลอดเธอให้ลึกขึ้นเพื่อทำลายชีวิตน้อยๆในครรภ์และให้แก้วตกเลือดตายตาม ซึ่งลุงก้อนเห็นก็รู้ทันจึงตวัดมือหวดเจ้าภูติตนนั้นไปอีกครั้งพร้อมกับตะโกนสั่งเด็กหนุ่ม
“ไอ้หนู ไปพาหลวงลุงมาเร็ว ข้าจะถ่วงเวลามันไว้ เมียเอ็งไปทักมันแล้ว ข้าคงช่วยได้ไม่มาก ถ้าเมียเอ็งตายตอนนี้ วิญญาณคงถูกมันเอาไปเป็นทาสแน่”
“...” เอกดีดตัวผึงรีบวิ่งออกจากบ้านสัปเหร่อเฒ่าไปให้พ้นรัศมีอันตรายของภูติพราย แม้ใจเขาจะอยากพาแก้วออกมาจากตรงนั้นเหลือเกินแต่เมื่อลุงก้อนไม่ได้ให้เขาช่วยด้วยวิธีนั้น การไม่เสี่ยงให้แก้วเกิดอันตรายมากไปกว่านี้คงจะดีกว่า
“โอ๊ย!! โอ๊ย!!! เก่งจริงมึงก็อย่าใช้หวายสิวะ โอ๊ยยยย”
ภูติพรายตนนั้นร้องด้วยความเจ็บปวดจากหวายในมือลุงก้อนอีกครั้ง แม้จะรู้ว่าการปล่อยแก้วไปก่อนอาจเพิ่มโอกาสชนะสัปเหร่อเฒ่าได้ แต่ด้วยคำสั่งจากไอ้กรรมกรหนุ่มเขมร มันจึงต้องพยายามกอดยึดสะโพกสาวท้องเอาไว้ไม่ยอมปล่อยเพื่อฆ่าสาวท้องด้วยวิธีที่นายมันกำหนดและให้แก้วกลายเป็นวิญญาณตายทั้งกลมไปรับใช้ไอ้ทาให้ได้
“ปล่อย!! กูบอกให้ปล่อยอีหนูนี่ไป!!! ไอ้พรายบาปหนา วิธีฆ่าของมึงมันระยำเกินไปแล้ว!!!”
ลุงก้อนตวาดลั่น เกิดมายังไม่เคยเห็นผีตนไหนคิดฆ่าคนด้วยวิธีอัปรีเช่นนี้มาก่อน แต่ด้วยหวายที่ฟาดโบยลงมาไม่ยั้งก็ทำให้ภูติพรายตนนั้นรู้ตัวแล้วว่ามันกำลังจะพ่ายแพ้จึงคิดจะทำหน้าที่ให้ลุล่วงก่อนวิญญาณจะแตกดับ
“กูมาทำหน้าที่ของกู และกูก็จะทำให้สำเร็จด้วย”
สวบบบบบ
“อ๊า!!!!”
แก้วร้องลั่น ตาเหลือกลอยเหมือนใจจะขาดก่อนจะสิ้นใจลงพร้อมกับวิญญาณภูติพรายตนนั้นที่แตกสลายไป
ขณะนั้นเอกก็วิ่งรี่เข้ามาพร้อมหลวงลุงและได้เห็นภาพเมียรักนอนตายตาเหลือกอยู่กลางบ้านสัปเหร่อเฒ่า เขาเองถึงกับหัวใจสลาย ไม่อยากเชื่อเลยว่าทุกอย่างมันจะสายเกินไป
“แก้ว!! แก้ว!!! แม่ครับ!!! แม่อย่าเพิ่งตายนะครับ เอกยังไม่ทันได้เห็นหน้าลูกของเราเลย ฮื่อออออออ”
เขาร้องไห้ ขาอ่อนคุกเข่าลงกอดศพแม่เหมือนจะขาดใจไปพร้อมกันให้ได้
“เอาอีกแล้วรึโยมก้อน! เอ็งนี่มันโหดร้ายกับผีกับสางจริงๆเลยนะ” หลวงลุงทักอย่างปลงๆ
“ไม่ได้หรอกขอรับท่าน ภูติตนนี้มันรับคำสั่งมา มันต้องทำให้สำเร็จไม่งั้นก็จะไม่หยุด กระผมจะปล่อยให้นังหนูตายก็ไม่ได้ จะไล่มันกลับไปก็มีแต่ของพวกนี้จะกลับไปเข้าตัวคนเลี้ยง มันจะสร้างเวรกรรมกันไม่จบไม่สิ้น หนทางเดียวคือให้มันคิดว่าทำสำเร็จนั่นแหละขอรับ” ลุงก้อนยกมือไหว้หลวงลุงเป็นเชิงขอขมา
ขณะนั้นเองร่างของแก้วก็ค่อยแปรเปลี่ยนไปเป็นหุ่นฟางเล็กๆตกอยู่บนพื้น ทำให้เอกถึงกับตกตะลึงงัน ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้เห็นอะไรอัศจรรย์เต็มๆตาแบบนี้
“แก้ว...”
“แม่เอ็งนอนอยู่ในห้องข้า ระหว่างที่เอ็งไปเอาขันน้ำมนต์ในโบสถ์ ข้าก็เอาหุ่นพยนต์นี่มาผูกเป็นตัวแทนไว้รอ พออาบน้ำมนต์ล้างของแล้วให้เอ็งไปเอาผ้าเช็ดตัวมาให้ ข้าก็สะกดแม่เอ็งอีกครั้งแล้วเอาหุ่นพยนต์มาสวมรอยแทน
ก็ข้าไม่เชื่อนี่วะ ว่าไอ้คนเล่นของนั่นมันจะจบแค่นี้ ยิ่งไม่รู้ด้วยว่าแม่เอ็งโดนอะไรไปบ้างก็ยิ่งต้องมีแผนกันเหนียวไว้ ข้าถึงให้นอนค้างที่นี่อยู่ด้วยกันก่อนไง”
ลุงก้อนเฉลยก่อนจะกำมือเป่าคาถาอะไรบางอย่างแล้วชี้ไปที่ห้องของแก
“ไปดูสิจะได้สบายใจ”
“ดีนะที่เอ็งให้โยมเอกออกมาก่อนจะจัดการกับเจ้าภูติน่ะ ไม่งั้นถ้ามันคิดจะฆ่าทั้งโยมแก้วทั้งโยมเอกด้วยสุดท้ายก็คงมีคนตายอยู่ดี”
“ขอรับ”
ในคืนนั้นหลังจากคลี่คลายเรื่องราวทั้งหมดจบลงด้วยดีแล้ว ลุงก้อนกับหลวงลุงก็ช่วยกันทำพิธีชุมนุมเทวดาเพื่อเรียกขวัญกลับคืนมาสู่แก้วรวมทั้งขอเหล่าเทพาอารักษ์ให้กลับมาสถิตคุ้มครองในตัวแก้วอีกครั้ง
และแม้ชีวิตของสองแม่ลูกจะสิ้นเนื้อประดาตัว ไม่อาจมีเงินจ่ายค่าอาหารหรือที่ซุกหัวนอน แต่ด้วยความเมตตาของหลวงลุงที่เห็นถึงความจริงใจต่อกันของแม่ลูกทั้งสองก็ยอมให้มาอยู่อาศัยในวัด อยู่ร่วมกับลุงก้อนไปก่อนระหว่างที่จะหาทางต่อเติมห้องให้
เอกไม่อยากเชื่อเลยว่าจากเด็กชายผู้มีชีวิตสุดแสนสบาย มีบ้านอยู่มีข้าวกินครบทุกมื้อ ไม่ต้องดิ้นรนอะไรเลย ในตอนนี้กลับต้องมาเป็นเด็กวัด อาศัยให้ได้เรียนหนังสือ กินข้าวก้นบาตรกับซุกหัวนอนตามมีตามเกิด
แต่ไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหน เขาก็ยังสบายใจที่มีแก้ว...คุณแม่ที่รักคอยอยู่เคียงข้างกันไปตลอดเช่นนี้
วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2566
คุณแม่แสนหวานกับคนงานข้างห้อง 8.แสงสว่างปลายอุโมงค์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น