นุชใกล้ชิดกับอาแปะแทบว่าจะเป็นเงาตามตัว อาแปะไปส่งไปรับนุชเรียนหนังสือทุกวัน วันไหนไม่ว่างก็ให้นั่งแท็กซี่กลับ หนึ่งไม่สบายใจเป็นห่วงน้องสาวเตือนนุชเสมอ แต่นุชก็บอกว่าจะไม่ทําห้พี่สาวเสียใจ ทั้งที่ตัวของนุชเองนั้นเวลาอยู่ใกล้ชิดอาแปะความรู้สึกแรกสาวจะปั่นป่วนรัญจวนใจอย่างสับสนอลหม่าน
หล่อนรู้ดีว่านั่นเป็นความรู้สึกปรารถนาตามประสาคนเป็นสาวแล้ว มีความต้องการตามธรรมชาติ
...อาแปะนั้นก็อดใจรอ อดเปรี้ยวไว้กินหวาน เขารักนุชและต้องการนุชก็จริงอยู่ แต่เขาก็มีทางระบายออกกับลูกหนี้ของเขา พาไปคิดดอกแบบพิเศษอยู่เนืองๆ เขานอนกับลูกหนี้ แต่มักนึกถึงใบหน้าและความอ่อนหวานของนุชอยู่เสมอ บางครั้งเผลอละเมอชื่อของนุชออกมาระหว่างที่กําลังกระหน่ำรักหนักหน่วงอยู่กับลูกหนี้สาวโคกใหญ่ จนอีกฝ่ายประหลาดใจ หล่อนไม่ได้ชื่อนุชสักหน่อย ทําไมอาแปะเปล่งชื่อนั้นออกมา
ยิ่งนานวันอาแปะชักไม่แน่ใจว่าตนเองจะรอไหวหรือไม่ ให้นุชเรียนจบก่อนแล้วค่อยยกเสาเอกลงหลุม และตัวของนุชเองก็มีท่าทีแปลกๆกับเขา เบียดชิดเข้าหาอยู่เสมอ เขาโอบกอดก็ไม่ว่าอะไร เขาจูบก็จูบตอบ มือของหล่อนก็เหมือน ซุกซนอยากรู้อยากเห็นจับสัมผัสแตะต้องเป้ากางเกงของเขา มักวางมือที่ต้นขาเวลานั่งอยู่ด้วยกัน และมือนั้นก็ค่อยๆ เลื่อนเข้าหาเป้ากางเกงบางครั้งก็ไล้ลูบเอาเลยทีเดียว
“นุชจ๊ะอยากรู้หรือเปล่าว่าในเป้ากางเกงมีอะไรอยู่”
เย็นวันหนึ่งอยู่กันในบ้านทาวน์เฮ้าส์ หลังจากกลับมาถึงนั่งคุยกันตามประสา อาแปะก็เอ่ยขึ้นเพราะมือของนุชเฉียดไปเฉียดมาที่ต้นขาไม่ว่างเว้น
ใบหน้าของเด็กสาวแดงก่ำ เหลือบมองตาอาแปะอย่างอายๆหล่อนส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่อยากรู้หรอกจ้ะ”
“ไม่อยากรู้แต่อยากดูไหมล่ะ ถ้าอยากดูนะแปะจะให้ดู”
นุชอ้าปากค้าง ดวงตาเบิกกว้าง มือสั่นจนรีบชักมือกลับไป อาแปะยิ้มเขารู้ดี นุชต้องการเห็นมันและอยากจับต้องมันด้วยตามประสาเด็กที่อยากรู้อยากเห็น และมันก็ไม่เสียหายอะไรที่จะให้หล่อนประจักษ์แก่สายตาตัวเอง
อาแปะดึงมือนุชให้ไปวางตรงเป้า นุชพยายามดึงมือกลับแต่สุดท้ายก็ขัดไม่ได้และไม่อยากขัด เพราะใจนั้นสั่นริกๆ ด้วยความอยากรู้
อาแปะกดมือหล่อนให้ลูบคลําคลึงไปคลึงมา นุชตื่นเต้น ดุ้นอะไรยาวใหญ่ซ่อนอยู่ในเป้ากางเกง ท่าทางมันแข็งปั๋งเลย แน่แล้วต้องเป็นลําเนื้อของอาแปะที่มันทําให้ผู้หญิงส่งเสียง มารดาของหล่อนนั่นอย่างไร ครวญครางแทบเป็นแทบ ตายในยามที่อยู่บนเตียงกับอาแปะ
“เป็นไงจ๊ะนุช”
“มันแข็งจัง”
“อยากดูมันไหมล่ะ”
นุชส่ายหน้าแต่ดวงตาไม่ยอมมองสบกับตาอาแปะ ทําไมไม่อยากดูอาแปะไม่น่าถาม ถามเหมือนแกล้งยั่วเย้า อยากดูซี บ้าแล้วล่ะถ้าไม่อยากดู
อาแปะรู้ใจ รูดซิปแล้วงัดมันออกมาในขณะที่นุชจับตามองไม่ละห่างไปไหน ก็ได้เห็นมันเต็มตาแล้วดวงตาคู่นั้นถึงกับเบิกกว้าง
“อู้ฮู! อาแปะ!”
อุทานออกมาอย่างลืมตัว อาแปะยิ้มภาคภูมิใจในเครื่องเคราตัวเอง มันทั้งยาวทั้งใหญ่น่ากลัวมาก สีสันสะดุดความรู้สึกโดยเฉพาะส่วนหัวมันช่างบานราวกับดอกเห็ดเลยทีเดียว มันแดงก่ำ ...คล้ำไปหน่อยเพราะถูกใช้งานมาอย่างโชกโชน ไม่รู้ว่าร่องหลืบไหนเป็นใส่ดะมาแล้ว ทั้งร่องแม่ม่ายทั้งร่องแม่ร้าง ม่ายผัวเผลอ สาวน้อยสาวใหญ่มันมุดอย่างไม่ลังเล
“เป็นไงจ๊ะหนู”
“โอย...แปะ น่ากลัว”
ทําหน้าสยดสยอง แต่อาแปะหัวเราะหึๆ ขนาดงัดออกมาแค่ครึ่งเดียวยังไม่หมดดุ้นเพราะมันซ่อนในกางเกง ถ้าแก้ผ้าหมดนุชจะตกใจสักแค่ไหน อาแปะก็อยากอวดจึงกวาดตามองทั่วห้องเห็นผ้าม่านปิดแล้ว สายตาคนข้างนอกมองเข้ามาไม่มีทางเห็น เขาก็เลยลุกขึ้นถอดกางเกงออก
“แปะจะทําอะไรจ๊ะ”
นุชถามอย่างตกใจ กลัวอาแปะจะข่มเหง อาแปะยิ้มส่ายหน้าตอบว่า “ไม่ทําอะไรหรอกนุช จะถอดกางเกงแล้วหนูจะได้เห็นชัดๆว่ามันมีอยู่มากน้อยแค่ไหน”
“นุชเห็นแล้วจ้ะว่ามันทั้งยาว ทั้งใหญ่”
“แต่หนูควรจะเห็นมากกว่านั้น”
ว่าแล้วอาแปะก็จัดการกับกางเกงที่นุ่ง รูดมันลงไปอยู่ที่เข่า เลื่อนกางเกงในตามลงไป ลําเนื้อยาวใหญ่ก็ดีดผึงออกมา นุชผงะอยู่บนโซฟา ตาเบิกขึ้นอย่างตกใจ
เห็นมันทั้งดุ้น ยาวใหญ่กว่าไส้กรอกจัมโบ้ มันประเภทหมูยอเสียแล้วละ ยิ่งน่ากลัวไปกันใหญ่ ถึงว่าน่ะซีจึงแว่วข่าวมาว่าอาแปะมีอวัยวะสําคัญของม้าอยู่คู่กายาทําให้ผู้หญิงที่เจอกับอาแปะไปแล้วต้องส่งเสียงร้องบ้านแทบแตกห้องแทบระเบิด ก็เคยได้ยินกับหูมาแล้ว ไม่ใช่เรื่องโคมลอยหรือกุหลอกกันเล่น มารดาของหล่อนนั่นอย่างไร ส่งเสียงห้องแทบถล่มทลาย
อาแปะเห็นสีหน้าของนุชแล้วนึกเวทนานัก ยังไม่รู้ประสีประสาพอเห็นเข้าก็กลัวเสียแล้ว ความจริงมันไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย คนมีของใหญ่อยู่กับตัวรู้ดีว่าจะใช้มันยังไงจึงจะเกิดประโยชน์สูงสุด
ไม่ใช่ว่าทิ่มเอาตําเอาลูกเดียว ไม่มีลีลา ไม่มีปรานีปราศรัย มันต้องรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นใหม่หรือเก่า ถ้าเป็นประเภทพวกแม่ม่ายแม่ร้างอะไรพวกนั้น ผ่านสังเวียนสวาทมาไม่ใช่น้อย ก็เล่นกันอย่างถึงพริกถึงขิงสุดเหวี่ยงได้เลย แต่ถ้าเป็นสาวเอ๊าะยังวัยขบเผาะก็ต้องค่อยๆกล่อมตะล่อม ประเล้าประโลมไปเรื่อยๆ ค่อยๆสอด ค่อยๆใส่ ค่อยๆดัน ค่อยๆขะยิก หนักบ้างเบาบ้าง ไม่ช้าไม่นานเดี๋ยวมันก็ผลุบเข้าไปทั้งดุ้นได้เองแหละน่า หลังจากนั้นแล้วก็ต้องนุ่มนวลเป็นที่ตั้ง คนไม่รู้ก็ตะบึงตะบันลูกเดียว ไม่มีลูกเล่นยังงั้นทุกรายเข็ดขยาดหมดเท่านั้น
อย่างนุชคนนี้ยังไม่เคยผ่านมาเลย มันก็ต้องค่อยๆไปก่อน ถ้าหล่อนรับไม่ไหวจริงๆ ก็สามารถที่จะถอนออกมาแล้วค่อยว่ากันใหม่ ถือว่าไม่ไปไหนเสีย เด็กมันรักแล้วถึงอย่างไรไปไหนไม่รอด เหมือนกับลูกไก่อยู่ในกํามือ
อาแปะยืนให้นุชชมอยู่ครู่หนึ่งจึงขยับเข้าไปใกล้ เด็กสาวก็จ้องอยู่ไม่วางตา หน้าแดงก่ำนั่งตัวตรง อาแปะหัวเราะเบาๆ
“อยากจับก็ได้นะจ๊ะนุช จะได้รู้ว่ามันเป็นยังไง”
แต่เด็กสาวไม่ขยับ มือซุกเข้าไปในต้นขาหนีบมือทั้งสองเอาไว้ กลืนน้ำลายครั้งหนึ่งแต่รู้สึกว่ายากเย็นไม่น้อย
อาแปะเอื้อมมือไปตบไหล่ของหล่อนเบาๆ อย่างปลอบโยนให้หล่อนหายตกใจ มันไม่มีอะไรเดี๋ยวเจอเข้าไปสักครั้งก็อาจจะกระโดดเข้าใส่คว้าหมับจับกระทอกอย่างมันส์มือ
ยังไม่เคยก็ยังงี้แหละ กลัวไปก่อนเพราะยังไม่รู้รสชาติ
“จับได้นะจ๊ะนุช เอาซี” อาแปะจับมือหล่อนดึงมาข้างหนึ่ง “เอ้า จับเลยจ้ะ”
มือข้างนั้นทีแรกก็จะชักกลับเหมือนกัน แต่ยังไงไม่ทราบมันก็เอื้อมตามมาและได้แตะต้องกับลําเนื้อแข็งเข้าอย่างจัง
“อุ๊ย! แปะมันแข็งปั๋งเลย”
นุชอุทานอย่างตกใจ อาแปะหัวเราะหึๆในลําคอ แล้วบอกให้นุชกํามันเอาไว้เด็กสาวก็ทําตาม เขาค่อยๆทรุดนั่งลงข้างๆ ร่างของนุชก็เบียดเข้าหา หล่อนไม่เข้าใจทําไมไม่หวงตัวกับอาแปะแล้ว มันมีแต่ความต้องการแปลกๆ อยากให้อาแปะทําอะไรสักอย่างที่จะช่วยให้หล่อนได้รับความรู้สึกที่ปรารถนา คล้ายๆกับว่าขณะนี้หล่อนกําลังหิวกระหายอะไรสักอย่าง แต่ไม่ใช่น้ำหรือข้าวของอย่างแน่นอน มันเป็นสิ่งซึ่งบอกกล่าวลําบากเหลือเกิน แต่หล่อนเชื่อว่าอาแปะนั้นเข้าใจดีทีเดียว
ประหลาดแท้ๆ บัดนี้ซอกขาฉ่ำหมดแล้ว น้ำอะไรไม่รู้มันทะลักออกมาเยิ้มแฉะจนรู้สึกได้ เป้ากางเกงในเปียกจนชุ่ม
ความจริงอาแปะก็พยายามที่จะอดกลั้นอย่างหนัก แต่สงสัยว่าความอดกลั้นจะหมดลงแล้ว นุชเบียดเข้าหา เอนอิงแนบร่างมา เขาไล้ลูบทรวงอกสวยงาม หล่อนก็ครางเบาๆ เนื้อตัวสั่นสะท้าน มือที่กําลําเนื้อกระชับแน่นไม่ยอมปล่อย
น้ำท่ายังไม่ได้อาบเลย แต่อาแปะไม่ถือ อุ้มขึ้นไปห้องนอนเลยดีกว่า มันยังไม่มืดไม่ค่ำแต่ก็ไม่มีอะไรเป็นข้อห้าม การที่คนเราจะเล่นรักกันไม่จําเป็นต้องเลือกเวลา เช้าสายบ่ายค่ำดึกดื่นเที่ยงคืนหรือเช้ามืดเล่นกันได้ทั้งนั้น และไม่ต้องเลือกเดือนวันเหมือนสัตว์ เมื่อไรก็เมื่อนั้นพร้อมก็เล่นกันได้เลย
อาแปะช้อนร่างเด็กสาวอุ้มพาขึ้นไปยังห้องนอน ...วางร่างของหล่อนลงบนเตียง นุชมีอารมณ์สุกงอมเต็มที่ อาแปะรู้ดีหล่อนเอาแต่นอนตาปรือเยิ้มฉ่ำอยู่ เขาก็ลงมือเล้าโลมทันทีแต่อย่างนุ่มนวล เริ่มจากกอดแล้วจูบไซ้ไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซอกคอซอกหูและเนินอก จมูกปากไซ้ไปเรื่อยๆ มือไล้ลูบไปทั่วทั้งสรรพางค์ เสื้อกระโปรงนั้นอาแปะปลดเปลื้องทีละชิ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่รีบร้อน
ร่างเด็กสาวสั่นสะท้าน ไหวยะเยือกกับลีลาเล้าโลมอย่างเด็ดดวงของอาแปะ ตอนนี้เหมือนกําลังฝัน อาแปะทําให้หล่อนเคลิบเคลิ้ม ไม่มีเสื้อผ้าติดกายอีกแล้ว นุชผวาเพราะลิ้นของอาแปะรุกล้ำบริเวณเนินสาว
นุชรู้ดีหล่อนยังเรียนหนังสือไม่จบ แต่อารมณ์อันรุนแรงมันทําให้หล่อนเผลอใจเผลอกาย ความต้องการอย่างห้ามไม่ได้นั้นมันทําให้หล่อนลืมตัว
อาแปะระรัวลิ้นกินเนื้อร่องไม่ยอมเงยหน้า เขาหายใจแรงๆ ก้มหน้าไซ้เรียวลิ้นอยู่ที่รอยผ่าของเนินสามเหลี่ยม แต่มือนั้นหาได้อยู่ในบริเวณนั้นไม่ ได้เอื้อมนวดเคล้นลูบโลมสองเต้า บางครั้งขยําหนักหน่วง แต่บางครั้งก็เล้าโลมลูบคลําอย่างนุ่มนวล
เรียวลิ้นนั้นก็เหมือนกัน บางครั้งระรัวอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่บางครั้งก็ค่อยดุนไปอย่างทะนุถนอมกล่อมเกลี้ยง แต่ไม่ว่าระรัวหรือละเลียดเล็ม นุชก็ชอบทั้งนั้นเพราะเสียวถึงอารมณ์ที่สุด
หล่อนละล่ำละลักเรียกชื่ออาแปะไม่ขาดปาก ละเมอออกมาอย่างลืมตัว ตาหลับปี๋คล้ายว่ามันลืมไม่ขึ้น แต่โคกเนื้อกลับแอ่นกระเด้งอัดกับปากจมูกของอาแปะอย่างต่อเนื่อง
ส่งเสียงครางอ๋อยๆ ลิ้นร้ายอย่างนี้แค่ลิ้นก็จะตายแล้ว ถ้าอาแปะสอดใส่ลําใหญ่ยาวเข้ามา จะเป็นอย่างไรบ้าง
“โอ๊วว...แปะจ๋า อย่าจ้ะ อย่า”
หล่อนผวาตาเบิกโพลง เมื่ออาแปะคุกเข่าจ่อลําเนื้อหัวสากแดงลงที่ปากอ่าวสวาทฉ่ำเมือกน้ำลาย
อาแปะรู้แค่จะไถถูเถือกเล่นให้หัวฉ่ำเท่านั้น และอาจจะใส่เข้าไปนิดๆ หน่อยๆ เป็นการเตือนให้นุชรู้ตัว
อาแปะเริ่มเถลือกไถลหัวสากแดงกับร่องฉ่ำเยิ้มของเด็กสาว ก็ทําเอานุชผวาแล้วผวาอีก เปล่งเรียกชื่ออาแปะหลายครั้งหลายหน ดวงตาบางครั้งหลับปี๋แต่บางทีลืมโพลงอย่างตระหนก
ที่ลืมโพลงขึ้นมาเพราะว่าอาแปะเอาหัวสากไถเถือกถลําเข้าไป ส่วนที่หลับปี๋ก็เพราะว่าหัวสากมันจุ่มแหวกเข้าไปในกลีบลึกจนน่าใจหาย
อาแปะโน้มตัวลงมาไซ้ซอกคอ ส่วนมือของเขาประคองจับลําเนื้อเอาหัวไถถากร่องสาว อีกมือโลมเล้าเคล้าคลึงสองเต้าสลับกัน ใช้ปลายนิ้วปัดหัวนมไปมาให้หล่อนเสียวแวบๆ
อาแปะทําให้ร่องสาวของนุชฉ่ำเยิ้ม เขาสอดส่วนหัวสากบานร่าถลําเข้าไปได้หลายหน ...ถึงแม้ช่องสวรรค์ออกจะคับแคบ แต่ก็ลื่นไปด้วยน้ำเมือกหล่อเลี้ยงก็ไม่ยากนักที่จะประจงส่งมันเข้าไปที่ละน้อย
แต่ทุกครั้งที่อาแปะออกแรงส่ง นุชจะต้องร้องสุดเสียงทุกทีทําให้อาแปะต้องถอนตัวออกมาตั้งหลักใหม่ แล้วจึงค่อยๆรุกเร้าสืบต่อไปอย่างใจเย็น
...เพราะความใจเย็นของอาแปะนี้แหละ จึงทําให้นุชไม่เจ็บปวดรวดร้าว เขาค่อยๆส่งลําเนื้อผ่านกลีบอูมเข้าไปทีละเล็กละน้อย หล่อนร้องเขาก็หยุด ถอนตัวออกก่อนจูบไซ้เล้าโลมและเขายังมีสลับฉากด้วยเรียวลิ้นเลียฉ่ำอีกรอบแล้วจึงลงมือใหม่ ตอนหลังก็ฝังเข้าไปได้ตั้งครึ่งลํา เข้าไปอัดแน่นคาเด่อยู่อย่างนั้นเหมือนเสาหลักปักลงในหลุมตั้งเอาไว้ แต่ปากหลุมอ้าออกจากกันน่าเสียวไส้นัก
อาแปะคาไว้อย่างนั้น นุชครางไม่เป็นภาษาคนแล้ว ส่วนที่เข้าไปแล้วทําให้นุชรับรู้ถึงรสชาติของเนื้อได้อย่างดี เอร็ดอร่อยอย่างนี้นี่เอง พออาแปะขยับก็ยิ่งเสียว ความเสียวนี้แหละก่อให้เกิดความสุข แช่นิ่งเอาไว้เฉยๆก็รู้สึกอบอุ่นแปลกๆ แต่อาแปะก็ไม่ได้คานิ่ง เขาโยกบั้นเอวเล็กน้อยลําเนื้อเสียดสีกับติ่งเสียวก็ทําให้เด็กสาวซู้ดปากเบาๆ
อาแปะไม่สามารถจะสอดเข้าได้ทั้งหมดเพราะนุชบอกว่าเจ็บเดี๋ยวทนไม่ได้
“เหลือไม่มากหรอกจ้ะนุช ถ้าเข้าได้หมดนะ นุชจะมีความสุขมากๆ เลยลองไหมจ๊ะ”
อาแปะกระซิบกระซาบเสียงกระเส่า เต็มไปด้วยอารมณ์รักที่มีต่อเด็กสาวคราวลูกคราวหลาน เขาภูมิใจนักที่เป็นผู้พิชิตความสาวแรกรุ่นของนุชได้ เขาเป็นคนเปิดบริสุทธิ์หล่อน แน่นอนล่ะเขาเห็นแล้วมีเลือดจางๆ ติดปลายสากออกมายามเมื่อเขาถอนออกมานั้นเขาเห็นมันแล้ว
“นุชทนไม่ไหวแล้วจ้ะ แค่นี้นุชก็แย่แล้ว แทบขาดใจตายแล้วจ้ะแปะจ๋า”
...เสียงตอบของเด็กสาววัยเอ๊าะๆ ทําให้อาแปะเองก็ไม่อยากจะดื้อรั้นดันทะลวงเข้าไปอีก กลัวหล่อนจะเข็ด เดี๋ยวพลาดไม่ได้แอ้มของอร่อย วันนี้เข้าได้แค่นี้ก็บุญแล้ว วันหน้าวันหลังค่อยๆ ขยับเข้าไปก็นับว่าไม่เลว
อาแปะขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวเท่าที่จะทําได้ ท่ามกลางเสียงร้องครวญครางของนุช แต่มีบางครั้งที่อาแปะเผลอตัวส่งลําถลําลึก ก็ทําให้นุชผวาสุดตัวกรีดร้องเอามือยันหน้าอกของอาแปะไว้
“โอย...แปะจ๋า พอจ้ะ แค่นี้พอแล้ว”
นมก็สวยเนินก็งาม อาแปะลุ่มหลงหล่อนจนยินยอมขยักความอยากเอาไว้ก่อน ถอนกายออกมานอนหงายลงไปตอเนื้อตั้งโด่ นุชมองดูมันน่ากลัวจัง มันเข้าไปในกลีบอูมได้อย่างไรนะ มันเข้าไปได้ตั้งเยอะ มองเห็นร่องรอยชุ่มๆ เปียกๆ อยู่ เข้าไปตั้งครึ่งแค่เข้าครึ่งเดียวก็จะตายอยู่แล้ว ถ้าขืนปล่อยให้เข้าหมดคิดดูเถอะจะเป็นยังไง คงขาดใจตายเสียเป็นแน่แท้
หล่อนเอื้อมมือไปลูบคลําลําอาแปะ เขาก็พึมพําเบาๆ โอบกอดหล่อนไว้บอกรักไม่ขาดปาก แต่เขาไม่เคยถามว่าหล่อนรักเขาหรือไม่ เพราะเขานั้นรู้ดีอยู่แล้ว ถ้าไม่รักหล่อนจะยอมพลีกายถึงขนาดนี้ ...เชียวหรือ
“แปะจ๋า แค่นี้พอนะจ๊ะ”
“จ้ะพอ แปะไม่ต้องการมากไปกว่านี้แล้วจ้ะ”
“นุชกลัวจ้ะแปะ มันเข้าไปแค่ครึ่งเดียว นุชก็จะขาดใจตายแล้ว ถ้ามันเข้าไปหมด นุชกลัวทนไม่ไหว”
“จ้ะ แปะเข้าใจ ไม่เป็นไรหรอกแปะรักหนู แปะรู้ว่าหนูคิดยังไง”
“คนเราทําไมเขาต้องทํากันยังงี้ด้วยจ๊ะแปะ”
อาแปะได้ยินคําถามซื่อๆของนุชแล้ว เขาคิดว่านุชช่างไร้เดียงสาเสียจริงๆ สงสัยว่าไม่เคยเรียนรู้เรื่องเหล่านี้มาก่อนเลย
“คนเราก็ต้องทํากันอย่างนี้แหละจ้ะ คนที่รักกันก็ต้องหาความสุขกัน แปะเองก็พูดไม่ค่อยถูกหรอก มันเป็นเรื่องของความรู้สึกน่ะ”
“แปะจะรักนุชตลอดไปหรือเปล่าจ๊ะ”
“ตลอดเลยจ้ะ จะเลี้ยงดูส่งเสียให้นุชเรียนจนจบ แล้วเราก็จะใช้ชีวิตร่วมกันมีลูกสักสองสามคน”
อาแปะไม่ได้ฝันไม่ได้เพ้อเขาตั้งใจเอาไว้อย่างนั้นจริงๆ แม้ว่าเขาสูงวัยมากแล้ว แต่เชื่อว่าการมีลูกนั้นไม่ยาก ส่วนที่ว่าเขาจะมีโอกาสเลี้ยงดูลูกได้นานแค่ไหนนั้นเขาไม่รู้ และไม่อยากคิด แต่เขาก็เชื่อว่าลูกๆจะไม่ลําบากเพราะเขาหาเงินเอาไว้ให้พวกเขาแล้ว
คืนนั้นอาแปะถือโอกาสนอนค้างที่บ้านทาวน์เฮ้าส์ เคล้าเคลียคลออยู่กับนุชตลอดทั้งคืน กอดจูบครั้งแล้วครั้งเล่า เร่งเร้าอารมณ์ของเด็กสาวให้ร้อนร่านมากขึ้นเรื่อยๆ และเขารุกล้ำเข้าทีละนิดละหน่อย นุชก็แทบไม่รู้ตัวว่ามันได้เข้าลึกไปทุกครั้งที่อาแปะออกแรงส่งเสือกลําใหญ่เข้าออก รู้อีกทีก็เมื่ออาแปะส่งลําเข้าไปสุดกู่แล้ว
“ว้าย! แปะจ๋า แปะทําอะไรนุช มันเข้าหมดแล้วนี่”
“จ้ะ...เข้าหมดแล้ว”
นุชนึกว่าตัวเองขาดใจตายถ้ามันเข้าหมดลํา แต่หล่อนก็ยังไม่เป็นอะไร แถมยังมันส์จนน้ำตาเล็ดอีกด้วย หลังจากนั้นอาแปะก็เคลื่อนขยับเนิบนาบ แต่หนักหน่วงนุ่มนวล จนหล่อนพบกับความสุขครั้งแล้วครั้งเล่านับครั้งไม่ถ้วนส่วนอาแปะนั้นก็ถึงสวรรค์เช่นกัน
วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2565
หอมกลิ่นโลกีย์ ตอนที่ 29
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น