วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
ไร่ข้าวโพดยามฝนตก ภาค ทุ่งเสน่หา
ไร่ข้าวโพดยามฝนตก ภาค ทุ่งเสน่หา
ตอนที่ 1 : วสันต์หรรษา
----------------------------------------
ฝนในช่วงวสันตฤดูได้พัดพาเอาความชุ่มชื้นคืนแก่สรรพสิ่ง และสร้างชีวิตใหม่ให้ก่อกำเนิดจากเมล็ดพันธุ์ที่ตั้งใจเพาะหว่านในนาข้าว จนทั่วบริเวณมีแต่ยอดอ่อนของกล้าใบที่แทงหน่อโผล่พ้นโคลนตมขึ้นมา ราวกับมีพรมกำมะหยี่สีเขียวขจีห่มคลุมไปทั่วท้องนา เหนือขึ้นไปบนภูเขาและเชิงลาด เมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตอื่น ๆ นอกผืนเกษตรกรรม ที่พยายามจะดำรงเผ่าพันธุ์ของตนเอาไว้ ต่างก็แข่งขันกันแตกช่อเกิดหน่อและราก ทำให้ป่าทั้งป่าแลดูชอุ่มชุ่มชื้นระรื่นนัยน์ตา ฝูงนกกระยางบ้างเกาะคอนกิ่งไม้เพื่อสอดส่ายสายตาหาเหยื่อ บ้างก็ยืนแช่นิ่งอยู่ในแอ่งน้ำขัง เพื่อรอปลาโชคร้ายสักตัวที่ว่ายวนผ่านมาทางนั้น เมฆน้อยก่อตัวเกาะกลุ่มก้อนแล้วลอยหายไปกับสายลมที่พัดพาไปทางด้านหลังของขุนเขา
กลุ่มก้อนเมฆฝนสีดำที่ลอยเอื่อยๆปกคลุมไปทั่วท้องฟ้ายังไม่จางหายให้แสงตะวันส่องผ่าน แม้ว่าฝนเพิ่งจะตกหนักมาเมื่อสักครู่ใหญ่ๆ และท้องฟ้าอีกฝั่งเหนือทิวยอดไม้ปลายนายังมีเค้าของเมฆฝนดำทะมึนตั้งท่าจะเทห่าฝนลงมาอีกครั้ง แลเห็นทั้งสายฟ้าแลบแปลบปลาบและร้องคลื่นๆให้เห็นอยู่ไกลๆ ละอองสายฝนจางๆยังโปรยปรายลงมากระทบผิวร่างตามแรงลมที่กรรโชกแรงบ้างเบาบ้างเป็นครั้งคราว
ท้องทุ่งกว้างใหญ่ที่เคยแตกระแหงเมื่อหลายเดือนก่อนบัดนี้ขาวโพลนไปด้วยน้ำที่เอ่อล้นตามคันนา ด้วยอยู่ในหน้าฝนน้ำหลาก ต้นไม้ต้นหญ้าน้อยใหญ่เขียวสดขจีจากการที่ได้รับความชุ่มฉ่ำจากน้ำหน้าฝนใหม่ ผืนนาบางส่วนที่เจ้าของลงแรงคราดไถปักดำมาแรมเดือนบัดนี้ต้นกล้าข้าว เล็กๆเหล่านั้นรากเริ่มติดดิน แทงยอดอ่อนใบแหลมพลิ้วไหวเป็นระลอกคลื่นตามกระแสสายลมที่พัดผ่าน
“ฮึ่ย! ฮึ่ย! ไปๆๆ ไอ้ฉ่ำ ไปๆๆ”
กลางผืนทุ่งนากว้าง เจ้า ‘ไวไฟ’ หนุ่มวัยฉกรรจ์ พึ่งสึกจากบวชพระออกมาไม่นานกำลังบังคับเชือกสนตะพายควายเฒ่าที่กำลังดึงคราดไถแปรนั้นอยู่อย่างขะมักเขม้น ข้างคันนามี ‘ตาปลั่ง’ ชายวัยกลางคนเจ้าของนาที่นั่งดูดมวนยาฉุนอัดควันเข้าปอดแล้วพ่นออกออกมาโขมงก่อนจะถูกลมฝนพัดหายไป ตาปลั่งมองร่างบึกบึ้นผิวคล้ำกร้านแดดของเจ้าไวไฟด้วยรอยยิ้มชอบใจ และนึกชื่นชมในใจว่าไอ้หนุ่มคนนี้มันช่างขยันขันแข็งดีจริงๆ
ตาปลั่งเป็นเกลอของพ่อเจ้าไวไฟที่ล่วงลับไปเพราะถูกงูกัดตายตอนไปตีกบ ทิ้งให้เจ้าไวไฟเป็นกำพร้าอยู่กับแม่ของมัน ต่อมาไม่นานแม่มันก็ป่วยตายตามไปอีกคน เจ้าไวไฟจึงเติบใหญ่มาลำพังด้วยการรับจ้างทำนาจนอายุย่างเข้า 21 ก็ติดทหารไปรับใช้ชาติ 2 ปี กลับมาก็บวชเรียนอยู่ 2 พรรษา และสึกออกมาใช้ชีวิตชนบทบ้านนาที่มันคลุกคลีกับกลิ่นโคลนสาบควายมาตั้งแต่จำความได้ แต่ถึงจะเป็นเพียงลูกชาวนาหาเช้ากินค่ำ มันก็หาได้น้อยใจในโชควาสนาไม่ แต่มันกลับใช้ชีวิตอย่างพอเพียง มีความสุขตามอัตภาพ
“ลุงปลั่งๆ จะให้ไถต่ออีกไหม?” เสียงไอ้ไวไฟร้องถามตาปลั่งเมื่อมันคราดนาตรงนั้นเพื่อที่จะเตรียมไว้สำหรับปักดำต้นกล้าข้าวในวันพรุ่งนี้เสร็จเรียบร้อยไปแล้ว
“ข้าว่าพอก่อนเถอะนะ ไม่รู้ว่ากล้าที่ถอนไว้ จะพอปักดำหรือเปล่า?” ตาปลั่งที่กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยตอบ พลางเสมองสายตาไปอีกทางที่เห็นหลังลูกสาวกำลังก้มๆเงยๆ ถอนต้นกล้าข้าวอยู่คนเดียว ไม่ไกลกันนัก
“เดี๋ยวข้าจะไปช่วยอีกลอยมันถอนต้นกล้าก่อนนะ ส่วนเอ็งเอาไอ้ฉ่ำไปกินหญ้ากินน้ำก่อน เดี๋ยวข้าจะจะตามไป”
“จ้า…ลุง เดี๋ยวฉันอาบน้ำแล้วกลับเลยนะ!” พอได้ยินตาปลั่งบอกอย่างนั้น ไอ้ไวไฟก็ปลด แอกคราดไถออกจากควายให้มันเดินเล็มหญ้าเล่นหลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน ส่วนตัวมันเดินไปหยิบผ้าขะม้าเดินไปยังหนองน้ำใกล้ๆ
ในแปลงต้นกล้า สายฝนที่โปรยปรายลงมาเบาๆ ไม่ได้ทำให้สองพ่อลูกที่กำลังก้มๆเงยๆอยู่ในแปลงต้นกล้ารามือแต่อย่างอย่างใด ทั้งสองยังคงก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่กระดูกสันหลังของชาติต่อไปไม่หวาดหวั่นกับดินฟ้าอากาศรอบตัว
“เหลือแต่รอยตีน รอยมือของแม่เอ็งเท่านั้นแหล่ะ นังกลอยเอ้ย ที่แม่เอ็งทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า” เสียงตาปลั่งพูดพึมพำๆคนเดียว แต่ลูกสาววัย 14 ย่าง 15 รู้ดีว่าพ่อของตนกำลังคิดกำลังรู้สึกสิ่งใดอยู่ในใจ นี่ก็ผ่านมา 3 ฝนแล้วที่ผู้เป็นแม่ทิ้งสองพ่อลูกไปอย่างไม่มีวันกลับ ปล่อยให้สองพ่อลูกเอาหลังสู้ฟ้าสู้ฝนเอาหน้าสู้ดินทำนาสู้กันไปตามยถากรรม
ตาปลั่ง ผู้เป็นพ่อเองที่ต้องเป็นม่ายเมียตายทั้งที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มใหญ่ยืนมองลูกสาวที่เป็นเสมือนตัวแทนความรักของตัวเองกับเมียนั้นอย่างรักใคร่เอ็นดู ประหนึ่งลูกสาวยังเป็นเด็กตัวเล็กๆในสายตาผู้เป็นพ่อเสมอมา
เสียงฟ้าร้องครืนๆดังก้องแผ่นฟ้าใกล้เข้ามา สายฝนที่รินโปรยปรายเมื่อครู่ก็เริ่มลงเม็ดหนักขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
“หนูว่าพอนะพ่อ ฝนมาอีกแล้ว ตกหนาเม็ดด้วย พรุ่งนี้ค่อยเอาใหม่” กลอยบอกพ่อหยุดงานในมือแล้วพูดขึ้นเมื่อฝนเริ่มโปรยเม็ดหนักมาเรื่อยๆ
“เออๆ ล้างเนื้อล้างตัวซะก่อน แล้วค่อยกลับขึ้นเถียน ป่ะ ไป เร็วๆ” ตาปลั่งเห็นพ้องต้องกันกับลูกสาว ชวนกันขึ้นจากแปลงต้นกล้าเดินลงหนองกลางนาเพื่อจะล้างเนื้อตัวจากโคลนตม
------------------------------------
‘เจ้าไวไฟ’ ลอยคออยู่กลางหนองท่ามกลางเม็ดฝนโปรยปรายลงมา มันแหวกว่ายไปมาในน้ำสีขุ่นโคลน มันดำผุดดำว่ายราวปลาระเริงน้ำ มันลอยคอในหนองอยู่นานก่อนจะดันตัวขึ้นชานไม้ที่ยื่นตัวออกจากคูคันดินจนเกือบถึงกลางหนองที่มีกลอยเด็กหญิงกำลังแตกเนื้อสาวยืนถูไถเนื้อตัวอยู่ตรงนั้น เจ้าไวไฟตอนนี้เนื้อตัวเปลือยเปล่ามีเพียงกางเกงในตัวเดียวติดกาย มันยืนล้างเนื้อตัวท่ามกลางสายฝน ฟองสบู่ที่ถูไถตามเนื้อหนังไหม้แดงเกรียมแดดนั้นไหลย้อยลงตามลำตัวเมื่อโดน เม็ดฝนที่โปรยลงมา และเมื่อเจ้าไวไฟเหลือบมองไปที่กลอยกำลังฟอกสบู่ถูกตัว ร่างเด็กสาวนมเริ่มแตกพานใส่ผ้าถุงเปียกๆรัดรึงร่างกายอวดสัดส่วนแรกสาวทำเอาเจ้าไวไฟเผลอจ้องมองตาค้าง
‘กลอย’ เป็นเด็กบ้านนอกเติบโตมากับท้องนา หน้าตาจัดว่าดีแม้จะมีผิวค่อนข้างคล้ำเนื่องจากกรรมพันธุ์และทำงานงานกลางแดด เมื่อก่อนก็ยังเห็นแก้ผ้าอาบๆกระโดดตูมๆไม่ได้นึกอะไร แต่พอเจ้าไวไฟ ไปเป็นทหารและบวชเรียนกลับมาทำนาเหมือนเดิมก็พบว่านังกลอยมันเริ่มแตกเนื้อสาว อะไรๆก็แสดงตัวตนออกมา อาทิหน้าอกกลมๆเป็นกระเปราะ สะโพกพาย เอวคอด และยามนี้เรือนร่างแรกสาวเปียกโชกไปทั้งตัวห่อหุ้มด้วยผ้าถุงกระโจมอกหลวมๆ ทำให้เห็นถึงความเซ็กซี่มากยิ่งขึ้นลูบไล้ฟองสบู่อาบน้ำไปทั่วตัวทำให้เกิดเป็นฟองปกคลุมร่างกายทั้งบนและล่าง และยิ่งน่าดูยามที่ค่อย ๆบีบคั้นทรวงอกจากด้านนอกเข้ามาหาด้านใน มันยิ่งทำให้เห็นเนื้อทรวงอกล้นออกมาจากมือท่ามกลางฟองลื่นๆ เหล่านั้น
ในใจไอ้ไวไฟตอนนั้นคิดไปเลยเถิดมากมาย...นี่ถ้าไม่มีผ้าถุงปกคลุมอยู่เนินอกตั้งเต้าก็คงจะโชว์ให้เห็นถึงความอวบอิ่มของวัยสาว แค่เห็นเม็ดนมดันเนื้อผ้าถุงออกมา ไอ้ไวไฟก็แทบจะคลั่งแล้ว เอเด็กสาวลุกขึ้นผ้าถุงแนบเนื้อเมื่อเนื้อผ้าแนบกับร่างกายช่วงล่างโอว...ช่างโหนกนูนเป็นรูปอะไรเช่นนี้...ไอ้ไวไฟคิดด้วยจิตอกุศล มือไม้เริ่มสั่นสายตาแทบจะถลนปูดโปนจ้องมองบริเวณที่แนบเนื้อขึ้นเป็นรูปสามเหลี่ยมอย่างชัดเจน
ตอนนี้เจ้าไวไฟแช่น้ำครึ่งตัว มือมันควานลงไปกุมท่อนกระดอที่พองก๋าใต้น้ำกำรูดถอกหัวบักนั้นขึ้นลงช้าๆในอุ้งมือ ยิ่งลำดุ้นใหญ่ๆของไอ้ไวไฟนั้นไม่ใช่ธรรมดา ใหญ่กว่าแขนของนังกลอยเสียอีก ลำเอ็นหัวถอกบานนั้นไอ้ไวไฟหมั่นเอาน้ำมันจิ้งเหลนสูตรตกทอดมาจากรุ่นปู่นวดคลึงกับลำเอ็น และนวดมาเนิ่นนานหลายปีจนบัดนี้มันทั้งใหญ่ยาวจนโผล่กำมือออกมาเกินกว่าครึ่งของลำ ความอวบใหญ่เองที่มีมันแทบกำไม่รอบเลยทีเดียว ยิ่งเส้นเอ็นปูดโปนหลายเส้นมันพันเกี้ยวรอบผิวลำ ผิวหนังหุ้มหยาบๆดำๆดูทะมึนน่าเกรงขาม และมันพร้อมใช้งานได้ทุกเวลา ทุกภูมิประเทศ
“อีกลอยเอ้ย! นี่ถ้าพ่อเอ็งไม่นั่งซ่อมแหตรงเถียนนะ ข้าจะลากเอ็งลงมาเย็ดในน้ำเลย”
เจ้าไวไฟคิดในใจอย่างเข่นเขี้ยว ถอกหัวบานดำเมื่องลงจนสุดโคนแล้วปล่อยให้ดุ้นเอ็นที่ยาวเกือบถึงสะดือนั้น ผงกหัวหงึกๆอยู่ใต้น้ำขุ่นโคลน มันภูมิใจในขนาดกับความยาวของดุ้นเอ็นตัวเองยิ่งนัก แต่น่าเสียดายที่หาเป้าประลองได้ยากเย็นในหมู่บ้านนี้ เพราะติดปัญหาเทคนิคประจำอย่างในครั้งนี้ มันจึงแช่น้ำโผล่แค่คอรูดถอกหัวเอ็นตัวเอง พลางใช้เรือนร่างของนังกลอยจินตนาการ
“…อ้าาาาา... อืมมมม” ไอ้ไวไฟสูดปากครางกระเส่าท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายจากฟ้าอย่างเสียวซ่าน
“อ้าาาา เสียววว เสียวววโว้ยย....” มันเร่งมือกำกระแทกลำควยร้องครวญครางดังลั่นอย่างยั้งไม่อยู่ และที่กล้าร้องเพราะนังกลอยอาบน้ำกลับขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบนเถียงนาแล้ว
“อ้าาาา อืมมมม…”
จั๊กๆๆๆ ฉ่อกๆๆๆๆ
“ซิ้ดดด อ้าๆๆๆ อ๊าาา เสียววว....” ไอ้ไวไฟเร่งกำรูดลำเอ็นของตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย จากนั้นลุกขึ้นยืนจนดุ้นควยโผล่อยู่เหนือน้ำ เกร็งเหยียดลำตัวตรงหน้าแหงนเด้งเอวสวนอุ้งมือที่กระแทกใส่ดุ้นควยมาถี่ๆ จนน้ำรอบๆตัวกระจาย ร่างหนากำยำนั้นเหยียดเกร็งจนกล้ามเนื้อโป่งพองเส้นเลือดขึ้นปูดโปนตามร่างกาย มันหลับหูหลับตากระทอกควยตัวเองจนแสบหนังหุ้มกัดฟันกรอดๆส่งเสียงครางระโหยอย่างสุดเสียว
“อ้าาาาา จะแตกแล้ววว น้ำแตกแล้ววว อ้าาาา….”
ปริ้ด…ปริ้ด...ปริ้ด...ปริ้ดดดด....
“อ่ะ! อุ๊ย…ชี้ดดดดดดดดด ดดด ด ดด ด ......อะอุ้ยๆๆ ”
ไอ้ไวไฟควยม้าเร่งมือถอกลำควยจนมิดลำถี่ๆรัวๆ แหงนหน้ากัดปาก ครางกระเส่าอย่างกระสันในอารมณ์เสียวที่มาจากอุ้งมือจนมันทนไม่ไหวปล่อยน้ำเงี่ยนขาวข้นออกมาจากปลายลำเอ็นพุ่งกระฉูดเป็นสายไปกลางลำน้ำขุ่นๆห่างตัวเป็นวา บางส่วนกระฉอกมาเลอะมือ ไหลอาบขนหมอยดำๆเปียกชุ่มเป็นคราบยางขาวๆ และมันเองก็หมดแรงถึงกับทิ้งตัวลงนอนลอยคอแช่น้ำหอบหายใจแผ่วๆ ปล่อยให้ลำเอ็นดุ้นเขื่องดำมะเมื่องที่พึ่งพ่นน้ำออกมาหมาดๆตั้งโงนเงนกลางลำตัว และลอยคออย่างหมดเรี่ยว แรงท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา
เมื่อหายเหนื่อยไอ้ไวไฟอาบน้ำล้างเนื้อตัวอีกครั้งเสร็จแล้ว มันจึงเดินฝ่าสาวยฝนปลอยๆกลับกระท่อมที่พักซึ่งปลูกพอคุ้มแดดคุ่มฝนอยู่ห่างจากเถียนนาของตาปลั่งและลูกสาวไปประมาณ 4-500 เมตร
---------------------------------
เสียงฟ้าร้องครืนๆ ดังแว่วมาแต่ไกลในยามดึกสงัด เถียงนาน้อยชายทุ่งที่ปลูกไว้หลบแดดฝนยามลงนานั้นโยกไหวเนืองๆเมื่อปะทะเข้ากับสายลมที่กรรโชกรุนแรงเป็นครั้งคราว
ยามหน้าลงนาอย่างนี้หลายครอบครัวต่างยกครัวลงมาปักหลักที่นาเลยซะทีเดียวเพราะไหนจะตื่นลงคราดไถตั้งแต่เช้าตรู่ฟ้ายังไม่สาง แล้วเลิกจากงานอีกทีก็ตอนตะวันตกดิน ครอบครัวตาปลั่งและลูกสาวก็เช่นกัน แกยกครัวลงมาปักหลักค้างอ้างแรมที่นาอย่างเช่นทุกปีที่ผ่านมาก็จนกว่าจะทำนาเสร็จทีเดียวถึงจะย้ายของกลับขึ้นหมู่บ้านรอหน้าเก็บเกี่ยวอีกที
กลางดึกสงัดคืนนั้นตาปลั่งตอนนี้เข้ามุ้งนอนหลับกรนเบาๆไปเรียบร้อย แต่นังกลอยมันยังนอนลืมตาโพลงในความมืดฟังเสียงเสียงหยดน้ำที่หล่นกระทบใบตองก้านกล้วยดังติ๋งๆแว่วมาพร้อมๆกับเสียงกบ เขียด แมงกลางคืนร้องระงมเซ็งแซ่ในความมืดโดยรอบบริเวณผืนป่า กลิ่นควันไฟฉุนจางๆที่สุมไว้ไล่ริ้น ไล่ยุงให้ควายไอ้ฉ่ำข้างเถียงลอยมาเตะจมูกอย่างเลี่ยงไม่ได้ อากาศหนาวเย็นหลังฝนตกช่วงกลางดึกแผ่ปกคลุมไปทั่ว นังกลอยขยับซุกตัวเข้าหาผืนผ้าห่มหนานั้นข้างๆพ่อตาปลั่งผู้เป็นเพื่อหนีความหนาวเย็นจากข้างนอก
“หนาวหรือ แม่มึง!?” เสียงตาปลั่ง ผู้เป็นพ่อถามครางละเมอออกมาเบาๆพลางพลิกตัวหันมากอดก่ายตัวลูกสาวไว้ในอ้อมแขนตัวเองก่อนจะหลับกรนออกมาอีกครั้ง
นังกลอยที่ตอนนี้อยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นพ่อ อีกทั้งต้นขาหนาใหญ่ที่ยกมาเกยทับหน้าขามันจนหนักอึ้งนั้นไม่ได้ขยับเขยื้อนหนีได้แต่อย่างใด ตาปลั่งผู้เป็นพ่อเองตอนนี้ก็นอนหลับซะจนผ้าขาวม้าที่ใส่นอนอยู่มันหลุดลุ่ยออกจากตัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เมื่อเนื้อตัวเปลือยเปล่าของพ่อที่กำลังนอนกอดแนบชิดกับตัวมันจนรู้สึกถึงความร้อนผ่าวของร่างกายใต้ผืนผ้าห่มเดียวกันมันทำเอานังกลอยใจเต้นตึกตักอยู่ในอก
ยิ่งลำเอ็นดุ้นเขื่องของพ่อมันที่ตอนนี้พองตัวแข็งโด่ชนกับบั้นสะโพกมันอยู่ข้างล่าง ความรู้สึกมันเองเหมือนกับว่าพ่อของตัวเองนั้นกำลังโยกเสยบั้นเอวตัวเองช้าๆเนิบๆให้หัวบักบานที่น้ำเยิ้มจางๆนั้นถูไถข้างลำตัวมันซะด้วยซ้ำไป นังกลอยเองนอนนิ่งปล่อยให้ดุ้นควยพ่อถูไถกับตัวช้าๆต่อไปอย่างเข้าใจหัวอกของผู้เป็นพ่อที่ตอนนี้ไม่มีแม่ให้ระบายอารมณ์เงี่ยนง่านเหมือนเมื่อก่อน มีหรือที่มันจะไม่รู้เห็นว่าตั้งแต่ก่อนโน้นทั้งสองนั้นบรรเลงเพลงสวาทกันจนบ้านไหวโยกแทบทุกคืน ยิ่งนังกลอยคิดถึงวันเก่าๆมันยิ่งจิตใจฟุ้งซ่าน นอนหลับตาพริ้มหวนคิดถึงเสียงครางกระเส่าของแม่ยามกลางดึก อีกทั้งเสียงเนื้อหนังของทั้งคู่กระทบกันดัง ตรั่บ ๆๆ ในมุ้งใกล้ๆกันนั้นมันช่างปั่นป่วนอารมณ์เงี่ยนง่านของเด็กวัยกำลังเจริญพันธุ์อย่างมันเสียทุกค่ำคืน
นังกลอยได้เห็นพ่อมันจับแม่เย็ดในคืนหนึ่ง เมื่อมันพลิกตัวหันหน้ากลับมาแล้วลืมตาฝ่าความมืดออกไปที่ต้นเสียง ภาพที่มันเห็น...แม่ของมันโดนพ่อขึ้นไปนอนทับบนตัวกดๆตูดลงที่หว่างขาของแม่ ตอนนั้นมันไม่รู้หรอกว่าเค้าทำอะไรกัน แต่มันก็สามารถทำให้นังกลอยนอนตัวแข็ง ใจสั่นเต้นแรงกับภาพที่ห่างกันไม่ถึงช่วงแขน เสียงแม่ร้องครางเหมือนจะเจ็บ แต่ทำไมต้องให้เอาแรงๆ แล้วนั่นพ่อจับนมแม่แล้วบีบ มันเริ่มเสียวที่เต้านมของมันอย่างไม่รู้สาเหตุ
เสียงร้องและการกระทำของพ่อกับแม่มันเป็นแรงกระตุ้นให้นังกลอยได้เรียนรู้เรื่องเสียว และทุกครั้งมันรู้สึกว่ารูหีของมันมีน้ำอะไรไม่รู้ซึมๆไหลออกมา และมันก็เริ่มเกร็งขาเกร็งหีตามแม่มันด้วย เมื่อตอนที่ตาปลั่งมันกระแทกตูดลงมา นังกลอยมันก็เผลอเอามือลูบที่เนินหีของตัวเองมันอย่างลืมตัว
‘ ซี๊ด...’ มันครางเบาๆ แบบแม่ของมัน... และมองดูพ่อของมันตั้งหน้าตั้งตากดกระแทกควยของมันอย่างเอาเป็นเอาตาย กระท่อมก็โยกรับการกระแทกนั้นด้วย ส่วนแม่ของอีกลอยก็ยังส่งเสียงร้องดังลั่นด้วยความเสียวหี โดยไม่สนใจนังกลอยเลยว่ามันจะตื่นขึ้นมาเห็นทั้งสองเย็ดกันหรือเปล่า
“ อุ๊ย...ซี๊ด...” นังกลอยมันครางเมื่อนิ้วของมันจมหายเข้าไปในรูหีมันเอง...พลางจินตนาการไปตามเสียงครางที่เกิดขึ้นในความมืด หนักขึ้นมันเองก็บาปหนาถึงกับคิดฝันไปว่าคนที่กำลังถูกพ่อมันเย่อเย็ดทำให้ร้องครวญครางอย่างเสียวซ่านอยู่นั้นมันเป็นตัวมันเองซะอีกต่างหาก
แค่มันคิดถึงเรื่องนั้น นังกลอยก็รู้สึกคันยุกยิกๆในโพลงหีมีน้ำเหนียวไหลซึมออกมา แว่วเสียงกรนเบาๆของพ่อมันยังดังอยู่ข้างหู นังกลอยเริ่มเอื้อมมือหยาบกร้านของมันลงเกาะกำดุ้นเอ็นของพ่อที่แข็งโด่ข้างๆตัวมันไว้หลวมๆ ขนาดของดุ้นควยลำเขื่องของพ่อมันไม่ใช่เล็กๆ ใหญ่พอๆกับสากตำน้ำพริก มันร้อนอุ่นมือดีจริงๆ นังกลอยนึกสนุกจับกระทอกเบาๆ
“อืมมมม.... อื้อออ.....” เสียงตาปลั่งครางออกมาเบาๆ ข้างๆหูเมื่อนังกลอยกำลำเอ็นนั้นเริ่มรูดชักเข้าออกช้าเนิบๆในความมืดใต้ผ้าห่ม อ้อมแขนแข็งแรงที่กอดมันอยู่นั้นเริ่มกระชับตัวนังกลอยแน่นขึ้นกว่าเดิม เมื่อมันเริ่มเร่งจังหวะสาวลำควยแข็งเป้กด้วยอุ้งมือในจังหวะที่เร็วกว่าเดิม
“อืมมมม อ้าาา อย่า…ซี้ด…แก้วจ๋า…อย่าทำ…พะ...พี่เสียวววว” เสียงของตาปลั่งพึมพำเรียกชื่อแม่ของมันออกมาจากปากอย่างนั้นอย่างไม่รู้สึกตัวในภวังค์หลับใหล
“อุ๊…ซี้ดดดดดด….” เสียงนั้นครางกระเส่าในคอเบาๆเมื่อนังกลอยไล้นิ้วหัวแม่โป้งเล่นกับหัวถอกบานที่เยิ้มเปียกด้วยน้ำเสียวของพ่อมันอย่างรู้งานว่าทำอย่างนี้มันเสียวแค่ไหน หน้าขาหนาของตาปลั่งเองก็เริ่มขยับสูงขึ้นจนมาพาดทับหน้าท้องของลูกสาวตรงกลางลำตัว ไม่เเค่นั่นผู้เป็นพ่อยังเน้นบดหน้าขาลงกับลำเอ็นที่พาดทับอยู่ขยับขึ้นลงช้า ๆ ส่วนมือหนาสากและด้านล้วงผ่านชายเสื้อเข้าเกาะกุมเต้ากระเปราะแล้วบีบเบาๆ
“อื้อ…อย่าเล่นกับหัวควยอย่างนั้น มันเสียวววว ซี้ดดดดด” เสียงของตาปลั่งกระซิบบอกลูกสาวเบาๆอย่างแสนเสียวซ่านเมื่อรู้สึกตัวขึ้นมา พลางกอดกระชับเรียวแขนรั้งตัวของลูกสาวเข้าหาตัวเองเบาๆ นังกลอยเองขยับตัวเข้าซบแผงหน้าอกอุ่นๆของพ่อในอ้อมกอดนั้นอย่างไม่ขัดขืน ตาปลั่งเองหอมจูบหน้าผากนั้นเบาๆด้วยความรักความเอ็นดูที่มีต่อลูกสาวคนเดียวตรงหน้า
“เอ็งไม่หลับไม่นอนหรือไงวะ ถึงได้มาถอกควยข้าเล่นอย่างนี้?” ตาปลั่งพึมพำถามในลำคอ และยิ่งกระชับอ้อมแขนกอดลูกสาวหนักขึ้นกว่าเดิม
“ฉันยังไม่ง่วง คิดถึงแม่อ่ะ อีกอย่างพ่อไม่ได้กอดฉันนานแล้วนะ”
“หึๆๆ เอ็งโตเป็นสาวแล้ว จะให้พ่อกอดได้อย่างไง โน่น! ต้องไปหาผัวมากอดไป๊!”
“หนูยังไม่อยากมีผัว อยากให้พ่อกอดอ่ะ” นังกลอยพูดแล้วซุกหน้าเข้าหาอ้อมอกพ่ออย่างเด็กที่โหยหาความอบอุ่นจากคนโต ทั้งที่นิ้วมือยังไม่หยุดไล้หัวบักบานข้างล่างกลางหว่างขาของพ่อตัวเอง
“อีกลอย…พะ...พอเถอะ ข้าเสียวนะ อย่าๆๆ หยุดเถอะนะ” ตาปลั่งเจอลูกสาวกำควยกระทอกยิกๆความเสียวกระสันดุ้นควยแผ่ไปทั่วร่างเกรงกระชับอ้อมกอดลูกสาวแน่น ยิ่งปลายลิ้นเรียวนังกลอยที่กำลังวนไล้หัวนมแข็งนั้นอีกมันยิ่งทำให้ตาปลั่งขนลุกเกรียวไปทั้งตัว ฝ่ามือหนาสากคนเป็นพ่อที่ตอนนี้เริ่มลูบไล้แผ่นหลังลูกสาวไล่ขึ้นบั้นเอวมาถึงหน้าอกกลมกระเปราะที่ตอนนี้แข็งเป็นไตเพราะอารมณ์ใคร่ ตาปลั่งเกาะกุมเต้านมเหมาะมือไว้มั่นขยำเบาๆ
“เอ็งนี่ ไปหัดกระทอกควยเลียนมมาจากไหนวะ ทำกับข้ายังงี้ เดี๋ยวข้าเงี่ยนก็จับเอ็งเย็ดซะหรอก ”
“หนูก็เอาตัวอย่างมาจากแม่นั่นแหล่ะ เมื่อตอนแม่อยู่ พ่อเย็ดกับแม่ให้หนูดูแทบทุกวัน พอแม่ตายหนูก็รู้ว่าพ่อเงี่ยนตลอด หนูสงสารพ่อจริงๆ ให้หนูทำหน้าที่แทนแม่ได้มั๊ยจ๊ะพ่อ หนูอยากให้พ่อเย็ดหนูให้หายเงี่ยน…”
“เอ็งพูดอะไรรู้ตัวหรือเปล่าอีกลอย ข้าเป็นพ่อเอ็งนะ อยู่ๆจะให้เป็นผัวซะงั้น!?”
“ หนูอยากให้พ่อเย็ดหนูแล้วเป็นผัวหนู พ่อไม่อยากได้หนูเป็นเมียหรือจ๊ะ?”
“ฮื่อ...ฮื่อ...อื่มมมมมมม....” นังกลอยหยุดพูดเมื่อตาปลั่งใช้อุ้งมือหยาบกร้านล้วงไปที่หีฉ่ำน้ำเงี่ยนร้อนฉ่าที่ไหลออกมาแล้วกรีดนิ้วไปตามรอยผ่า นังกลอยหายใจฟึดฟัดๆอย่างกระสันที่อุ้งมือหยาบกร้านของพ่อมันแหวกกลีบแคมออกกว้างเพื่อเป็นการส่งสัญญาณล่วงหน้าว่า...กำลังจะถูกของใหญ่สอดใส่ ตาปลั่งเห็นลูกสาวทำท่าเสียวซ่านอย่างนั้น ก็ก้มหน้าลงมาซุกไซร้ไล้เลียลงมาหัวนมบนหน้าอกอวบนั้นอย่างชำนาญ ปลายลิ้นสากหนาเลียไล้ดูดดุนเม็ดหัวนมเล็กๆบนหน้าอกที่แอ่นขึ้นมาจากพื้นอย่างเสียวซ่านสู้กับปากและลิ้นอย่างไม่กลัวเกรง
ตาปลั่งเมื่อแกลงมือแล้วเทคนิคแกก็แพรวพราวไม่ใช่เล่น มีหรือที่นังกลอยเด็กเพิ่งอยากลองจะทนไหว แกจับร่างน้อยๆกำลังอวบอั๋นของลูกสาวสุดที่รักถอดผ้าถุงและเสื้อออกจนร่างกายเปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่ม ส่วนตัวแกนั้นใส่ผ้าขะม้าผืนเดียวมันหลุดไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้สายสัมพันธ์ทางสายเลือดไม่หลงเหลือในสามัญสำนึก ในสมองมีแต่สัญชาตญาณการสืบพันธุ์ตามประสาสัตว์โลกเท่านั้น ตาปลั่งก็อดอยากมานานได้แต่ชักว่าวบำบัดอารมณ์ไปตามภูมิประเทศ มาเจอลูกสาวร่านยั่วยวนแถมเนื้อหนังเต่งตึงกำลังแตกสาวเปลี้ยะๆ เต้านมกระเปาะพอดีมือปลายยอดชูชันแข็งเป็นไต แกจึงอ้าปากทั้งดูดทั้งกัดทั้งฟัดอย่างมันเขี้ยวราวคนตะกละตกรามหิวโหย
“อู้ยยยย ซี้ดดดดด พ่อจ๋า …พ่อกัดหัวนมหนู มันหวิวๆใจสั่นไปหมด จั๋กจี้ด้วย ซี้ดดดดด”
“เอ็งเสียวนมใช้มั๊ยหล่ะ ข้าดูดอย่างนี้เอ็งเสียวจนน้ำหีเดินเลยใช่มั๊ย เอ็งจะต้องเจอมากกว่านี้อีก” ตาปลั่งบอกไปมือและปากก็ทำหน้าขยี้ขยำเต้านมกระเปราะแข็งสู้มือไป
ปากหนาของตาปลั่งอ้าสลับดูดเต้านมทั้งสองข้างของนังกลอยไม่หยุด น้ำลายเหนียวเปรอะหน้าอก เต้านมที่กำลังแตกพานของนังกลอยใหญ่เกินกว่าเด็กในวัยเดียวกัน เพราะว่ามันได้เชื้อมาจากแม่ที่นมใหญ่จนร่ำลือ มันเต็มไม้เต็มมือแถมยังตั้งเต้าปลายเชิดตามประสานมสาว เมื่อเจอเต้านมที่สู้ปากสู้มือ ตาปลั่งก็คลุกคล้าคลึงเคล้นอย่างเมามัน
“อู้วววว พ่อาจ๋าาา อาาาา พ่อๆๆบะเบาหน่อย หนูใจจะขาด ฉี่จะราดให้ได้ อู้ววววว” เสียงของนังกลอยดังแหบพร่า ดีดดิ้นไปมาด้วยความเสียวหน้าอกลามไปทั้งร่างอย่างซ่านใจ สร้างความฮึกเหิมให้ตาปลั่งยิ่งนักที่ลีลาเล้าโลมของแกสามารถสร้างความกระสันเสียวให้ลูกสาวในไส้ได้ แกหยุดดูดนมแล้วใช้ปากหนาๆเข้าประกบปากน้อยๆที่แกเห็นแล้วอยากจะเอาควยใหญ่ๆยัดใส่เหลือเกิน แกสอดลิ้นสากเข้าไปกระหวัดลิ้นนังกลอย ควานลิ้มรสหวานของวัยแรกสาวอย่างดูดดื่ม
“ข้าจะปล่อยพลังเย้ดหีเอ็งอย่างเต็มที่อีกลอย ไม่สนใจว่าเอ็งจะเป็นเด็กเป็นเล็ก อยากโดนเย็ดใช่มั๊ย ข้าจะเย็ดเอ็งหนักๆ จะดูดนม ดูดลิ้น กระแทกแรงๆ เอาให้เอ็งเสียวจนแทบขาดใจ ข้าจะเย็ดเอ็งจนต้องร้องขอชีวิตทีเดียว….” ตาปลั่งละปากมาพูดคล้ายขู่แล้วเข้าประกบ พร้อมสอดลิ้นหนาเข้าปากน้อยๆของลูกสาวนมกำลังตั้งเต้า
แกทั้งดูดทั้งดุ้นควานลิ้นกระดุกกระดิกเข้าไปทั่วโพลงปากอย่างช่ำชอง นังกลอยเจอลีลาพ่อเข้าไป ถึงกับเผลอแลกลิ้นตอบอย่างไม่รู้ตัว และเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมแม่ของตนถึงหวงพ่อนักหวงพ่อหนา นังกลอยในตอนนี้ไม่สามารถตอบโต้อะไรพ่อมันได้เลย ได้แต่นอนกางแขกางขาอ้าซ่าทอดกายให้พ่อมันเชยชมได้ทุกจุดของร่างกาย ผ้าห่มไปไหนแล้วไม่รู้ยามนี้ร่างเปลือยเปล่าของสองพ่อลูกกอดรัดฟัดกันอยู่ในมุ้งบนเถียนนาท่ามกลางสายฝนตกหนาหนัก อากาศหนาวเย็นแต่ภายในกายของทั้งสองร้อนรุ่มด้วยไฟตัณหา ความเงี่ยนเข้าครอบงำทุกอณูสำนึก ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้อีกแล้ว!
“อู้ย…พ่อจ๋าดีจริงๆ พ่อทำให้ฉันมีความสุขมากๆ ซี้ดดดดดด ใจหวิวๆขนลุกซู่อย่างนี้ มันเรียกว่าเสียวใช่มั๊ยจ๊ะพ่อจ๋า..า...า...า....” ตาปลั่งตอนนี้กำลังมันเขี้ยวไม่มีเวลาตอบคำถามใดๆแก่ลุกสาวขี้สงสัย แกเอื้อมมือลงไปที่เนินหีของลูกสาวมือเกาะกุมโหนกหนาที่เคยเห็นห่างๆ และรับรู้ว่ามันไม่ธรรมดาน้องๆนางแก้วแม่มันเลยทีเดียว แกใช้นิ้วมือที่หยาบกร้าน ค่อยๆบี้เม็ดแตดเม็ดเล็กที่แอบซ่อนอยู่ในหลืบร่องเบาๆ พร้อมลากนิ้วขึ้นลงช้าๆ อย่างมีเชิง
“อู้ววววว์…. พ่อาาจ๋าาา ….ซี้ดดดดด.....มาแหย่หีเขี่ยวเม็ดแตดหนูเล่นทำไม เสียวววว” นังกลอยร้องครางเสียงสั่นแอ่นหีเข้าหามือ
นังกลอยเคยแอบดูตอนพ่อกับแม่มันเย็ดกัน เห็นพ่อทำอย่างนี้กับแม่ แล้วแม่มันก็ดิ้นพล่าดๆ มันเพิ่งรู้ว่าเพราะอะไรเวลาแม่มันโดนทำอย่างนี้แล้วถึงดิ้น ตาปลั่งทั้งแหย่หีบี้เม็ดแตดและดูดนมจ๊วบๆ นังกลอยดิ้นไปมาและบิดกายส่ายระริกจนกระทั่งหมดเรี่ยวมหดแรงจะดิ้น ตาปลั่งเห็นหีลูกสาวสดๆหมอยเพิ่งขึ้นหรอมแหรม จึงอยากจะลองลิ้มชิมรสชาติหีสาวบริสุทธิ์ดู จึงค่อยๆลากปากจากเต้านมไล่ลิ้นต่ำลงมาอย่างใจเย็นผ่านมาที่สะดือ จนถึงโหนกนูนของลูกสาวที่พิลาศพิไลเนื้อที่กว้างขวางวเต็มหว่างขา โคกนี้กว้างมาก ตาปลั่งแกมั่นเขี้ยว อ้าปากงับกัดตรงโหนกนูนหมับเข้าให้
“พ่อจ๋า! กัดหีหนูทำไมเนี่ย?!”นังกลอยสะดุ้งเฮือกเอ่ยถามเสียงขุ่น
“ก็มันโหนกดีจังเลย อีหนูเอ้ย ข้ามันเขี้ยวเลยกัดเล่นๆ โหนกๆอย่างนี้เวลาเย็ดคงจะเด้งดีจังเลยนะเนี่ย” ตาปลั่งเอ่ยตอบเสียงแหบพร่า
และไม่ให้เสียเวลา ตาปลั่งก้มลงตรงหว่างขาของลูกสาว ห่อลิ้นฉกใส่ติ่งแตดแข็งเด่และลากใส่กลางสองแคมที่ปิดสนิท พลางใช้นิ้วปหวกหารูเข้าอันลึกลับ เมื่อเจอแกก็ฉกลิ้นนำร่องเข้าไป น้ำเงี่ยนใสๆไหลพรั่กๆออกมาเนืองนอง ตาปลั่งแลบลิ้นซดโฮ๊กๆอย่างเอร็ดอร่อย และรัวลิ้นใส่เม็ดแตดกระตุ้นถี่ยิบ ทำเอาอีกลอยเสียวจนแทบไม่ได้หายใจ ดิ้นทุรนทุรายราวจะขาดใจตายเสียให้ได้ เสียงแลบลิ้นเลียหีจากปากตาปลั่งดัง แผล่บๆๆๆ
“โอ้ยๆๆ พ่อจ๋า…โอ้ยๆๆพอแล้วๆ หนูทนไม่ไหวแล้ว หายใจไม่ทัน โอ้ยๆๆ หนูจะขาดใจตายอยู่แล้ว” แต่ตาปลั่งกลับไม่มีความสงสารหรือปราณีมอบให้ลูกสาวสุดที่รัก แกยังคงห่อลิ้นแทงเข้ารูและสะกิดติ่งแตดอีกด้วย
แม้จะเสียวจนแทบขาดใจ แต่นังกลอยก็ยังเด้งเนินหีสู้ไม่ถอย เพราะความเสียวหีไม่ปราณีใครหน้าไหน น้ำเสียวไหลออกมาทะลักทะลาย ตาปลั่งทั้งลงลิ้นทั้งดูกลืนร่องน้ำเสียวจากรูหีอีกลอยชนิดไม่ให้เล็ดรอดไปได้สักหยด มาบัดนี้ความเสียวขึ้นสมอง ท่อนควยใหญ่ๆผงาดง้ำ ยาวใหญ่ที่แม่อีกลอยยังขยาดในวัยสาว มาบัดนี้ถึงทีอีกลอยจะต้องรับมือควยของพ่อมันแทนแม่แล้ว แม้อีกลอยจะเป็นสาวบ้านนาโตเกินวัยและแข็งแรง แต่อีกลอยก็ยังเป็นเด็กมันจะรับมือควยพ่อมันไหวหรือ แม้อีกลอยจะมีเนินหีใหญ่กว่าวัยและใหญ่เกินหน้าเด็กรุ่นเดียวกัน แต่ควยตาปลั่งนั้นไม่ธรรมดาแถมฝังมุกอีก แต่ว่าอีกลอยหาได้เกรงกลัวเพราะโดนเลียหีเลียแตดจนปล่อยน้ำเงี่ยนเต็มร่องรูแล้วอารมณ์ก็เตลิด ไร้ความกลัวใดๆ มีแต่ความยากล้นหัวจิตหัวใจ
“พ่อจ๋า ...พอเถอะนะ ใช้ควยใหญ่ๆของพ่อเย็ดหนูเถอะ” อีกลอยเป็นฝ่ายร้องขอเอง
“เอ็งนี่คงจะแอบเงี่ยนมานานนะ อยากโดนควยข้าใช่มั๊ย ได้ๆ มันถึงเวลาแล้ว…”
ตาปลั่งโลมเล้าจนคิดว่านังกลอยน่าจะพร้อมรับพิธีเอาเสาลงหลุม แกจะทำให้มันประทับใจและจดจำไปจนวันตายพร้อมทั้งจะสอนให้มันเรียนรู้ว่าหีของมันจะต้องโดนอย่างนี้ไปเรื่อยๆ นับจากวันนี้! ตาปลั่งยกมือปาดคราบน้ำเงี่ยนที่เลอะหน้าตาปละปากออก จับลูกสาวนอนหงายในท่าสบายๆ สองขาเรี่ยวแข็งแรงถูกถ่างออกให้แกแทรกเข้าไปนั่งคุกเข่า มือหนึ่งจับเอาดุ้นควยหัวบานทะโร่ใหญ่พอๆกับแขนของนังกลอย มองแล้วมันใหญ่จนไม่น่าจะมุกเข้ารูหีเล็กๆฟิตๆของนังกลอยเข้าไปได้ พอได้เห็นขนาดจะๆนังกลอยก็ชักหวั่นๆ เพราะมันคิดว่าใหญ่อย่างนี้จะเข้าไปได้อย่างไร
“พะ...พ่อจ๋า ฮื่มมมม มันจะเข้าไปได้มั๊ยนั่น มันจะเจ็บมากไหม แล้วมันจะฉีกไหมนั่น”
ตาปลั่งยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม แกเคยเย็ดเปิดซิงเด็กๆมาหลายคน แกมั่นใจในเทคนิคของตัวเอง
“เข้าได้สิวะ โบราณบอกไว้ ถึงจะสูงต่ำดำขาว ไม่สำคัญ แค่สะดือชนกันเป็นใช้ได้” ตาปลั่งบอกอย่างมั่นใจ
“บะ...เบาๆนะพ่อ หนูกลัวเจ็บ!”
ตาปลั่งเองงุ่มง่ามเงี่ยนจนแทบทนไม่ไหว จับหัวควยจ่อเข้ารูปคับฟิตๆ นังกลอยเองปล่อยน้ำเงี่ยนไหลออกมาจนเนืองนอง ตาปลั่งเอาหัวควยถูๆไถๆจนหัวควยชุ่มก็ค่อยๆจับยัดเข้าไปช้าๆ แต่ว่าก็ได้รับการต่อต้านจนเข้าไปได้แค่ส่วนหัวเท่านั้นเพราะช่องทางมันรัดติ้วเนื่องจากเจ้าของหียังกลัวอยู่
“พะ พ่อจ๋า อู้ยๆๆหนูเจ็บอ่ะ!”
“อย่าเกร็งสิวะ ปล่อยตามสบายๆ แม่เอ็งตอนข้าเย็ดครั้งแรก ก็เข้ายากอย่างนี้แหล่ะ เสียววูบเดียวเท่านั้น”
“โอยๆๆพ่ออย่าดันแรงแบบนั้น หีของหนูแหกหมดแล้ว บะ เบา เอาออกไปก่อน!”
ตาปลั่งตอนนี้จับควยยัดเข้ารูหีลูกสาวจนเหงื่อตกก็ยังไม่เข้า เย็ดกระหรี่มันยังมีร้อง แล้วหีสดๆซิงๆมันจะเข้าง่ายๆได้อย่างไร แต่แกก็พยายามจับยัดเข้าๆออกๆ บางครั้งก็หักโหมอัดเข้าไป แต่ก็ยังคาอยู่แค่หัวหยักทุกที
“ฮื่อ...อ.อ..อ...มันไม่เข้าอ่ะพ่อ ซี้ดดดดดดดดด”
“มันต้องเข้าได้สิวะ เอ็งใจเย็นๆเดี๋ยวข้าจะทำให้ดู”
ตาปลั่งยังคงปักหัวคาไว้ในรูหีลูกสาวแค่เงี่ยง แกเปลี่ยนมาลูบไล้จูบปาก ดูดนม เลียรูหู นังกลอยเองก็ผ่อนคลายลงไม่ตื่นเต้นจนช่องรูหีบีบตัว หัวควยของตาปลั่งก็ค่อยๆไหลเข้าไปทีละนิดๆ จนกระทั่งเข้าไปสุดทั้งลำยาวอย่างน่าอัศจรรย์ นังกลอยมารู้สึกตัวก็เห็นว่าท่อนควยไหลเข้ารูหีตนเองไปหมดทั้งดุ้นเหลือแต่ไข่สองใบห้อยต่องแต่งอยู่ข้างนอก
“อะ…อู้ย พ่อจ๋า ควยพ่อเข้ามาในหีของหนูหมดแล้ว ซี้ดดดดด หนูแสบยังคงหีจะฉีกแน๊ะ!”
“เอ็งอย่าเกร็งสิวะ มันรัดควยข้าจนกระเด้าไม่ได้แล้ว”
“ก็หนูแน่นไปหมดทั้งหน้าท้องเลย อู้ย…ไหนว่าโดนแล้วมันไง ทำไมทั้งแสบทั้งเจ็บอย่างนี้.”
ข้างในรูหีของนังกลอยยังรัดท่อนควยตาปลั่งจนขยับไม่ได้ แกพยายามขยับเพื่อให้มันหายใจหายคอได้บ้าง
“อีกลอยเอ้ย! หีเอ็งนี้มันแน่นจริงๆ ตอนข้าเย็ดแม่เอ็ง ยังไม่ถึงขนาดนี้เลย”
ตอนนี้ตาปลั่งยังคงแช่ไว้ก่อนและหันมาประกบปากจูบและบีบขยำเต้านมนังกลอย
“พ่อจ๋า…ยังไม่กระเด้าอีกหรอ จะคาไว้ทำอะไร อู้ย มันคับแน่นรูหีไปหมด หายใจจะไม่ออกอยู่แล้ว อู้ย…มันขัดๆแล้วก็คันมากๆเลย ฮื่อออ....” นังกลอยขยับเอวเร่งมา ขณะตาปลั่งเองก็ปวดหัวควยตุ๊บๆ
ตาปลั่งจะดันควยเดินหน้าก็ไม่ได้ จะถอยออกก็เสียดายกลัวเอาไม่เข้าอีก
“แหม…เอ็งนี้ใจร้อนจริงๆ หีตอดหัวควยใหญ่เลย เอาได้ๆ เอ็งอย่ากให้ข้ากระเด้าแล้วใช่มั๊ย ข้าจัดให้ตามคำขอของเอ็งเลย รับให้ดีๆหล่ะ…” ตาปลั่งพูดจบก็ขยับเอวโหย่งตูดดำๆให้ท่อนควยหลุดออกมาแล้วกดกลับเข้าไปเบาๆ ระหว่างนั้นเม็ดของแกไปเฉี่ยวติ่งแตดนังกลอย สร้างความแสบ เสียง และคันยิกๆอย่างประหลาด
“โอ้ยๆๆ พ่อจ๋า ไอ้มุกอะไรของพ่อมันเฉี่ยวแตดหนู เสียวจริงๆ พอพ่อกระเด้า ไอ้ที่คันๆก็หายหมด ฮุ้ยๆๆ เสียงดีจังเลยนะพ่อ เอาอีกๆๆ” นางกลอยพูดพลางก็ยกสะโพกเด้งเนินหีสู้ควยอย่างไม่ยอมแพ้
ถึงจะเป็นครั้งแรกที่ถูกเย็ดโยพ่อแท้ๆของตนเอง แต่นังกลอยก็สู้ตายไว้ลายเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำในการเสียสาว ทว่าด้วยประสบกามที่ไม่เคยมีเลย เจอตาปลั่งกระเด้ายิกๆซอยควยไม่ทันถึงสิบที นางกลอยก็เกร็งกระตุกเฮือกไปถึงสวรรค์แบบดื้อๆ และหลั่งน้ำจากมดลูกมามากมาย แต่ตาปลั่งเพิ่งจะเริ่มไหว้ครูเท่านั้น และการที่เด็กสาวปล่อยน้ำเสียวออกมาก็เป็นผลดี เพราะจะช่วยเพิ่มการหล่อลื่นให้ดียิ่งขึ้นไป ตาปลั่งจึงได้ทีกระเด้าถี่ๆและเร่งกระเด้าซอยสั้นเร็วและแรง น้ำหล่อลื่นของอีกรอบไหลทะลักทำให้การเคลื่อนไหวหัวควยในร่องรูง่ายขึ้น แต่ความหนึบแน่นนั้นไม่ต้องบอกเลย เพราะว่าตาปลั่งรู้สึกฝืดเอามากๆแต่ก็กระชับสะใจดียิ่งนัก
ถึงตอนนี้มีแต่ความมันเท่านั้นที่ยังหลงเหลืออยู่ ร่องรูหีของอีกลอยปล่อยน้ำออกมามากมาย เสียงควยเสียดสีกับรูหีดังเพราะเสนาะจับใจ จั๊กๆๆๆ ยิ่งตาปลั่งเร่ง ความเสียวก็ยิ่งเพิ่ม แกไม่ได้เอาหีใครที่หนึบแน่นๆแบบนี้มานานแล้ว ร่องหีที่ฟิตแน่นของอีกลอยยิ่งกระเด้ายิ่งมัน ยิ่งอีบัวกลอยโคกหีลอยรับอาวุธแกทุกดอกแบบแม่มันด้วย ทำเอาตาปลั่งทำท่าจะน้ำแตกตามเสียให้ได้ ความเสียวแล่นขึ้นขึ้นสมองจี๊ดๆ มาถึงช่วงท้ายๆของเกมกาม แกเริ่มออกลีลาจับเอวเล็กของอีกลอยมาคุกเข่าหันหลังให้ เมื่อควยจ่อตรงทางเข้าก็ทำการซอยยิกๆ รัวๆและหมุนควาน มีลีลาอะไรตาปลั่งไม่กั๊ก งัดออกมาใช้จนหมด เสียงหน้าขากับง่ามก้นกระแทกกันดัง ผว๊ะๆๆๆ
“เงี่ยนอยากโดนเย็ดมากนักใช่มั๊ย เสียวไหมอีกลอย อีเด็กร่าน ร่อนหีสู้ควยกูดีนักนะมึง อีหีฟิต นี่ๆๆต้องเย็ดให้รูบานเลย”
“อะ…อู้ย...อู้ยๆๆๆ พ่อจ๋า หนูไม่ไหวแล้ว ซี้ดดดดด เยี่ยวจะแตกอีกแล้ว อะ อู้ยๆๆพ่อกระแทกแรงๆยิ่งมัน อ๊าๆๆๆอูยๆๆๆ อะ โอ๊ยยยยยยยยยยย เยี่ยวแตกอีกแล้ว อู้ยยยยยยยยยย” นังกลอยหัวสั่นหัวคลอนยามถูกกระแทควยใส่รูหี ร้องเสียงดังราวจะคลุ้มคลั่ง ยิ่งร้องดังตาปลั่งยิ่งชอบออกแรงซอยเสียวดังระรัวเรียกว่ายัดดุ้นควยใส่ไม่มียั้ง ความเสียวเกินห้ามใจกระแทกควยใส่อย่างไม่ปราณีเพราะตอนนี้แกกำลังจะแตะขอบฟ้าอยู่ร่อมร่อ
“วะ ว้าย! เยี่ยวแตกอีกแล้ว พ่อ อาา....จ๋าาา....กรี๊ดดดดดดดด”
“กะ กูก็น้ำแตกแล้วอีดอก ซี้ดดดดดดดด ตะ แตกแล้ว โอ๊ยยยยยยยยยย”
ตาปลั่งส่งเสียงร้องไล่หลังตามมาติดๆ หัวควยถูกเสือกกดเข้าไปลึกสุดๆกระทบปากมดลูกของอีกลอย
ปริ้ด.ด.....ปริ้ด..ด.ด.ด....ปริ้ดดด.ด..ด..ด....
ท่อเยี่ยวปลายควยระเบิดฉีกน้ำเงี่ยนร้อนผ่าวเข้าไปเต็มมดลูกของอีกลอย ขณะข้างในของอีกลอยก็อ้ารับเพราะขมิบน้ำเงี่ยนออกมารับอีกรอบ มันปล่อยน้ำกามมาผสมน้ำเงี่ยนของพ่อตัวเองแบบหมดไส้หมดพุง ทั้งตาปลั่งและอีกลอยถึงจุดสุดยอดสุดเสียวไปพร้อมๆกัน
“อ้าาาาา แตกแล้วววว อ้าาาาาา น้ำควยกูแตกแล้วอีกลอย…”ตาปลั่งร้องเสียงกระเส่า เมื่อน้ำควยพุ่งออกจนหมดถึงหยาดหยดสุดท้าย แกก็ซบร่างลงทับแผ่นหลังอีกลอยที่หมดแรงหน้าทิ่มนอนคว่ำหายใจระงม ท่อนควยยังคาอยู่ในรูหีลูกสาวอย่างตราตรึง แรงตอดจากภายในทำเอาตาปลั่งสุขสมอย่างที่ไม่เคยพานพบมานานแสนนาน
“อะ อู้ย...หนูก็เยี่ยวแตกออกมาอีกแล้ว...อู้ย เกิดมาไม่เคยเยี่ยวมันขนานนี้มาก่อน อื้อ...” อีกลอยครางระงม น้ำเงี่ยนจากปลายควยของพ่อมันที่พุ่งกระฉูดออกมา เข้าไปในมดลุกร้อนผ่าวจนอุ่นไปทั้งหน้าท้อง ไอ้อาการคันยุบยิบๆภายในรูหีหายไปสิ้นเหลือแต่ความสุขสมอย่างที่ไม่เคยมาก่อน ร่องรอยความเสียวมันตราตรึงอยู่ในโสตประสาท อีกลอยอ่อนระทวยนอนหมดแรงทั้งเจ็บทั้งเสียวสุดๆ ส่วนตาปลั่งที่ยังคงแช่ควยไว้เพราะชอบที่ร่องหีบีบรัดควย
เมื่อตาปลั่งถอนลำควยออกมาก็มีน้ำเงี่ยนทะลักออกมาผสมกับเลือดไหลตามออกมาด้วย
“อุ๊ย! พ่อจ๋า มีเลือดออกมาด้วย…” อีกลอยอุทาน เมื่อเห็นน้ำขุ่นๆขาวๆคล้ายไข่ขาวไหลออกมาพร้อมเลือดจางๆปะปนออกมาเนื่องจากเยื่อพรหมจรรย์ฉีกขาด แถมยังแสบมากแถมและอ่อนเพลียอย่างเหลือใจ
“เอ็งเพิ่งโดนเย็ดครั้งแรก มันก็ต้องมีเลือดปนออกมายังงี้แหล่ะ แล้วข้าทำให้เอ็งมีความสุขไหม?”
“เสียวสุดๆเลยพ่อจ๋า แต่ก็ทั้งแสบทั้งเจ็บ…”
บรรยากาศรอบข้างกลับมาสู่สภาวะปรกติอีกครั้ง หลังจากอารมณ์กระสันถูกปลดปล่อยออกมาเรียบร้อย สองพ่อลุกนอนกอดรัดใต้ผ้าห่มราวกับผัวเมียข้าวใหม่ปลามัน ก่อนที่อีกลอยจะนอนเคลิ้มและหลับใหลไปในอ้อมกอดพ่อนั้นเหมือนเด็กน้อย ส่วนตาปลั่งก็โอบกอดลูกสาวไว้อย่างเอ็นดูและหลับไปอย่างสุขสมใจเช่นกัน
-------------------------------------
โค้งท้องฟ้าเหนือท้องทุ่งนากำลังจะถูกทาทาบด้วยสีดำแห่งราตรีกาล สายฝนจางเม็ดลงจนผิวแผ่ว มีเสียงเซ็งแซ่ระงมมาจากท้องทุ่ง มันคือเสียงเริงร่าของกบเขียดและอึ่งอ่าง ที่ออกมาระเริงกับสายฝนและความชุ่มฉ่ำ
ท่ามกลางเสียงร้องของกบเขียดและอึ่งอ่างดังก้องท้องทุ่ง เสียงขลุ่ยของไอ้ไวไฟดังแว่วหวิวลอยมาตามสายลมยามเย็นย่ำ สายตามันช่างหม่นหมองมองทอดยาวออกไปเบื้องหน้า ผืนนาที่เคยแตกระแหงเมื่อหลายเดือนก่อนบัดนี้เขียวชอุ่มเต็มท้องทุ่ง ต้นกล้าที่มันเสียเหงื่อลงแรงปักมาดำมาแรมเดือนรากเริ่มติดดินแทงยอดใบอ่อนพลิ้วไหวตามสายลม เสียงกุกกักๆจากไอ้ฉ่ำอีแฉะควายคู่ทุกข์คู่ยากทั้งสองเดินเล็มหญ้าเอื่อยๆ อยู่ไม่ไกลช่างไม่รู้ทุกข์ ร้อนหนาวอย่างเจ้านายมันเป็นอยู่ แว่วเสียงเพลงจากวิทยุทรานซิสเตอร์ก็ยิ่งตอกย้ำความทุกข์ของมันทวี
‘ เสียง... ขลุ่ยครวญหวนมากับลม พี่สะอื้นฝืนระทม ค่ำคืนฝืนข่มใจเหงา
ขลุ่ยครางครวญพี่หวนคำนึงถึงเจ้า ฟังเสียงหริ่งหรีดเร้า พี่ยิ่งเศร้า ....ไม่วาย….’
“อ้าวๆ มานั่งอยู่ตรงนี้เอง ไอ้ไวไฟ!?” เสียงเรียกของหนุ่มบ้านนารุ่นเดียวกันดังขึ้นจากข้างหลัง ปลุกเพื่อนให้ตื่นจากภวังค์ความคิดเลื่อนลอยของตัวเอง
“ไอ้แฉ่ง! เอ็งไปไงมาไงวะเนี่ย แล้วทำไมโผล่มาหาข้าตอนตะวันจะเข้าพลบวะ?” ไอ้ไวไฟวางขลุ่ยในมือ พลางหันไปมองเพื่อนเกลอที่เดินยิ้มแฉ่งสมชื่อเข้ามาหา แล้วอดจะแปลกใจไม่ได้ว่ามันโผล่มาอย่างไงในยามโพล้เพล้ตะวันใกล้ลับฟ้าอย่างนี้
“ข้าก็แวะมาเยี่ยมเอ็งสิวะ ได้ข่าวว่าเอ็งไปช่วยตาปลั่งทำนา แวะไปหาที่เถียนนา แกบอกว่าเอ็งกลับมาแล้ว นี่แกยังฝากข้าให้เอาข้าวเอาปลามาให้เอ็งด้วย” เพื่อนสนิทที่วิ่งเล่นกันมาตั้งแต่เล็กเอ่ยบอก พลางนั่งลงข้างๆเพื่อน
“นี่เอ็งคงจะกลับมาช่วยแม่เอ็งทำนาละสิ?” ไอ้ไวไฟเอ่ยถามเพื่อนเกลอ เพราะไอ้แฉ่งมันแต่งเมียไปกับสาวหมู่บ้านอื่นแล้วย้ายไปอยู่บ้านสาว ช่วงหน้านาจะกลับมาช่วยแม่มันทำนา
“เออสิวะ ก็พ่อข้าแกตัดช่องน้อยบวชไปแล้ว ที่นาก็มีเยอะแยะ แม่ข้าทำคนไม่ไหว นี่เมียข้าก็กำลังท้องด้วย”
“........” พอพูดถึงเรื่องเมีย ไอ้ไวไฟก็ทำหน้าเศร้าไปอีก
ไอ้แฉ่งตบไหล่เพื่อนเบาๆ อย่างคนเข้าใจหัวอกของมัน “นี่เอ็งยังคิดถึงเรื่องอีซ่อนกลิ่นอยู่หรือวะ”
ไอ้แฉ่งพูดแล้วหยิบกระป๋องยาเส้นมวนยาจุดให้เพื่อนที่กำลังอกกลัดหนองเพราะอีซ่อนกลิ่น สาวสวยประจำหมู่บ้านที่ไอ้ไวไฟมันคบหาดูใจมานานหลายปี และสาวเจ้าก็มีใจให้มันต่างสัญญากันว่าสิ้นหน้านาปีนี้จะไปสู่ขอ ทว่าฝันของไอ้ไวไฟต้องล่มถล่มจมไปกับสายน้ำหลากทุ่งในหน้าฝนปีนี้ เมื่ออีซ่อนกลิ่นถูกผู้ใหญ่จับหมั้นหมายกับหนุ่มต่างบ้านไปเมื่ออาทิตย์ก่อน จนเมื่อไอ้ไวไฟได้รู้ข่าวมันแทบเป็นลมล้มทั้งยืน
“เอ็งกินมารึยังละ ประเดี๋ยวข้าอาบน้ำล้างเนื้อตัวเสร็จค่อยกินด้วยกัน” ไอ้ไวไฟพูดตัดบทเสเปลี่ยนเรื่องไม่อยากพูดถึงเรื่องที่กำลังทำให้ตัวเองร้อนรุ่มในใจพลางลุกเดินดุ่มๆไปจูงไอ้ฉ่ำกับอีแฉะเข้าคอกข้างเถียงนา ปล่อยให้เพื่อนเกลอนั่งดูดมวนยาคนเดียวแล้วมองด้วยสายตาเห็นใจอย่างเข้าหัวกลัดหนองของมัน
“ไวไฟเอ้ย…แผ่นดินไม่ไร้เท่าใบพุทรา เอ็งอย่าเสียใจไปเลย ไม่แน่นะ เอ็งคงจะเจอใครที่ดีกว่าอีซ่อนกลิ่น”
“.........” ไอ้ไวไฟไม่ตอบโต้อะไร มันยังคงเดินก้มหน้าจูงควายเข้าคอกไปเงียบๆ
.
.
.
.
ลมเย็นๆที่พัดผ่านเถียนนาหลังน้อยเริ่มทวีแรงขึ้นตามลำดับในยามค่ำคืน แสงไฟที่ยังติดดุ้นฟืนสำหรับเผาหญ้าไล่ยุ่งให้ควายที่ผูกไว้สว่างวาบๆ เปลวไฟตะเกียงลู่ตามแรงลมที่พัดมันหรี่แสงลงคล้ายจะมอดดับ
บนฟากฟ้าสีหมึกไร้ดาวในยามหน้าฝน หมู่เมฆสีดำทะมึนเปิดฟ้าให้โล่งหลังรินหลั่งสายฝนมาตั้งแต่เช้าจนพลบค่ำ พระจันทร์ดวงกลมโตด้วยเพราะใกล้วันข้างขึ้นโผล่พ้นทิวยอดไม้ชายทุ่งขึ้นมารำไร ไอ้ไวไฟในร่างกายเปลือยเปล่ายืนอาบน้ำถูไถตามเนื้อตัวอยู่ข้างหนอง ร่างกายบึกบึน กำยำแข็งแรงด้วยมัดกล้ามของมันนั้นช่างแน่นขนัดสมวัยหนุ่มฉกรรจ์ ผมดกดำ ใบหน้าคมคายตามสันคางเขียวครึ้มด้วยตอหนวดเคราที่พึ่งโกนใหม่ๆ
บนเรือนกายกำยำด้วยมัดกล้ามจากการออกแรงทำไร่ไถนา ดงขนที่ดกหนาเนินหัวเหน่านั้นลามลามขึ้นมาบนแผงหน้าท้องที่เป็นลอนลอนจนถึงสะดือ แผงหน้าอกกว้างหนานั้นประดับด้วยรอยสักข์ลงอักระเป็นยันต์ตามความเชื่อของเจ้าของ ไม่ต่างจากแผ่นหลังที่ลงอักขระไว้จนเต็ม ยิ่งพวงดุ้นเอ็นที่ห้อยโตงเตงกลางลำตัวนั้นมันยิ่งบ่งบอกถึงความเป็นลูกผู้ชายอย่างเต็มเปี่ยม ไอ้ไวไฟยืนลูบไล้ล้างคราบโคลนตมจากเนื้อตัวเปลือยเปล่าของตัวเองอยู่นาน มือใหญ่หนาสากนั้นลูบไล้คลึงพวงลำเอ็นถอกล้างทุกซอกมุม
ดุ้นเอ็นที่ตอนนี้เจอมือเจ้าของกำลังลูบคลึงอย่างภูมิใจที่ขนาดของมันเองไม่น้อยหน้าใคร จนทำให้เจ้าของภูมิใจหากสาวใดโดนมันทะลุทะลวงคงลืมไม่ลง ในยามนี้มันพองตัวจนตั้งตะหง่าน มันอวบใหญ่ถึงขนาดมือหนาของไอ้ไวไฟกำแทบไม่รอบ ลำนั้นยาวโค้งขึ้นน้อยๆจนเกือบถึงสะดือ หัวบักบานมู่ทู่ดำคล้ำเมื่อถอกหนังหุ้มลงจนสุดโคน ยิ่งเส้นเอ็นปูดโปนหลายเส้นมันพันเกี้ยวรอบผิวลำ มันยิ่งทำให้ดุ้นลำนั่นดูดำทะมึนน่าเกรงขาม ยามนี้มันผงกหัวหงึกๆอยู่กลางลำตัวอย่างกระหาย มือหนาสากกำรูกลำเอ็นนั้นจนหัวถอกบานสีม่วงสดแผ่ขยายคล้ายงูเห่ากำลังแผ่แม่เบี้ยโผล่พ้นกำมือ
ระหว่างรูดๆกำๆสร้างความเสียวซ่าน ในห้วงคำนึงของไอ้ไวไฟกำลังคิดถึงเรือนร่างของอีซ่อนกลิ่น สาวคนรักที่เคยนอนทอดกายให้มันเชยชม ร่างขาวโพลนอวบอัดด้วยวัยเต็มสาวนอนเอนอิงแอบในอ้อมอกของมัน มือหนากำลังบดคลึงหน้าอกคู่งามจนหัวนมมันแข็งเป็นไตด้วยความเสียว มืออีกข้างบดบี้คลึงเคล้นเนินเนื้อใต้ดงขนหนาสากมือ จนน้ำใสที่ปริ่มออกมาเลอะฝ่ามือ และไหลหลากมาฉ่ำแฉะเนินขนสีดำราวน้ำกำลังท่วมทุ่งนา
“อู้ยๆๆ พี่ไวไฟ อย่าทำอย่างนั้น อย่าบด อย่างคลึงหีของฉัน....” อีซ่อนกลิ่นคนสวยแห่งท้องทุ่งนอนดิ้นเร่าๆในอ้อมกอดแข็งแรงของหนุ่มคนรักด้วยความเสียวซ่านอย่างไม่เคยเป็น
“ ซ่อนกลิ่นของพี่ไวไฟ พี่รักเอ็งนะ รักมากที่สุด รักเสียจนอดใจไม่ไหว เป็นของพี่เถอะนะ แล้วพี่จะพาเอ็งขึ้นสวรรค์” ไอ้ไวไฟพรอดพล่ำรำพันบอกสาวคนรักแล้ลอบยิ้มพอใจที่สาวคนรักครางกระเส่าปานใจจะขาด ขาเรียวขาวราวหยวกกล้วยเนื้อในทั้งสองข้างกางอ้าออกให้มือสากด้านนั้นแยงนิ้วเรียวแข็งเข้าสัมผัสเขี่ยเม็ดติ่งข้างใน
“อื่มมมมม....พี่ไวไฟจ๋าาา....ฉะ..ฉัน อู้ย....อ๊าาา...อย่าทำอย่างนั้น ซี้ดดดดดด” ด้วยความเสียวซ่านจับจิต ทำเอาอีซ่อนกลิ่มกระตุกหยึกๆหลับตาพริ้มน้ำหีแตกตั้งแต่ไอ้ไวไฟยังไม่ทันลงควยเย็ด
ไอ้ไวไฟก็โชกโชนในเรื่องอย่างนี้ มันเคยมีประสบการณ์เย้ดกับกระหรี่ในเมืองมาก่อน แต่มันกลับตื่นเต้นที่จะได้เย็ดสาวสดๆซิงๆ ไม่ใช่กระหรี่หีหลวมๆทั่วๆไปที่ผ่านมาร้อยควยร้อยชาย ไอ้ไวไฟประคองสาวคนรักที่มันกำลังจะฝากควยไว้ในกายนางมานั่งบนเถียนนา และจับตัวสาวคนรักให้หันหน้าเข้าหาตัวเอง จนเมื่อสองสายตาสบกันนิ่งนาน ไอ้ไวไฟก็ก้มประทับจูบบดริมฝีปากดุนลิ้นเข้าออกกับปากเรียวบางนั้นอย่างดูดดื่น แล้วเลื่อนไล้ดอมดมใบหน้านั้นไล่ลงมาซอกคอสลับข้างนั้นทีข้างนี้ที จนถึงฐานเต้าอวบทั้งสองข้างที่แข็งเป็นก้อน ปลายยอดที่แข็งชูชันสีชมพู่ระเรื่อล่อปาก ไอ้ไวไฟก้มลงอ้าปากดูดจ๊วบๆและเม้มอย่างหื่นกระหาย
“งั้มๆๆซ่อนกลิ่นของพี่ เนื้อตัวเอ็งช่างหอมหวานเสียจริงๆ น่ากอดน่าหอมไปหมด รุ้ไหนซ่อนกลิ่นเอ้ย พี่ไวไฟยอมขาดใจตายตรงนี้เลย ถ้าเพื่อได้เชยชมเอ็ง พี่นี้ทั้งรักทั้งหวงเอ็ง จนอยากจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัว ไม่อยากเหลือไว้ให้ใครได้เห็นหรือได้กลิ่น” ไอ้ไวไฟพึมพำพร่ำพรอดออกมาระหว่างซุกไซร้ไปบนร่างกายสาว จนหญิงสาวหน้าแดงซ่านและเขินอายในน้ำคำของมันจึงฟาดฝ่ามือเผี๊ยะลงบนบ่า
“เซี้ยวจริงนะ พี่ไวไฟ พูดจาบ้าบออะไรก็ไม่รู้…” อีซ่อนกลิ่นคนสวยพูดแล้วทำท่าเอียงอายตามจริตหญิง ที่ต้องมานอนแก้ผ้าต่อหน้าหนุ่มคนรักกลางวันแสกๆ ยิ่งสายตาที่จ้องมองมันจนแทบจะกลืนกินตัวเธอเข้าไปจริงๆ
“วะ..ว้าย!” อีซ่อนกลิ่นต้องร้องวตกใจ เมื่อไอ้ไวไฟจับมือนุ่มนิ่มของมันมาวางที่ตรงหน้าตัก มือบางสัมผัสกับดุ้นควยแข็งเป้กร้อนผ่าว มันพองบวมราวจะระเบิดออกมา น้ำใสๆไหลเยิ้มส่วนหัว มือบางจับกำไม่รอบ และเกิดรัญจวนใจผสมความอายไม่กล้าจับนาน ด้วยเกรงจะถูกคนรักมองว่าเป็นหญิงร่านควย จึงจำใจปล่อยอย่างเสียดาย
“หึๆ ตกใจอะไรจ๊ะ น้องซ่อนกลิ่นของพี่?” ไอ้ไวไฟหัวเราะชอบใจ เมื่อเห็นสาวคนรักที่ไม่เคบจับดุ้นควยชายใดมาก่อนในชีวิตสาวทำท่าตกอกตกใจเมื่อได้สัมผัสไวไฟน้อยแต่ไม่น้อย ดุ้นเอ็นดำอันเขื่องตั้งตระหง่านกลางหว่างขานั้นผงกหัวหงึกๆอย่างน่ากลัว สาวบ้านนาที่ยังไม่ประสากามราคะจิตใจเตลิดเปิดเปิงยามเหลือบมอง
“ซ่อนกลิ่นเอ้ย ดูควยของพี่ไวไฟสิจ๊ะ มันเงี่ยนจนปวดระบมไปหมดแล้ว ช่วยจับมันนวดให้ผ่อนคลายหน่อย” พูดแล้วก็จับมือบางของสาวคนรักมาโอบกำรอบๆดุ้นควยร้อนฉ่าของมัน สาวเจ้าทำสะบัดมือไม่ยินยอมพร้อมใจทำ มือของเธอสั่นเทิ้มด้วยความตื่นเต้นที่ไม่เคยเจอแก่นเอ็นผู้ชายมาก่อน ยิ่งดุ้นลำร้อนผ่าวเต้นตุ๊บๆในกำมือมันนั้นแข็งงึกๆปานหินก็ไม่ปาน ทำเอาในช่องสวาทคันยิกๆน้ำใสๆไหลเดินออกมาไม่หยุดหย่อน
“จับเถอะนะ ซ่อนกลิ่น มันเป็นของเอ็งนะ หรือจะให้คนอื่นมาจับแทน” เจ้าไวไฟพูดกระเซ้า
“ลองให้คนอื่นมาจับสิ ฉันจะตัดไม่ให้เหลือแม้กระทั่งตอ” สาวคนรักพูดเสียงเขียวทันที
“ไม่ยอมให้คนอื่นมาจับ แต่เอ็งก็ไม่จับ แล้วจะเก็บไว้ทำไมจ๊ะ” เจ้าไวไฟกระซิบถามเย้าๆอย่างขบขัน
ในที่สุดสาวบ้านนาคนสวยก็ยินยอมใช้มือบางเอื้อมมากำท่อนควยโตๆอย่างหวามใจ มันใหญ่โตมโหฬารจริงๆ ชนิดดุ้นควยพวกพี่ๆและพ่อของเธอที่เคยหลุดออกมาให้เห็นยามอาบน้ำเทียบไม่ติด สาวซ่อนกลิ่นกำแล้วหอบหายใจหนักๆกำแล้วบีบเบาๆ ขณะที่หัวใจเต้นระรัวเป็นกลองเพล หายใจติดๆขัดๆในลำคอ
“อ๊าๆๆ อู้ยยยยย รูดขึ้นๆลงๆด้วยซิจ๊ะ ซ่อนกลิ่นจ๋าาาา อา อย่างนั้น....ข้าเสียวดีเหลือเกินนนนน” ไอ้ไวไฟเกร็งตัวนอนหงายหลับตาพริ้ม ความเสียวจากมือสาวแผ่กระจายจากดุ้นควยจนต้องเกร็งไปทั้งร่างกล้ามเนื้อส่วนตัวๆนูนขึ้นมา เมื่อถูกมือนุ่มนิ่มกำควยแทบไม่รอบลำนั้นรูดขึ้นลง ช้าๆ
“อื่อ....ซี้ดดดดดด....” ไอ้ไวไฟก็ไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวที่จะสบายตัวคนเดียว มันยังไม่ลืมจะช่วยสาวคนรักไปด้วย นิ้วเรียวแข็งยังแยงเข้าออกร่องเสียวอีเซ่อนกลิ่น ซึ่งมันเองก็ชอบและนั่งอ้าขาให้หนุ่มคนรักแยงนิ้วเข้าออกจนนิ้วมันปลาบอาบเยิ้มด้วยน้ำเงี่ยน นี่แค่เป็นนิ้วร่องเสียวคนรักยังคับแน่น ถ้าเป็นดุ้นที่อีเพ็ญกำลังชักถอกอยู่มีหวัง อีซ่อนกลิ่นนึกแล้วแสยง ‘โดนเข้าไปหีคงบานหุบไม่ลง คงระบมหนักจนเดินไม่ได้ไปหลายวันแน่ๆ’ ถึงจะคิดอย่างนั้น แต่มันก็ยังอยากจะลอง!
“ซ่อนกลิ่น เอ็งรักข้ามากไหม?” วงหน้าสวยของอีซ่อนกลิ่นถูกสองมือหยาบกระด้างจากการจับจอบ คันไถประคองไว้ ยิ่งสาวคนรักมันเอียงอายหลบตาวูบ ไอ้ไวไฟมันยิ่งกระหยิ่มที่จะได้เป็นคนแรกคนเดียวของสาวคนรัก
“ถามอะไรก็ไม่รู้ พี่ไวไฟนี่ละก็…” อีซ่อนกลิ่นคิดในใจว่า ‘มึงนี่โง่หรือแกล้งโง่ ถ้ากูไม่รักมึงจะมานั่งแก้ผ้าให้ดูดนม แหย่หีอย่างนี้หรอ?’
“ถ้าเอ็งรักพี่…คืนนี้เอ็งเป็นของพี่ทั้งตัวและหัวใจนะ…ซ่อนกลิ่นของพี่” ฟังคำออเซาะฉอเลาะของไอ้หนุ่มไวไฟ อีสาวซ่อนกลิ่นเอียงหน้าหลบด้วยใจระทึก เมื่อรู้ว่าต่อไปอีกไม่กี่อึดใจจะถูกจับเย็ดแล้วกลายเป็นเมียโดยพฤตนัยของไอ้ไวไฟอย่างสมบูรณ์
เมื่อสาวเจ้าไม่ตอบคำนอกจากยิ้มหน้าแดงซ่านด้วยความเอียงอาย ก็เหมือนคำตอบว่า ‘เชิญจัดหนักฉันได้ตามสบายเลยพี่!’ ไอ้ไวไฟหนุ่มคะนองจึงประคองร่างเปลือยนั้นลงนอนราบกับพื้น แทรกตัวเข้านั่งกลางหว่างขาที่ถูกจับอ้าออกจากกัน อีสาวบ้านนาหัวใจหวิวๆด้วยความตื่นเต้นเมื่อกำลังจะถูกเย็ดแบบจริงๆจังๆ และได้มองเห็นท่อนควยใหญ่ๆเต็มๆตา มันก็เผลอแลบลิ้นเลียปากอย่างลืมตัว หัวบักบานนั้นตั้งโด่ดำทะมึน มันเยิ้มด้วยน้ำใสละเลง มันผงกหัวหงึกๆกลางลำตัวไอ้ไวไฟอย่างเอาเรื่อง ไอ้ไวไฟใจหาญจับหัวบานมู่ทู่นั้นจ่อตรงร่องกลีบพลางลากมันขึ้นลง ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนมันเยิ้มปลาบด้วยน้ำเงี่ยนของอีสาวบ้านนาที่ไหลหลั่งออกมาราวฝายน้ำล้น
‘กึก!’ ไอ้ไวไฟจับส่วนปลายยัดเข้าไปอย่างถนอม เพราะมันรู้ว่าเป็นคนแรกที่ได้สิทธิ์จากอีสาวให้ล่วงล้ำ
“อะ อุ้ย....พะ พี่ไวไฟ มะ มันเจ็บ อ่ะ!” อีซ่อนกลิ่นผวาเฮือกเอามือจับต้นแขนแกร่งของไอ้ไวไฟแล้วจิกเล็บลงไปแน่น เมื่อถูกปลายควยไอ้หนุ่มไวไฟบุกรุกเข้าไปเพียงส่วนหัว
“เจ็บนิดเดียวเองนะ เอ็งอย่ากลัวเลยซ่อนกลิ่น พี่จะทำเบาๆนะ” ไอ้ไวไฟเองนกรู้ มันรีบก้มลงดูดดุนเม็ดนมให้อีซ่อนกลิ่นผ่อนคลายความคับตึง พลางกดเอวให้ลำควยนั้นหายเข้าไปอีกนิด
“อ้าๆๆ อุ๊ย พะ พอเถอะพี่ไวไฟ ฉันเจ็บ เอาออกไปเถอะ อู้ย ยังกะรูหีจะฉีกขาด มัน เจ็บ อู้ยยยยย” อีสาวบ้านนาที่เพิ่งเจอดุ้นควยผวาเฮือกดันหน้าอกไอ้ไวไฟที่กำลังหักหาญให้หยุดดันส่งดุ้นควยนั้นเข้ามาในร่างกาย
“ทนอีกนิดนะ คนดีของพี่ มันเข้าไปได้ครึ่งลำแล้ว อีกนิดเดียว แล้วเอ็งจะรู้ว่าสวรรค์มีจริง!” ไอ้ไวไฟโอบกอดร่างอวบอิ่มของสาวคนรักไว้ พลางพูดจาหวานหูปลอบปะโลมให้สาวคนรัก ทั้งๆที่มันต้องทนกับความคับตึงในร่องหลืบที่มันบีบรัดจนลำเอ็นนั้นปวดหนึบๆ ‘รูหีฟิตดีฉิบหาย แน่นดีกว่าตอนเย็ดกระหรี่อีก!’
“อะ อู้ย เข้ามาอีกแล้ว ซี้ดดดดดดด” อีซ่อนกลิ่นเจอเล้าโลมดึงความสนใจจากท่อนควยกำลังเข้าหีก็เริ่มผ่อนคลาย เมื่อมือหนาด้วยหนังด้านๆของไอ้ไวไฟบีบขยำ คลึงเคล้นสองเต้าขาวผ่องของมันอีกครั้ง ทำให้มันลืมความเจ็บปวด บั้นเอวที่ควงช้าๆเนิบๆนั้นทำงานไปด้วยข้างล่าง
‘ปึ้ก!’
“อะ อู้ย!” อีสาวบ้านนาผวาเฮือก เมื่อท่อนควยใหญ่ๆมุดเข้าไปจนหมดลำ
“ซ่อนกลิ่นของพี่ ยังเจ็บอยู่ไหม?” ไอ้ไวไฟกระซิบถามข้างใบหู เมื่อดึงดันตะบันดุ้นควยเท่าแขนเข้าไปในรูหีฟิตของอีสาวจนหมดลำ
“อื้อๆๆ” อีสาวหลับตากัดฟันกรอดๆเพราะความคับแน่นในช่องท้อง จนหายใจแทบไม่ออก
“อ้า รูหีของเอ็งมันขมิบรัดควยของข้า แน่นไปหมด อีซ่อนกลิ่นเอ้ย!”
“อื่อๆ มันแน่น มันจุกจริงๆ ฉันหายใจแทบไม่ออกเลย”
“แต่มันก็เข้าไปหมดทั้งลำแล้ว เอ็งดูซิ…” ไอ้ไวไฟพูดแล้วโหย่งร่างขึ้นให้อีซ่อนกลิ่นดูผลงาน ทำเอาอีสาวบ้านนาตาเบิกกว้าง ดูกลีบแคมที่อ้าอมดุ้นควยใหญ่ๆราวควยม้าของไอ้ไวไฟ ‘โอ้…มันรับเข้าไปได้ยังไง’ อีสาวคนสวยแห่งบ้านนาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ‘ตัวเราก็เท่านี้ ควยพี่ไวไฟก็ใหญ่ขนาดนั้น ไม่น่าจะเข้าไปได้จริงๆ’ แต่ไม่ว่าจะคิดยังไงในตอนนี้ควยใหญ่ๆของไอ้ไวไฟก็มุดเข้ารูหีมันไปแล้ว มันประกาศความเป็นของและกำลังจะมอบความสุขเสียวที่อีสาวซ่อนกลิ่นไม่เคยพานพบมาก่อนในชีวิต!
ไอ้ไวไฟใจหาญเริ่มถอนควยยกเอวออกมาช้าๆจนกลีบแคมนั้นย่นรูดออกมาตามผิวลำควย อีสาวบ้านนายกก้นแอ่นตาม แล้วไอ้ไวไฟก็ดันพรวดเข้าไปใหม่ มันเริ่มชักเข้าชักออกช้าๆ เรื่อยๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกระทั่งร่องหลืบนั้นเริ่มชินกับดุ้นที่แทรกตัวเข้าไป น้ำเงี่ยนเหนียวๆไหลออกมาช่วยหล่อลื่นให้ความฝืดในระยะแรกๆบรเทาลง
จั๊กๆๆๆ
“อ้าๆๆพี่ไวไฟจ๋า ฉันมีความสุขเหลือเกิน ซี้ดดดดดดด”
อีซ่อนกลิ่นเริ่มครวญครางเสียงหวาน มันรู้สึกสบายล่องลอยราวกำลังนั่งบนเรือน้อยกลางลำคลองที่โครงเครงเอียงไปเอียงมา และบางครั้งก็รู้สึกราวอยู่กลางฝนที่กระหน่ำหนักเปียกปอน หนาวสะท้านจนต้องห่อปากครางเพราะความหนาวสั่นราวลูกนกตกน้ำ ส่วนไอ้ไวไฟเองก็ประหนึ่งคนกำลังถือเรือลำน้อยเข้าไปในลำคลองคับแคบเต็มไปด้วยหญ้าและโคลน มันพยายามถือเข้าไปก็ต้องถอยออกมาเพราะความคับแน่นของช่องทาง แต่มันก็ยังตั้งหน้าตั้งตาถ่อเข้าไปอย่างไม่หยุดยั้งจนกระทั่งเหงื่อไหลไคลย้อยอาบร่างกายแกร่งมันแผล่บ
“อ้าๆๆพี่ไวไฟๆๆ ฉัน..ทำไมฉันปวดเยี่ยว อู้ยยยยย กลั้นไม่ไหวแล้ว ซี้ดดดดด”
“เอ็งกำลังจะน้ำแตก กลั้นไว้เดี๋ยว ปล่อยออกพร้อมๆกันนะ ข้าก็จะแตกเหมือนกัน....”
เสียงครางของไอ้ไวไฟใจหาญกับสาวคนรักดังผสานพร้อมๆกัน เมื่อไอ้ไวไฟเริ่มโยกซอยบั้นเอวเข้าออกเร็วขึ้น อีซ่อนกลิ่นก็นอนบิดตัวเร่าๆด้วยความเสียวที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต ยิ่งไอ้ไวไฟจับเอวคอดดึงสวนตอนที่มันกระเด้าแทงเข้าไปลึกๆเน้นถี่ยิบ อีซ่อนกลิ่นถึงกับตาเหลือกลานทั้งเจ็บทั้งเสียวปนกัน ยิ่งน้ำเงี่ยนมันไหลอาบออกมามันยิ่งลดความฝืดให้ลำควยใหญ่ๆ ผ่านเข้าๆออกๆได้ง่ายกว่าเดิม
ตรั่บ! ตรั่บ! ตรั่บ! ตรั่บ !!!........
เสียงโหนกต่อโหนกของหนุ่มสาวบ้านนาปะทะกันดังลั่นทุ่ง มันทั้งสองตอนนี้ไม่สนใจอะไรในโลกนี้แล้ว นอกจากหีกับควยที่สอดประสานกัน ไอ้ไวไฟเองยิ่งได้ยินเสียงอีซ่อนกลิ่นครางแข่งกับเสียงกระแทกควยดัง จั๊กๆๆๆ เมื่อเนื้อโหนกหนอกกระทบกัน มันก็ยิ่งได้ใจเพิ่มความแรงความเร็วขึ้นอีกมันถาโถมเด้าเสยเข้าใส่ด้วยความมันในอารมณ์ ไม่มีความปราณีใดๆให้กับหีของสาวบริสุทธิ์ที่มารองรับควยใหญ่ๆของมันอีกต่อไป เพราะว่าความสุขสุดยอดมาจ่อรออยู่ข้างหน้าแล้ว
“อ้าๆๆๆๆ พี่จะแตกแล้ว ซ่อนกลิ่น รูหีของเอ็งมันฟิตจริงๆ ดูดควยพี่ไม่หยุดเลย อู้ยๆๆๆๆๆ” ไอ้ไวไฟพูดเสียงขาดๆหายราววิทยุถูกคลื่นรบกวน
“อะ อุ้ยยยยย ฉันก็ปวดเยี่ยวจนทนไม่ไหวแล้ว อะ อุ้ย อะ ออกมาแล้ว ออกมาแล้ว กรี้ดดดดดด”
“พี่ก็ออกแล้วววววว….”
ปริ้ดดดดดด.....ปริ้ดดดดดดด....ปริ้ดดดดดด....
“อ้าาาา…..ซี้ดดดดดดดดดดด”
“อะ อุ้ววววว์....โอ้ยยยยยยยยยย”ไอ้ไวไฟกระแทกเน้นๆอีกไม่กี่ที ทำนบก็แตก พ่นน้ำเงี่ยนร้อนๆเข้าใส่รูหีไปกระทบปากมดลูกของอีซ่อนกลิ่นอย่างเนื่องนอง
“ฮู้ยยยยย พี่ไวไฟฉี่ใสหีฉันเต็มเลย อู้ยยยย ร้อนไปหมดทั้งหน้าท้องเลย อะ อู้ววววว” อีสาวบ้านนาเองก็ขมิบน้ำเงี่ยนออกมารับน้ำเงี่ยนร้อนๆของไอ้ไวไฟ มันได้รับรู้ความเสียวสุดยอดจากดุ้นควยครั้งแรกอย่างตราตรึง
“ฮ้า…ซ่อนกลิ่นของพี่ไวไฟ พี่รักเอ็งที่สุด....ซี้ดดดดด” ไอ้ไวไฟหลังปล่อยน้ำเงี่ยนเข้ารูหีคนรักจนหมดทุกหยาดหยดก็กดเด้าลำเอ็นเน้นเข้าใส่ร่องนั้นจนเข้าไปลึกสุดลำก่อนจะฟุบทิ้งตัวทิ้งร่างแกร่งลงทาบทับร่างอีซ่อนกลิ่นที่นอนแผ่หราหายใจระทวยอยู่ข้างล่าง ต่างสุขสมใจกันทั้งคู่ ส่งเสียงหอบหายใจระงมแข็งกัน ร่างกายทั้งสองชื้นแฉะไปด้วยเหงื่อ
.
.
.
.
ณ ปัจจุบัน
‘อะ อู้ววววววว์….’
เสียงกระเส่าของไอ้ไวไฟดังขึ้น หลังจากที่มันยืนสาวลำเอ็นจนน้ำพุ่งออกมาและตกไปในลำคลอง ฝูงปลาว่ายเข้ามาแย่งตอดกินคราบมันๆที่ลอยเป็นแพราวอาหารอันโอชะ ไอ้ไวไฟหวนระลึกถึงความสุขกับสาวคนรักแล้วยืนสาวว่าวกลางลำคลองท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดส่องมา เมื่อสุขสมตัวมันเองถึงกับเข่าอ่อนที่ต้องเกร็งไปทั้งตัวด้วยความเสียวยามถึงจุดหมาย ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งในน้ำที่สูงแค่เข่า สายลมอ่อน ๆ พากลิ่นตุฉุนของหญ้าเน่าที่หมักอยู่ในโคลนตมพัดโชยมาเป็นระยะ แต่ไอ้ไวไฟก็คร้านที่จะใส่ใจ ภาพความสุขความทรงจำไม่ทำให้มันลืมเลือนสาวคนรักได้เลย จึงต้องมาระบายช่วยตัวเองบ่อยๆทุกค่ำคืนอย่างนี้…
.
.
.
.
สายลมที่พัดหวีดหวิวนำพาละอองสายฝนจางๆโปรยปรายไปทั่ว และลอยมากระทบร่างหนากำยำของไอ้ไวไฟที่กำลังยืนอยู่กลางทุ่ง ม่านเมฆฝนอึมครึมบนท้องฟ้ายังลอยเอื่อยๆเหนือหัวตามแรงลมข้างบนนั้นมันบดบังแสงแดดในยามบ่ายหลังเที่ยง บรรยากาศยามนี้ช่างมืดครึ้มหนาวเย็นด้วยลมฝนที่ตกหนักมาตลอดตั้งแต่กลางดึกเมื่อคืนต่อเนื่องมาถึงเมื่อตอนเช้าตรู่ จนบัดนี้บ่ายโมงกว่าๆแล้วก็ยังไม่หยุดสักที
บนคันนาเล็กๆกลางทุ่งกว้าง ท่ามกลางต้นกล้าข้าวเขียวขจีที่บัดนี้แทงยอดอ่อนปลายแหลมนั้นพลิ้วไหว มองแล้วคล้ายๆระลอกคลื่นเล็กๆกระฉอกผิวน้ำตามแรงลมที่พัดผ่าน
ไอ้หนุ่มไวไฟนับเบ็ดที่จะเอาออกไปวางทีละอัน ไส้เดือนที่ขุดจากจอมปลวกเพื่อเอามาเป็นเหยื่อล่อปลาในกระป๋องเลื้อยพันกันจนกลายเป็นก้อนกลมๆเท่าลูกส้มโอลูกเล็กๆ คันเบ็ดถูกมือหนาแก้มัดยางเส้นที่ใช้กรรไกรตัดมาจากยางชั้นในของรถจักรยานมัดรวบไว้ด้วยกัน ซึ่งมันสามารถใช้มัดคันเบ็ดได้ดีทีเดียว
ไอ้ไวไฟย่างเท้าไปบนดินแฉะๆของคันนารกไปด้วยหญ้าที่ขึ้นงอกงามตามฤดูหน้านา แว่วเสียงปลาฮุบเหยื่อในพุ่มพงไม้ดังมา มันปลุกความกระตือรือร้นของไอ้ไวไฟที่จะได้ปลาตัวโตๆไปทำอาหารมื้อเย็น มันเริ่มวางเบ็ดไปตามคันฝายโดยเว้นระยะห่างตามช่วงก้าว เว้นประมาณหกก้าวจะวางเบ็ดอันหนึ่ง บางทีก็นับลืมเหมือนกันก็จะกลายเป็นห้าก้าวหรือเจ็ดก้าวไป ที่ไอ้ไวไฟมันวางเบ็ดทุกระยะหกก้าวก็เพราะเชื่อจากประสบการณ์ที่เคยวางที่ผ่านมา การวางในทุกช่วงก้าวนี้จะเป็นช่วงที่ปลาจะติดเบ็ดมากกว่าช่วงก้าวระยะอื่นๆ
เบ็ดคันสุดท้ายถูกวางลงข้างพงหนามพุ่มเล็กๆไส้เดือนโชคร้ายเลื้อยดิ้นอยู่ก้นน้ำ อาจเป็นเพราะความเจ็บปวดจากคมเบ็ดที่เกี่ยวทำให้ไส้เดือนตัวนั้นดิ้นช้าลงและหยุดดิ้นไปในที่สุด ไอ้ไวไฟผูกเชือกฟางสีแดงไว้ตรงพงหนามทำเครื่องหมายกันลืมไว้ในการวางเบ็ดคันสุดท้าย เสียงน้ำฝายไหลผสมกับเสียงนกร้องดังเป็นท้วงทำนอง เมฆฝนเริ่มเคลื่อนเข้ามาบดบังท้องฟ้า แว่วเสียงฟ้าร้องคลื่นๆและแสงแปล๊บปล๊าบ ที่คนเฒ่าคนแก่เล่าให้ฟังมาแต่เด็กๆว่าเป็นแสงและเสียงของนางฟ้าและเจ้าอสูรที่ไล่ฟาดฟันกันบนฝากฟ้า ที่มีนามว่า ‘ เมขลากับรามสูร’ ทำให้ไอ้ไวไฟคลึ้มอกคลึ้มใจร้องเพลงแปลงออกมา
‘เมขลาก็ล่อแก้ว…รามสูรเห็นแล้วขว้างขวานเข้าใส่
เมขลาหนีมาตกเบ็ด...ราวสูรมาไล่เย็ดตกน้ำตกท่า
เมขลาก็ร้องให้ช่วย…รามสูรควักควยแทงซ้ายแทงขวา…’
เมื่อปักเบ็ดคันสุดท้ายเสร็จไอ้ไวไฟเดินลัดเลาะมาตามคันนาคดเคี้ยว มันเดินดุ่มๆหวังจะมาลงหนองน้ำล้างคันคายจากหญ้าจากโคลนตมตามแข้งขา แล้วระหว่างจะเดินไปล้างเนื้อตัวนั้น ไอ้ไวไฟก็เหลือบไปเห็นใครบางคนที่คุ้นตานั่งผิงไฟอยู่ข้างๆเถียนนาของมัน กระทั่งเห็นถนัดมันก็ยิ้มบางๆที่มุมปาก
“อ้าว!? น้าโฉมนั่นเอง ฉันมองไกลๆก็นึกว่าสาวๆที่ไหน” ไอ้ไวไฟเอ่ยขึ้นเมื่อมันเข้ามายืนในเถียนนาหลังน้อยบนคูดินข้างหนองที่มีผู้หญิงนั่งผิงกองไฟที่สุมไว้อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
“อ้อ…ไอ้ไวไฟเองหรอ? ข้าเห็นหลังไวๆก็ว่าอยู่ ใครมาก่อไฟทิ้งเอาไว้” นางโฉม สาวใหญ่อายุคราวแม่แต่รูปร่างหน้าตายังสวยเปล่งปลั่งและมีผืนนาติดกันกับไอ้ไวไฟเอ่ยทักกลับมา
นางโฉมเป็นแม่ของไอ้แฉ่งที่เป็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน มันทั้งสองเองก็วิ่งเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กจนโต จะว่าไปเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนรักกันเลยทีเดียว เพราะผืนนาที่ติดกันแต่ถึงอยู่คนละบ้านก็ตามที จนตอนนี้ไอ้แฉ่งมันแต่งงานไปกับสาวต่างหมู่บ้านและย้ายไปอยู่กับเมียที่บ้านพ่อตา มันสองคนถึงได้ไม่ค่อยได้เจอกัน เพราะเมื่อโตมาต่างคนต่างก็มีเส้นทางชีวิตใครมัน เมื่อไอ้ไวไฟทักทายนางโฉมแล้วบ่ายหน้าลงล้างเนื้อตัวริมหนองเสร็จก่อนจะกลับเข้ามาในเพิงพักอีกครั้ง
“อู๊ยยยยย น้ำเย็นจริงๆเล้ย ไอ้ฝนห่านี่ก็ตกได้ตกดี จะท่วมนาอยู่แล้ว!” ไอ้ไวไฟมันบ่นพึมพำด้วยท่าทางหนาวสั่นพลางถอดเสื้อที่เปียกชุ่มออกผึ่งไฟแล้วลงนั่งข้างกองไฟ ซึ่งตรงหน้าที่นางโฉมนั่งอยู่อีกฝั่งตรงข้าม
“นี่มันหน้าฝน ฝนก็ต้องตกสิวะ ตกมาเอ็งก็จะได้มีน้ำทำนา ข้าก็กลัวว่าปีนี้ฝนจะแล้ง มันทิ้งช่วงนานเหลือเกิน”
“ฉันก็บ่นๆไปยังงั้นเองแหล่ะ ฝนตกก็ดี แต่รู้สึกมันจะตกมากไปแล้วนะ ตกไม่หยุดมาทั้งอาทิตย์แล้ว”
“ข้าก็กลัวน้ำมันจะท่วมเหมือนกัน เลยออกมาดูนา ฝนตกมันหนาวเลยแวะมาพิงไฟที่เถียนเอ็ง”
“แล้วไอ้แฉ่งไปไหน น้าโฉมถึงไม่ใช้มันออกมาดู ไอ้นี่ขี้เกียจทำให้แม่มันลำบาก”
หนุ่มฉกรรจ์และสาวใหญ่ ที่รู้จักมักคุ้นกันมานานหลายสิบปี นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อยอย่างคนคุ้นเคยกันอยู่อย่างนั้นพักใหญ่ แต่ถ้าไอ้ไวไฟมันจะสังเกตสักนิด มันคงจะเห็นว่าสายตานางโฉมสาวรุ่นแม่นั้นมีบ่อยครั้งที่ลอบมองผ่านง่ามขามันที่นั่งชันเข่าบนตั่งไม้เตี้ย และจ้องที่กางเกงผ้าแพรผืนบางที่เปียกน้ำจนซับแนบกับผิวเนื้อขานั้น มันบางซะจนมองเห็นสีดำของกางเกงในที่มันใส่อยู่ข้างใน นางโฉมหน้าร้อนวูบๆหัวใจเต้นส่ำไม่เป็นจังหวะในอกกับความอวบนูนของเป้าหว่างขาตรงหน้า อีกทั้งร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่าลำสันกำยำนั้นอีก ซึ่งมันผึ่งผายท้าทายสายตานางโฉมยิ่งนัก ยิ่งไอ้ไวไฟนั่งอ้าขาถ่างเอาเป้าอังไฟเรียกความอบอุ่นจากกองไฟมันยิ่งรั้งเป้านูนออกมาเป็นลำอย่างชัดเจน
“ไอ้แฉ่งมันไปไหนหล่ะ เมื่อวานแวะมาหาฉัน ไมทันคุยมันก็รีบกลับ” ไอ้ไวไฟเอ่ยถามขึ้นขณะดูดมวนยาฉุนอัดเข้าปอดเฮือกใหญ่แล้วพ่นระบายควันขาวๆขุ่นๆออกมาทางจมูกและปาก
คำถามนั้นทำเอานางโฉมที่สติสตางค์กำลังเตลิดสะดุ้งเอ่ยตอบเสียงสั่น “มันกำลังไปรับเมียมาอยู่ด้วย ตอนนี้เห็นบอกว่าเมียของมันท้องได้ 3-4 เดือนแล้ว”
“อุ๊บะ! ไอ้แฉ่งจะมีลูกแล้ว แหมๆมันร้ายนะไอ้นี่ แต่งไม่ทันจะปีก็มีลูกแล้ว ฮ่าๆๆๆ”
“เออ! แล้วเอ็งหล่ะ ไวไฟเอ้ย เมื่อไหร่จะแต่งเมียสักที เดี๋ยวมีลูกไม่ทันใช้อย่างไอ้แฉ่งมันนะ”
ไอ้ไวไฟนั่งหน้าเศร้ามองออกไปยังท้องนา “ฉันยังไม่คิดหรอกน้าโฉม คงไม่มีใครเขาอยากได้คนจนๆอย่างฉันเป็นผัวหรอก” พอมันรู้สึกตัวว่าไม่สมควรแสดงความอ่อนแอจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุย “ว่าแต่ไอ้แฉ่งนี่มันร้ายนะ น้ำเชื้อของมันดีจริงๆ จิ้มเมียไม่ทันไร ก็ติดลูกซะแล้ว ของมันดีจริงๆ”
ฟังเรื่องมีลูกเพราะถูกเย็ด นางโฉมก็หน้าแดงก่ำร้อนวูบวาบในตัว ยิ่งเมื่อพูดถึงเรื่องลูกชายบวกกับอารมณ์ที่สายตาแอบเหลือบมองเป้าควยตรงหน้า ทำให้นางโฉมคิดถึงเรื่องดำมืดในอดีตของตนกับลูกชาย เมื่อสมัยที่ไอ้แฉ่งผู้เป็นลูกชายเริ่มแตกเนื้อหนุ่ม นางโฉมเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงเมื่อควยมันใหญ่ขึ้น หนังหุ้มถอกออกหัวม่วงบานร่า บางครั้งไอ้แฉ่งมันนุ่งผ้าขาวม้าอาบน้ำ นางโฉมแกยังแอบมองควยมันบ่อยๆ เวลาที่ผ้าขาวม้ามันเปียก มันแนบเนื้อดีจริงๆ แล้วกลางคืนแกก็ตกเบ็ดช่วยตัวเอง ถึงแกจะอายุเกือบ 40 แล้วก็ตาม แต่แกยังมีไฟกามคอยเผาผลาญอยู่เรื่อยๆ และในบางคืนแกก็ยังเคยเก็บเอาไปฝันเปียกอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งระยะหลังๆทนไม่ไหว นางโฉมจะแอบย่องมาที่มุ้งลูกชายเมื่อผัวหลับ และชะโงกดูว่าลูกชายหลับหรือยัง เมื่อเห็นว่าหลับสนิทจึงแอบจับควยลูกชายที่แข็งปั๋งมารูดๆแล้วอมด้วยปากจนน้ำแตกคาปาก
นางโฉมแกทำอย่างนี้อยู่บ่อยครั้งจนกลายเป็นกิจวัตร กระทั่งระยะหลังๆกลับเป็นไอ้ลูกชายเองที่ดึกๆจะเอาขาลอดมุ้งที่กางติดกันมาโดนขาแม่ ทำเป็นเหมือนนอนละเมอ แต่นางโฉมรู้ว่านั่นเป็นสัญญาณให้แม่มันรีบๆมุดมุ้งมาทำอย่างที่เคยทำ บ่อยๆเข้าดึกๆไอ้แฉ่งก็แอบเข้ามาเอาควยยัดปากแม่มันเองเลย พอน้ำแตกก็กลับไปนอน ถึงจะทำกันขนาดนั้น แต่ทั้งสองแม่ลูกก็ยังไม่คิดจะเย่อเย็ดกันจริงๆจังฉันผัวเมีย
จนกระทั่งไอ้แฉ่งมันแต่งเมียออกจากบ้านไป นางโฉมจึงไม่ได้อมควยไอ้แฉ่งอย่างที่เคยทำ จะมีก็เพียงนานๆที่ไอ้แฉ่งจะกลับมานอนค้างที่บ้านเหมือนเข้าใจหัวอกแม่ของมัน เปิดโอกาสให้ได้อมได้เลียดุ้นควยลูกชายอย่างที่เคยทำ หรือครั้งไหนที่พาเมียมานอนค้างที่บ้านด้วย หลังจากที่ลูกชายลูกสะใภ้บรรเลงเพลงเสียวกันจนบ้านสั่นบ้านโยก ซึ่งนางโฉมก็ได้แต่นอนฟังเสียงครวญครางของทั้งคู่อย่างอิจฉา จนเมื่อสองผัวเมียเย็ดกันเสร็จและหลับไป นางโฉมเฝ้ารอจนดึกถึงจะเปิดมุ้งแอบย่องไปอมควยลูกชายต่อจากลูกสะใภ้ให้หายอยาก ที่นางโฉมต้องอดอยากปากแห้งมาทำเรื่องบัดสีนี้ก็เพราะว่า ตาเกรี้ยงผัวของแกเป็นคนธรรมะธรรมโม ไม่ค่อยเคร่งเรื่องในมุ้งสักเท่าไหร่ และยิ่งอายุเยอะแกก็หันหน้าเข้าวัดเข้าวาศึกษาพระธรรมอย่างจริงจัง ปล่อยให้นางโฉมเหี่ยวมานมนานหลายปี จนต้องหาทางออกให้ตัวเองอย่างนี้
ตัดกลับมา ณ ปัจจุบันตรงหน้า!
นางโฉมหัวใจเต้นตึกตักในอก รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องอารมณ์ปั่นป่วนเลือดลมวิ่งพล่านไปทั่วตัว เมื่อเห็นไอ้ไวไฟลุกขึ้นยืนผลัดกางเกงเปียกที่ติดตัวเป็นนุ่งผ้าขาวม้าแทน อีกทั้งมันยังถอดกางเกงในสีดำตากไว้บนราวไม้ ดูเหมือนเป็นเรื่องปรกติ แต่หัวใจของนางโฉมกลับไม่ปรกติไปด้วย
“หนาวจริงๆเลยน้า เสื้อผ้าก็เอามาชุดเดียว ที่เหลืออยู่กระท่อมหมด”
“ตากฝนบ่อยๆแล้วใส่ผ้าขะม้าผืนเดียว เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก นาเอ็งยังไม่เสร็จเลยนี่ ” นางโฉมพูดเสียงงึมงำ ทำท่าเอียงอายคล้ายสาวรุ่นกับหนุ่มรุ่นลูกตรงหน้า ยิ่งมันเห็นกางเกงในตัวนั้นถูกถอดพาดทิ้งไว้ก็เท่ากับว่าตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวของไอ้ไวไฟมีเพียงผ้าขาวม้าผืนเดียวติดตัว นางโฉมจินตนาการถึงควยไอ้ไวไฟยิ่งคิดยิ่งใจเต้นโครมครามอยู่ในอก
“อู้ย มันหนาวจริงๆนะ อากาศอย่างนี้ถ้ามีมเยนอนกอดอย่างไอ้แฉ่งคงจะอุ่นดีหายหนาว ฮ่าๆๆๆ”
“เอ็งก็รีบๆหาเมียสักคน สาวๆรุ่นเอ็งสวยๆบ้านเราก็หลายคน จะได้มีลูกทันใช้เหมือนไอ้แฉ่งมัน”
“ก็ฉันมันรูปไม่หล่ออย่างไอ้แฉ่งนี่ แถมคารมก็ดี คุยกับสาวไม่กี่คำก็หอบผ้าตามมาอยู่ด้วยแล้ว”
“ก็เอ็งมันไม่ยอมคุยกับสาวๆนี่ พูดจาทะลึ่งตึงตัง วันๆเอาแต่ร้องเพลงร้องยี่เก สาวๆที่ไหนจะสนใจ”
“ก็ฉันอยากเป็นพระเอกยี่เกนี่ ไปไหนๆสาวๆก็ตามเป็นโขยง แม่ยกก็ติดกันตรึม แต่หน้าตามันไม่หล่อเสียงไม่เพราะเลยไม่มีคณะไหนเขาเอา ต้องมาทำนานอนแห้งเหี่ยวอย่างนี้”
“เอ็งก็ขยันทำมาหากินเข้า อายุก็มากขึ้นทุกๆวัน ที่นาก็เยอะจะได้มีคนช่วยทำ แล้วจะได้ไม่มาบ่นว่านอนเปลี่ยวคนเดียว หรือว่าแอบมีแล้ว แต่มาโกหกข้าว่าไม่มี…”
“ฉันจะไปมีที่ไหนหล่ะน้าโฉม ฮ่าๆๆๆๆ” ไอ้ไวไฟตอบแล้วหัวเราะร่า แต่ต้องกอดอกห่อตัวหนาวสั่นเมื่อลมพัดกรรโชกมาบ่อยครั้งอีกทั้งฝนก็เริ่มลงเม็ดหนักขึ้นเรื่อยๆ
แล้วความรู้สึกในใจมันไหวยวบเมื่อสายตามองเห็นเรียวขาขาขาวนางแมซึ่งแกนุ่งผ้าถุงเพียงเข่า เนินหน้าอกขาวอวบอูมภายใต้เสื้อคอกระเช้าแขนกุดที่ใส่อยู่มันช่างน่าสัมผัสจริงๆ ถึงจะเป็นสาวรุ่นแม่อีกทั้งเป็นแม่เพื่อนแต่ความรู้สึกไอ้ไวไฟในตอนนี้มันเริ่มคิดเตลิดไปไกลจนดุ้นเอ็นกลางหว่างขาค่อยๆพองตัวขึ้นตามความรู้สึกเจ้าของ
ไอ้ไวไฟใจหายวาบกับสิ่งที่มันคิดเมื่อเห็นว่าใต้ชายผ้าขาวม้าที่นางโฉมใช้ห่มป้องกันลมฝนและอากาศหนาว มือข้างหนึ่งเลื่อนต่ำลงมาที่หน้าตักเหมือนมือข้างนั้นของนางโฉมล้วงหายเข้าไปใต้ชายผ้าถุงที่ใส่อยู่
ไอ้ไวไฟมองสบตานางโฉมนิ่งเหมือนจะค้นหาคำตอบที่มันกำลังคิด ดุ้นเอ็นที่แข็งโด่เต็มที่แล้วใต้ผ้าขาวม้านั้นกับอารมณ์เงี่ยนง่านทำเอาไอ้ไวไฟต้องระบายลมหายใจออกมาหนักๆ เริ่มหายใจขัดๆฟืดฟาดเบาๆ ไอ้ไวไฟจ้องหน้าสบตานางโฉมเนิ่นนานท่ามกลางกระแสลมที่เริ่มแรงขึ้น ฝนตกหนาเม็ดจนมองรอบๆเหมือนมีม่านขาวๆจากธรรมชาติล้อมไว้รอบๆเถียนนา บรรยากาศเย็นๆอย่างนี้ ไอ้ไวไฟยิ้มกรุ้มกริ่มและใจของมันก็กำลังกระหายอยากหาที่ระบาย เมื่อเห็นว่านางโฉมทำท่าง่วงๆนัยน์ตาหวานเยิ้มและหลบตาท่าท่าเอียงอาย มันก็คิดจะชวนนางโฉมเย็ดแก้เงี่ยน ‘ก็บรรยากาศจัดเต็มอย่างนี้ อย่าให้เสียของเลย’ ไอ้ไวไฟคิดในใจ เพราะนางโฉมก็ยังสดสวย รูปร่างก็ยังเต่งตึงไม่เผละ หน้าตาก็ยังมีเค้าความสวยจากวัยสาวอยู่ ถึงจะแม่เพื่อนแต่ไม่ใช่แม่เรา จะดีจะชั่วก็ไม่ต้องกลัวบาปกรรมหรอก มีแต่จะได้บุญช่วยคลายเงี่ยนสาวใหญ่เสียอีก
ความคิดไอ้ไวไฟต้องสะดุด เมื่อเสียงเอ่ยถามของสาวใหญ่ดังขึ้น
“มองหน้าข้าแล้วทำตามหวานอย่างนั้นทำไม ข้าไม่ใช่สาวๆแล้วนะ จ้องซะ ข้าเขินเลย!?”
“พูดไปเรื่อย น้าโฉมแก่ตรงไหน สาวๆบางคนยังชิดซ้าย”
“แน๊ะ! มาชมคนแก่คราวแม่ ปากหวานไม่เบา ถ้าเอ็งหัดพูดอย่างนี้กับสาวๆ รับรองว่าตามเอ็งมาถึงบ้านแน่ๆ”
“ตามมาก็ดีสิน้า จะจับถ่างขาเอาซะให้ติดลูก ไม่ให้น้อยหน้า ไอ้แฉ่งเลย อีกอย่างสาวรุ่นๆในหมู่บ้านคนไหน ฉันบอกตรงๆ ไม่มีใครน่ามองเท่าน้าโฉมเลยจริงๆ^^” ไอ้ไวไฟกำลังเกิดอารมณ์เงี่ยนง่าน มันพูดออกไปตรงๆอย่างนั้น เป็นการหยั่งเชิงแม่เพื่อนตรงหน้า
“เอ็งจะมาพูดจาหลอกคนแก่ให้ดีใจทำไมวะ ไปบอกสาวๆโน่นไป!” นางโฉมทำพูดแล้วสะเทิ้นอาย
“จริงๆนะน้าโฉม นี่ถ้าไม่ติดเป็นแม่ไอ้แฉ่งนะ ฉันอยากจะ..ง่า ขอกอดให้หายหนาวสักที”
“เมื่อก่อนตอนเด็กๆ เอ็งก็ยังกอดข้าบ่อยๆ ยังแย่งกับไอ้แฉ่งด้วยนะ”
“ตอนนั้นกอดไปก็กลัวไอ้แฉ่งเตะ ขนาดตอนเด็กๆมันยังหวงแม่มันจะตาย”
“ตอนเด็กๆมันก็หวงไปตามประสา ตอนนี้มีเมียแล้ว มันคงจะไม่หวงหรอก”
“ทำไมจะไม่หวง มันหวงหนักกว่าเดิมอีกด้วยซ้ำ”
“รู้ได้ยังไง เห็นโตมาก็มันก็ไม่มากอดข้าแล้วนี่นา…” นาโฉมมาถึงตรงนี้ชักใจคอไม่ดี เกรงว่าไอ้ไวไฟจะรู้เรื่องบัดสีระหว่างแกกับลูกชาย
“หวงสิน้า! มันหวงมากๆ จนเผลอเรียกชื่อนางตอน …เอ่อ...ตอน...เอ่อ....”
น้างโฉมใจหายแว้บ คิดว่าเรื่องตนอมควยไอ้แฉ่งถูกไอ้ไวไฟแอบดู “ตะ ตอนไหน มันเรียกชื่อข้าตอนไหน?!”
“เอ่อ…ตอนที่ฉันชักว่าวแข่งกับมันในน้ำ ฉันนึกภาพน้าโฉมแล้วเผลอเรียกชื่อ มันโกรธฉันตั้งหลายวัน สงสัยมันคงกลัวนะ…” พอไอ้ไวไฟพูดออกมา นางโฉมค่อยโล่งอกที่เรื่องของแกกับไอ้แฉ่งยังเป็นความลับ
“เอ็งคิดว่ามันกลัวอะไรวะ ไอ้ไวไฟ?”
“คงจะกลัวฉันเอาน้าโฉมทำเมียมั้ง ฮ่าๆๆๆๆ”
“เอ็งสองคนนี่ทะลึ่งจริงๆนะ เฮ้อ…คิดแต่เรื่องสับปะดี้สีประดนแล้วทำแต่เรื่องลามกกันจริงๆ” นางโฉมแสร้งทำบ่นขณะที่ผ่อนลมหายใจเบาๆอย่างโล่งอกเมื่อได้รู้ว่าไอ้ไวไฟไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างไอ้แฉ่งกับตน
ทั้งนางโฉมกับไอ้ไวไฟหน้าแดงก่ำยิ่งพูดเข้าใกล้เรื่องอย่างว่าทั้งสองก็ยิ่งอารมณ์กระเจิดกระเจิง
ในใจไอ้ไวไฟตอนนี้อยากจะชวนนางโฉมขึ้นไปเย็ดบนเถียนนา แต่ก็ไม่กล้ากลัวว่าจะถูกแกด่าเสียๆหายๆ ข้างนางโฉมก็อยากให้ไอ้ไวไฟลากไปเย็ดๆให้หมดเรื่องหมดราวสักที เพราะตัวแกก็เงี่ยนง่ามน้ำแฉะหีจนเหนอะหนะ แต่ก็กลัวไอ้ไวไฟจะด่าว่าแก่แล้วตัณหากลับ ท่ามกลางบรรยากาศฝนตกแบบจัดเต็มอย่างนี้ ต่างคนต่างเงี่ยนกันเต็มที่ แต่ไก่แก่แม่ปลาช่อนกับไอ้หนุ่มไวไฟเอาได้แต่จดๆจ้องๆดูเชิงกันไป ต่างฝ่ายยังไม่กล้าออกหมัดเพราะกลัวพลาดถูกสวนกลับหงายท้อง
แม้ต่างฝ่ายต่างเงี่ยน แต่ยังคงเอาแต่ดูเชิงไม่มีใครกล้าเริ่มก่อน บรรยากาศการพูดคุยจึงดูช่างอึดอัดยิ่งนัก
และแล้วไอ้หนุ่มไวไฟก็เป็นฝ่ายหยั่งเชิงก่อน มันฉวยโอกาสขณะที่นางโฉมเสมองไปทางอื่น ความคิดจะลองออกหมัดทักทายเบาๆของมันก็เริ่มขึ้น มันแกล้งสะกิดให้ชายผ้าขะม้าเปิดออกมานิดหนึ่งส่งผลให้หัวบักมนๆสีม่วงอ่อนๆของลำควยตั้งโด่โผล่ออกมาตรงชายผ้าที่บรรจบมัดเป็นปมตรงหน้าท้องของมัน
เมื่อปลายควยออกมาสูดอากาศนอกร่มผ้า ไอ้ไวไฟก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ปากคาบมวนยาสูบพ่นควันปุ๋ยๆท่าทางเฉยๆเหมือนไม่รู้ตัวว่าตอนนี้หัวควยบานๆหลุดออกมาจะเอ๋กับสายตานางโฉมแล้วนะ และมันก็ลอบยิ้มในใจเมื่อเห็นสาวใหญ่คราวแม่ไม่กระโตกกระตากกลับลอบมองมาที่ปลายควยของมันบ่อยๆ เมื่อเห็นนางโฉมแอบมองไอ้ไวไฟก็ได้ใจ และคิดจะยั่วนางโฉมให้เงี่ยนควยตนให้ถึงที่สุด มันรวมพลังเกร็งท่อนควยให้มันผงกหัวงึกๆช้าๆ ขณะที่ในใจมันเองทั้งระทึกและตื่นเต้นอย่างเหลือเกินเมื่อโชว์ดุ้นควยให้แม่เพื่อนเห็น แสนภาคภูมิใจในความใหญ่โตของตนยิ่งนัก
“เอ…หลังคามันรั่วอีกแล้ว!” ไอ้ไวไฟเมื่อได้คืบก็จะเอาศอก มันยืดร่างกำยำลุกขึ้นยืน และใช้สองมือยันหลังคาหญ้าแฝกที่เม็ดฝนหยดหยาดเล็ดลอดลงมา และจงใจจะให้ท่อนควยยาวเท่าแขนโผล่พ้นชายผ้าขะม้าออกมาให้นางโฉมได้เห็นแบบเต็มๆตา ซึ่งก็ได้ผลดังคาด นางโฉมอ้าปากค้างแทบไม่ได้หายใจ เมื่อนางได้เห็นความใหญ่มหึมาของลำควยไอ้ไวไฟแบบเต็มๆตา ท่อนควยอันยาวใหญ่ไซส์ผิดมนุษย์มนาที่ยื่นโผล่ออกมานั้น เงี่ยงหัวบักบานเหมือนดอกเห็ดดอกใหญ่และใหญ่กว่าดอกเห็ดที่นางโฉมเคยเห็นมา มันแผ่บานร่าโผล่พ้นออกมาตรงขอบชายผ้าขาวม้าที่ดึงมามัดบรรจบกัน
“…!?!...” นางโฉมกลืนน้ำลายลงลำคอที่แห้งผาก นึกเปรี้ยวปากอยากดูท่อนควยใหญ่ๆอย่างที่สุด ลำควยของไอ้แฉ่งที่เคยดูดดูเป็นของเด็กๆไปเลย เมื่อเอามาเทียบกับของไอ้ไวไฟ ยิ่งตอนนี้กำลังอดอยากเพราะไม่ได้ดูดควยไอ้แฉ่งลูกชายมาหลายเอนแล้ว เมื่อคืนมันว่าจะมานอนบ้านก็นึกว่าจะได้ดูดสักที แต่มันกลับขอไปรับเมียตอนหัวค่ำเสียก่อน เมื่อคืนนางโฉมจึงอดไปตามระเบียบ และไอ้ไวไฟก็คงกลัวนางโฉมจะเห็นไม่ถนัด ขยับตัวให้ควยไหลออกมาเกือบทั้งลำ
ไอ้ไวไฟยังแสร้งทำเป็นไม่รู้เนื้อรู้ตัวว่ากำลังโชว์ควยสาวใหญ่ดูอยู่ ปากมันพูดคุยไปเรื่อยส่วนตาก็มองดูตับแฝกที่เอามือผูกเส้นตอกให้แน่น “พูดถึงเวลาก็ผ่านไปเร็วเนอะ เมื่อก่อนฉันกับไอ้แฉ่งยังแก้ผ้ากระโดดน้ำตูมๆอยู่เลย เผลอไม่เท่าไหร่โตเป็นหนุ่มใหญ่ มีลูกมีเมียกันแล้ว”
“อะ อื่มมมม อื้อๆ” นางโฉมตาจ้องท่อนควยใหญ่ๆเลียปากแผล่บๆด้วยความกระหายหิว ตอบอึ้มอ้ำไปตามเรื่อง
ไอ้หนุ่มไวไฟเมื่อยั่วนางโฉมจนมั่นใจว่าแกอยากจะลิ้มชิมท่อนควยใหญ่ๆของตน ก็หันมาสบตา “ดูอย่างควยของฉันสิน้าโฉม เมื่อก่อนอันเท่านิ้วก้อย เดี๋ยวนี้ใหญ่เท่าแขนน้าโฉมแล้ว น้าโฉมดูซิ ว่ามันใหญ่พอใช้งานได้หรือยัง?”
“…!?!....” ไอ้ไวไฟปล่อยหมัดเด็ดทันที นางโฉมถูกน๊อคด้วยหมัดนั้นเอง
ไอ้ไวไฟไม่พูดเปล่าๆ มันเอามือลูบลำเอ็นใหญ่กระตุกปลายหงึกๆต่อหน้าต่อตาของนางโฉม เมื่อได้เห็นเต็มๆตาและเอามาจ่อใกล้ๆใบหน้าจนได้กลิ่นควยโชยมาเข้าจมูก นางโฉมแทบจะอ่อนระทวยลงไปนอนหงายถ่างขาให้ไอ้ไวไฟแหย่เย็ดตรงนั้นทีเดียว แต่นางโฉมยังรักษาเชิงมวยขยับผ้าขะม้าที่ห่มไหล่ห่อตัวทำเนียมอายหันไปมองทางอื่น
ไอ้หนุ่มไวไฟเมื่อปล่อยหมัดเด็ดแล้วนางโฉมไม่กระโตกกระตากใดๆ มันก็ยิ้มกริ่มลำพองใจ
“หนาวๆอย่างนี้ น่าจะหาอะไรทำกันนะ เอ...ทำอะไรดีที่มันอุ่นๆร้อนๆ” ไอ้ไวไฟพูดแบบโยนหินถามทาง
“ถ้าเอ็งหนาวก็เข้ามานั่งกับข้า แล้วห่มผ้ากับข้าก็ได้นี่นา ทำนั่งตัวสั่นเป็นลูกนกตกน้ำ เห็นแล้วข้าก็สงสารกลัวว่าเอ็งจะหนาวตายไปซะก่อน” และแล้วนางโฉมก็ออกหมัดเด็ดสวนหมัดเจ้าไวไฟกลับมา ทำเอาเจ้าไวไฟได้ยินแล้วแทบกระโดตัวลอยด้วยความดีใจ เมื่อรู้ว่าความพยายามของตนไม่ได้สูญเปล่า
“ผ้าผืนเท่านั้น จะห่มกันได้หมดยังไงหล่ะน้าโฉม?” ถึงปากจะพูดอย่างนั้นแต่ตัวไอ้ไวไฟแทบจะวิ่งอ้อมกองไฟเข้าหาสาวคราวแม่ตามคำชวนเชิญอย่างไม่บิดพริ้ว!
“ตามใจเอ็ง อยากจะหนาวตายก็ไม่ว่า แล้วอย่ามาโทษข้าใจดำก็แล้วกัน”
ไอ้ไวไฟอ้อมมานั่งแหมะข้างๆนางโฉม ดึงชายผ้าขะม้ามุดร่างกำยำเข้าไปเบียดกระแซะทันที
“ก็ยังดีกว่านั่งหนาวตายนะ มามะ มาใกล้ๆฉันหนาวจะตายอยู่แล้ว”
ไอ้ไวไฟกระหยิ่มยิ้มย่อง เอาชายผ้าขะม้าข้างนั้นมาห่มหัวไหล่อีกข้างของมันเอาไว้ แต่ชายก็ไม่ถึง
“ฉันบอกแล้วว่าผ้าผืนมันเล็ก มันห่มสองคนไม่ได้หรอก” บอกแล้วมันก็ขยับเข้ามาเบียบร่างของนางโฉม เอามือข้างหนึ่งโอบสะเอวคอดของนางโฉมให้ขยับเข้ามาเบียดกับร่างกำยำของมัน
“เอาอย่างงี้ดีกว่า น้าโฉมมานั่งซ้อนฉัน ผ้ามันถึงจะห่มได้” ไอ้หนุ่มไวไฟเริ่มออกชั้นเชิงมันเอียงหน้าเข้าใกล้นางโฉมกระซิบบอกเสียงสั่นด้วยความตื่นเต้น ยิ่งเมื่อนางโฉมนั่งเงียบไม่มีเสียงตอบไอ้ไวไฟยิ่งได้ใจ ขยับตัวเข้าข้างหลังแล้วนั่งซ้อนกันอย่างที่มันว่า พลางแกะปมมัดผ้าจากเอวออกจนผืนผ้าหลุดจากตัวหล่นมากองที่พื้นผืนเสื่อ นางโฉมเองก็รู้และใจยื่งเต้นระทึก แต่ยังคงเฉยเพื่อดูชั้นเชิงของไอ้หนุ่มคราวลูก
“รับรองว่า อย่างนี้หายหนาวแน่ๆ”
ปากก็พูดไปมือทั้งสองข้างก็จับชายผ้ามาห่มแผ่นหลังและร่างของนางโฉมเอาไว้ทางด้านหน้า ลักษณะจึงเหมือนร่างของนางถูกมันโอบกอดจากด้านหลัง ทำเอานางโฉมหายใจไม่เป็นส่ำ ลมหายใจอุ่นๆของไอ้หนุ่มคราวลูกราดรดต้นคอ ลำควยแข็งๆใหญ่ๆนาบกับบั้นเอวราวถูกเหล็กร้อนๆจี้ใส่ ทำให้เกิดอาการขนลุกซู่ไปทั้งตัว
“อุ่นขึ้นหรือยังไวไฟเอ้ย อะ เอ็ง ยะ ยังหนาวอยู่หรือป่าวววว…^^” นางโฉมถามเสียงสั่น
“ยังเลยจ๊ะ! ฉันยังหนาวอยู่เลย ขอกอดน้าแน่นๆหน่อยนะ จะได้เอาหายหนาว!^^”
“อะ อื้อ…”
“คราวนี้ฉันคงจะได้คุยข่มไอ้แฉ่ง ว่าได้กอดแม่มันแก้หนาวมาแล้ว ฮ่าๆๆ” ไอ้ไวไฟพูดพล่ามอยู่ข้างหลัง บรรจงแนบริมฝีปากหนาของมันลงเนินไหล่ของแม่เพื่อนเมื่อมันพูดจบ ปลายลิ้นอุ่นๆที่ไล้ผิวเนื้อนั้นเหมือนหยั่งเชิงปฎิกริยาคนข้างหน้า ว่าจะเป็นอย่างไร เมื่อนางโฉมเงียบไม่ว่ากล่าวอะไร ไอ้ไวไฟก็ได้ใจมันเริ่มโอบกระชับเอวดึงเข้ามาหาตัวมันช้าๆ
“ขอกอดแน่นเลยนะน้าโฉม…” แม้ว่าจะไม่มีคำตอบใดๆจากปากนางโฉม แต่ไอ้ไวไฟก็ถือวาสาสะจากความเงี่ยนสอดแขนแกร่งลอดรักแร้นางโฉมสวมกอดเอวคอดไว้หลวมๆ นางโฉมเองขยับเอนหลังลงหาแผงอกไอ้ไวไฟอย่างว่าง่ายด้วยอารมณ์ที่กู่ไม่กลับ ยิ่งเนินคางที่เต็มไปด้วยตอหนวดแข็งนั้นเริ่มซุกไซ้ต้นคอจากข้างหลังยิ่ง เพิ่มอารมณ์กระสันมากขึ้นไปอีกอักโข มือหนาสากที่ซุกเข้าใต้ชายเสื้อที่มันใส่อยู่เริ่มลูบไล้สูงขึ้นมาทีละนิดๆจนมาคลึงเคล้นที่หน้าอกตูมใหญ่อย่างหนักหน่วง แม้เป็นสัมผัสนอกผ้าแต่ว่าก็เสียวสะท้านใจยิ่งนัก
“อะ อื้อ...ไอ้ไวไฟ เอ็งจะทำอะไร บีบนมข้าทำไม อ้าๆๆ อื่อๆๆๆ”
แล้วนางโฉมก็เย็นวาบไปทั้งหลัง เมื่อชายเสื้อตรงบั้นเอวข้างหลังถูกเลิกขึ้นมาสูง จนลำเอ็นอุ่นๆที่กำลังแนบชิดกับตัวเองด้านหลังไม่มีสิ่งใดขวางกั้น ไอ้กไวไฟขยับเสยโยกตัวให้ลำเอ็นใหญ่ๆร้อนฉ่าบดถูไปกับบั้นเอวนางโฉมช้าๆเนิบๆ
“ฉันเอาควยถูหลังน้า รับรองว่า ไอ้แฉ่งมันรู้ละก็...ต้องอิจฉาฉันแน่ๆ”
เจ้าหนุ่มไวไฟพูดเสียงครางกระเส่าดังลอดไรฟันมันออกมาเบาๆอย่างเสียวซ่าน เมื่อเงี่ยงหัวบักบานน้ำเยิ้มกำลังถูขั้นลงกับหลังของสาวคราวแม่ตามจังหวะที่มันโยกตัว สองมือก็ขยำเต้านมนอกเสื้อบางๆอย่างสะใจที่สุด
“อะ อื้อ ไวไฟ พะ พอแล้ว อย่าทำข้า อ้า....” นางโฉมหมดเรี่ยวแรงทิ้งร่างหน้าแหงนร่างหงายไปบนอกแกร่งของเจ้าไวไฟ ปากร้องครางซี้ดซ้าด และสะดุ้งวาบอีกระลอกเมื่อตะขอยกทรงชั้นในถูกปลดออกแผ่นหลัง เต้านมคู่ใหญ่ไหลออกมารับลมฝน แม้จะหย่อนยานไปบ้างตามอายุไขแต่ก็ขาวผ่องใหญ่ล้นไม้ล้นมือ ไอ้ไวไฟเอื้อมมือมาตะโปมจับแล้วบีบคลึงเคล้นด้วยมือหนาสากกร้านอย่างหนักหน่วงรุนแรงจนแกทั้งเจ็บทั้งเสียว นางโฉมหลับตาพริ้มเคลิ้มไปกับการเล้าโลมของไอ้ไวไฟ
“อ้าๆๆ อื่อๆๆ บะ เบาหน่อย ไวไฟ ข้าเสียวนม ซี้ดดดด อย่าบีบหัวนมแรง อู้ยๆๆๆ”
“อื้อ...ไอ้แฉ่งมันคงอกแตกตายแน่ๆ ถ้ารู้ว่าฉันได้บีบนมน้า ฮรี่ๆๆๆ”
“หยุดพูดถึงไอ้แฉ่งได้แล้ว และอย่าไปบอกไอ้แฉ่งมันนะ ว่าเอ็งทำอย่างนี้กับข้า!”
“อ่ะๆก็ได้ๆ ฉันจะไม่บอกใครทั้งนั้น แม้แต่ไอ้แฉ่ง ว่าฉันจับน้าโฉมเย็ด!” พูดจบไอ้ไวไฟก็ประคองใบหน้าแดงซ่านของนางโฉมให้หันเอี้ยวมาประกบปากแลกลิ้นอย่างดูดดื่มด้วยความเงี่ยนง่าน
“อื้อๆๆๆ จ๊วบๆๆๆ”นางโฉมเองอดอยากปากแห้งมานาน เจอลีลาเล้าโลมอย่างถึงใจก็ขยับเอียงเอนร่างกายเข้าอิงแอบแผงอกอุ่นไอ้ไวไฟอย่างอ่อนระทวยระรวยแรง ฝ่ามือสั่นๆของนางโฉมเริ่มลูบไล้แผงหน้าอกหนาแน่นเนื้อลากลงผ่านหน้าท้องแบนราบที่ปกคลุมไปด้วยไรขนอุยที่ดกดำลามขึ้นมาจากเนินหัวเหน่า มัดกล้ามของเนื้อหนังแน่นแข็งแรงของวัยหนุ่มที่นางโฉมกำลังลูบไล้อยู่มันช่างกระตุ้นต่อมเงี่ยนของนางโฉมให้ทะลักทลายสำแดงความร่านออกมาได้เป็นอย่างดี
“อะ อื้อๆๆ อื่มมมมม” นางโฉมส่งเสียงครางอู้อี้ๆในลำคอ เมื่อไอ้ไวไฟบดริมฝีปากลงมาอย่างหนักหน่วง ลิ้นสากที่ดุ้นลิ้นของนางซอกซอนเข้ามาในอุ้งปาก กวาดควานไปทั่ว ส่วนนางโฉมเองก็ไม่ยอมแพ้ส่งลิ้นตนกลับไปและฉกลิ้นใส่กันอย่างไม่มีใครยอมใคร และนางโฉมยิ่งใจเต้นระรัวเป็นทวีคูณด้วยความตื่นเต้นในหัวอก เมื่ออุ้งมือของตนลูบผ่านดงขนดกหนาลงมาจนฝ่ามือมากำแท่งลำอวบใหญ่ร้อนระอุ มันใหญ่จนมือกำไม่รอบ ขนาดของมันช่างใหญ่ได้ใจจริงๆยิ่งกว่าควยใดๆที่เจอมา นางโฉมใจสั่นริกๆ กำลำเอ็นนั้นเท่าที่กำได้พลางรูดขึ้นลงช้าๆ
“ควยของฉันใหญ่พอไหมจ๊ะ น้าโฉม ใหญ่พอจะเย็ดหีน้าโฉมได้ไหมจ๊ะ...?” ไอ้ไวไฟถอนปากจากปากนางโฉมแล้วกระซิบครางเสียงสั่น
นางโฉมสบตาไอ้ไวไฟหวานเยิ้มก้มลงมองดุ้นควยในกำมือ และแล้วนางก็ต้องตื่นเต้นแทบคลั่งกับสิ่งที่เห็นเต็มๆตาที่อยู่ในมือ! ลำควยดำมะเมื่องนั้นตั้งโด่อยู่กลางดงขนหนาดกดำขลับ หัวบักบานนั้นบานโร่น้ำเยิ้มปริ่มหัวถอก เส้นเอ็นปูดปูนหลายเส้นพันเกี้ยวรอบแท่งลำตั้งแต่ฐานโคนขึ้นมายันปลายลำ ทำเอานางโฉมลอบกลืนน้ำลายลงคอเอื้อก คิดในใจว่าถ้าโดนเข้าไปคงต้องพักเครื่องหลายวันแน่ๆ เพราะว่ามันคงจะหนักสาหัสไม่ใช่เล่นๆ
“อื้อ…” นางโฉมเองพูดไม่ออก บอกไม่ถูก แต่เสียวแปล๊บๆคันยุกยิกๆที่ในรูหี
เพราะสายตามัวแต่จ้องมองแต่ลำเอ็นตรงหน้า จนไอ้ไวไฟบดฝ่ามือหนาสากๆลงเนินเนื้ออวบอูมของนาง จึงได้รู้สึกตัว มือหยาบกร้านคลึงเคล้นกลีบเนื้อโหนกตรงเนินหีครั้งแล้วครั้งเล่า นิ้วเรียวแข็งกรีดผ่านร่องแคมที่เหมือนกลีบส้มโอสองอันวางคู่กันจนนิ้วมันเลอะเฉอะแฉะไปด้วยน้ำเงี่ยนของนางที่ขับออกมาจากโพลงหีเพราะความอยากท่วมท้นล้นหัวใจ
“อ้าๆๆ ซี้ดดดดดด ไวไฟ อย่าแหย่หีข้าอย่างนั้น ซี้ดดดดด มันเสียววววว”
เสียงครางกระเส่าจากนางโฉมและบิดตัวดิ้นพล่านด้วยความเสียวซ่าน เมื่อปลายนิ้วนั้นกระดกสะกิดเขี่ยเม็ดติ่งเล็กๆข้างในยิ่งทำให้นางโฉมร่ำๆจะขาดใจเสียให้ได้เพราะตัวแกห่างหายรสชาติความเสียวมานาน เรือนผมของไอ้ไวฟถูกมือบางของนางโฉมกำจิกแน่นเมื่อหน้ามันซุกลงบนเนินเต้านมทั้งคู่ ปลายลิ้นที่กำลังไล่วนเม็ดหัวนมไปพร้อมกันนั้นทำใฟห้นางโฉมเสียวสะท้านจับจิตแอ่นอกแล้วกดใบหน้าของมันซุกอัดเข้ามา แล้วก็เสียวสยิวไปตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า เมื่อเนินคางเขียวครึ้มด้วยตอหนวดแข็งทิ่มแทงลากไล่ผ่านเนื้ออ่อนของผิวขาวผ่องสองเต้าอวบ
“อะ อ้าว…ซี้ดดดดด อู้ววววว โอ๊วววววววว”
และแล้วนางโฉมต้องสะดุ้งเฮือกๆขนลุกเกรียว เมื่อไอ้ไวไฟซุกหน้าลงเลียเนินเนื้อหีของแก ปลายลิ้นอุ่นวาบแทรกผ่านร่องกลีบเข้าชิมความหอมหวานข้างใน เนินหน้าไอ้ไวไฟซุกไซร้ฝังจมูกโด่งๆลงบดบี้ร่องหีขยี้ติ่งแตดอย่างหื่นกระหาย ในรูหีนางโฉมหลั่งน้ำร้อนๆเหนียวๆออกมาอย่างมากมายราวมีตาน้ำข้างใน ยิ่งไอ้ไวไฟซุกหน้าแลบลิ้นไปเลียเท่าไหร่น้ำเสียวน้ำเงี่ยนของนางโฉมยิ่งไหลออกมาจนใบหน้าของมันเปียกเยิ้มมันปลาบ
“พะ พอเถอะ ไวไฟเอ้ย เลียหีข้าจนข้าหมดแรงแล้ว โอ้ย เสียวจนหัวใจข้าจะวาย ฮ้า”
นางโฉมสุดจะทนทานความเสียวที่ทะลักไปทุกรูขุมขน เมื่อถูกไอ้หนุ่มรุ่นลูกปรนเปรอด้วยปาก
“เสียวมากใช่ไหมจ๊ะน้าโฉม ฉันใช้ปากกับน้าไปแล้ว คราวนี้ถึงทีน้าโฉมทำให้ฉันบ้างหล่ะ…”
ไอ้หนุ่มไวไฟยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ มันจ้องหน้าสาวใหญ่คราวแม่ที่ปรือตาคลายคนสะลึมสะลือ เหตุเพราะพิษความเงี่ยนและเสียวผสมกัน แต่ถึงจะเสียวจนหลังแอ่นขนาดไหน แต่มือของแกก็ยังไม่ยอมปล่อยท่อนควยใหญ่โตของไอ้ไวไฟ ยังกุมไว้แน่นอย่างหวงแหนราวกับว่าถ้าปล่อยไปมันจะสูญหายหรือถูกใครมาช่วงชิงเอาไป จนกระทั่งไอ้ไวไฟขยับตัวอ้าขากว้างให้นางโฉมขยับเข้ามานั่งตรงกลางหว่างขา เพียงแค่สบตากับไอ้ไวไฟแว้บเดียว นางโฉมก็รู้ว่า...ไอ้เด็กหนุ่มรุ่นลูกคนนี้ต้องการสิ่งใดจากนาง และไม่รอช้า แกก็สนองตอบความต้องการของมันด้วยความรู้สึกหื่นกระหายไม่ต่างกัน!
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น