อารมณ์ในรสของแอลกอฮอล์ 3

 




 

 
หลังงานวันนั้น ผมก็ยังได้นั่งกินเบียร์กับเอสอีกหลายครั้ง จนมาครั้งล่าสุดเอสเล่าให้ฟังว่า "ตอนนี้ผมห่างกับหนิงแล้วพี่" ผมพยักหน้ารับฟัง แล้วมันก็เล่าต่อไปด้วยตาเริ่มแดง ๆ อีกว่า "วันนั้นผมเมา เลยจะจัดหนิงหนัก ๆ เหมือนเดิม" ผมยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่นก่อนจะบอกว่า "อ่าว...ก็ดีนะสิเอ็งบอกเมา ๆ ยังได้สองยก" ผมว่าพร้อมทำท่ายกนิ้วโป้งให้ แต่กับยิ้มกลับแบบแห้ง ๆ "ถ้าเป็นหนิงก็ดีสิพี่" เอสว่าก่อนยกเบียร์ขึ้นดื่มบ้าง ชักสนุกแล้วซิผมนึกในใจ ไม่ต้องรอให้ถามต่อเอาเรื่องเล่าอีกเหมือนอัดอั้นอยากระบาย "ก็วันนั้นผมกินเหล้าหลังสอบเสร็จกับเพื่อน เมาเต็มที่เลยพี่ ผมเลยโทรหาหนิงบอกจะไปหา หนิงบอกมาได้เลยแม่ยังไม่กลับ" เอสเล่ามาเป็นอย่างที่ผมคิดไว้จริง ๆ "อย่าบอกน่ะว่าเอ็งเล่นแม่หนิงเข้าแล้ว" ผมแสดงอาการตกใจ เมื่อเอสพยักหน้างึก ๆ ว่าใช่ "คืองี้พี่พอผมเปิดประตูห้องหนิงเข้าไปเห็นคนนอนคว่ำอยู่ใส่สีขาวกัยกระโปรงสั้นจนตูดโผล่จนเห็นกางเกงใน ผมจำได้แม่นนะพี่ว่าลายแบบนี้ที่หนิงใส่ประจำ "เอสมันเล่าอย่างกับนิยายผมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง "แล้วไงต่อ..อย่าหยุดดิกำลังลุ้นเลย ต่อต่อ" ผมเร่งเล้ามันให้เล่าต่อ "ผมเลยรีบปิดไฟแล้วจัดการคาชุดซะ" เอสเล่าด้วยเสียหน้าบ่งบอกถึงความเสียวซ่านตอนที่เย็ดพี่น้อยแม่ของหนิง มันไม่ได้มีอาการของคนกำลังสำนึกผิดเลย "แล้วหนิงรู้ได้ไง...แม่บอกเหรอ" ผมอยากจะรู้สาเหตุ เพราะผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าพี่น้อยเล่าเรื่องของเธอกับผมหรือเปล่า "หนิงกลับมาเห็นแล้วถ่ายรูปที่ผมนอนอยู่กับแม่ แล้วหนิงก็ไปนอนห้องแม่" อย่างงี้นี้เอง ผมคิดนี้คงไม่ใช่ครั้งแรก หนิงคงรู้เรื่องของพี่น้อยบ้างแหละถึงไม่โวยวาย ผมเลยถามถึงอาการของแม่หนิงว่าเป็นอย่างไรบ้าง "แล้วพี่น้อยไม่รู้เรื่องเลยไง" ผมยังงงเหมือนกัน "ไม่นะแม่...แกไม่เห็นว่าอะไร..ผมทำอะไรแกก็ให้ความรวมมือดี..ทั้งเด้งทั้งครางเลยพี่" ไอ้เอสพูดพร้อมทำตายิ้มหวานเยิ้ม "แล้วเรื่องแดงได้ไง" ผมถามตัดจบเลยดีกว่าดูท่ามันจะลงรายละเอียดเกิน เดี๋ยวจะกลายเป็นหนังเอวีไป "ก็ผมเริ่มส่างกะจัดอีกรอบตามเคย แต่พอจับตัวจับแขนขาดี ๆ เฮ้ยนี้มันไม่ใช่หนิงนี้หว่า เลยรีบกระโจนคว้าเสื้อผ้าออกมากลางดึกนั้นเลยพี่" ผมหัวเราะเมื่อฟังเอสเล่าจบ แต่ไอ้เอสไม่ขำด้วย "รุ่งเช้ามาหนิงส่งรูปผมที่นอนอยู่กับแม่มาให้ แล้วบล็อคเบอร์บล็อคไลน์ ไปเลยพี่ ถ้ารู้ว่าจะโกรธแบบนี้ผมจัดแม่อีกรอบดีกว่า " คร่าวนี้เอสหน้าสลดลงมาหน่อย แต่ยังไม่ทิ้งความคิดที่จะเอาพี่น้อยอีก "ผมไม่กล้าไปหาหนิงเลยพี่...พี่ช่วยคิดวิธีง้อหนิงหน่อยนะพี่" ไอ้เอสยกมือไหว้ เมื่อพูดจบ ผมคิดในใจ "ก็มึงไปล่อแม่แฟนแบบนี้จะง้อยังไงกัน กูจะซวยด้วย" ผมเลยถามถึงพี่น้อย "แล้วแม่หนิงเป็นไงบ้าง" ไอ้เอสเลยเผยความลับอีกอย่างที่ผมไม่เคยรู้มาว่า "หนิงเคยบอกว่าเวลาแม่เมามาก ๆ จะจำอะไรไม่ค่อยได้ แถมยังมีอารมณ์ทางเพศอีกด้วย ไม่จำเป็นอย่ากินเหล้ากับแม่" พอมันเล่ามา ผมก็พอประติดประต่อเรื่องราวได้ งั้นเรื่องของผมเธออาจจะลืมไปแล้วก็ได้ ใจหนึ่งผมนึกดีใจแต่อีกใจก็นึกเสียดายเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไรเอาของที่กำลังจะได้ดีกว่า เมื่อไอ้เอสมันประเคนให้ถึงมือแล้วนี้หว่าจะไม่รับก็เสียน้ำใจเปล่า ผมเงียบคิดแผนอยู่ในหัวเพลิน ๆ เสียงเอสก็ตัดมา "นะพี่นะช่วยผมหน่อย...เกือบอาทิตย์แล้วพี่..ผมไม่ไหวชักแล้ว หนิงก็เด็ดด้วยพี่ ผมเสียดาย" พอมันพูดคำนี้มาผมรู้ได้เลย ว่ามันรักหรือจะล่อหนิงอย่างเดียว จากที่จะสงสารผมเริ่มหมั่นใส้ คิดในใจอย่างงี้ต้องมีค่าเสียเวลาหน่อยละ เลยบอกเอสไปว่าเอออ...เออ..เดี๋ยวพี่จะช่วยคุยให้ แต่ใจเย็น ๆ เอ็งเอาเบอร์หนิงมาก็แล้วกัน...แต่พี่ไม่รับปากนะว่าจะสำเร็จ" ผมบอกมันไป เอสรีบส่งเบอร์มาในไลน์ แล้วมันก็ไปซื้อเบียร์มาอีก 3 ขวด ผมนั่งคิดว่างแผนอยู่คนเดียว ไม่ได้คิดวิธีง้อให้เอสเท่าไร แต่คิดว่าจะล่อหนิงยังไงให้เนียนที่สุด ไอ้เอสกลับมาพร้อมเบียร์แต่ได้ของแถมมาด้วย คือพันรำ 2 ม้วน มันบอก "เดียวกินเบียร์หมดจะดูดตามให้หลับไปเลย ไม่งั้นเงี่ยนตายแน่ไม่มีที่ลง" คืนนั้นเราแยกย้ายกันโดยที่เอสนอนออฟฟิศ ผมกลับมาห้อง อาบน้ำเสร็จล้มตัวลงนอน แต่แปลกนอนไม่หลับคงจะเพราะคิดเรื่องหนิง แล้วภาพเธอก็ปรากฎในความคิดก็ผมเคยอ่านกินเธอบ่อย ๆ ตอนที่ผมเจอเธอมากับเอส เธอที่ชอบใส่เสื้อนักศึกษาตัวเล็ก ๆ จนกระดุมแทบปริ ผมแอบมองลอดแว่นกันแดดส่องดูเสื้อชั้นในเธอตลอด แล้วก็แปลกหนิงจะใส่เสื้อชั้นในสีดำมาตลอด ซึ่งจริง ๆ วัยแบบเธอไม่น่าจะมีรสนิยมแบบนี้ และกระโปรงเธอก็สั้นและรัดสุด ๆ มีหลายครั้งที่เราไปนั่งกินหมูกระทะแบบโต๊ะญี่ปุ่น ซึ่งผมก็จะนั่งตรงข้ามหนิงตลอด ด้วยกระโปรงที่สั้นเวลานั่งนาน ๆ เธอก็เผลอแล้วจนกระโปรงเลิกขึ้นมาถึงขาอ่อน เป้าออกมาแทบจะทั้งตัว แต่เธอก็ไม่ปิดนั่งกินหมูกระทะแบบไม่สนใจ ที่ผมนั่งตรงข้ามเธอต้องรู้แน่ ๆ ว่าผมดูหวอเธอตลอด กางเกงในสีดำของหนิงทำให้ท่อนเอ็นของผมแข็งจนแทบระเบิด บ้างครั้งเธอก็พูดแล้วมองหน้าผมปากหนิงก็พูดไป แต่ขาเธอขยับเข้าขยับออก บ้างครั้งเหมือนเธอจะถ่างให้มันกว้างเมื่อเธอคุยกับผม และที่สุด ๆ ก็คือวันที่ผมไปวันเกิดแล้วได้มีอะไรกับแม่หนิง แต่ภาพที่เห็นตอนเปิดประตูห้องหนิง เข้าไปดูตอนจะกลับภาพที่หญิงนอนคว่ำหน้า กระโปรงถลกขึ้นไปอยู่บนเอวทั้งตัว เหลือแต่กางเกงในซีทรูสีดำ ที่ถูกรั้งเข้าไปในร่องตูด แน่นอนไอ้เอสคงเย็ดหนิงคาชุดนักศึกษาแน่ ๆ กางเกงในมันก็ไม่ถอด มันคงจะแหวกแน่ ๆ เหมือนที่มันชอบคุยให้ผมฟัง จิตใจมันทำด้วยอะไร ตูดเธอที่งอนขาวตัดกับกางเกงในสีดำ ไอ้เอสคงจะเย็ดเธอด้วยท่าหมาแน่ เพราะเป็นผม ผมก็เย็ดเธอท่านี้แหละ ก็ตูดเธอมันใหญ่น่ากระเด้าขนาดนั้นผมคิดมาถึงตอนนี้ควยเริ่มเเข็งอย่างอัตโนมัติ จึงตัดสินใจลองเดินเรื่องดีกว่า จัดการเมมเบอร์โทรหนิงเข้าเครื่องทันที เมื่อที่บันทึกเสร็จไลน์หนิงก็เด้งขึ้นมาทันที ตอนแรกผมลังเลนิดหน่อยว่าจะโทรไปเลยไหม หรือแค่ลองไลน์คุยก่อน ถึงจะเงี่ยนแค่ไหนก็ตาม แต่ผมไม่อยากเดินเกมแรงเดี๋ยวมันจะเสียแผน หากินเงียบ ๆ แบบที่เคยผมกระหยิ่มในใจ แต่ถ้ากระโตกกระตากจะพาให้เสียคนด้วย จากบทคนที่ดูน่านับถือ จะกลายเป็นเฒ่าหัวงูไปเสียก่อน ผมจึงตัดสินใจกดส่งสติกเกอร์ไปหยังเชิงก่อน ยังไงถ้าเธอไม่เห็นหรือไลน์ยังไม่ขึ้น เธออาจจะตอบมาทีหลังก็ได้ ผมลุกไปเปิดเบียร์ดื่มอีกกระป๋องกะให้เมาอีกหน่อยจะได้หลับเสียที ดูเวลาเที่ยงคืนพอดี เธอคงนอนแล้วมั้ง ระหว่างที่ปิดไฟและล้มตัวนอนอีกครั้งทั้งที่ควยก็ยังแข็งอยู่ เสียงไลน์ก็ดังขึ้น ผมรีบหยิบโทรศัพท์มาดู ใช่จริง ๆ หนิงพิมพ์สติ๊กเกอร์กลับมา  และพิมพ์ข้อความตามมาทันที "นี้ไลน์พี่บอยหรือเปล่าค่ะ" เธอถามว่าใช่ผมไหม ผมคิดว่าเธอน่าจะมีเบอร์ผมอยู่ คงจะเม้มไว้เผื่อวันไหนเอสมาเมาอยู่กับผม เธอจะได้ตามได้ ตอนนี้ผมลังเลนิด ๆ ว่าจะคุยเลยดีไหม แต่ตอนนี้ผมเมาพอได้ที ก็คิดว่าน่าจะคุยง่ายไม่เขิลอะไร ว่าแล้วก็ลองเริ่มเลยดีกว่า จะได้งานเร็วขึ้น "ใช้จ๊ะนี้ไลน์พี่บอยเอง" ผมตอบไปเป็นครั้งแรกที่เราคุยกันโดยไม่มีเอส "สวัสดีค่ะ...งั้นหนูจะได้เม้มชื่อพี่ไว้" เธอว่า เป็นการเปิดเกมส์ที่ดีเลยทีเดียว "ยังไม่นอนอีกเหรอ" ผมถามคำถามพื้น ๆไปแบบกว้าง ๆ ซึ่งเธอจะตอบก็ได้ไม่ตอบก็ได้ "ยังค่ะ...นอนไม่หลับ เลยนอนเล่นโทรศัพท์" เธอตอบกลับมาทันที แล้วถามผมด้วคำถามเดียวกัน "พี่ก็ยังไม่นอนหรือค่ะนอนดึกนะเนี้ย" หนิงถามกลับ มันแสดงว่าเธอก็ต้องการที่จะคุยเหมือนกัน "เออพี่กินเบียร์กับเอสแล้วเพิ่งกลับมาถึงห้อง" ผมพูดถึงเอสเพื่อดูท่าทีของหนิงในตอนนี้ว่าโกรธเอสมากแค่ไหน "พี่อย่าพูดถึงชื่อนี้ได้ไหม...หนิงไม่อยากได้ยิน" สวรรค์เปิด งานนี้เดินหน้าเต็มตัว หนิงโกรธเอสมากถึงขั้นไม่อยากได้ยินชื่น "อ้าวแล้วให้พี่คุยเรื่องอะไรดีล่ะ...พี่ก็นอนไม่หลับเหมือนกัน" ผมเริ่มใช้วิชาที่ฝึกฝนมานาน ออกลูกชวนคุย "เรื่องอะไรก็ได้พี่...หนิงคุยได้ทั้งนั้นแหละ" ผมเริ่มคิดจะลองของเสียหน่อยในเมื่อหนิงโต้ตอบเร็ว "พี่พวกขี้เมาชอบคุยกันแต่เรื่องสองแง่สองง่าม..หนิงพอฟังได้ไหม" ผมลองเชิง "เรื่องทะลึ่งอ่ะน่ะพี่..." เธอถามเหมือนหยังเชิงผมกลับ "ก็ทั่ว ๆ ไปแหละ ที่พวกผู้ชายคุยกัน" ผมว่ากั๊ก ๆ ไม่อยากเปิดหมด เดี๋ยวไม่ใช่จะเสียหน้าเปล่า ๆ "ทั่วไปที่ชอบแอบมองกางเกงในอ่ะนะ" หนิงตอบแรงคงเห็นวางเชิงเกิน แต่ผมนี้ซิเริ่มใจสั่นจะเอาไงต่อ หนิงไม่ได้คุยเล่น ๆ เธอเอาผมกลับ ใช่เธอรู้ว่าผมแอบมองเธอตลอด แต่เธอก็ไม่สนใจ กับยังเปิดยั่วยวน จนบ้างครั้งผมแทบจะมองเข้าไปเห็นถึงเส้นหมอยของเธอเลยก็มี ผมคิดอยู่นานจนหนิงส่งสติกเกอร์การ์ตูนทำหน้างงมา เอาไงเอากันว่ะงานนี้ได้เสีย</div><div>"เขาคงไม่ได้แอบดูมั้ง...บังเอิญมันอยู่ตรงหน้าก็เลยเลี่ยงไม่ได้" ผมตอบจากเหตุการณ์จริง ซึ่งเธอก็คงจะรู้ "บังเอิญแต่มองไม่ละสายตาเนี่ยน่ะ" หญิงดึงเข้าเรื่องหลัก งานนี้ผมหนีไม่ออกแล้ว "หนิงอยากรู้จริง ๆ หรือทำไมไม่ละสายตา" ก็เธอไล่ผมจนหมดตาเดินเองนะ "อยากรู้สิ ถ้าอยู่กันสองคนหนิงจะเปิดให้ดูใกล้ ๆ เลย" พอเธอพิมพ์มาแบบนี้ ควยผมเเข็งจนแทบจะไม่ไหวแล้ว ต้องใช้มือชักตามอารมณ์ข้อความที่เธอส่งมา "จริงเหรอ ที่หนิงจะเปิดให้ดู" ผมหลงกลถามเธอกลับไป "555 มีคนตกม้าตายแล้ว" เธอหัวเราะเมื่อผมเสียท่าให้แล้ว ผมไปไม่เป็นเลย แต่ก็ต้องดันให้สุดเมื่อเผยไต๋ไปแล้ว "แล้วหนิงจะเปิดให้ดูไหมล่ะ" ผมตื้อถามต่อ "พี่ก็บอกมาก่อนดิว่าทำไมชอบดู" เธอก็ไม่ยอม เอาก็เอาว่าผมทำใจสู้แล้วพิมพ์ไป "ก็มันสวย เซ็กซี่ดี" ผมตอบไปด้วยอารมณ์แบบนั้นจริง ๆ "ทำไมพี่ตอบแบบนี้แหละ" เธอพิมพ์มาเหมือนจะโกรธ เวรละไม่น่าใจร้อนเพิ่งคุยกันไม่น่าเปิดหมดเลย คงจะด้วยเมาและเงี่ยนด้วยคิดแบบไหนก็พิมพ์ไปแบบนั้น "พี่ขอโทษ อย่าเพิ่งโกรธนะ" ผมรีบพิมพ์เพราะคิดอะไรไม่ออก ที่อยู่กับตาลปัตรไปหมด "พี่จ่ายค่าของให้หนูหน่อยน่ะ....แล้วหนูจะหายโกรธ" เธอพิมพ์มาพร้อมส่งเลขที่บัญชีที่จะโอนมาให้ ซึ่งมันไม่ใช่ปัญหา คืนนี้เรายุติการคุยด้วยการผมโอนค่าของให้เธอ ซึ่งผมเองก็คิดว่าน่าจะดีเหมือนกัน เพราะถ้าคุยมากไปกว่านี้ เป็นผมเองที่จะเสียหายมากกว่า เดี๋ยวค่อยรอไว้คุยพรุ่งนี้ดีกว่า