วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2563

สอนลูกว่ายน้ำ ep.6

 


 
 
ในคืนนั้นผมหลับไปในช่วงไหน แทบจำไม่ได้ รู้แต่ว่าได้พูดคุยซักถามถึงชื่อของผู้ชายคนอื่นๆที่มาแอบติดพันเมียผม
แต่จำไม่ได้เลยว่าเธอเล่าให้ฟังหรือไม่อย่างไร แต่เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนสายๆนั้น ก็ไม่เจอเมียผมนอนอยุ่บนเตียงเสียแล้ว
มีเพียงเงินจำนวน5000บาท และข้อความเขียนด้วยภาษาไทยตัวโต ลายมือเหมือนไก่เขี่ยของเมียผมทิ้งไว้ที่หน้ากระจก
โต๊ะเครื่องแป้ง ว่าอย่าลืมพาลูกคิมไปสอนว่ายน้ำนะค๊ะ..เอาเงินนี้ไปซื้อชุดว่ายน้ำให้ลูกกับคุณสามีด้วย
นะค๊ะ..ปล. กลับมากลางคืนคงได้รับข่าวดีนะค๊ะ... คิมยองอึน

ผมขยำกระดาษโน๊ตแผ่นนั้นทิ้งลงถังขยะหลังจากอ่านข้อความจบ สงสัยข้อความตอนสุดท้ายนักว่าเมียผมหวังได้รับข่าวดี
อะไรแน่ เรื่องการสอนลูกจนว่ายน้ำจนว่ายเป็น หรือจะให้สอนอย่างอื่นแทน นึกแล้วมึนๆหัว ไอ้การสอนว่ายน้ำนี่ แม้ผมจะ
ว่ายน้ำเป็น แต่เคยสอนใครเสียที่ไหนเล่า เพราะมันไม่ใช่แนวทางของตนเอง เอ่อ..ถ้าให้สอนมวยชกต่อยกันละก็ถนัดนัก
นึกแล้วอยากตะโกนว่า นี่มันไม่ใช่แนวทางของเดช...เดชสอนไม่เป็น...แต่ในเมื่อเป็นคำร้องขอทั้งจากเมีย และจากลูกสาว
บังเกิดเกล้า ผมก็จำต้องพับธนบัตรเก็บใส่กระเป๋า เดินไปล้างหน้าแปรงฟันในห้องน้ำ ก่อนจะเดินลงมาข้างล่าง เห็นหัว
กลมๆผมยาวๆ นั่งดูทีวีอยู่ที่โต๊ะรับแขกหันหลังให้

"คุณพ่อตื่นแล้วหรือคะ...เย้ๆๆๆๆ...คิกๆๆ.."

ผมย่องจรดปลายเท้าอย่างเบากริบ หวังจะย่องไปจ๊ะเอ๋ให้ลูกคิมตกใจ แต่เธอดันหันกลับมาเห็นผมเสียก่อนจึงกระโดดยืน
ร้องเย้ๆๆด้วยความดีใจ แล้วโผเข้ามากอดรัดผมแน่น ความรุ้สึกที่แนบชิดบอกกับตนเองเลยว่า ภายใต้ชุดนอนแบบกางเกง
ขาสั้นนั้น หาได้มีชั้นในใส่ไว้ข้างในเลยแม้แต่ชิ้นเดียว

"อึ๊บ!...ปล่อยพ่อก่อนลูก..เดี๋ยวพ่อหกล้ม..."

ผมรีบร้องบอก แต่ไม่ได้เพราะกลัวจะหกล้มกับร่างอวบอิ่มของลูกคืม ที่โถมทับมาหรอกครับ มันเป็นเพราะอกนุ่มๆขนาดเท่า
ผลส้มที่โถมลงมาแนบใต้ราวอก กับเนินแน่นๆอูมๆเป็นกระเปาะต่างหากที่มันแนบชิดติดโคนขา จนต้องร้องบอกแล้วเอื้อมมือ
ไปแกะมือที่โอบรัดด้านหลัง

"เช้านี้ทำอะไรให้พ่อกินหรือลูกหรือเปล่าลูก.. กลิ่นหอมฟุ้งเชียว..." ผมถามออกไปทั้งๆที่จมูกได้กลิ่นเบคอนทอดอย่างชัดเจน

"อเมริกัน เบรคฟัสต์ค่ะ..." ลูกคิมตอบเบาๆ ยินยอมให้ผมแกะมือออกจากการกอดรัด แต่ยังฉวยคว้าข้อมือผมเดินไปนั่งที่โต๊ะ
อาหารอย่างเร่งรีบ

"รีบๆทานนะคะ..หนูทำอย่างสุดฝีมือเลย คิกคิก..." ลูกคิมพูดยิ้มๆขำๆ ยืนแอ่นบิดตัวไปมาอยู่ข้างๆ ไม่ยอมห่างไปไหน

"อ้าว..แล้วหนูไม่ทานกับพ่อล่ะ..." ผมถามเพราะไม่เห็นว่าลูกสาวจะขยับไปนั่งที่เก้าอี้ข้างๆ ยังคงยืนบิดแขนบิดมือไปมาอยู่
ข้างๆตัวผม

"หนูอิ่มแล้ว..พ่อตื่นเสียสายเลยนี่คะ..." มันก็คงเป็นความจริงเมื่อผมเหลือบตามองนาฬิกาเรือนใหญ่ที่แขวนไว้ข้างผนังห้อง
มันบ่งบอกเวลาเกือบ10โมงเช้าแล้ว

"พ่อทานเร็วๆนะคะสายแล้ว..นี่หนูทอดเบคอนให้ใหม่เลย ยังร้อนๆอยู่เลยคะ...เอากาแฟนมั๊ยคะ..หนุไปชงให้.."

เช้าวันนี้ค่อนข้างแปลก ที่ลูกคิมรับหน้าที่เป็นแม่บ้านทำอาหารเช้าให้ผมเสร็จสรรพ ทั้งๆที่ไม่เคยเป็นเช่นนี้ ผมได้แต่ลอบยิ้ม
ดีใจ ภูมิใจที่เธอโตพอที่จะรู้จักงานบ้านงานเรือน ทำแทนผู้เป็นแม่ได้ โดยไม่ต้องร้องสั่ง

"เดี๋ยวพ่อจะกินให้หมดเลย..ฝีมือลุกสาวนี่น่าจะอร่อยนะ..ฮ่าๆๆๆๆ..."

แม้ว่าเปิดฝาชีออกมาจะเจอไข่ดาวเกรียมๆสองสามฟองกับเบคอนไส้กรอกที่ทอดจนเกรียมเช่นเดียวกัน ผมก็ไม่สนใจ ร้อง
บอกไปด้วยรอยยิ้มขำๆแล้วจัดการหยิบใส่จาน ทานอย่างเอร็ดอร่อยไม่ให้คนทำนึกน้อยใจที่ทอดไฟแรงไปจนเกรียม โดยมี
ลูกสาวยืนมองยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความดีใจ

"จะไปซื้อชุดว่ายน้ำตัวใหม่ที่ไหนดีลูก..."

ผมถามขณะที่ทานอิ่มแล้ว พร้อมยกถ้วยกาแฟร้อนๆที่ส่งควันลอยกรุ่นขึ้นจิบช้าๆ ตบท้ายอาหารเบรคฟัสต์ ตามที่ลูกคิมทำ
ให้ทาน

"เซ็นต์ปิ่นก็ได้ค่ะ..ไม่ไกลบ้านดี จะได้รีบไปว่ายน้ำกัน..."

ลูกคิมตอบเร็วปรือ เหมือนเธอนึกคิดไว้ล่วงหน้าแล้ว เมื่อผมพยักหน้าเห็นด้วย เธอก็ยิ้มทำท่าดีใจ แล้วเร่งให้ผมไปอาบน้ำ
แต่งตัวใหม่เพื่อจะได้พาไปซื้อชุดว่ายน้ำยังห้างเซ็นทรัล สาขาพระปิ่นเกล้า ตามที่ลูกคิมบอก

ครั้งนี้ผมอาบน้ำได้อย่างสบายใจ ลูกคิมไม่ได้เข้ามากวนร้องขออาบน้ำด้วย จึงใช้เวลาไม่นานนักก็แต่งตัวลงมายืนรอที่ห้อง
รับแขก สักพักลูกคิมก็ค่อยๆเยื้องกรายเดินลงบันไดมาช้าๆ ผมเงยหน้าขึ้นไปมองตามขั้นบันไดที่ร่างของเธอ ถึงกับตาค้าง
เมื่อแลเห็นลูกสาววัย13ปี ที่หัดแต่งหน้าแต่งตาทาแป้ง เหมือนสาววัย19หรือ20 เดินนวยนาดลงมาช้าๆ ด้วยกระโปรงพีทสั้น
จีบรอบตัว ความยาวของชายกระโปรงนั้นอยู่เหนือหัวเข่าเกือบคืบ เมื่อมองขึ้นไปในมุมเสย ทำให้รุ้ว่าเธอไม่ได้ใส่กางเกง
ขาสั้นด้านใน มีเพียงชั้นในสีขาวแบบเดียวกันตัวเล็กๆเท่านั้น

ส่วนเสื้อนั้นก็เป็นเสื้อเกาะอกสีส้มๆ จีบพองๆตรงใต้ราวอกรัดแน่น จนอวดพุ่มอกเล็กๆเป็นกระเปาะกลมๆดูเด่นชัด ผมขมวด
คิ้วรู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าใดนัก เพราะทั้งชุดเสื้อผ้าและการแต่งหน้าแต่งตาทาแป้งแบบนี้ มันแลดูลูกสาววัย13ของผมดูโต
เป็นสาวเกินวัย

"จะไปด้วยชุดนี้จริงๆหรือลูก..พ่อว่ามันแลดูโตเกินวัยไปมั้ง..." ผมพูดเรียบๆ หน้าเฉยๆ แต่สายตาที่มองดูลูกสาวนั้นเหมือน
ตำหนิเล็กน้อย

"พ่ออ่ะ..หนูโตแล้วนะคะ...ชุดนี้ดีแล้ว หรือพ่อว่าหนูไม่น่ารัก...."

 ลูกคิมโต้เถียงเบาๆ ทำหน้าจ๋อยๆ แต่เธอก็ยืนกรานว่าชุดแบบนี้เหมาะกับตัวเธอแล้ว ผมก็เลยขี้เกียจพูดมาก นึกว่าเอาวะ..
วันนี้ได้ควงสาววัยรุ่นเที่ยวสักที ใครจะมองว่าแอบมีกิ๊กวัยละอ่อนก็มองไป จึงพาเธอขึ้นรถคันเล็กๆ ของผม ออกไปยังห้าง
เซ็นทรัลซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเพียงห้าหกกิโลเมตรเท่านั้น

"พ่อยังไม่ตอบเลยที่หนูถามว่า แต่งแบบนี้หนูไม่น่ารักหรอคะ..." พอขับรถออกมาจากบ้านยังไม่ถึง500เมตร ลูกคิมก็ทวงถาม
เอาคำตอบ

"อืมมม..มันก็น่ารักดีนะ..แต่ว่าพ่อชอบลูกคิมตอนเป็นเด็กสาวไร้เดียงสามากกว่าจ๊ะ..แล้วนี่แอบเอาเครื่องสำอางค์ของแม่มา
ใช้หรือจ๊ะ..."

ผมพูดพร้อมกับชำเลืองสายตามองสำรวจรูปร่างของลูกคิมเร็วๆ กระโปรงพีทสั้นๆสีขาวนั้นพอเธอนั่งลงในรถ ชายกระโปรง
มันก็รั้งสุงขึ้นไปจนปกปิดหว่างขาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่โชคดีที่นั่งมาในรถส่วนตัว ถ้ขืนใส่แบบนี้ไปนั่งรถสาธารณะ
หรือรถไฟฟ้า มีหวังโดนแอบมองลอดหว่างขาเป็นแน่

"เปล่าค่ะ..หนูเก็บเงินค่าขนมซื้อทางเน็ต..." ลูกคิมตอบยิ้มๆเบาๆ ที่น้ำเสียงของผมไม่ได้ตำหนิอะไรมากมายนัก

"กระโปรงกับเสื้อนี่ก็ใช่ป่ะ...แอบซื้อมาเอง..." ผมถามยิ้มๆ เพราะเท่าที่จำได้ว่าผมกับเมียไม่เคยซื้อเสื้อผ้าแบบนี้ให้ลูกสาว
ของเราเลยสักครั้ง ซึ่งก็เป็นจริงตามคาดเมื่อคิมน้อยพยักหน้ายิ้มๆตอบเบาๆ

"สวยมั๊ยคะพ่อ..กระโปรงพีทตัวนี้..."

ลูกคิมพูดพร้อมกับใช้สองมือจับชายกระโปรงกางบานอวดให้ผมดู ผมเผลอตัวแลตามแล้วก็เบรครถลั่นจนรถมันปัดเป๋ ด้วย
ความตกใจ เพราะพอคิมน้อยลูกสาววัย13ยกชายกระโปรงกางบานอวดให้ดูโดยไม่ทันระวัง จนสายตาผมแลลึกเข้าไปเห็น
ชั้นในบางๆ ที่รัดรั้งเนินเนื้อจนแลดูโหนกนูน กับกระจุกขนสีดำจางๆ ที่แลดูมันช่างโตเกินวัยเสียยิ่งนัก

"อุ๊ย!..ว๊าย...พ่อขับรถดีๆ..."

ลูกสาวผมก็ตกใจที่จู่ๆรถส่ายเสียหลักจนปัด  แล้วเบรคแรงๆจนตัวเธอไถลเอียง แทบตกจากเบาะขาขยับเผลอตัวกางกว้าง
สะโพกเล็กๆค้างอยุ่ริมเบาะ อวดเนินโหนกเนื้ออวบอูมเป้นกระเปาะเต็มๆตา

"พ่อขอโทษจ๊ะ..เผลอเหยียบเบรคแรงไปหน่อย.." ผมร้องบอกเร็วๆแล้วรีบเบนสายตากลับมามองถนนเบื้องหน้าอย่างตั้งใจ
จนกระทั่งรถไปถึงห้างสรรพสินค้าที่ตั้งใจมากัน

พอรถจอดได้ที่ ผมดับเครื่องยนต์แล้วเดินลงมาก่อนคนแรก ส่วนลุกคิมมัวแต่นั่งอ้อยอิ่งรอจนผมเดินอ้อมไปเปิดประตูให้ เธอ
ก็แหวกขาอ้าซ่าจนแลลึกเข้าไปถึงไหนๆ ก่อนจะก้าวเท้าทั้งสองลงมา ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ว่าของดีๆสวยๆข้างในโดนผมผู้เป็น
พ่อเห็นหมดแล้ว จากนั้นลูกคิวก็ควงแขนผมพาเดินเข้าไปในห้าง ผ่านสายตาของนักช็อปปิ้งที่เดินสวนออกมายังลานจอดรถ
ที่เมียงมองจ้องตามอย่างเสียมารยาท คงนึกละสิว่าไอ้แก่ชายวัยเกือบ40ปีอย่างผมนี่ แถมยังหน้าตาออกแนวบู๊ๆโหดๆ ยัง
อุส่าห์มีดีพอที่จะควงสาวหน้าเกาหลีหุ่นเซี้ยะ ขนาดนี้ได้ยังไง คงไม่มีใครหรอกที่จะนึกว่าเราสองคนเป็นพ่อลูกกัน เพราะหน้า
ตาผิวพรรณมันต่างกันอย่างชัดเจน

"ไปทางไหนก่อนลูก..." ผมหันไปกระซิบถามลูกสาวเบาๆ ด้วยว่านานๆจะมาที่ห้างนี้สักครั้ง จึงไม่เคยจำได้สักทีว่าแต่ละชั้น
มันขายสินค้าประเภทใด

"เดินตามหนูมาค่ะป๋า..คิกๆๆๆ..."

ลูกคิมเปลี่ยนสรรพนามเรียกผมจากพ่อเป็นป๋าทันที แล้วทำหน้าทะเล้นยิ้มหัวขำๆใส่ มันน่าหยิกแก้มป่องๆแดงๆนั้นนัก ผมจึง
เดินตามแรงจูงควงแขนของลูกสาวไปช้าๆจนถึงบรรไดเลื่อน รีบขยับมายืนด้านหลังของเธอทันที เพราะไม่อยากให้ไอ้หนุ่ม
ที่เดินตามหลังมา แลเห็นว่าลูกสาวผมใส่กระโปรงสั้นจนมองเสยขึ้นไปเห็นกางเกงชั้นในของเธอ แต่แล้วก็กลับรุ้สึกตัวว่าคิด
ผิด เพราะแทนที่นังลูกสาวตัวแสบของผมจะระมัดระวัง เธอกลับถือโอกาศเอนตัวเอาหลังเอาก้นอวบๆงอนๆมาพิงผมเต็มๆ
เสียแทน

จนกระทั่งขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง ลูกคิมก็กลับมาควงแขนเอานมกลมๆเล็กๆเบียดเสียดสีกับต้นแขน ควงผมเข้าไปในห้างแผนกชุด
ว่ายน้ำ ที่วางโชร์ละลานตาทั้งสีสรรและรุปแบบมากมายเหลือคณานับ จนผมไม่รุ้จะเริ่มอย่างไรดี ดีแต่ว่าลูกสาวเดินจูงแขน
ผมเดินเข้าไปยังเค้าน์เตอร์ของชุดว่ายน้ำยี่ห้อไทร์อัม ที่มีพนักงานหน้าจิ่มลิ้มยืนอยู่ด้านหน้า หันสายตามามองเราสอง
พ่อลูกพอดี

"ต๊ายยย!..สวยน่ารักจังค่ะ..เชิญเลือกตามสบายเลยนะคะ สนใจตัวไหนลองก่อนได้ค่ะ..."

สาวพนักงานขายเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วเผลอตัวอุทานออกมาด้วสายตาและน้ำเสียงชื่นชมความสวยน่ารักของลุกคิมจนผม
และลูกสาวได้ยินเต็มสองหู เธอถึงกับยิ้มหน้าระรื่นที่มีคนชมว่าสวยน่ารัก แล้วเดินตรงเข้าไปข้างในเค้าน์เตอร์ เลือกหยิบ
ชุดว่ายน้ำสีสรรสวยสดุดตาที่แขนอยู่บนราวไม่แขวนเสื้อขึ้นมาทาบกับตัวที่ละตัวสองตัวไปเรื่อยๆ จนกระทั่งได้แบบสีสรร
ที่ถูกใจเธอจึงหันมาทางผม

"แบบนี้สวยมั๊ยคะป๋า...."

ลูกคิมหยิบชุดว่ายน้ำแบบทูพีชสองชิ้นขึ้นมาทาบกับตัว แล้วหันหน้ามาร้องถามผมเสียงดัง พอจะให้พนักงานสาวประจำ
เค้าน์เตอร์ได้ยิน ผมรีบส่ายหน้าหลังจากมองดูแล้วว่ามันค่อนข้างจะโป๊เกินไป บิกินี่ตัวล่างเว้าขอบขาค่อนข้างสูง โดย
เพาะตรงเป้าดูค่อนข้างเล็กเกินไปจนผมคะเนด้วยสายตาว่ามันคงแทบปิดเนินเนื้ออวบใหญ่ของลูกคิมไม่มิด ส่วนบรา
ตัวบนก็ดูเรียบร้อยดี กรวยอกขนาดน่าจะกำลังเหมาะ ไม่เว้าลึกเท่าใดนัก





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น