วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2566

คุณแม่แสนหวานกับคนงานข้างห้อง 8.แสงสว่างปลายอุโมงค์

 
 
 

ในห้องฉุกเฉิน  สาวท้องกำลังนอนร้องไห้น้ำตานองหน้าอยู่บนเตียงด้วยความเจ็บปวดในหัวใจอย่างมากที่ถูกกรรมกรหนุ่มเขมรทิ้งไปโดยไม่คิดสนใจใยดีกับเสียงร้องที่เธอเรียกหามัน

โชคดีที่เสียงร้องของเธอทำให้มีคนมาดูและพาส่งโรงพยาบาลได้ทัน  อีกทั้งเพราะหุ่นอวบๆกับสภาพร่างกายที่ยังแข็งแรงอยู่ช่วยปกป้องไม่ให้ลูกในท้องเป็นอะไรจึงหายห่วงกับความเสี่ยงที่อาจแท้งจากการถูกกระทบกระเทือน

เพียงแต่ในตอนนี้แก้วกลับไม่ได้ดีใจเลยที่ได้รู้ว่าลูกในท้องยังปลอยภัยดี  ในความรู้สึกของเธอ

การที่ไอ้ทาทำพิธีประจุขวัญของตัวเองเข้ามาสู่ร่างและยังผูกขวัญเธอไว้กับมันก็ทำให้แก้วเหมือนถูกเอาหัวใจไปด้วยเมื่อมันทิ้งไปอย่างนี้

และแม้จะถูกมันทิ้งอย่างไม่ใยดีแต่แก้วก็ไม่คิดโกรธเคือง  เธอมีแต่ความโหยหาต้องการกลับไปสู่มันจากขวัญที่เรียกหาร่างเจ้าของ  ซึ่งภาพเหล่านั้นก็ไม่รอดพ้นสายตาของเด็กชายที่ยืดสลดอยู่เงียบๆนอกห้องฉุกเฉิน

...ในตอนที่เอกกลับมาพร้อมกับลุงนุ่งขาวห่มขาวคนหนึ่งก็สายมากแล้วแต่เพื่อนบ้านที่เห็นเขากลับมาก็รีบบอกให้เขาไปโรงพยาบาล

จากปากเพื่อนบ้านได้เล่าถึงสภาพของแก้วในตอนที่พบให้เอกได้รับรู้ว่าเธอกำลังนอนเปลือยกายร้องโอดโอยอยู่  ซึ่งเอกก็พอจะเดาได้ว่าแม่ของเขาคงเสร็จไอ้ชั่วนั่นไปแล้วแน่ๆและพยายามทำใจไม่ให้เจ็บมากไปกว่านี้

แต่เหมือนฟ้าจะอยากมอบความเจ็บช้ำให้เขามากกว่านี้  เมื่อมาถึงโรงพยาบาลกับลุงที่เขาพามาจากวัดก็ได้เห็นว่าแก้วกำลังนอนร้องไห้เจียนขาดใจตายอยู่ในห้องฉุกเฉิน  อีกทั้งเขายังได้ยินเสียงพยาบาลนางหนึ่งที่คงจะเป็นคนดูแลร่วมกับคุณหมอและได้ยินเสียงร้องของแก้วเช่นกันนินทากับเพื่อนพยาบาลเบาๆว่า

“เคสนี้แขยงมาก  ตอนขึ้นขาหยั่งน้ำของผู้ชายนี่เยอะจนไหลออกมาคาวคลุ้งเลย  ถ้าคุณหมอไม่สั่งชั้นคงไม่ยอมจับให้แน่ๆ”

“ธุเรศเป็นบ้า...พอสบายตัวแล้วก็ไปเลยอย่างนี้เหรอ  แฟนตัวเองกำลังท้องกำลังใส้แท้ๆ  ผู้ชายนี่นะพออยากก็ไม่สนอะไรเลยจริงๆ”

“แต่ท่าทางผู้หญิงจะรักมากนะแก  โดนทำขนาดนี้ยังเอาแต่ร้องหาอยู่เลย”

เอกถึงกับสะอึก  น้ำตาคลอเบ้า  แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้หญิงที่เคยบอกว่ารักเขาและจะอยู่ด้วยกันทั้งชีวิตจะมาแอบมีคนอื่นลับหลังทั้งๆที่อุ้มท้องลูกเขาอยู่แบบนี้

“ใจเย็นๆไอ้หนู  เมียเอ็งมันโดนของ  ไม่ใช่เพราะพิศวาสอะไรหรอก  ดูหน้าก็รู้  หน้าดำไม่มีราศีขนาดนี้  ไว้เดี๋ยวเข้าเยี่ยมได้แล้วข้าจะช่วยเอง”

“ขอบคุณครับลุง”

เอกไม่ได้พาหลวงตามาอย่างที่เปรมแนะนำเพราะเมื่อเข้าไปปรึกษากับหลวงตาแล้ว  ท่านบอกว่าเป็นพระไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอะไรที่ไม่ใช่เรื่องของสงฆ์  ยิ่งต้องเดินทางออกจากวัดมาเพื่อแก้ของพวกนี้ด้วยยิ่งไม่สมควร  ท่านจึงเรียกลุงสัปเหร่อมาให้เป็นธุระช่วยจัดการแทน

ลุงก้อน  เมื่อถูกขอให้ช่วยและได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของเอกก็ยินดีจะมาดูให้ด้วยความเวทนาสงสารแม้จะมีดุเด็กชายบ้างที่ได้สร้างความสัมพันธ์อันไม่สมควรนี้ขึ้นมาก็ตาม


เมื่อหมอให้พากลับบ้านได้  ลุงก้อนกับเอกก็พาแก้วนั่งรถไปที่วัดทันทีโดยลุงแกให้พาสาวท้องเข้าไปในบ้านเล็กๆชั้นเดียวหลังวัดที่แกอาศัยอยู่ก่อนจะหยิบโน่นหยิบนี่มาเตรียมพิธี  โดยตลอดทางนั้น  แก้วได้แต่นั่งน้ำตาซึมมองเหม่ออย่างคนไร้สติอีกครั้ง

“ไอ้นี่มันเล่นของต่ำ  มันคงให้กินของสกปรกแล้วสวดเรียกของเข้าตัวแน่ๆ...ท่าทางจะเป็นของเขมรด้วยถึงได้แรงขนาดไม่รู้เนื้อรู้ตัวแบบนี้” ลุงก้อนทักพลางส่ายหน้าด้วยความอดสู

“แล้วพอจะแก้ได้มั้ยครับลุง”

“ต้องอาบน้ำมนต์  กินน้ำมนต์  พูดแล้วเอ็งก็ไปหยิบขันน้ำมนต์หน้าพระประธานในโบสถ์มาหน่อยแล้วกัน  ขันนั้นพระท่านสวดมนต์ทำวัตรอยู่ทุกวัน  ยังไงก็ถอนของได้แน่  ข้าจะพาเมียเอ็งไปนั่งรอในห้องน้ำ  มาถึงจะได้เทราดเลย  แต่ถ้าไม่หมดเดี๋ยวข้าจะไปคุยกับหลวงพ่อให้ว่าต้องทำน้ำมนต์เพิ่ม  อย่างน้อยถึงพระจะมาจัดการถอนของให้เองไม่ได้แต่ท่านก็พอจะช่วยทำอะไรให้ได้แหละ”

“ครับลุง”

เอกรีบไปหยิบขันน้ำมนต์ซึ่งเป็นขันลงหินถูกตั้งเอาไว้หน้าพระประธาน  มีน้ำตาเทียนลอยเหนือผิวน้ำบ่งบอกถึงพิธีกรรมปลุกเสกที่ถูกทำอยู่เสมอ

และเมื่อได้ของจำเป็นกลับมา  เอกก็เห็นลุงก้อนกำลังเอาสายสิญจน์คล้องหัวแก้วโยงออกไปยังโต๊ะหมู่บูชาพระด้านนอกห้องน้ำอยู่

“เอามาๆ” ลุงก้อนรับขันน้ำไปเทรดหัวแก้ว  ทันใดนั้นเธอก็เกิดอาการหนาวสั่นและเอามือทาบอกคล้ายคนคลื่นใส้ขึ้นมาทันที

“ฮึก!  ฮึก!  โอ๊กกกกก”

แก้วโก่งคอคายของเหลวคล้ายเมือกสีคล้ำกลิ่นแรงออกมา  เธออ้วกแล้วอ้วกอีก  และของที่ออกมากับเมือกนั่นก็มีทั้งเล็บมือเล็บเท้าทั้งเส้นผมรวมถึงขนหยิกๆหลายเส้น  ซึ่งเดาได้ไม่ยากเลยว่าคือขนเพชรในที่ลับ

“...นี่แค่ข้ารดหัวนะ  อ่ะ! ไอ้หนู เอาน้ำมนต์ไปป้อนเมียเอ็งเลย  ข้าจะทำพิธีขับของให้”


พิธีกรรมขับของดำเนินไปอยู่ร่วมชั่วโมงกว่าแก้วจะคายเอาของต่ำๆเหล่านั้นออกมาหมดและมีอาการดีขึ้น  เธอเริ่มได้สติและยังจำเรื่องราวทุกอย่างได้เป็นอย่างดี  ซึ่งมันทำให้หญิงสาวถึงกับร้องไห้โฮ  โอบกอดผัวเด็กของเธอเอาไว้ด้วยหัวใจที่แหลกสลาย

“ฮื่อออออออ  ผัวขา  เมียขอโทษ  เมียไม่น่าหลงเชื่อพวกมันเลย  ฮื่ออออ”

“ไม่เป็นไร  แค่แก้วไม่เป็นอะไรไปก็ดีแล้ว”

“แต่ว่า...แต่ว่าเราหมดตัวแล้วนะคะ  เมียเอาของทุกอย่างไปให้มันหมดเลย  ตอนนี้แม้แต่ค่าเช่าห้องเมียก็ไม่มีจ่ายแล้ว  ฮื่ออออออ”

“ไม่เป็นไรๆ  ไว้เราค่อยหาทางกันทีหลังนะครับ  วันนี้เรากลับบ้านไปพักผ่อนกันจะดีกว่านะ”

“อย่ากลับเลยไอ้หนู  ไม่รู้ที่บ้านจะมีอะไรไม่ดีของมันอยู่รึเปล่า  เอ็งนอนนี่แหละเดี๋ยวข้าหาผ้าหาผ่อนให้  นี่ดีนะที่มันใช้แค่ยาสั่ง  ไม่ได้เล่นผีเล่นสาง  ไม่งั้นอีหนูนี่คงได้โดนเอาไปอยู่กับผีแล้ว” ลุงก้อนเอ่ยด้วยความโล่งใจที่ได้ช่วยเหลือสองคนคู่รักเอาไว้  อย่างน้อยก็ถือว่าได้ทำบุญโปรดสัตว์ร่วมโลก

“ขอบคุณค่ะลุง  ฮื่ออออ”


ในที่สุดแก้วก็หลุดพ้นจากคุณไสยแสนสกปรกของไอ้ทา  และมันเป็นคืนแรกเลยที่เธอรู้สึกปลอดโปรงแจ่มใสอีกครั้ง  แม้จะเจ็บใจที่เสียทั้งตัวเสียทั้งเงินไปแต่การที่มีเอกคอยกอดปลอบให้ความอบอุ่นอยู่เคียงข้างโดยไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจออกมาก็ทำให้แก้วอบอุ่นใจและดีใจเหลือเกินที่เลือกเขามาเป็นคู่ชีวิต  เพียงแต่เรื่องราวที่ทุกคนคิดว่าจบลงด้วยดีแล้วกลับไม่ได้จบจริงๆ

คืนนั้นท่ามกลางความมืดมิดหลังจากที่ทุกคนหลับลงไปแล้ว  จู่ๆก็มีเงาร่างของใครบางคนย่างกรายเข้ามาหาคู่รักทั้งสอง

“...แก้ว...แก้ว  ตื่นสิ  นี่ผมเอง”

“...” สาวท้องลืมตาผวาตื่นขึ้นมาเห็นเงาดำนั้นก็ตกใจ  แต่ยังไม่ทันจะได้ร้องตะโกนปลุกใคร  เงานั้นก็มานั่งลงข้างๆให้เห็นว่าคือร่างของชายหนุ่มแรงงานเขมรข้างห้องเธอนั่นเอง  และแทนที่เธอจะหวาดกลัว  ความรู้สึกบางอย่างกลับทำให้เธอโหยหา  ทอดถอนใจเหมือนได้เจอกับส่วนที่ขาดหายไป

“ผัวขา”

สิ้นเสียง  ร่างนั้นก็ยิ้มแสยะชวนขนลุกแล้วขึ้นคร่อมทาบทับบนร่างเธอเอาไว้


แก้วทำในสิ่งที่เธอไม่ควรเข้าแล้ว  เธอเผลอไปขานรับเสียงเรียกยามวิกาล  ซึ่งมันก็ไม่ใช่ไอ้ทาจริงๆแต่เป็นขวัญของมันที่ผูกกับเธอไว้นั่นเอง

ลุงก้อนไม่ได้ทำพิธีเรียกขวัญของแก้วกลับมาเพราะหากเอาตามความจริงแก้วนั้นถูกไอ้ทาทำพิธีประจุขวัญของมันเอาไว้กับร่างเธอจึงเหมือนคนที่ยังมีขวัญครบ  อีกทั้งพิธีดังกล่าวก็ไม่ใช่ไสยดำเรียกผีมาสิงร่าง  ลุงก้อนจึงไม่อาจใช้น้ำมนต์ล้างออกไปได้เหมือนเหล่าของสกปรกทั้งหลายในตัวแก้วและสิ่งนี้เองที่เป็นสื่อให้ไอ้ทารู้ว่ามันจะทำให้แก้วกลับมาได้ยังไง

ด้วยขวัญที่ไม่ใช่ของตน  เมื่อเจอภูติพรายที่ไอ้ทาผูกจิตปล่อยมาตามลมจึงทำให้เธอโหยหาและไม่อาจห้ามใจตัวเองได้

แก้วสติเลื่อนลอยอีกครั้ง  เธอเกิดความต้องการอย่างน่าประหลาดและค่อยๆแยกขาอ้าออกพร้อมกับความรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ค่อยๆสอดใส่ทะลุเนื้อผ้าเข้ามาราวกับว่าเธอกำลังเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ปกปิดก็ไม่ปาน

สวบบบบบ

“อาาา”

“ไม่คิดถึงผมเหรอแก้ว  ไม่อยากมาเป็นของผมแล้วได้รู้สึกแบบนี้อีกครั้งงั้นเหรอ” ภูติพรายเอ่ยเชื้อเชิญด้วยน้ำเสียงหวานชวนฟังพร้อมกับที่แก้วรู้สึกเสียวซ่านกับอะไรบางอย่างที่ชอนไชเข้ามาในช่องคลอดลึกขึ้นเรื่อยๆ

“อาาา...”

“มาสิ  มาอยู่ด้วยกันตอนนี้เลย...แค่คุณบอกว่าอยากตายก็พอ”

แต่ก่อนที่เธอจะเอ่ยปากรับคำออกไป  จู่ๆไฟในห้องก็สว่างขึ้นมาพร้อมกับลุงก้อนที่ถือหวายอาคมในมือหวดเข้ากับร่างภูติตนนั้นอย่างแรง

ควับ!!

“โอ๊ย!!!”

“มึงยังจะมาก่อกรรมทำเข็ญอีกนะ!  กูว่าแล้วทำไมสังหรณ์ใจแปลกๆ  กลับไปหานายของมึงเดี๋ยวนี้!!”

“กูไม่กลับ!!  มันเรียกกูแล้ว  กูจะเอามันไปอยู่กับนายกู  ถ้ามึงขวาง  กูก็จะเอามึงไปอยู่ด้วย!!!”

“ดื้อนักนะมึง!!!”

เสียงแผดก้องจากลุงก้อนกับภูติพรายตนนั้นปลุกให้เอกที่นอนข้างๆแก้วตื่นขึ้นมา  เขาถึงกับสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นว่าร่างเงาคล้ายคนนั้นกำลังคล่อมแก้วอยู่ด้วยท่าคล้ายกำลังร่วมรัก  และสาวแว่นเจ้าของหัวใจเขาก็เหมือนจะตาเหลือกลอยอย่างช้าๆใกล้ขาดใจตายกับบางสิ่งบางอย่างที่มันสอดใส่เข้าไปในหว่างขา

มันพยายามจะกดส่วนที่ยื่นเข้าไปในช่องคลอดเธอให้ลึกขึ้นเพื่อทำลายชีวิตน้อยๆในครรภ์และให้แก้วตกเลือดตายตาม  ซึ่งลุงก้อนเห็นก็รู้ทันจึงตวัดมือหวดเจ้าภูติตนนั้นไปอีกครั้งพร้อมกับตะโกนสั่งเด็กหนุ่ม

“ไอ้หนู  ไปพาหลวงลุงมาเร็ว  ข้าจะถ่วงเวลามันไว้  เมียเอ็งไปทักมันแล้ว  ข้าคงช่วยได้ไม่มาก  ถ้าเมียเอ็งตายตอนนี้  วิญญาณคงถูกมันเอาไปเป็นทาสแน่”

“...” เอกดีดตัวผึงรีบวิ่งออกจากบ้านสัปเหร่อเฒ่าไปให้พ้นรัศมีอันตรายของภูติพราย  แม้ใจเขาจะอยากพาแก้วออกมาจากตรงนั้นเหลือเกินแต่เมื่อลุงก้อนไม่ได้ให้เขาช่วยด้วยวิธีนั้น  การไม่เสี่ยงให้แก้วเกิดอันตรายมากไปกว่านี้คงจะดีกว่า

“โอ๊ย!!  โอ๊ย!!!  เก่งจริงมึงก็อย่าใช้หวายสิวะ  โอ๊ยยยย”

ภูติพรายตนนั้นร้องด้วยความเจ็บปวดจากหวายในมือลุงก้อนอีกครั้ง  แม้จะรู้ว่าการปล่อยแก้วไปก่อนอาจเพิ่มโอกาสชนะสัปเหร่อเฒ่าได้  แต่ด้วยคำสั่งจากไอ้กรรมกรหนุ่มเขมร  มันจึงต้องพยายามกอดยึดสะโพกสาวท้องเอาไว้ไม่ยอมปล่อยเพื่อฆ่าสาวท้องด้วยวิธีที่นายมันกำหนดและให้แก้วกลายเป็นวิญญาณตายทั้งกลมไปรับใช้ไอ้ทาให้ได้

“ปล่อย!!  กูบอกให้ปล่อยอีหนูนี่ไป!!!  ไอ้พรายบาปหนา  วิธีฆ่าของมึงมันระยำเกินไปแล้ว!!!”

ลุงก้อนตวาดลั่น  เกิดมายังไม่เคยเห็นผีตนไหนคิดฆ่าคนด้วยวิธีอัปรีเช่นนี้มาก่อน  แต่ด้วยหวายที่ฟาดโบยลงมาไม่ยั้งก็ทำให้ภูติพรายตนนั้นรู้ตัวแล้วว่ามันกำลังจะพ่ายแพ้จึงคิดจะทำหน้าที่ให้ลุล่วงก่อนวิญญาณจะแตกดับ

“กูมาทำหน้าที่ของกู  และกูก็จะทำให้สำเร็จด้วย”

สวบบบบบ

“อ๊า!!!!”

แก้วร้องลั่น  ตาเหลือกลอยเหมือนใจจะขาดก่อนจะสิ้นใจลงพร้อมกับวิญญาณภูติพรายตนนั้นที่แตกสลายไป

ขณะนั้นเอกก็วิ่งรี่เข้ามาพร้อมหลวงลุงและได้เห็นภาพเมียรักนอนตายตาเหลือกอยู่กลางบ้านสัปเหร่อเฒ่า  เขาเองถึงกับหัวใจสลาย  ไม่อยากเชื่อเลยว่าทุกอย่างมันจะสายเกินไป

“แก้ว!!  แก้ว!!!  แม่ครับ!!!  แม่อย่าเพิ่งตายนะครับ  เอกยังไม่ทันได้เห็นหน้าลูกของเราเลย  ฮื่อออออออ”

เขาร้องไห้  ขาอ่อนคุกเข่าลงกอดศพแม่เหมือนจะขาดใจไปพร้อมกันให้ได้

“เอาอีกแล้วรึโยมก้อน!  เอ็งนี่มันโหดร้ายกับผีกับสางจริงๆเลยนะ” หลวงลุงทักอย่างปลงๆ

“ไม่ได้หรอกขอรับท่าน  ภูติตนนี้มันรับคำสั่งมา  มันต้องทำให้สำเร็จไม่งั้นก็จะไม่หยุด  กระผมจะปล่อยให้นังหนูตายก็ไม่ได้  จะไล่มันกลับไปก็มีแต่ของพวกนี้จะกลับไปเข้าตัวคนเลี้ยง  มันจะสร้างเวรกรรมกันไม่จบไม่สิ้น  หนทางเดียวคือให้มันคิดว่าทำสำเร็จนั่นแหละขอรับ” ลุงก้อนยกมือไหว้หลวงลุงเป็นเชิงขอขมา

ขณะนั้นเองร่างของแก้วก็ค่อยแปรเปลี่ยนไปเป็นหุ่นฟางเล็กๆตกอยู่บนพื้น  ทำให้เอกถึงกับตกตะลึงงัน  ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้เห็นอะไรอัศจรรย์เต็มๆตาแบบนี้

“แก้ว...”

“แม่เอ็งนอนอยู่ในห้องข้า  ระหว่างที่เอ็งไปเอาขันน้ำมนต์ในโบสถ์  ข้าก็เอาหุ่นพยนต์นี่มาผูกเป็นตัวแทนไว้รอ  พออาบน้ำมนต์ล้างของแล้วให้เอ็งไปเอาผ้าเช็ดตัวมาให้  ข้าก็สะกดแม่เอ็งอีกครั้งแล้วเอาหุ่นพยนต์มาสวมรอยแทน

ก็ข้าไม่เชื่อนี่วะ  ว่าไอ้คนเล่นของนั่นมันจะจบแค่นี้  ยิ่งไม่รู้ด้วยว่าแม่เอ็งโดนอะไรไปบ้างก็ยิ่งต้องมีแผนกันเหนียวไว้  ข้าถึงให้นอนค้างที่นี่อยู่ด้วยกันก่อนไง”

ลุงก้อนเฉลยก่อนจะกำมือเป่าคาถาอะไรบางอย่างแล้วชี้ไปที่ห้องของแก

“ไปดูสิจะได้สบายใจ”

“ดีนะที่เอ็งให้โยมเอกออกมาก่อนจะจัดการกับเจ้าภูติน่ะ  ไม่งั้นถ้ามันคิดจะฆ่าทั้งโยมแก้วทั้งโยมเอกด้วยสุดท้ายก็คงมีคนตายอยู่ดี”

“ขอรับ”


ในคืนนั้นหลังจากคลี่คลายเรื่องราวทั้งหมดจบลงด้วยดีแล้ว  ลุงก้อนกับหลวงลุงก็ช่วยกันทำพิธีชุมนุมเทวดาเพื่อเรียกขวัญกลับคืนมาสู่แก้วรวมทั้งขอเหล่าเทพาอารักษ์ให้กลับมาสถิตคุ้มครองในตัวแก้วอีกครั้ง

และแม้ชีวิตของสองแม่ลูกจะสิ้นเนื้อประดาตัว  ไม่อาจมีเงินจ่ายค่าอาหารหรือที่ซุกหัวนอน  แต่ด้วยความเมตตาของหลวงลุงที่เห็นถึงความจริงใจต่อกันของแม่ลูกทั้งสองก็ยอมให้มาอยู่อาศัยในวัด  อยู่ร่วมกับลุงก้อนไปก่อนระหว่างที่จะหาทางต่อเติมห้องให้

เอกไม่อยากเชื่อเลยว่าจากเด็กชายผู้มีชีวิตสุดแสนสบาย  มีบ้านอยู่มีข้าวกินครบทุกมื้อ  ไม่ต้องดิ้นรนอะไรเลย  ในตอนนี้กลับต้องมาเป็นเด็กวัด  อาศัยให้ได้เรียนหนังสือ  กินข้าวก้นบาตรกับซุกหัวนอนตามมีตามเกิด

แต่ไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหน  เขาก็ยังสบายใจที่มีแก้ว...คุณแม่ที่รักคอยอยู่เคียงข้างกันไปตลอดเช่นนี้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น