วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2561

บุพเพสันนิวาส ภาคพิสดาร ตอนที่ 15



แม่การะเกดได้หนีพ้นออกมาจากเรือนของฟอลคอนแล้ว ก็รีบพาพ่อเดชกลับมาแจ้งข่าวแก่ออกพระเพทราชาที่อยุธยาทันที เมื่อออกพระเพทราชาได้ล่วงรู้แผนการของฟอลคอน จึงชิงลงมือก่อน และได้วางแผนล่อฟอลคอนให้มาเข้าเฝ้าขุนหลวง ก่อนจะจับฟอลคอนสำเร็จโทษด้วยการประหารชีวิตในฐานกบฏในที่สุด ส่วนตองกีมาร์ หรือแม่มะลิ กำลังจะโดนหลวงสรศักดิ์ยึดไปเป็นเมีย เหตุเพราะถูกใจรูปร่างหน้าตาของนางมาตั้งแต่ครั้งยังไม่ได้แต่งงานกับฟอลคอนแล้ว หากแม่การะเกดเอ่ยปากขอร้องกับเขาเสียก่อน
“หลวงสรศักดิ์เจ้าคะ แม่มะลิบัดนี้มิได้บริสุทธิ์ผุดผ่องเช่นในอดีตอีกต่อไป แถมนางยังมีลูกแล้วด้วย รูปร่างก็อวบอ้วนไปตามวัยมิได้อ้อนแอ้นเหมือนตอนที่เป็นแม่ค้าเรือนแพ หากท่านไม่ว่ากระไร ข้าขอเสนอนางอีกผู้นึงที่ข้ารับรองว่าจะเป็นที่ต้องตาแก่ท่านอย่างแน่นอน”
“ใครงั้นรึ แม่การะเกด”
หลวงสรศักดิ์ถามด้วยความใคร่รู้ ก่อนที่แม่การะเกดจะจูงมือคลาร่าออกมาจากหลังฉากกั้น
“นี่เจ้าค่ะ แม่คลาร่า เป็นลูกเลี้ยงของแม่มะลิเอง ปีนี้นางก็เพิ่งจะอายุ 15 ยังเป็นสาวแรกรุ่น อะไรๆในตัวของนางก็ยังฟิตเปรี๊ยะเต่งตึงอยู่นะเจ้าคะ”
“ฟิต...ฟิตแปลว่ากระไร ออเจ้านี่พูดภาษาประหลาดยิ่งนัก ข้าฟังมิรู้ความ”
“ไม่รู้ความก็ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะหลวงสรศักดิ์ เอาไว้เข้าหอโล้สำเภากับนางแล้ว ท่านก็จะรู้เองว่าแม่คลาร่าเนี่ยฟิตดียังไง”
“ฮ่าๆๆ ข้าถูกใจออเจ้ายิ่งนัก มิมีหญิงใดในอยุธยาพูดจาทะลึ่งตึงตังได้แบบออเจ้าอีกแล้วหนา เอาเถิด..ข้าจะรับแม่คลาร่าไปแทนแม่มะลิก็แล้วกัน ส่วนแม่มะลิ..ข้ายกให้ออเจ้า เห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทกันมาแต่เก่าก่อน ออเจ้าคงช่วยเลี้ยงดูปูเสื่อนางได้อยู่กระมัง”
เมื่อเจรจาประสบผลสำเร็จ แม่มะลิจึงอยู่ในความดูแลของแม่การะเกดนับแต่วันนั้นเป็นต้นมา โดยแม่การะเกดได้ให้แม่มะลิมาอาศัยอยู่ด้วยกันที่เรือนของนาง
...
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนอีกหนึ่งอาทิตย์ก็จะถึงวันแต่งงานของแม่การะเกดกับพ่อเดช คุณหญิงจำปาเองก็ร้อนใจที่แม่การะเกดยังเอ้อระเหยลอยไปลอยมามิยอมเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวเสียที จนวันนี้นางจึงเรียกแม่การะเกดเข้ามาคุยถึงเรื่องงานแต่งงานในสัปดาห์หน้า
“แม่การะเกด จะถึงวันงานอยู่แล้ว ไยจึงไม่รีบเตรียมตัวอีกเล่า จะมัวรอช้าอยู่ไย”
“คุณหญิงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็ดีเลยเจ้าค่ะ ข้ามีเรื่องอยากจะขอร้องคุณหญิงให้เพิ่มเติมรายละเอียดในวันแต่งงานของข้าเสียหน่อย”
“เจ้ามีกระไรจะว่าก็ว่ามา ข้ารอฟังอยู่”
แล้วแม่การะเกดก็คลานเข้าไปกระซิบสิ่งที่นางต้องการแก่คุณหญิงจำปา พอคุณหญิงได้ฟังก็ถึงกับตกใจเอาทาบอก
“แม่การะเกด!! ออเจ้าวิปลาสไปแล้วงั้นหรือ ไม่มีผู้ใดเขาทำกันยังงั้นหรอกหนา”
“ถึงมีก็ไม่แปลกมิใช่หรือเจ้าคะ เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ชายอยุธยาสามารถทำได้ คุณป้าจะวิตกไปไย ข้ามิได้จะเบี้ยวไม่แต่งกับคุณพี่เสียหน่อย อีกอย่างถ้าคุณป้าไม่ทำตามที่ข้าขอ...ข้าเกรงว่า...”
แม่การะเกดพูดทิ้งท้ายไว้ให้คุณหญิงจำปาสงสัยจนอดรนทนไม่ได้ ต้องถามแทรกขึ้นมา
“เกรงว่ากระไร ถ้าข้าไม่ทำตามแล้วจะมีกระไรงั้นรึ จงรีบพูดมาเดี๋ยวนี้”
“ข้าเกรงว่า ความลับของคุณป้ากับคุณพี่เดช ที่พี่ศรีบอกข้าเอาไว้ก่อนกลับเมืองนครฯ จะเป็นที่เลื่องลือกันไปทั้งอยุธยาน่ะสิเจ้าคะ ว่าคุณป้าน่ะทำ..”
“หยุดพูดประเดี๋ยวนี้!! ไม่ว่าสิ่งใดที่ออเจ้ารู้มา หาเป็นอย่างที่ออเจ้าคิดไม่ ข้ากับพ่อเดชจะทำกระไรมันก็หาใช่ธุระกงการอะไรของออเจ้า เอาเถิด ถ้าเจ้าอยากได้ตามที่ขอ ข้าก็จะทำให้ แล้วก็อย่าไปพูดพล่อยๆเรื่องนี้ให้ใครเขาได้ยินล่ะ ประเดี๋ยวได้ลือกันไปผิดๆทั้งพระนคร”
คุณหญิงจำปาจำใจต้องยอมรับคำขอจากแม่การะเกดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พลางนึกตำหนิพ่อศรีอยู่ในใจว่า
‘พ่อศรีนะพ่อศรี เอาความลับไปบอกแม่การะเกดได้เยี่ยงใด นางถึงได้มาขู่เข็ญบังคับให้ข้าทำตามใจนางเช่นนี้’
ไม่รู้ว่าคุณหญิงจำปาคิดไปเองหรือเปล่า ตั้งแต่แม่การะเกดกลับมาจากละโว้ครั้งนี้ นางดูเปลี่ยนไปพอสมควร แม้บางทีจะดูหัวเราะหัวใคร่ร่าเริงสนุกสนานดังเช่นปกติ แต่บางทีก็แอบร้ายกาจเจ้าเล่ห์แสนกลราวกับแม่การะเกดคนเก่า ยังดีที่นางไม่โหดร้ายถึงขนาดลงไม้ลงมือทุบตีบ่าวไพร่ แต่แววตาและสีหน้าของนางเหมือนกับคิดวางแผนอะไรเอาไว้ในใจตลอดเวลาก็มิรู้ได้
...
แม่การะเกดกลับเข้าหอนอนมานั่งที่หน้ากระจก พลางพูดกับเงาของตัวเองในกระจกนั้น
‘การะเกด ฝีมือเจ้าใช่มั้ย เหตุใดไปบีบบังคับคุณป้าแบบนั้นเล่า วิธีอื่นมีตั้งเยอะแยะ’
‘ก็เจ้าปรารถนาเช่นนั้นเองมิใช่หรือ เกศสุรางค์ ข้าแค่ช่วยให้เจ้าสมหวังนิดหน่อยก็เท่านั้น’
เงาในกระจกพูดตอบกลับมาแบบนั้น
‘ข้าเข้าใจ แต่ทำไมต้องเอาความลับของคุณป้ามาแบล็คเมล์...เอ๊ย...มาบีบบังคับกันแบบนั้นด้วยเล่า’
‘เกศสุรางค์ เจ้าอย่าลืมนะว่าข้าก็คือเจ้า และเจ้าก็คือข้าเช่นเดียวกัน แม้ข้าจะเป็นเพียงเศษเสี้ยวนึงของจิตใจเจ้า แต่หากสิ่งใดที่เจ้าคิดไว้แต่ลังเลมิกล้าลงมือ ข้าจะเป็นคนช่วยจัดการให้เจ้าเอง’
แม่การะเกดได้แต่นั่งถอนหายใจเฮือกอย่างปลงตก พลางรำพึงกับตัวเองขึ้นมาลอยๆ
“มิน่าเล่า เดี๋ยวนี้ข้าถึงได้ผีเข้าผีออก เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายจนข้าชักกลัวตัวเองขึ้นมาแล้วนะเนี่ย”
...
“คุณแม่ขอรับ..คุณแม่ ได้ยินข้าหรือไม่ขอรับ”
คุณหญิงจำปาที่นั่งเหม่อลอยไปถึงไหนไม่รู้ ก็สะดุ้งด้วยความตกใจหันมาตามเสียงเรียกนั้น
“อ้าว...พ่อเดช กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันลูก”
“คุณแม่คิดสิ่งใดอยู่หรือขอรับ จึงไม่ได้ยินที่ลูกเรียก”
“แม่กังวลเรื่องงานแต่งของลูกนั่นแหละ มีหลายสิ่งที่แม่ต้องจัดเตรียม ก็เลยเหม่อลอยไปบ้าง ลูกอย่าถือสาเลยนะ”
“ถ้าเช่นนั้นลูกขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะขอรับ วันนี้ไปฝึกดาบกับท่านอาจารย์ชีปะขาวมา เหงื่อออกทั้งตัวจนเหม็นไปหมด”
พูดจบพ่อเดชก็ขอตัวไปอาบน้ำที่ท่าน้ำ ทิ้งให้คุณหญิงจำปามองตามแผ่นหลังที่บึกบึนของลูกชายไปจนลับสายตา
ที่ท่าน้ำ พ่อเดชนุ่งโสร่งผืนเดียวตักน้ำจากตุ่มขึ้นมาราดตัวตามปกติ แต่ด้านหลังนั้นกลับมีร่างของแม่หญิงจำปาแอบมองลูกชายอย่างครุ่นคิด คำพูดของแม่การะเกดนั้นทำให้นางหวนนึกถึงเมื่อครั้งอดีตที่ผ่านมาเนิ่นนานเสียจนนางก็แทบจะลืมไปแล้ว หากแต่วันนี้มันถูกรื้อฟื้นให้นึกย้อนรำลึกขึ้นมาอีกครั้ง
...
“คุณแม่ขอรับ ลูกขอทำเร็วขึ้นอีกหน่อยนะขอรับ ลูกใกล้จะถึงแล้ว”
พ่อศรีพูดขึ้นมาในขณะที่บั้นเอวยังเคลื่อนที่เข้าออกราวกับลูกสูบอย่างต่อเนื่องไม่ยอมหยุด
“เอาเลยลูก...ซี้ด...แม่ก็ใกล้จะถึงแล้วเหมือนกัน...อา...ทำให้เสร็จไปเลยลูก”
“โอว...ลูกถึงแล้วขอรับคุณแม่..ลูกถึงแล้ว”
“แม่ก็ถึงแล้วพ่อศรี...ซี้ด...เสียวเหลือเกิน...แม่ไม่ไหวแล้ว...อ๊า”
พ่อศรีกระเด้าเย็ดคุณหญิงจำปาแบบถี่ยิบจนนับไม่ทัน ก่อนจะกดสะโพกฉีดน้ำกามเข้าไปในรูหีของคุณหญิงจำปาอย่างเนืองนองเต็มร่องรู
พอพักหายใจกันได้สักครู่ พ่อศรียังคงคลอเคลียลูบคลำเต้านมของคุณหญิงจำปาพลางพูดไปพร้อมกัน
“คุณแม่ขอรับ ยาดีของพระอาจารย์ที่ละโว้นี่ได้ผลจริงๆนะขอรับ นี่ก็หลายเดือนแล้วตั้งแต่คุณแม่กับลูกได้โล้สำเภากัน คุณแม่ก็ยังไม่ตั้งท้องเสียที ทั้งที่ลูกเองก็หลั่งน้ำของลูกเข้าไปในรูของคุณแม่จนล้นทุกครั้ง”
“พ่อศรีล่ะก็..มิต้องพูดออกมาตรงๆเช่นนั้นก็ได้ แม่อายจนร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้าแล้วเห็นหรือไม่”
คุณหญิงจำปาได้ฟังคำพูดของลูกชายก็รู้สึกเงี่ยนขึ้นมาอีกจนรูหอยตอดขมุบขมิบ คันยุบยิบขึ้นมาจนอยากจะได้ควยมาแหย่แยงให้หายคันอีกซักรอบ
“ว่าแต่คุณแม่ไม่อยากลองโล้สำเภากับพ่อเดชดูบ้างหรือขอรับ ลูกเคยเห็นมาว่าควยของน้องนั้นใหญ่ยาวกว่าของลูกเสียอีก หากคุณแม่โดนเข้าไปจะต้องมีความสุขมากแน่ๆ”
“ตายแล้วพ่อศรี พูดอะไรอย่างนั้น เย็ดแม่คนเดียวยังไม่พอ ยังจะให้แม่ไปเย็ดกับน้องชายเราอีกรึ ไม่กลัวบาปรึไง”
“คุณแม่ก็หมั่นทำบุญเข้าวัดเข้าวาอยู่เป็นประจำ บาปแค่ไหนก็คงทุเลาเบาบางลงจนหมดกระมังขอรับ”
คุณหญิงจำปาได้ยินเข้าก็เขินจนต้องหยิกแขนพ่อศรีไปเสียหนึ่งดอก แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าแม่ลูกเสพสังวาสกันมันบาปแค่ไหน แต่ความเสียวที่นางได้รับนั้นมันสร้างความสุขให้แก่นางจนนางไม่ใส่ใจเรื่องบาปบุญใดๆอีก ขอแค่ชดเชยด้วยการหมั่นทำบุญบ่อยๆแล้วจะกลับมาเย็ดกับลูกชายสักแค่ไหนก็คงไม่เป็นไรกระมัง
“แล้วลูกจะให้แม่ทำอย่างไร พ่อเดชเขาไม่ใช่คนทะลึ่งตึงตังจ้องจะเย็ดแม่เหมือนลูกหรอกหนา”
“นั่นแน่...แปลว่าคุณแม่เองก็สนใจในตัวพ่อเดชใช่หรือไม่ ถึงได้ถามลูกเช่นนี้”
พ่อศรีจับไต๋คุณหญิงจำปาได้ เล่นเอาคุณหญิงถึงกับเขินอายจนหน้าแดง ที่ถูกลูกชายล่วงรู้ความในใจจนหมด
“ก็..อยากลองอยู่เหมือนกัน เห็นพ่อศรีบอกว่าควยของพ่อเดชใหญ่ยาวนัก แม่ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่ ก่อนจะโกนจุกแม่ยังเห็นพ่อเดชแก้ผ้าโดดลงแม่น้ำ กระเจี๊ยวเล็กนิดเดียว ไฉนจะใหญ่โตได้ดังที่ลูกว่า”
“คุณแม่ให้เป็นธุระของลูกเถิดขอรับ รับรองว่าคุณแม่ต้องตะลึงกับควยของพ่อเดชแน่ ยิ่งถ้าได้เสียบเข้าหีคุณแม่ไปนะขอรับ คุณแม่ได้ร้องครางเสียงหลงแน่ๆ”
คุณหญิงจำปาได้ฟังก็ยิ่งเขินหนักขึ้นไปอีก รูหีตอดตุบๆจนน้ำรักหลั่งออกมาเฉอะแฉะเต็มหน้าขา เผลอหยิกแขนลูกชายคนโปรดอย่างแรงไปอีกหนึ่งดอก
...
“พ่อเดช ปีนี้ออเจ้าอายุ 13 แล้วใช่หรือไม่”
พ่อศรีเอ่ยถามพ่อเดชขึ้นมา ระหว่างที่พายเรือเล่นด้วยกัน
“พี่ศรีนี่ก็ถามแปลก อายุเราห่างกันแค่ปีเดียว หากพี่อายุ 14 ข้าก็ต้อง 13 น่ะสิ ไยจึงถามเช่นนี้”
“ออเจ้าถึงวัยที่ต้องขึ้นครูแล้วหนา”
“ขึ้นคงขึ้นครูกระไรกัน ข้าไม่เข้าใจ”
“หมายความว่าออเจ้าต้องหัดโล้สำเภาให้เป็นแล้วหนา ต่อไปภายภาคหน้าได้เมียขึ้นมา จะได้ไม่ขายขี้หน้าเมียเพราะโล้สำเภาไม่เป็นน่ะสิ”
“แล้วจะให้ข้าไปเที่ยวโรงชำเราบุรุษน่ะรึ ข้าไม่มีเบี้ยดอกนะพี่ศรี ใครเขาจะให้ข้าโล้สำเภาเปล่าๆโดยมิเก็บเบี้ยเล่า”
“ข้ามีคนรู้จักอยู่คนนึง เขายินดีสอนให้เจ้าโล้สำเภาเป็นโดยมิคิดเงินซักเบี้ย หากแต่เขาเป็นคนที่ขี้อายมาก ไม่กล้าเปิดเผยใบหน้าให้ผู้ใดเห็น หากเจ้าไม่รังเกียจที่จะเรียนรู้กับนาง ขอแค่ผูกผ้าคาดตาไว้นางก็จะยอมสอนออเจ้าให้รู้จักทุกส่วนในร่างกายของผู้หญิง”
พ่อเดชถึงแม้จะตะขิดตะขวงใจเพียงใด แต่ความอยากรู้อยากเห็นของเด็กผู้ชายที่เพิ่งแตกเนื้อหนุ่ม ย่อมทำให้เขารับข้อเสนอได้อย่างไม่ยากเย็นนัก เขาและพี่ศรีจึงนัดแนะวันเวลากันเป็นมั่นเหมาะ แล้วรอคอยวันนั้นมาถึงอย่างใจจดใจจ่อ
...
ดึกสงัดในคืนเดือนหงาย พ่อเดชและพ่อศรีพากันลงจากเรือนมายังกระท่อมกลางสวนตามที่นัดหมายกันไว้
“เหตุใดต้องแอบมาทำกันถึงนี่เล่าพี่ศรี ไยไม่ทำบนเรือน”
พ่อเดชเอ่ยถาม หลังจากเดินตามกันมาถึงกระท่อม ซึ่งภายในมีเพียงแคร่ไม้ไผ่ที่วางฟูกรองไว้ผืนหนึ่ง
“บนเรือนคนเยอะแยะ เขาได้รู้กันทั่วน่ะสิว่าออเจ้าทำกระไร ทำกันที่นี่แหละ จะเสียงดังแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัวใครได้ยิน”
พูดจบเขาก็จับพ่อเดชผูกผ้าปิดตา แล้วปล่อยให้เขานั่งบนแคร่นั้น ส่วนตัวเองก้าวออกมาด้านนอก และส่งสัญญาณให้คุณหญิงจำปาที่ยืนแอบอยู่ตรงพุ่มไม้ให้เข้าไปข้างในกระท่อมแทน
“พ่อเดชเขาจะไม่รู้แน่นะ ว่าเป็นแม่ที่มาสอนเขาโล้สำเภาน่ะพ่อศรี”
“คุณแม่ก็อย่าร้องครางเสียงดังไปสิขอรับ อีกอย่างมีผ้าผูกตาอยู่ พ่อเดชเขาไม่รู้หรอกขอรับ”
แม้จะไม่ค่อยมั่นใจนัก แต่สุดท้ายคุณหญิงจำปาก็มานั่งลงข้างๆพ่อเดชจนได้
“ออเจ้ามาแล้วหรือ ข้าได้กลิ่นแป้งหอมของแม่หญิง”
คุณหญิงจำปาไม่กล่าวกระไร ได้แต่ค่อยๆถอดเสื้อผ้าของพ่อเดชออก รวมทั้งของตนเองด้วย จนร่างของนางท่อนบนเปล่าเปลือย นมสองเต้าที่ชูชันเต่งตึงของนางถูกนำไปบดเบียดอยู่ที่แผงอกของพ่อเดช ส่วนพ่อเดชพอรู้สึกถึงเนื้อนิ่มๆสองก้อนที่สัมผัสมาที่หน้าอก ก็ให้สยิวกายและสงสัยยิ่งนักว่ามันคือสิ่งใด เขาจึงเอื้อมมือไปจับมัน และพบว่ามันคือหน้าอกขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือของเขาจะโอบอุ้มได้มิด เขาเคล้นคลึงมันอย่างหลงใหล มันทั้งนิ่มหยุ่นและแข็งในเวลาเดียวกันจนเขาอธิบายไม่ถูก เพราะไม่ว่าเขาจะบีบขยำมันจนบิดเบี้ยวผิดรูปไปเพียงใด แต่พอผ่อนแรงที่มือลงมันก็จะกลับคืนมาอยู่ในทรงเดิมได้เองอย่างน่าอัศจรรย์
“นมของออเจ้า ทั้งใหญ่แล้วก็นุ่มนวลมาก ข้าจับเท่าไหร่ก็มิเบื่อเลย ขอให้ข้าได้ลองดูดชิมรสชาติของมันบ้างได้หรือไม่แม่หญิง”
คุณหญิงจำปาหอมแก้มเขาไปหนึ่งทีแทนคำตอบ แล้วจึงชันเข่าเลื่อนตัวขึ้นสูงให้หน้าอกอยู่ระดับเดียวกับใบหน้าของเขา เมื่อหัวนมของนางสัมผัสกับริมฝีปากของเขา พ่อเดชก็อ้าปากออกแลบลิ้นตวัดเลียชมรสจากเต้านมของคุณหญิงทันที คุณหญิงจำปารู้สึกสยิวกายจนแอ่นอกบิดส่ายไปมา สองมือก็โอบรอบศีรษะของพ่อเดชกดอัดลงมากับหน้าอกของตนเอง ส่วนพ่อเดชก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน มือไม้อยู่ไม่สุขปัดป่ายไปทั่วร่างของคุณหญิง มือนึงก็บีบหน้าอกข้างที่ยังว่างอยู่ขยำเล่น อีกมือก็ลูบคลึงไปที่สะโพกกลมผายของนางแล้วบีบแก้มก้นอย่างมันเขี้ยว จากนั้นก็ปลดปมผ้านุ่งของนางจนร่วงลงไปกองอยู่ที่ปลายเท้า คุณหญิงจำปาก็สะบัดทิ้งไปอย่างไม่ไยดี ทำให้บัดนี้ร่างของนางไม่เหลืออาภรณ์ชิ้นใดติดกายอีก กำลังกอดรัดอยู่กับพ่อเดชด้วยร่างเปลือยเปล่าแบบนั้น
แล้วมือข้างหนึ่งของพ่อเดชก็ล้วงลงไปที่เนินโหนกกลางหว่างขาของคุณหญิงจำปาตามสัญชาตญาณ แม้ไม่มีใครเคยสอนเขาก็พอรู้ถึงความแตกต่างระหว่างชายและหญิง ของสงวนของผู้หญิงที่เขาเคยเห็นนั้นมีแต่ของพวกเด็กๆที่ยังไม่ถึงวัยโกนจุก มันดูเหมือนโหนกเนื้อกลางหว่างขาโดนมีดผ่าเป็นร่องยาวหายเข้าไปในซอกหลืบ ช่างใกล้เคียงกับสิ่งที่มือเขาสัมผัสได้ในเวลานี้ หากแต่พงไหมที่ปกคลุมโหนกเนื้อที่เขาสัมผัสได้นั้นทำให้เขาแปลกใจอยู่บ้าง เพราะเขาไม่เคยเห็นเด็กหญิงคนใดมีเส้นขนปกคลุมในที่ลับมาก่อน จนเขาแทบอดใจไม่ไหวอยากจะเปิดผ้าปิดตาเพื่อเพ่งมองมันให้ชัดๆ แต่เขากลับทำได้เพียงแค่สอดนิ้วมือเข้าไปในร่องที่เปียกเยิ้มไปด้วยน้ำลื่นๆแล้วแทงนิ้วเข้าออกถี่ๆ เพียงแค่นั้นเจ้าของเนินโหนกก็ส่ายสะโพกไปมาด้วยความเสียวสยิวและได้ยินเสียงสูดปากเบาๆเหมือนคนกำลังกินของเผ็ด
ซักพักคุณหญิงจำปาก็เลื่อนตัวลงไปถอดโสร่งที่พ่อเดชนุ่งอยู่ให้หลุดออกไปพ้นตัว จากนั้นท่อนควยของพ่อเดชก็ผงาดขึ้นมาอยู่ต่อหน้านาง คุณหญิงจำปาถึงกับอมยิ้มอย่างพึงพอใจ เพราะท่อนควยของพ่อเดชนั้นใหญ่ยาวสมกับที่พ่อศรีบอกเอาไว้ไม่มีผิด พ่อเดชหนอพ่อเดช เห็นกันมาตั้งแต่ควยยังอันเท่าปลายก้อย บัดนี้เติบใหญ่เสียจนจะยัดเข้ารูหอยแม่ได้หรือเปล่าก็ยังมิรู้
จากนั้นคุณหญิงจำปาก็ประคองสองเต้าอวบใหญ่ของตน ประกบเข้ากับลำควยของพ่อเดช ท่อนควยของพ่อเดชจึงเสียบอยู่ตรงกลางร่องอกของนางพอดิบพอดีเหมือนฟ้าสร้างให้มาคู่กัน หากของใครคนใดคนหนึ่งเล็กหรือใหญ่ไปกว่านี้ก็คงจะไม่สามารถประกบกันลงตัวให้พอดีแบบนี้ได้ คุณหญิงบีบเต้าสองข้างมาชิดกันเพื่อหนีบท่อนควยของพ่อเดชให้แน่นยิ่งขึ้น แล้วเขย่าเต้าทั้งสองขึ้นๆลงๆให้ท่อนควยของเขาเสียบแทงอยู่กลางร่องอกนั้น แท่งควยยาวของเขาล้นออกมาจนปลายหยักทิ่มตำอยู่ที่คางของนางเป็นระยะ แต่คุณหญิงจำปาในวัยนั้นยังมิรู้จักกับการใช้ปากกับท่อนควยของผู้ชายมาก่อน อีกทั้งนางยังกระดากเกินกว่าจะนำสิ่งสกปรกนั้นเข้าไปในปากของนาง
“อูย...แม่หญิง ช้าลงหน่อยเถิด ข้าเสียวจนจะทนมิได้แล้วหนา”
พ่อเดชเริ่มเอ่ยปาก เพราะความเสียวเริ่มก่อตัวสูงขึ้นจนเขากำลังจะเสร็จสมเป็นครั้งแรกในชีวิต คุณหญิงจำปาพอได้ยินที่เขาพูด แทนที่จะเบามือลงกลับเร่งมือหนักขึ้นเร็วขึ้นอีกเหมือนตั้งใจจะกลั่นแกล้ง ซึ่งก็ทำให้น้ำกามแรกในชีวิตวัยหนุ่มของพ่อเดชพุ่งทะลักออกมาอย่างง่ายดาย น้ำสีขาวขุ่นถูกฉีดออกมาจากปลายควยพุ่งเป็นสายกระทบไปที่ใบหน้าของคุณหญิงจำปาระลอกแล้วระลอกเล่า แม้คุณหญิงจำปาพยายามเบี่ยงหน้าหลบเท่าใดแต่ก็ยังไม่พ้น จนใบหน้าของนางถูกปกคลุมไปด้วยน้ำรักของลูกชายเต็มไปทั้งหน้า บางส่วนยังไหลลงมาเปรอะเปื้อนเต้านมทั้งสองข้างของนางอีกด้วย
พ่อเดชนั่งหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนกับการขึ้นสวรรค์ครั้งแรกในชีวิต หากแต่ท่อนควยของเขายังแข็งแกร่งมิได้ลดขนาดลงไปแม้แต่น้อย คุณหญิงจำปาเห็นแล้วก็อดปลื้มใจไม่ได้ เด็กหนอเด็ก แข็งแรงจนครั้งเดียวคงไม่พอสินะ งั้นต่อไปจะให้บทเรียนของจริงเลยก็แล้วกัน
คุณหญิงจำปาคิดในใจจบก็หาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดคราบน้ำกามของลูกชายออกจนเกลี้ยง จากนั้นก็เอนหลังลงบนแคร่โดยพิงหมอนสามเหลี่ยมไว้อยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน นางแยกขาออกจากกันแล้วดึงมือพ่อเดชให้คลานมาแทรกอยู่ตรงกลางหว่างขาของนาง มือนึงประคองท่อนควยของลูกชายมาจ่อไปที่ปากรูหีของนาง ส่วนปลายควยทิ่มๆตำๆอยู่ที่ปากประตูจนอาบน้ำเงี่ยนจากร่องรูหีของนางเป็นมันวาว พ่อเดชแม้ตามองไม่เห็นแต่สัมผัสได้ว่าท่อนควยกำลังจะเสียบเข้าไปตรงไหน ส่วนที่นิ่มที่สุดและแฉะเยิ้มที่สุดที่ปลายควยของเขาสัมผัสอยู่น่าจะเป็นปากประตูสังวาส พอเขาประคองลำจ่อให้ตรงได้ก็กดสะโพกทิ่มควยพรวดเข้าไปทันที และสัมผัสได้ถึงความอุ่นวาบรัดรึงในโพรงหีของแม่หญิงผู้นั้น แว่วเสียงของนางอุทานออกมาอย่างสุดกลั้น
“โอ๊ะ!!...ซี้ด...”
ได้ยินเพียงแค่นั้นก็เหมือนนางจะเอามืออุดปากไม่ยอมส่งเสียงใดๆออกมาอีก แม้ว่าเขาจะเริ่มตั้งหน้าตั้งตากระเด้าเย็ดไปตามสัญชาตญาณ ความเสียวในช่องโพรงสวาทนั้นชักนำให้เขาเคลื่อนสะโพกไปเองโดยมิต้องมีผู้ใดสอน เพียงไม่นานพอเขาเริ่มจับจังหวะได้ ก็โหมกระแทกอย่างรวดเร็วและรุนแรงจนร่างของคุณหญิงจำปากระเด้งกระดอนไปมา คุณหญิงถึงกับเอามืออุดปากยังไม่พอ ยังต้องข่มความเสียวจนถึงกับกัดมือตัวเองเพื่อกลั้นเสียงไม่ให้ครางลอดออกมา นางกลัวว่าหากพ่อเดชได้ยินเสียงร้องของนางแล้วเขาจะจำได้ว่าเป็นเสียงของแม่ตัวเอง นั่นอาจจะทำให้เขารู้สึกผิดที่ก้าวข้ามเส้นศีลธรรมจนสร้างรอยบาดแผลในจิตใจให้แก่เขาได้ นางจึงต้องอดทนมากกว่าเดิมเป็นสองเท่าเพื่อไม่ให้ร้องครวญครางออกมา
“แม่หญิง ออเจ้าจักขี้อายไปจนถึงเมื่อใด ให้ข้าได้ฟังเสียงอันไพเราะของออเจ้าสักหน่อยเถิด หรือว่าเป็นเพราะข้าอ่อนหัดยิ่งนัก จึงทำให้ออเจ้าพึงพอใจมิได้ ออเจ้าจึงไม่ส่งเสียงร้องครวญครางใดๆให้ข้าได้ยินเช่นนี้”
คุณหญิงจำปาได้แต่นึกในใจว่าหาเป็นเช่นนั้นไม่ พ่อเดชช่างหัวไวเรียนรู้เร็วยิ่งนัก เพียงแค่ครั้งแรกก็สามารถทำให้แม่เสียวได้ถึงขนาดนี้ หากไม่เป็นเพราะกลัวเจ้าจะรู้ว่าอันที่จริงแล้วหญิงที่เจ้าเสพสังวาสด้วยคือแม่ของเจ้าเอง ข้าคงจักครางให้ลั่นสวนไปแล้วหนา
คุณหญิงจำปาบีบแขนพ่อเดชแน่นแทนคำตอบว่านางเสียวเพียงใด พ่อเดชแว่วเสียงครางอยู่ในลำคอจากหญิงสาวตรงหน้าหากแต่มันค่อยเสียจนเขาได้ยินไม่ชัดเท่าใดนัก แต่เพียงแค่นี้ก็ทำให้เขามีความสุขเป็นที่สุด เพราะเขาสามารถทำให้คู่นอนของเขาซ่านเสียวได้ถึงขนาด เขาจึงตอบแทนนางด้วยการโหมแรงกระเด้าเย็ดให้หนักหน่วงมากขึ้นไปอีก
จนในที่สุดคุณหญิงจำปาก็ทนไม่ไหว ขึ้นสวรรค์ไปก่อนจนได้ นางพยายามกลั้นเสียงครวญครางอย่างสุดชีวิต แต่ก็ยังมีเสียงเล็ดรอดออกมาจนได้
“อื้อ...อื้อ...ซี้ด...อื้อ”
แม้จะเป็นแค่เสียงอื้ออ้าในลำคอ แต่พ่อเดชก็รับรู้ได้จากอาการเกร็งกระตุกในโพรงหีของนาง ว่านางน่าจะสุขสมไปถึงจุดหมายแล้ว เขาจึงโหมกระเด้าอีกชุดสุดท้ายก่อนจะชักท่อนควยออกมารูดชักด้วยมือตนเองอีกสี่ห้าครั้ง น้ำควยระลอกที่สองในชีวิตก็ถูกฉีดพ่นออกมาราวกับสายฝนจากฟากฟ้า กระจายเปรอะเปื้อนไปทั้งใบหน้าและเนินนมของคุณหญิงจำปาเป็นคำรบสอง ก่อนที่เขาจะหน้ามืดหมดแรงนอนสลบไปข้างกายของคุณหญิงเช่นนั้นเอง
...
คุณหญิงแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมานอกกระท่อม ก็พบพ่อศรียืนยิ้มเผล่รออยู่ก่อนแล้ว
“อื้อหือ...ลีลาคุณแม่นี่เด็ดไม่เบาเลยนะขอรับ เล่นเอาพ่อเดชสลบเหมือดไปเลย”
“พูดอะไรก็ไม่รู้พ่อศรี ทะลึ่งจริงเชียว แม่ไม่ทำอะไรแบบนี้อีกแล้วนะ แค่นี้ก็อายจะแย่แล้ว ไหนจะกลัวพ่อเดชจับได้อีก ขืนพ่อเดชรู้เข้าแม่ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
“ก็เอาไว้ที่เดิมนั่นแหละครับ ส่วนพ่อเดชก็คงเปลี่ยนเป็นเอาหน้ามาไว้ตรงหว่างขาของแม่แทนไงล่ะครับ”
พ่อศรียังหยอกคุณหญิงจำปาไม่ยอมหยุด คุณหญิงจำปาจึงทุบแขนพ่อศรีไปหนึ่งครั้งแก้เขิน แล้วเดินขึ้นเรือนไปทั้งที่ขายังสั่นพั่บๆเพราะโดนพ่อเดชกระเด้าเย็ดมาอย่างหนักนั่นเอง
...
“คุณแม่ขอรับ คุณแม่..ได้ยินลูกไหมขอรับ”
“อ้าว...พ่อเดช เรียกแม่มีอะไรเหรอลูก”
“พักนี้ดูคุณแม่เหม่อลอยบ่อยนะขอรับ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”
“ปละ..เปล่านี่ลูก แม่ไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย ว่าแต่พ่อเดชมีธุระอะไรหรือ ถึงมาหาแม่เอาตอนมืดค่ำเช่นนี้”
คุณหญิงจำปาเอ่ยทัก เพราะเพลานี้บ่าวไพร่คนอื่นเข้านอนกันหมดแล้ว แม้แต่แม่การะเกดก็หลับไปแล้ว จึงผิดวิสัยยิ่งนักที่พ่อเดชจะเข้ามาในหอนอนของนางในยามวิกาลเช่นนี้
“วันก่อนลูกแอบได้ยินแม่การะเกดมาขอร้องให้คุณแม่จัดการอะไรเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับงานแต่งของลูก ได้ยินว่าหากคุณแม่ไม่ทำตาม นางจะเอาความลับของคุณแม่ที่มีต่อลูกไปเปิดเผย”
คุณหญิงจำปาได้ยินเข้าก็ถึงกับตกใจจนหน้าซีดปากสั่น จนพ่อเดชพูดต่อไปช้าๆ
“ความลับกระไรของคุณแม่กันขอรับ ที่ทำให้คุณแม่ต้องเกรงกลัวจะมีผู้อื่นรู้ขนาดนี้ ใช่เรื่องที่กระท่อมกลางสวน ในวันที่ลูกหัดโล้สำเภาเป็นครั้งแรกใช่หรือไม่”
“พ่อเดช!! พ่อเดชรู้เรื่องนี้ได้อย่างไรกัน แม่กับพ่อศรีไม่เคยเล่า...”
คุณหญิงจำปายิ่งตกใจหนักจนเอามือทาบอก ลมหายใจติดขัดจนแทบจะหน้ามืดเป็นลมไปเสียเดี๋ยวนั้น หากแต่พ่อเดชยื่นมือมาเกาะกุมมือของนางเอาไว้ พลางพูดด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มเปี่ยมสุขว่า
“ลูกจักไม่รู้ได้อย่างไรขอรับคุณแม่ แป้งหอมที่คุณแม่ใช้อยู่เป็นประจำมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวไม่เหมือนกับที่อื่น ด้วยว่าที่เรือนเราอบแป้งร่ำใช้เอง อีกทั้งบ่าวไพร่ในเรือนก็มิมีผู้ใดกล้าใช้ของๆคุณแม่ แล้วจะเป็นผู้อื่นไปได้อย่างไรหากไม่ใช่คุณแม่ในวันนั้น ลูกจำได้ตั้งแต่ที่คุณแม่เดินเข้ามาในกระท่อมแล้วล่ะขอรับ”

“เหตุไฉนรู้ทั้งรู้ ลูกจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้อยู่ได้ ปล่อยให้แม่...ว้าย...ข้าอายจนมิรู้จะพูดกระไรแล้ว”
“ลูกเข้าใจคุณแม่ขอรับ คุณแม่หวังดีอยากสอนลูก แต่ที่ไม่เปิดเผยตัวเพราะเกรงจะวางตัวไม่ถูกหากลูกรู้ว่าหญิงที่ลูกโล้สำเภาด้วยคือคุณแม่ ลูกจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้มาโดยตลอด เพื่อให้คุณแม่ได้สบายใจ”
“แล้วถ้าเช่นนั้น ลูกมาบอกความจริงกับแม่ทำไมล่ะ ไยจึงมิเก็บงำเอาไว้เหมือนเช่นที่ผ่านมา”
“อีกไม่กี่วันลูกก็ต้องออกเรือนแล้วนะขอรับ ต่อไปภายหน้าลูกจักมีเมียให้ต้องรับผิดชอบดูแล มิอาจใกล้ชิดคุณแม่ได้ดังเดิมอีก ลูกจึงอยากถือโอกาสนี้ตอบแทนบุญคุณของคุณแม่ ที่สั่งสอนลูกในวันนั้น”
“แล้ว...ลูกจักตอบแทนบุญคุณแม่เยี่ยงไรล่ะ พ่อเดช”
คุณหญิงจำปากระมิดกระเมี้ยนถามอย่างกล้าๆกลัวๆ ว่าสิ่งที่นางแอบหวังไว้จะเป็นจริงขึ้นมา ซึ่งพ่อเดชก็ตอบในสิ่งที่นางคิดเอาไว้ไม่มีผิด
“วันนั้นลูกถูกผูกผ้าปิดตาเอาไว้ จึงไม่ได้เชยชมเรือนร่างของคุณแม่อย่างเต็มที่ แลต้องแสร้งทำเป็นว่ากำลังเสพสังวาสกับผู้อื่นอยู่ คราวนี้ลูกขอเป็นฝ่ายกระทำให้คุณแม่โดยมิต้องมีสิ่งใดปิดบังอีก และขอให้เป็นการร่วมเสพสังวาสระหว่างแม่กับลูกจริงๆ มิต้องคิดว่าเป็นผู้ใด”
คุณหญิงจำปาฟังที่พ่อเดชพูดจบก็ถึงกับหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก เพราะนางกำลังจะโดนลูกชายแท้ๆอีกคนร่วมเสพสังวาส คราวนี้นางคงไม่ต้องอดกลั้นเก็บเสียงไว้อย่างเมื่อครั้งกระโน้นอีกต่อไปแล้ว ยิ่งคิดน้ำรักในรูหีก็ถูกขับออกมารอท่าจนฉ่ำเยิ้มไปทั้งร่อง
“แต่แม่แก่แล้ว ไม่ได้เป็นดังเช่นสาวๆเหมือนอย่างวันนั้นแล้วนะลูก”
“จะแก่จะสาวอย่างไร สำหรับลูกนี่เป็นครั้งแรกที่จะได้เห็นเนินนมและโคกสวาทของคุณแม่ด้วยตาตัวเอง ไม่ว่ามันจะมีรูปร่างหน้าตาอย่างไรลูกก็มิคิดรังเกียจหรอกขอรับ”
พูดจบพ่อเดชก็เปลื้องผ้าของคุณหญิงจำปาออกโดยง่าย นางมิได้ขัดขืนลูกชายแต่อย่างใด กลับโอนอ่อนผ่อนตามและช่วยเขาปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออกด้วยความยินดี เรือนร่างของนางจึงปรากฏแก่สายตาของลูกชายในที่สุด
“งดงามมากขอรับคุณแม่ ลูกคิดไว้ไม่ผิด ว่าคุณแม่ต้องมีรูปร่างที่งดงามเช่นนี้”
แม้จะรู้ตัวเองดีว่า รูปร่างของนางในเวลานั้นมิได้สมบูรณ์พร้อมเหมือนเมื่อก่อน หากเป็นเพียงคำกล่าวเอาอกเอาใจของลูกชายต่างหาก แต่นางก็อดปลาบปลื้มใจมิได้กับคำเยินยอเหล่านั้น จึงปล่อยให้พ่อเดชซุกไซร้สองเต้าอวบอิ่มไปมานั้นอย่างแสนเสน่หา
พ่อเดชยังคงจดจำรสสัมผัสจากหน้าอกคู่นี้ได้เป็นอย่างดี มาวันนี้หน้าอกอวบที่เขาเคยสัมผัสมีความหย่อนคล้อยลงไปบ้างตามวัยที่เพิ่มขึ้นของคุณหญิง หากแต่ความหยุ่นนิ่มเด้งสู้มือนั้นยังคงเหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน เขาขยำขยี้สองเต้าของคุณหญิงไปมาจนเนื้อนมปลิ้นไปปลิ้นมาตามซอกนิ้ว หากแต่พอปล่อยมือออกมันก็กระเด้งกลับคืนรูปดังเก่า ยิ่งทำให้พ่อเดชนึกสนุกละเลงลิ้นชิมรสพลางบีบขยำหน้าอกของนางอยู่เป็นนานสองนาน จนคุณหญิงจำปาอดรนทนไม่ได้ต้องผลักพ่อเดชออกแล้วลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ระหว่างขาของลูกชาย
จากนั้นคุณหญิงก็กระตุกชายโสร่งจนมันหลุดลงไปกองที่พื้น ควยดุ้นเดิมที่นางเคยให้บทเรียนรักครั้งแรกกับมันก็ดีดตัวออกเผยให้เห็นความใหญ่ยาวที่มีเพิ่มมากขึ้นกว่าวันวาน
“ตายแล้วพ่อเดช ควยลูกจะใหญ่โตไปถึงไหนนี่ เหมือนมันจะใหญ่ขึ้นผิดไปจากที่แม่จำได้เสียด้วย”
คุณหญิงจำปาเอ่ยชมควยของลูกชายขึ้นมาอย่างปลาบปลื้ม
“มิผิดขอรับคุณแม่ ควยของลูกก็เติบใหญ่ขึ้นตามวัยเช่นกัน แลบัดนี้มันผ่านการเสพสังวาสกับแม่หญิงมาหลายผู้ จนมันมิใช่ควยอันเดิมที่ไม่ประสีประสาอีกต่อไป ลูกเชื่อว่ามันมีดีพอที่จะส่งคุณแม่ขึ้นสวรรค์จนสลบเหมือดไปดังเช่นที่ลูกเป็นในวันนั้นเช่นกัน”
ยิ่งได้ฟังพ่อเดชโอ้อวดสรรพคุณถึงขนาดนั้น ร่องรักของคุณหญิงจำปาก็ยิ่งขมิบหลั่งน้ำรักออกมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นางเริ่มคันยุบยิบในรูหีมากขึ้นทุกทีๆ แต่ก่อนจะรับท่อนควยอันนี้เข้าไปในหีของนาง ยังมีอีกเรื่องนึงที่นางต้องทำเสียก่อน คุณหญิงจำปาจึงรีบคว้าควยดุ้นใหญ่อันนั้นเข้ามาอยู่ระหว่างร่องอกแล้วใช้สองเต้าบีบรัดมันไว้ดังเช่นคราวแรกที่ทำกัน
“แม่เองก็เรียนรู้อะไรเพิ่มมาตั้งหลายอย่างเช่นกัน และแม่จะทำให้ลูกดูว่าไม่ใช่แค่ลูกคนเดียวหรอกหนาที่ช่ำชองขึ้นแต่เพียงผู้เดียว”
พูดจบนางก็ก้มลงไปใช้ปากครอบอมดุ้นควยของพ่อเดชที่โผล่พ้นร่องอกของนางขึ้นมา แล้วใช้ลิ้นตวัดเลียเล่นกับรูฉี่ที่ปลายควย พยายามแซะลิ้นลงไปในรูนั้นจนพ่อเดชถึงกับสูดปากครางด้วยความเสียว แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่มีผู้อื่นใช้ปากดูดอมท่อนควยให้เขา เพราะแม่การะเกดก็เคยทำให้เขามาก่อนแล้ว แต่เพราะคนที่กำลังอมควยของเขาอยู่ตอนนี้คือแม่บังเกิดเกล้าของตนเอง มันยิ่งทำให้เขารู้สึกเสียวยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ
พ่อเดชปล่อยให้คุณหญิงจำปาเพลิดเพลินกับท่อนควยของเขาอย่างเต็มที่ จนทั่วทั้งเนินออกของนางชุ่มไปด้วยน้ำลายและน้ำเงี่ยนบางส่วนที่เล็ดรอดออกมาจากปลายท่อนควยของเขา จากนั้นเขาจึงพยุงร่างนางขึ้นมานอนบนเตียงดังเดิม แล้วเลื่อนกายลงไปแหวกขาของคุณหญิงออก จากนั้นก็ซุกหน้าเข้ากับเนินหีของนาง แล้วใช้ลิ้นตวัดเลียชิมรสน้ำหีของนางทันที
“ซี้ด...พ่อเดช เสียวอะไรอย่างนี้ ไยลูกจึงกล้าเลียของสงวนของแม่เช่นนี้เล่าพ่อเดช”
“คุณแม่ยังยังดูดควยให้ลูกเลยมิใช่หรือขอรับ อีกอย่าง..คุณแม่เรียกของสงวนของคุณแม่ว่าหีก็ได้ขอรับ มิต้องกระดากอายกระไรอีก เราสองแม่ลูกไม่จำเป็นต้องมีสิ่งใดปิดบัง รู้สึกเช่นไรก็พูดออกมาตรงๆเลยขอรับ”
“ซี้ด...ลูกคนนี้นี่ เลียหีแม่จนแม่เงี่ยนไปหมดแล้ว...อูว...เมื่อไหร่จะเย็ดแม่เสียที แม่อยากได้ควยของลูกใจจะขาดแล้วหนาพ่อเดช”
คุณหญิงจำปาเลิกใช้คำอ้อมค้อม หันมาพูดตรงๆจนทั้งนางและพ่อเดชต่างยิ่งรู้สึกกำหนัดในกายมากขึ้นไปอีก หีของคุณหญิงจำปามีน้ำเมือกล้นทะลักออกมาจนปากและจมูกของพ่อเดชเปียกคราบน้ำเหล่านั้นเป็นมันวาว
จนเมื่อเห็นว่าความเงี่ยนของคุณหญิงสุกงอมเต็มที่แล้ว พ่อเดชก็เลื่อนตัวขึ้นทาบทับ จับควยยาวอวบนั้นจ่อไปที่ร่องรูหีของนางแล้วค่อยๆกดมันลงไปช้าๆ จากนั้นก็ส่ายสะโพกควงเป็นวงกลม แทงทแยงซ้ายทีขวาที สลับกับโหมกระแทกเข้าไปเต็มแรงเป็นระยะๆ ลีลาของพ่อเดชดูพลิ้วไหวช่ำชองไม่เหมือนสมัยยังเป็นวัยรุ่น ที่เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตากระแทกอย่างรุนแรงอย่างเดียว แต่กลับมีชั้นเชิงหนักบ้างเบาบ้าง จนคุณหญิงจำปาถึงกับเสียวซ่านจนสติกระเจิดกระเจิง ร้องครวญครางดีดดิ้นไม่เป็นท่า
“โอว...ซี้ด...พ่อเดชลูกแม่ เก่งเหลือเกินลูก ทำเอาแม่เสียวไปทั้งตัวแล้ว...ซี้ด...ลูกจ๋า แม่เสียวหีเหลือเกิน ควยลูกทำเอาแม่แทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว”
คุณหญิงจำปาส่ายร่อนเอวจนสะโพกแทบไม่ติดเตียง มือโอบรอบคอของพ่อเดชไว้แน่นแล้วโน้มคอเขาลงมาจูบปากแลกลิ้นอย่างดูดดื่ม พ่อเดชเองก็ตอบสนองคุณหญิงอย่างสุดฝีมือ ทุกกลเม็ดที่เขามีก็งัดออกมาใช้ปรนเปรอคุณหญิงจนหมด จนคุณหญิงน้ำแตกซ่าขึ้นไปสวรรค์ไปติดๆกันถึงสองครั้ง แต่พ่อเดชก็ยังกลั้นเอาไว้แล้วซอยควยเย็ดคุณหญิงอย่างต่อเนื่องไม่ยอมหยุดพัก
“โอว...ซี้ด...พ่อเดชลูกแม่ แม่เสียวเหลือเกิน จนจะหายใจไม่ทันอยู่แล้ว เบาๆก่อนก็ได้ลูก...โอว...ว้าย...ซี้ด...แม่ถึงอีกแล้ว..ถึงอีกแล้ว....อ๊า”
แม้จะขอร้องเพียงใด แต่พ่อเดชก็ยังตั้งหน้าตั้งตาขโยกท่อนควยเย็ดรูหีของคุณหญิงจำปาอย่างไม่มีทีท่าจะเหน็ดเหนื่อย จนความเสียวเล่นงานคุณหญิงอย่างต่อเนื่องเป็นรอบที่สาม เขาจึงค่อยผ่อนจังหวะลงเพื่อพักหายใจชั่วขณะ
ทันใดนั้นเองคุณหญิงก็เป็นฝ่ายพลิกกลับมาคร่อมทับตัวพ่อเดชบ้าง นางถูกเขาใช้ชั้นเชิงเล่นงานจนนางเสียท่าน้ำแตกไปหลายครั้งแล้ว คราวนี้คุณหญิงจึงขอเป็นฝ่ายรุกบ้าง ลีลาที่คุณหญิงจดจำมาจากแม่การะเกดก็ได้งัดออกมาใช้ตอนนี้เอง แม้จะดูเงอะงะไปบ้าง แต่พอจับท่อนควยสอดเข้าตรงร่องรูหีได้ คุณหญิงจำปาก็กดสะโพกลงมาแบบสุดแรงเกิด จนท่อนควยทิ่มพรวดเข้าไปยันปากมดลูก เล่นเอาคุณหญิงถึงกับจุกจนร้องไม่ออก แต่เพียงครู่เดียวนางก็เริ่มวาดลวดลายควบม้าพยศอย่างพ่อเดชจนเขาได้แต่นอนนิ่งๆสูดปากครางอู้ด้วยความเสียว
พ่อเดชจ้องมองหน้าอกของคุณหญิงจำปาที่กระเพื่อมขึ้นลงตามแรงกระเด้าแล้วก็อดใจไม่ไหว ต้องเอื้อมมือไปประคองแล้วบีบเคล้นมันไปพร้อมๆกัน ยิ่งเร้าอารมณ์ของคุณหญิงให้โหมกระพือมากขึ้นไปอีก นางจึงลืมตัวขย่มเอวใส่ควยของพ่อเดชอย่างไม่คิดชีวิต สุดท้ายแทนที่นางจะควบจนพ่อเดชน้ำแตก แต่กลับเป็นนางเสียเองที่ถึงสวรรค์ไปเป็นรอบที่สี่
พ่อเดชเห็นคุณหญิงจำปาเสร็จไปอีกครั้งเขาจึงพลิกเปลี่ยนท่าใหม่อีกรอบ คราวนี้เขาจับให้คุณหญิงอยู่ในท่าคลานสี่ขาเหมือนสุนัข จากนั้นก็สอดใส่จากทางด้านหลังแล้วกระเด้าเอวอย่างแรงต่อเนื่องจนแก้มก้นของคุณหญิงกระเพื่อมเป็นคลื่น คุณหญิงเองเพิ่งเคยเจอการเสพสังวาสในท่าพิสดารนี้เป็นครั้งแรกก็ถึงกับไปไม่เป็น ท่อนควยของพ่อเดชที่ยาวอยู่แล้ว ยิ่งมาอยู่ในท่านี้ยิ่งทะลวงลึกเข้าไปถึงไหนต่อไหน จนนางได้แต่หลับหูหลับตาครางอย่างเสียวซ่าน มือไม้จิกเกร็งจนหงิกงอ จนในที่สุดนางก็ทนอีกต่อไปไม่ไหว ทะลักน้ำเสียวหลั่งออกมาอย่างเนืองนองเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมๆกับที่พ่อเดชอัดกระแทกสะโพกเข้าไปจนหนอกควยแนบสนิทกับก้นของนาง จากนั้นก็ฉีดน้ำกามจำนวนมหาศาลวิ่งเข้าสู่โพรงสังวาสของคุณหญิงจำปาอย่างเนืองแน่นล้นทะลักไหลย้อนออกมาทางปากรู
สุดท้ายพ่อเดชก็ก้มลงไปกระซิบข้างหูคุณหญิงจำปาที่นอนคว่ำหน้าหายใจหอบอย่างเหนื่อยอ่อน
“ลูกได้ทำหน้าที่ของลูกเสร็จสมบูรณ์แล้วนะขอรับ จากนี้ไปลูกคงไม่อาจล่วงเกินคุณแม่ได้อีก แม้ว่าอยากจะทำจนแทบขาดใจเพียงใดก็ตาม เพราะจากนี้ไปคนที่ลูกจะร่วมสังวาสด้วยมีเพียงแม่การะเกดที่ลูกรักมากที่สุดเท่านั้น ลูกขอให้คุณแม่จดจำความสุขที่ลูกมอบให้ในวันนี้ไปอีกนานเท่านานนะขอรับ”
คุณหญิงจำปาได้ฟังที่พ่อเดชพูดดังนั้นก็ยิ้มอย่างมีความสุข จึงได้พยักหน้าตอบเขาไปก่อนจะผล็อยหลับลงอย่างอ่อนแรงโดยที่ยังมิได้สวมใส่เสื้อผ้าคืนดังเดิม ทั้งน้ำเงี่ยนของพ่อเดชก็ยังคาอยู่ในรูหีเช่นนั้นจนเช้าตรู่ของอีกวันต่อมา

ภายนอกห้องนอนของคุณหญิงจำปา ปรากฏร่างของแม่การะเกดที่ยืนแอบฟังคู่แม่ลูกโล้สำเภากันอย่างเมามัน พลางนึกไปถึงถ้อยคำสุดท้ายที่ศรีปราชญ์กระซิบบอกนางก่อนจะเดินทางกลับเมืองนครฯ
‘หากเกรงว่าคุณหญิงจำปาจะมิมีผู้ใดคลายเหงา ออเจ้าลองไปขอร้องพ่อเดชดูสิ พ่อเดชเองก็เคยโล้สำเภากับคุณแม่ของข้าเช่นกัน แม้ว่าครานั้นด้วยอุบายของข้าจะทำให้พ่อเดชไม่รู้ตัวว่ากระทำอยู่กับผู้ใด แต่ข้าเชื่อว่าพ่อเดชคงไม่รังเกียจที่จะสร้างความสุขให้แก่คุณแม่หรอกหนา’
แม่การะเกดนึกถึงคำของศรีปราชญ์จบแล้วก็พูดกับตัวเองขึ้นมาลอยๆ
“คุณพี่นะคุณพี่ เอาเป็นว่าข้าจะยกโทษให้ก็แล้วกัน เห็นแก่ที่ท่านทำหน้าที่ลูกกตัญญูเป็นครั้งสุดท้าย แต่หากท่านคิดว่าแต่งงานออกเรือนกันไปแล้วจะโล้สำเภาอยู่แต่กับข้าเพียงผู้เดียว ขอเตือนไว้ก่อนเลยนะว่าท่านคิดผิด รับรองเลยว่าหล่อล่ำหำตุงลีลาดีอย่างคุณพี่เนี่ย เมียเดียวคงยังไม่หนำใจหรอกกระมัง มันต้องสามรุมหนึ่งถึงจะเอาอยู่ จริงมั้ยพวกเรา”
พูดจบนางก็หันไปมองอีกสองคนที่ยืนอยู่ในเงามืดด้านหลัง ก่อนที่ทั้งคู่จะก้าวขาออกมา เมื่อแสงจันทร์ส่องกระทบใบหน้า จึงได้เห็นว่าทั้งสองนางนั้นเป็นผู้ใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น