วันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

บุพเพสันนิวาส ภาคพิสดาร



“คุณลุงเจ้าคะ ห้าบาทคืออะไรหรือเจ้าคะ” เสียงใสๆของ ’การะเกด’ เอ่ยถามออกญาโหราธิบดีผู้เป็นเสมือนลุงของเธออย่างฉงนสงสัย เนื่องจากคุณพี่หมื่นของเธอได้ออกคำสั่งให้ไอ้จ้อยไปเตรียมเรือ อีกห้าบาทเขาจึงจะไป ทำให้หล่อนไม่เข้าใจความหมายและนำมาถามคุณลุงในห้องหนังสือ
ออกญาโหราธิบดีมองหน้าหลานสาวด้วยความฉงน ว่าเหตุใดหล่อนจึงมิเข้าใจความหมายของคำพื้นๆในภาษาอยุธยาเยี่ยงนี้
“ข้าลืมเจ้าค่ะ คงเป็นเพราะมนต์กฤษณะกาลีของคุณลุง” การะเกดยิ้มแห้งๆแก้ตัวแบบน้ำขุ่นๆ
“ออเจ้าใช้ความจำ แล้วคิดให้ออก” ท่านออกญาหาได้ตอบคำถามไขข้อสงสัยแก่แม่การะเกดไม่
การะเกดพลางนึกสงสัยยิ่งนักแต่ก็มิกล้าเอ่ยถามอันใดต่อ ได้แต่ทำหน้านิ่วครุ่นคิดอย่างไม่เข้าใจในความหมายของคำนั้น โดยที่ท่านออกญาฉวยเอาจังหวะนี้เพิ่งพินิจพิจารณาในเรือนร่างของหลานสาวตัวเองอย่างมีเลศนัย จะว่าไปแล้วหากเขามิได้เอ่ยปากให้คำมั่นแก่พระยารามณรงค์ บิดาของหญิงสาวคนนี้ก่อนที่จะสิ้นชีพแล้วว่าจะให้ตบแต่งแก่บุตรชายของเขาในอนาคต เขาตั้งใจจะรับนางมาเป็นภริยารอง ต่อจากแม่หญิงจำปาเมียเอกของเขาเป็นแม่นมั่น ด้วยรูปร่างหน้าตาคมคายราวกับนางฟ้านางสวรรค์ ทรวดทรงองค์เอวสะโอดสะองราวกับนางกินรีจากป่าหิมพานต์ หน้าอกหน้าใจที่ถูดรัดรึงภายใต้ผ้าผ่อนท่อนสไบนั้นช่างน่าขยำขยี้ให้สาแก่ใจยิ่งนัก ยิ่งเพ่งมองเรือนร่างของนางแล้วก็ยิ่งอดใจไม่ไหว เสากระโดงเรือสำเภาภายใต้โจงกระเบนของท่านออกญาค่อยๆตั้งลำขึ้นมาอย่างช้าๆ หากเขาจำมิผิด พ่อเดชลูกชายเขากำลังจะออกจากเรือนไปหาอาจารย์ชีปะขาวที่วัดพุทไธสวรรย์ ส่วนแม่จำปาคงกำลังกำกับบ่าวไพร่จัดเตรียมสำรับอยู่ในครัวด้านล่าง ทำให้บนเรือนนี้นอกจากไอ้ม่วง บ่าวคนสนิทของเขาแล้ว คงไม่มีบ่าวไพร่คนอื่นอยู่เกะกะแผนการอันแยบคายในหัวของเขาเป็นแน่ คิดได้ดังนั้นจึงเอ่ยปากบอกบ่าวคนสนิทของเขาเป็นสัญญาณ
“ไอ้ม่วง เอ็งจงไปส่งข่าวแก่พระยาท้ายน้ำว่า ข้าเห็นนิมิตไม่ดีบางอย่าง อยากจะขอไปตรวจดวงชะตาของท่านวันมะรืนนี้ สะดวกหรือไม่ แล้วค่อยกลับมาบอกข้า”
ไอ้ม่วงได้ฟังดังนั้นก็เข้าใจความหมายของผู้เป็นนายได้ทันที ความจริงแล้วท่านออกญามิได้อยากจะไปตรวจดวงชะตาผู้ใดก่อนหากมิได้มีการร้องขอ แต่หากท่านเอ่ยปากให้มันออกจากเรือนไปแจ้งเรื่องตรวจดวงชะตาแก่ผู้ใด นั่นแปลว่าท่านออกญาต้องการอยู่กับไพร่ทาสสาวๆในเรือนตามลำพังเพื่อจับนางทำเมียเสียเท่านั้น หากแต่ครานี้หญิงสาวที่ท่านออกญาหมายจะจับปล้ำทำเมียเป็นถึงหลานสาวแท้ๆแลคู่หมายของบุตรชายของท่านอีกต่างหาก แต่นั่นก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของบ่าวอย่างมัน แค่ลงไปเตร็ดเตร่กินสุราแถวตลาดซักสองสามชั่วยามแล้วค่อยกลับเรือนมาหลังจากท่านออกญาเสร็จกิจก็พอ คิดได้ดังนั้นแล้วมันจึงรับคำก่อนจะลงจากเรือนไป
อันที่จริงแล้วห้องหนังสือของออกญาโหราธิบดีนั้น เป็นที่รู้กันทั้งเรือนว่า หากไม่มีคำสั่งจากท่านออกญา ก็ห้ามมิให้ผู้ใดย่างกรายเข้าไปข้างในห้องอ่านหนังสือโดยเด็ดขาด มีเพียงไอ้ม่วงคนเดียวเท่านั้นที่ท่านออกญาไว้ใจให้เข้ามารับใช้ใกล้ชิดได้ แม้กระทั่งแม่หญิงจำปาเองก็ยังเกรงใจ มิเคยก้าวล้ำเข้าไปเลยสักครั้ง แต่วันนี้เขาได้มีโอกาสอยู่กันเพียงลำพังกับหลานสาวสองต่อสอง นั่นแปลว่าบรรยากาศช่างเป็นใจยิ่งนัก
“คุณลุงเจ้าขา นั่นหนังสือจินดามณี หนังสือที่คุณลุงเขียนใช่มั้ยเจ้าคะ” หญิงสาวถามขึ้นเมื่อเห็นสิ่งที่เขากำลังทำอยู่
“ออเจ้าพูดแปร่งหูพิกล แต่ก็ใช่ ข้าเขียนหนังสือพวกนี้เอง มีข้อสงสัยอันใดงั้นรึ” ท่านออกญาตอบ
“ข้าขออ่านได้มั้ยเจ้าคะ”
“อืม เอาไปสิ” ท่านออกญาตอบ พลางหยิบหนังสือเล่มหนึ่งในกองหนังสือตรงหน้าส่งให้หลานสาว พลันแผนการเผด็จสวาทก็แล่นวาบขึ้นมาในหัว
การะเกดรับหนังสือมาอ่านด้วยกิริยาดีใจจนออกนอกหน้า นางพลิกหนังสือไปมาพลางอ่านอย่างสนอกสนใจเป็นที่สุด ท่านออกญาเมื่อเห็นดังนั้นก็คอยเวลาสักครู่จนนางอ่านจบเล่มแล้วจึงเอ่ยว่า
“แม่การะเกด ลุงยังมีหนังสือที่เคยแต่งเอาไว้อีกมากในหอหนังสือ หากออเจ้าสนใจลุงจักอนุญาตให้ออเจ้าเข้าไปหยิบอ่านได้เป็นกรณีพิเศษ หากแต่วันนี้ข้าจะพาเจ้าเข้าไปเลือกดูก่อน ออเจ้าสนใจหรือไม่”
“สนใจเจ้าค่ะคุณลุง สนใจสุดๆไปเลยเจ้าค่ะ คุณลุงพาข้าไปดูเถอะนะเจ้าคะ” การะเกดตอบรับคำอย่างตื่นเต้น
ท่านออกญาจึงพาแม่การะเกดเข้ามายังหอหนังสือ เมื่อเข้าไปการะเกดก็พบหนังสือมากมายบนชั้นวาง หญิงสาวจึงหยิบเล่มนั้นมาอ่านที เล่มนี้มาอ่านทีอย่างสนใจใคร่รู้ หากแต่เมื่อกำลังจดจ่ออยู่กับหนังสือตรงหน้านั้นเอง ก็มีสองมือหยาบเอื้อมมาจากด้านหลังและขยำหน้าอกของหล่อนเข้าอย่างเต็มกำมือ
“ว้าย คุณลุง คุณลุงจะทำอะไรเจ้าคะ” การะเกดตกใจพลันสะบัดตัวหนีทันที
“แม่การะเกด ลุงมาคิดๆดูแล้ว พ่อเดชลูกชายของลุงก็มิใคร่สนใจในตัวของหลานเท่าใดนัก ดังนั้นลุงจักคิดรับเจ้ามาเป็นเมียอีกคนนึง ออเจ้าว่าดีหรือไม่” ออกญาเฒ่าเริ่มยิ้มกรุ้มกริ่มออกลายเจ้าเล่ห์
“คุณลุง!! คุณลุงวิปลาสไปแล้วหรือเจ้าคะที่บอกว่าจะเอาข้าทำเมีย ข้าเป็นคู่หมายของคุณพี่หมื่นนะเจ้าคะ แถมยังเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทของลุงอีกด้วย”
“ก็นั่นไงแม่การะเกด บัดนี้พระยารามณรงค์เพื่อนลุงก็หาชีวิตไม่แล้ว เจ้าก็เป็นกำพร้าเสียเช่นนี้ หากลุงไม่ไปรับเจ้ามาจากเมืองสองแคว ป่านนี้เจ้าคงมิได้อยู่อย่างสุขสบายดังเช่นทุกวันนี้หรอก จะกลายเป็นเมียของใครลุงก็มิรู้ได้” ออกญาเฒ่าร่ายยาวทวงบุญคุณ ซึ่งก็เป็นจริงดังคำท่านทุกประการ ชะตากรรมของครอบครัวขุนนางที่เสียชีวิตไป หากไม่มีลูกชายที่รับราชการสืบต่อจากบิดาอยู่ก่อน ก็จะต้องถูกยึดคืนเข้าหลวงทั้งหมดทั้งสิ้นไม่ว่าสมบัติแลบ่าวไพร่ เหล่าเมียหม้ายทุกคนของขุนนางผู้นั้นจักต้องไปทำงานเป็นข้าหลวงในวัง ส่วนลูกสาวที่ยังมิได้ออกเรือน หากเป็นที่ต้องตาของขุนหลวงก็จะกลายไปเป็นนางสนม หาไม่แล้วก็จะต้องถูกพระราชทานให้ขุนนางซักคนเป็นแน่
“แต่ข้าไม่ยอมเป็นเมียของคุณลุงแน่นอนเจ้าค่ะ” แม่การะเกดพูดจบก็วิ่งสไบปลิวออกจากห้องไปทันที พลันเมื่อก้าวเท้าพ้นประตูก็นิ่งงันชะงักไปดื้อๆ
“อ้าว แม่การะเกด ออเจ้ามัวรีรออะไรอยู่ ทำไมไม่เข้ามาเลือกดูหนังสือที่อยากอ่านล่ะ” ออกญาเฒ่าพูดพร้อมอมยิ้มมุมปาก อันที่จริงหอหนังสือของเขาได้กางข่ายอาคมเอาไว้แล้ว หากมีผู้ใดเข้ามาในหอนี้ เมื่อก้าวออกจากห้องไปก็จะถูกอาคมทำให้จำความไม่ได้ ไม่ว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้นในนี้ก็จักลืมหมดสิ้น แม่การะเกดก็ต้องอาคมนี้เข้าเต็มๆ เมื่อหญิงสาวพ้นประตูห้องไปก็จำได้แค่เพียงว่าตัวเองกำลังจะเข้าไปดูหนังสือของคุณลุงเท่านั้น
“เจ้าค่ะคุณลุง” หญิงสาวรับคำแล้วหมุนตัวเดินกลับเข้าหอหนังสือไปอีกครั้ง หากแต่ครานี้ท่านออกญารู้แล้วว่าหลานสาวผู้เลอโฉมของเขาคงมิยินยอมพร้อมใจเป็นเมียของเขาเป็นแน่ จึงพนมมือร่ายมนต์พึมพำอยู่ครู่หนึ่งแล้วเดินเข้าไปเป่าคาถาใส่หน้าแม่การะเกดที่ไม่ทันตั้งตัว หญิงสาวจึงนิ่งงันไปทันทีด้วยฤทธิ์อาคม
“ออเจ้าจงถอดสไบแลผ้านุ่งออกให้ลุงได้ดูเรือนร่างของเจ้าเถิด” ออกญาเฒ่าออกคำสั่ง
“เจ้าค่ะคุณลุง” หญิงสาวรับคำแล้วเปลื้องสไบออกโดยมิได้ขัดขืนใดๆ ด้วยมนตราที่ท่านออกญาร่ายใส่นั้นมีฤทธิ์ทำให้ผู้ต้องมนต์มิอาจขัดขืนคำสั่งของผู้ร่ายได้ เมื่อสไบท่อนบนหลุดออก ปทุมถันคู่งามขนาดกำลังเหมาะมือ มีป้านสีน้ำตาลอ่อนอยู่บนยอดถัน ก็ปรากฏแก่สายตาของผู้เป็นลุง สร้างความตื่นตะลึงในความงดงามนั้นแก่เขายิ่งนัก ต่อจากสไบ การะเกดก็ปลดปมผ้านุ่งของตนเองออกจนหล่นลงไปกองอยู่ที่เท้า สะโพกอวบอั๋น ผิวพรรณขาวผ่องที่เห็นนั้นนวลเนียนตายิ่งนัก หากแต่ออกญาเฒ่าพลันต้องแปลกใจด้วยเห็นผ้าผืนน้อยสีแดงที่ปกปิดส่วนสงวนของหลานสาวอยู่นั้น เขาไม่เคยพบเห็นจากเมียคนไหนมาก่อน
“แม่การะเกด ผ้านุ่งผืนน้อยชิ้นนั้นที่ออเจ้าสวมอยู่มันคือกระไรกัน ข้ามิเคยเห็นผู้ใดสวมใส่มาก่อน”
“มันคือกางเกงในเจ้าค่ะ ข้าเย็บใส่เองเจ้าค่ะ” แม่การะเกดตอบ แต่สายตายังเหม่อลอยด้วยอำนาจมนต์
“กางเกงใน...งั้นรึ ข้ามิเคยรู้จัก แต่ถึงอย่างนั้นออเจ้าก็จงถอดมันออกเถิด ข้าอยากเห็นนาผืนน้อยของเจ้าเต็มแก่แล้ว” พูดจบหญิงสาวก็ดึงขอบกางเกงในลงไปจนถึงข้อเท้า เรือนร่างเปลือยเปล่าไร้สิ่งใดปิดบังจึงปรากฏอยู่ตรงหน้าออกญาเฒ่า หลานสาวของเขาช่างงามราวกับเทพธิดาจำแลง ผิวขาวปานหยวก เต้านมกลมกลึงขนาดพอเหมาะ เอวคอดกิ่วรับกับสะโพกผายได้สัดส่วน นาผืนน้อยตรงหว่างขาก็มีพงหญ้าปกคลุมเพียงรำไร กลีบทั้งสองเบียดชิดสนิทกันจนเห็นเป็นเส้นตรงไม่มีติ่งใดยื่นแพลมออกมาให้เห็น เขาอดใจไม่ไหวต้องเอื้อมมือไปลูบคลำเต้านมตรงหน้าอย่างทะนุถนอม แล้วก็อ้าปากงับเข้าไปครึ่งเต้าพลางตวัดลิ้นเลียหัวนมรัวๆ แม่การะเกดสะดุ้งด้วยความเสียวยื่นแอ่นหน้าอกบิดส่ายไปมาแต่ก็หาได้ปัดป้องการกระทำของคุณลุงไม่
“อุ๊ย...ซี้ดๆๆ คุณลุงขา ข้าเสียว อูย เบาๆค่ะคุณลุง”
“ออเจ้ามานอนตรงนี้ก่อนเถิดหนา” ออกญาเฒ่าจูงมือหลานสาวมาที่ตั่งตรงมุมห้องซึ่งปูฟูกไว้อย่างดี (ตั่ง คือ ม้านั่งยาวขนาดใหญ่ ทำด้วยไม้ หากนึกภาพไม่ออก ให้นึกถึงตรงที่แม่การะเกดไปนอนทาไพลหลังจากถูกเฆี่ยน : ผู้เขียน) ตั่งตัวนี้เป็นที่ที่เขาใช้โล้สำเภากับบ่าวไพร่สาวๆในเรือนมาไม่รู้กี่คนต่อกี่คนจนมีลูกวิ่งเต็มเรือนแล้ว บัดนี้ถึงทีของหลานสาวผู้งดงามจะต้องมานอนพลีกายให้เขาเชยชมอีกคน เมื่อหญิงสาวทิ้งตัวลงนอนแล้ว ออกญาเฒ่าก็ออกคำสั่ง
“ออเจ้าแยกขาออก แล้วเอามือจับหัวเข่าของตนเองไว้” การะเกดจึงกางขางอเข่าแล้วเอามือสอดไปรั้งใต้เข่าของตัวเองไว้ ท่านี้ทำให้กลีบแคมของเธอแหกอ้าออกสุดๆจนเห็นอะไรต่อมิอะไรข้างในจนหมดสิ้น คุณลุงของเธอก้มลงเพิ่งพินิจมองร่องรูของหล่อนอย่างใกล้ชิดจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ราดรดลงมาบนเนินของหล่อน แม้จะอยู่ในท่าที่แหกขาออกสุดๆ แต่รูสังวาสของหญิงสาวก็เผยอออกมาเพียงเล็กน้อย ภายในยังมีเยื่อพรมจรรย์บุอยู่อย่างแน่นหนาบ่งบอกถึงความเป็นกุลสตรีที่มิเคยต้องมือชายใดมาก่อน แน่ล่ะลูกสาวพระยานาหมื่นอย่างหล่อนย่อมต้องมิเคยผ่านการหลับนอนกับผู้ใดมาก่อนเป็นแน่
“คุณลุงเจ้าขา ข้ารู้สึก...กระดากเหลือทนเจ้าค่ะ” หญิงสาวรู้สึกอายยิ่งนักที่ถูกจ้องมองส่วนสงวนเช่นนี้
“เจ้ากระดากด้วยรึ” ผู้เป็นลุงแปลกใจ ด้วยมนตราที่เขาใช้นี้จะลบล้างความรู้สึกของเหยื่อจนหมดสิ้น บ่าวที่เคยโดนมนต์นี้ก็ทำได้แต่นอนนิ่งๆให้เขาเสพสมบนร่างกายเท่านั้น จะหาคำพูดใดๆที่หลุดออกจากปากดังเช่นแม่การะเกดนั้นก็มิเคยมี แสดงว่าจิตของแม่การะเกดนั้นกล้าแข็งยิ่งนักจนอำนาจมนต์ของเขามิอาจสะกดใจของหล่อนได้ทั้งหมด แต่นั่นกลับทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นเมื่อเห็นท่าทีตอบสนองของหล่อนเฉกเช่นหญิงสาวทั่วไป หาใช่ท่อนไม้ที่ถูกสะกดมาให้ขืนใจไม่
“เจ้าค่ะ กระดากมากเจ้าค่ะ”
“แล้วเป็นอย่างไรเล่า บอกให้ลุงฟังหน่อย”
“ข้า..เหมือนฉี่จะราด หอยของข้า...มีแต่น้ำเจิ่งนองไปหมด”
“เจ้าเรียก...ตรงหว่างขาของเจ้าว่ากระไรนะ” ออกญาเฒ่าถามอย่างสงสัย
“หะ..หอยเจ้าค่ะ” แม่การะเกดตอบ ใบหน้าแดงซ่านด้วยความอาย
“ภาษาเมืองสองแควรึ ข้ามิเคยได้ยินมาก่อน”
“แล้วภาษาอยุธยาต้องพูดว่าอย่างไรเจ้าคะ”
“เจ้าต้องเรียกตรงนี้ว่า หี เข้าใจหรือไม่” ออกญาเฒ่าพูดพลางใช้นิ้วสอดเข้าไปในรูสังวาสของหล่อน
“อุ๊ย...ซี้ด...เจ้าค่ะ เรียกหีก็ได้เจ้าค่ะ หีของข้าแฉะไปหมดแล้ว คุณลุงอย่าจิ้มแรงนักสิเจ้าคะ ข้าเสียว”
ออกญาเฒ่ายิ้มอย่างพึงพอใจที่หลานสาวเอ่ยออกมาตรงๆเช่นนี้ อันที่จริงคำนี้มิมีหญิงใดในพระนครกล้าพูดออกมาหรอก เพราะทุกคนล้วนกระดากเกินกว่าจะเอ่ยเป็นคำพูด ขนาดในหญิงงามเมืองในโรงชำเราแถวตลาดบ้านจีนยังมิเคยพูดแลเลี่ยงไปใช้คำว่ารูของข้าแทนด้วยซ้ำ พอได้ฟังหญิงผู้ดีเช่นแม่การะเกดกล่าวคำหยาบโลนเช่นนี้ ยิ่งปลุกให้กระโดงเรือสำเภาของเขาแข็งดั่งท่อนไม้ก็มิปาน
ท่านออกญาใช้ปากและลิ้นดูดเลียชิมรสสวาทจากปทุมถันทั้งสองข้างของแม่การะเกดอย่างหื่นกระหาย ส่วนมือข้างนึงก็ยังบี้คลึงเม็ดแตดแลเสียบนิ้วเข้าไปในช่องสังวาสเข้าๆออกๆจนมีความชื้นแฉะออกมาทั่วทั้งหว่างขา ช่องสังวาสของหลานสาวคนนี้นั้นตีบแคบยิ่งนัก แต่ด้วยความช่ำชองของเขาจึงรู้ว่าควรต้องทำอย่างไรจึงจะขยายช่องนี้ให้กว้างพอที่จะรองรับเสากระโดงของเขาได้ เขาจึงปลุกเร้าอารมณ์ของหลานสาวไปเรื่อยๆอย่างไม่รีบร้อน บีบคลึงเม็ดแตดไปพลางดูดนมไปพลางจนแม่การะเกดนอนดิ้นส่ายไปมาดั่งไส้เดือนถูกขี้เถ้า
“คุณลุงเจ้าขา ข้าจะทนไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ จะทำอะไรข้าก็ทำเถิดเจ้าค่ะ” แม่หญิงการะเกดร้องบอกผู้เป็นลุงอย่างหมดสิ้นความอดทน
“ถ้าเช่นนั้น ข้าจักพาเจ้าไปโล้สำเภาแล้วหนา” ออกญาเฒ่าควักเสากระโดงเรือออกมาเตรียมพร้อมใช้งาน
“จะโล้สำเภาหรือโล้เรือดำน้ำก็ตามใจคุณลุงเถิดเจ้าค่ะ ข้าเสียวจนจะทนไม่ไหวแล้ว”
ออกญาเฒ่าไม่เข้าใจความหมายคำที่หลานสาวพูดแต่ก็หาใส่ใจไม่ จับเสากระโดงเรือที่แข็งดั่งท่อนไม้เข้ากับหีที่แฉะเยิ้มทันที แล้วค่อยๆออกแรงกดช้าๆ ปลายเสานั้นปักเข้ากับรูสังวาสจนปริออกแทบฉีก แต่ด้วยความลื่นทำให้มันมุดเข้าไปช้าๆ หญิงสาวปวดแปลบจนหน้านิ่วสองมือจิกฟูกแน่น สองขาโอบรอบเอวผู้เป็นลุง จากนั้นก็กัดฟันหลับตาปี๋เมื่อท่อนลำนั้นเคลื่อนเข้าไปจนมิดหัวหยัก
“โอ๊ย...คุณลุงขา ข้าเจ็บ เอาออกก่อนได้มั้ยเจ้าคะ”
“ทนหน่อยนะหลานลุง อีกมินานเจ้าก็จะหายเจ็บแล้ว” ผู้เป็นลุงเอ่ยช้าๆและออกแรงกดท่อนควยลึกเข้าไปอีก เหงื่อพราวผุดเต็มใบหน้า ช่องสังวาสของหลานสาวผู้นี้ช่างรัดแน่นเสียจนเขาแทบทนไม่ได้เกือบจะหลั่งน้ำกามออกมาอยู่รอมร่อ แต่ด้วยญาณอันแก่กล้าทำให้เขาสูดลมหายใจตั้งสมาธิและสะกดกลั้นข่มความเสียวลงไปได้อักโข และเมื่อท่อนควยเคลื่อนผ่านได้ถึงครึ่งทาง เขาก็รู้สึกถึงบางอย่างที่ฉีกขาดออกดังกรึบในช่องสังวาสของหลานรัก บัดนี้พรมจรรย์ของหลานสาวได้ถูกผู้เป็นลุงอย่างเขาทะลวงจนขาดกระจุยเสียแล้ว
“โอ๊ย...เจ็บ...คุณลุง...ข้าเจ็บ ฮือๆๆๆ ไม่เอาแล้ว พอแล้ว” การะเกดร้องโอดโอยด้วยความเจ็ดปวด เลือดบริสุทธิ์ไหลเป็นทางออกมาจากช่องหว่างขาลงบนฟูกสีแดง อันที่จริงฟูกนี้อาจเคยเป็นสีอื่นมาก่อน แต่บัดนี้มันถูกเลือดสาวบริสุทธิ์หลายสิบชีวิตในเรือนนี้ที่เคยตกเป็นเมียของท่านออกญามาก่อน ย้อมจนกลายเป็นสีแดงไปหมดแล้ว
ออกญาเฒ่ารู้ดีว่าหลานสาวเจ็บปวดเพียงใด เขาจึงหยุดแช่ท่อนกระโดงสำเภาเอาไว้นิ่งๆสักพัก รอจนเสียงสะอื้นไห้เบาลงแล้ว จึงค่อยๆเคลื่อนสะโพกถอยหลังแลเดินหน้าช้าๆเบาๆไม่ให้แม่การะเกดทันรู้สึกเจ็บ เพียงครู่เดียวความเสียวก็เข้ามาแทนที่จนหญิงสาวสูดปากครวญครางอย่างลืมตัว
“ซี้ด...อูย...อา...เสียวเหลือเกิน”
“ออเจ้ายังเจ็บอยู่หรือไม่ แม่การะเกด” ออกญาเอ่ยถาม
“ไม่...ไม่เจ็บแล้วเจ้าค่ะ เสียวลูกเดียวเลยเจ้าค่ะ”
“ลูกเดียว...ลูกเดียวคือกระไรรึออเจ้า” อีกคำแล้วที่ออกญาฟังหลานสาวไม่เข้าใจ
“ก็เสียวนั่นแหละเจ้าค่ะคุณลุง คุณลุงกระแทกแรงๆเลยเจ้าค่ะ ข้าไม่เจ็บแล้ว” แม่การะเกดเร่งเร้าผู้เป็นลุงอย่างลืมตัวลืมอายเสียสิ้น ออกญาเฒ่าก็เร่งซอยสะโพกบดคลึงใส่หีแม่การะเกดอย่างเร็วจนเสียงเนื้อกระแทกเนื้อดังพั่บๆๆ รุนแรงเสียจนเรือนแทบจะสั่นตามแรงกระแทก แต่ผู้เป็นหลานสาวก็หาได้กลัวไม่ กลับยกสะโพกตอบรับเข้ากับจังหวะการกระเด้าของคุณลุงอย่างไม่ลดละ
“โอ้ว...คุณลุงเจ้าขา อ๊ะ..อ๊ะ..อ๊ะ...ซี้ด อูย ข้าจะถึงแล้ว จะถึงแล้วนะเจ้าคะ”
“ข้าก็เช่นกัน แม่การะเกด อ๊าก” ออกญาเฒ่าดึงเสากระโดงออกมาจนเกือบจะหลุด แม่การะเกดใจหายวาบกลัวว่าควยจะหลุดออกจากหีจึงยกสะโพกขึ้นตามอย่างไว ออกญาเฒ่าก็กระเด้าสวนกลับจนปลายกระโดงสำเภาเสียบเข้าไปจนสุดลำเสียงดังป้าบ สะโพกที่ลอยสูงของหลานสาวก็ถูกกดลงมาจนกระแทกกับฟูกจนตั่งแทบจะหัก ทั้งสองลุงหลานก็สูดปากคราง แม่การะเกดเสียวจนน้ำตาเล็ด ขณะที่ผู้เป็นลุงก็ปลดปล่อยน้ำกามเข้าไปจนเต็มร่องหีหลานสาวอย่างไม่ปรานี
“โอว...แม่การะเกด หีของออเจ้าช่างดีเหลือเกิน ข้ามิเคยโล้สำเภากับผู้ใดแล้วมีความเช่นกับเจ้าเลยหนา”
“ซี้ด...ข้าก็มีความสุขเหลือเกินเจ้าค่ะคุณลุงขา ตั้งแต่นี้ต่อไป หากคุณพี่หมื่นไม่พึงใจในตัวข้า ไม่อยากออกเรือนกับข้า ข้าก็จักมาเป็นเมียของคุณลุงแทน ดีหรือไม่เจ้าคะ” การะเกดตอบคำคุณลุงด้วยน้ำเสียงเปี่ยมสุข
“ผิดแล้ว เจ้าจักเรียกข้าว่าคุณลุงต่อไปหาได้ไม่ เจ้าต้องเรียกข้าว่า คุณพี่ จึงจะถูก” ออกญาเฒ่ายิ้มให้หลานสาวอย่างเอ็นดู
“เจ้าค่ะ...คุณพี่ แล้วจะให้ข้าเรียกพี่หมื่นว่ากระไรเจ้าคะ ในเมื่อคุณพี่เป็นคุณพี่ของข้าแล้ว”
“ก็เรียกพ่อเดช ดังที่แม่จำปาเรียกสิ ในเมื่อตอนนี้ออเจ้าเป็นเมียข้า ก็จักมีศักดิ์เป็นแม่เลี้ยงของพ่อเดชแล้วหนา”
“ได้เจ้าค่ะ”
แล้วทั้งสองคนก็ผละออกจากกันแล้วแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อย ท่านออกญามองเมียสาวหมาดๆของเขาแล้วก็นึกเสียดายที่แม่การะเกดคงได้เป็นเมียเขาแค่ในห้องนี้เท่านั้น เพราะเมื่อนางออกจากห้องไปก็คงจะจำอะไรมิได้ด้วยฤทธิ์ข่ายอาคมที่เขากางไว้อยู่ดี แต่ก็คงมิเป็นไรหรอก เขาคงมีโอกาสเรียกแม่การะเกดมาเสพสังวาสได้อีกหากจังหวะเป็นใจ จากนั้นพอแม่การะเกดก้าวพ้นออกไปจากห้อง เขาก็เอ่ยตามหลังผู้เป็นหลานไปว่า
“วันนี้ออเจ้ากลับไปพักผ่อนก่อนเถิด วันหลังหากเจ้าอยากจะเข้ามาอ่านหนังสืออีกเมื่อใดก็บอกลุงได้ทุกเมื่อ”
“เจ้าค่ะ...งั้นวันนี้ข้าขอตัวกลับหอนอนก่อนนะเจ้าคะ” การะเกดยกมือไหวผู้เป็นลุงแล้วหันหลังเดินออกไปด้วยอาการขัดๆ ไม่สามารถเดินหนีบขาได้ราวกับยังมีอะไรคาอยู่ในช่องหว่างขานั้น พอพ้นประตูหอหนังสือออกไปแล้ว หญิงสาวก็หันกลับมารำพึงเบาๆ “แล้ววันหน้าข้าจะมาขออ่านหนังสือใหม่อีกนะเจ้าคะ...คุณพี่ออกญาของข้า”


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น