วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

ผัวคนสุดท้าย

 
 
 
ผมชื่อเต้ยครับ ผมมีครอบครัว แต่งงานมาได้สักพักแล้ว เมียผมเขาชื่ออุ๋ย เราอยู่กันมาก็ถือว่าดีนะครับ ต่างคนต่างช่วยกันทำมาหากิน ผมมีอาชีพขับรถส่งอาหาร ส่วนอุ๋ยเป็นแม่ค้าขายอาหารสุขภาพ ดูเหมือนทุกอย่างก็ดำเนินไปได้เรื่อยๆชีวิตผ่านไปวันๆ อาจจะมีเรื่องขัดแย้งกันบ้างแต่ก็ยังเอาตัวรอดกันมาได้เสมอ โดยเฉพาะเรื่อง sex ที่อุ๋ยดูจะไม่ค่อยมีอารมณ์กับผมเอาเสียเลย ถ้าผมจะเล้าโลมไล้เลียก็ทำเป็นรำคาญผมตลอด และที่สำคัญตั้งแต่ที่เราแต่งงานกันมา ผมยังต้องป้องกันอยู่ตลอด เพราะเธอไม่ยังไม่อยากมีลูก แต่ผมก็เข้าใจครับเพราะอุ๋ยเธอก็เสียสละมากกับการที่ย้ายตามผมมาหลังจากแต่งงาน ก่อนหน้านี้เธอเป็น พนักงานบริษัทได้แต่งตัวสวยๆ ได้มีรายได้ที่ดี แต่ย้ายตามผมมาคุณหนูต้องมากลายเป็นแม่ค้าตามตลาด ผมก็เลยยอมที่จะเข้าใจเธอ

ก่อนที่จะเข้าเรื่อง ผมอยากให้ทุกท่านทำความรู้จักกับอุ๋ยก่อนครับ เธอมีรูปร่างอวบอ้วน จริงๆตอนที่เธอทำงานที่กทม. หุ่นจะออกดูอวบมากกว่า แต่หลังจากแต่งงานก็มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรครับ ผมก็ว่าน่ารักไปอีกแบบ ตาของเธอกลมโต ผมยาว หน้าอกพอดีมือ แต่ช่วงล่างนี่ค่อนข้างบึ้บบั๊บ แต่ด้วยความที่เธอโครงร่างใหญ่เวลาที่เรามี sex กัน ผมก็ยอมรับว่าออกจะหลวมไปสักนิดเหมือนกัน แต่ผมเป็นคนแรกของเธอนะครับ เธอบอกว่าเธอเก็บรักษาความบริสุทธิ์ตลอดชีวิตเพื่อให้สามีที่เธอรักและพร้อมจะตกลงปลงใจแต่งงานด้วยเท่านั้น ดังนั้น ผมเลยมั่นใจว่าน่าจะเป็นเพราะรูปร่างของเธอที่อาจจะใหญ่ หรืออาจจะขนาดของผมไม่ได้มาตรฐานเองมากกว่า

ส่วนผมผมเป็นหนุ่มเหนือ รูปร่างสมส่วน ผมเองชื่นชอบในเรื่องของสวิงเป็นอย่างมากตั้งแต่ก่อนแต่งงาน จริงๆตั้งแต่ก่อนที่จะเป็นแฟนกับอุ๋ยด้วยซ้ำ ผมเป็นคนที่ sex จัดมาก และ ชอบการมี sex มากกว่า 1 คนเป็นชีวิตจิตใจ จริงๆผมก็แอบอยากเห็นคุณหนูที่ต้องมาตกระกำลำบากกับผม รับควยแปลกหน้าเข้าไปในตัวไม่หยอกแต่ขนาดตัวผมเองเธอยังกลัว และ ยังดูไม่มีอารมณ์เลย เลยไม่กล้าที่จะพูดคุยกับเธอในเรื่องการสวิงครับ แต่ไอ้ความชื่นชอบเรื่องสวิงของผมนี่แหละมันก็เป็นที่มาของเรื่องราวอีกมากมายที่ผมจะได้เอามาเล่าให้เพื่อนสมาชิกฟังกันนี่แหละครับ

เรื่องของเรื่องมันเกิดขึ้นกับผม และ รุ่นน้องแถวบ้านผมคนนึงที่เราสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก มันชื่อไอ้ปริญ อายุเราจริงๆไล่เลี่ยกันเลยค่อนข้างสนิทกันมาก แต่ด้วยความที่ผมเรียนหนังสือไม่เก่งเท่าไหร่นัก ซึ่งตรงข้ามกับมันที่เรียนหนังสือเก่ง แถมบ้านมีสตางค์ มีช่วงที่เราห่างกันไปก็คือตอนที่ไอ้ปริญมันไปเรียนที่กรุงเทพฯ จริงๆตอนเด็กๆมันมาเป็นลูกไล่ผมด้วยความที่มันเป็นเด็กเรียน เรียกว่าเป็นเด็กเนิร์ดเลยก็ได้ แต่ผมเกเร เรียกได้ว่ามันชักว่าวเป็นก็ผมนี่แหละเป็นคนสอน ไอ้ปริญด้วยความที่เรียนหนังสือเก่งและบ้านมีฐานะมีเส้นสายอยู่บ้าง ตอนหลังได้มีโอการไปรับราชการเกี่ยวกับศาล เป็นที่นับหน้าถือตาเลยแหละครับ ก่อนจะย้ายกลับมารับตำแหน่งที่บ้าน เราก็เลยได้เจอกันอีกครั้ง แต่ถึงไม่ได้เจอกันนาน เราก็ยังสนิทกันเหมือนเคยตั้งแต่ที่ได้คุยกันครั้งแรกที่มันกลับมาเลย

มันกลับมาได้สองสามวันมันก็แวะเข้ามาที่บ้านผม วันนั้นเป็นวันหยุด อุ๋ยออกไปขายของ เราได้นั่งดื่มกันอยู่สักพัก อัพเดทชีวิตกันอย่างออกรสออกชาติ ผมก็บอกมันว่าผมแต่งงานแล้ว เมียออกไปขายของเดี๋ยวก็กลับ ส่วนมันมีแฟน เป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยในศาล แต่มันเอารูปให้ผมดู น้องน่ารักมากๆ เรียกว่าถ้าตามบ้านนอกก็เป็นนางนพมาศได้สบายๆ แถมหุ่นดีอีกต่างหาก ตัวเล็กน่ารัก น้องชื่อ นัท แต่ไอ้ปริญมันยังไม่ได้แต่งงานนะครับ มันบอกขอ โฟกัสที่งานก่อน แต่ผมก็แปลกใจนะ เพราะสเปคไอปริญที่ผมจำได้ มันจะชอบผู้หญิงตัวอวบๆ นมใหญ่ๆ ไม่รู้น้องนัทนี่มีดียังไงมามัดใจไอ้ปริญได้ เราคุยกันไปกันมา จนไอ้ปริญถามว่า แล้ว ผมพาอุ๋ยสวิงหรือยัง มันจำได้ว่าผมชอบเรื่องนี้เป็นชีวิตจิตใจ แต่ผมก็ได้แต่คอตกเล่าให้มันฟังว่า อุ๋ยเขาคุณหนูเขาไม่ชอบเรื่อง sex ไอ้ปริญก็หัวเราะเยาะผมใหญ่ บอกว่าหัวโจกแห่งการพาหญิงมารุม สุดท้ายได้เมียเรียบร้อยซะงั้น เราคุยกันจนอุ๋ยกลับมา ผมก็แนะนำให้เธอรู้จักไอ้ปริญ เธอก็ดูชื่นชมมันที่ได้ดิบได้ดีหน้าที่การงานดี เธอชมไม่ขาดปาก จนเรากินกันเสร็จเธอก็เป็นเมียที่น่ารักขายของมาเหนื่อยๆก็มาช่วยเก็บกวาดที่เรากินกัน ผมรู้สึกเมาเลยขอตัวขึ้นนอนก่อน ไอ้ปริญก็กลับบ้านไปพร้อมๆกัน จากนั้น ครอบครัวผมกับไอ้ปริญก็ไปมาหาสู่กันอยู่ตลอด

ที่ผมเริ่มอึดอัดใจคือ ทุกครั้งที่ผมมีปัญหากับอุ๋ย ตอนนี้กลายเป็นไอ้ปริญมันกลายมาเป็นตัวเปรียบเทียบที่ผมเองไม่รู้จะเอาตัวไปเปรียบกับมันยังไง คำพูดที่เสียดแทงเช่น ผมมันขับรถส่งอาหารไปวันๆ ทำไมไม่ไปหางานการมั่นคงแบบไอ้ปริญ ถ้าผมดีกว่านี้เธอก็คงจะสบาย จริงๆผมก็เสียใจมากนะครับที่ผู้หญิงที่ผมรักมาพูดกับผมแบบนี้ แถมเธอยังเคยบอกว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะไม่เอาผัวแบบผม มีผัวแบบไอ้ปริญคงสบายไปทั้งชาติ แต่ถึงผมจะแค้นและเจ็บใจอยู่ไม่น้อย แต่ก็จริงของอุ๋ย ผมมันไม่ได้ครึ่งของไอ้ปริญเลย ผมก็ได้แต่เก็บความกดดันนี้ไว้ในใจ จนกระทั่งวันนึงที่เธอไปดื่มกับเพื่อนกลับมาเมาแทบจะไม่ได้สติ ผมก็ถือโอกาสจะได้ปลดปล่อยกับเมียรักซักหน่อย เพราะถ้าไม่เมาเธอแทบไม่ยอมให้ผมเข้าใกล้เลย แต่ขนาดที่เธอไม่ได้สติ เธอยังลุกขึ้นมาเอาถุงยางมาสวมให้ผมก่อนบอกว่าจะเย็ดก็เย็ดเลยกูมันคิดผิดที่มีผัวแบบมึง ก่อนจะนอนแหกให้ผมทิ่มตามใจอยาก พอผมใกล้เสร็จ ผมดึงถุงยางออก จะไปให้เธออมแตกในปากครั้งแรก (เพราะเห็นว่าเธอเมา) แต่เธอกลับเบือนหน้าหนีบอกว่าควยสกปรก ไอ้คนขับแกร็บกระจอกแบบมึงกูไม่อมหรอก ผมโกรธมากจนไม่มีอารมณ์จะทำให้เสร็จด้วยซ้ำ ผมใส่กางเกงขี้รถออกมาบ้านไอ้ปริญ จริงๆไอ้ปริญมันนอนแล้วแหละ มีแต่ป้าแม่บ้านที่มันจ้างกำลังเก็บกวาดห้องรับแขกมัน ด้วยความที่ผมโมโห เลยไปปลุกมันมากินเหล้าเป็นเพื่อน และระบายความในใจให้มันฟังว่า ตลอดระยะเวลาเป็นปีๆที่มันกลับมา อุ๋ยก็กลายเป็นเหินห่างกับผมชื่นชมมัน ผมก็ยังบอกว่า ถ้าผมเรียกเก่งเหมือนมันก็คงดี มันรินเหล้าเพียวๆมาให้ผมแก้วนึง ก่อนจะถามผมว่าจะทำยังไงกับอุ๋ยต่อ ผมก็บอกว่า ทำไงได้คนมันรักไปแล้ว ก็คงคบกันต่อไป ต่อให้อุ๋ยเป็นยังไงก็คงเลิกไม่ได้ ไอ้ปริญก็เลยบอกว่าดีแน่ใจนะว่าไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ไม่เลิก ผมก็ยืนยันมั่นใจ คุณหนูอุ๋ยที่ผมรักยังไงผมก็เลิกกับเขาไม่ได้ ไอ้ปริญชนแก้วกับผมจนเหล้าเพียวที่รินไว้เกือบครึ่งแก้วหมดทั้งสองใบ

ไอ้ปริญกดโทรศัพท์อย่างตั้งใจสักพัก ผมก็นึกว่านายไลน์มาต้องตอบงาน ผมก็นั่งรอ รินเหล้ากระดกเองไปอีกครึ่งแก้ว ก่อนไอ้ปริญจะยื่นมือถือของมันมาให้ผม ผมแทบไม่อยากเชื่อสายตาเพราะในโทรศัพท์มันมีรูปอุ๋ยเมียรักของผมกำลังอมควยให้มันที่บ้านของผมเอง มันเอามือเหน็บผมไว้กับหูเพื่อให้เห็นหน้าอุ๋ยเมียผมชัดๆตอนกำลังอมควยให้มัน มันถามผมว่าแบบนี้หรอที่มึงอยากได้ รูปนี้น่ะคือวันแรกที่กูไปบ้านมึงหลังจากกลับมารับตำแหน่งที่บ้าน เมียคุณหนูมึงก็อมควยกูแถมแดกน้ำกูไม่เหลือสักหยด ผมแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ผมทั้งโกรธ และ โมโหมาก แต่ก็ตื่นเต้นมากๆที่เห็นคุณหนูของผมไปอมควยชายแปลกหน้า ผมสับสนมากหลังจากกระดกเหล้าอีกแก้วก็เลยถามไอ้ปริญว่าเรื่องมันเป็นยังไงมายังไง มันเลยถามว่า เคยสงสัยไหมว่าทำไมผมถึงได้เจอกับอุ๋ย ผมนึกย้อนกลับไปมันก็เป็นเรื่องที่บังเอิญมากๆเพราะตอนนั้น อุ๋ยมาเที่ยวตจว.ที่บ้านผม และ ผมก็เจอเธอในร้านเหล้าประจำของผม เรามองตากันไปมาจนเริ่มทำความรู้จักกัน ซึ่งมันก็บังเอิญมากจริงๆ ไอ้ปริญจึงหยิบโทรศัพท์เลื่อนไปมาก่อนจะส่งรูปถัดไปให้ผมดู เป็นรูปอุ๋ย น่าจะก่อนที่จะแต่งงานกับผมเพราะตัวเธอผอมกว่าครั้งแรกที่เจอกับผมด้วยซ้ำ รูปนั้น เธอกำลังขย่มควยชายแกงค์วัยรุ่น พร้อมกับโก้งโค้งให้อีกคนยัดควยเข้าไปในรูตูดของเธอ ชายอีกคนยืนคร่อมให้เธอดูดควยอยู่ข้างหน้า อีกสองมือของเธอกำลังชัดว่าวให้ชายวัยรุ่นอีก 2 คน แต่ละคนก็เรียกได้ว่าทรงเอแหละครับ ผมหัวใจเต้นแรงมาก ไอ้ปริญก็เริ่มเฉลยกับผมว่า อีอุ๋ยน่ะ เคยมาชอบมัน ยอมทำทุกอย่างให้มันรัก ไม่ว่าจะหีจะตูดจะปากอุ๋ยยินดีพร้อมมอบให้ไอ้ปริญหมดทุกรู เลือดพรหมจรรย์จากหีจากตูดก็ชโลมควยไอ้ปริญมาหมดแล้ว แต่มันไม่อยากจะเอาผู้หญิงร่านๆแบบนี้มาเป็นเมีบ มันเลยเอาเธอเป็นของเล่นมาตลอด อย่างไอ้ชายหนุ่มวัยรุ่น 5 คนนั้น ก็มาคุยงานวิ่งเต้นคดี จ่ายเงินให้ไอ้ปริญมากโขอยู่ ไอ้ปริญก็เลยให้อุ๋ยเมียผมต้อนรับขับสู้ มันบอกว่าขนาดเด็กหนุ่มอย่างงั้น 5 คน อีอุ๋ยยังเย็ดจนขาสั่นไม่มีแรงจะยืนเลยแต่ละคน ทุกคนปล่อยน้ำในหีอีอุ๋ย ในตูดอีอุ๋ยจนไม่มีน้ำจะออก ซึ่งขนาด 5 คนหลับอยู่ไอ้ปริญสั่งให้อีอุ๋ยไปปลุกทีละคนให้ควยแข็งแล้วเอาตูดเย็ดจนเสร็จ มันก็ทำตามโดยดี จนไอ้ปริญมันเรียกอีอุ๋ยว่า หมาน้อย เชื่องยิ่งกว่าหมาอีก ไอปริญก็เลยเล่าต่อว่า วันที่มันรู้ตัวว่าจะกลับบ้าน จริงๆมันรู้ตัวเป็นปี ว่าตำแหน่งที่มันอยากได้กำลังจะว่าง มันก็เปรยกับอุ๋ยเมียผม ว่า เดี๋๋ยวพี่ต้องไปประจำการ ตจว นะ เราคงไม่ได้อยู่ด้วยกัน ซึ่งอุ๋ยก็หายจากชีวิตไอ้ปริญไปเป็นปี จนวันที่มันมาบ้านผมนี่แหละถึงรู้ว่าอีอุ๋ยมาหลอกผมแต่งงาน เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ๆมันต่อไปอีกนานๆ ผมสับสนจนบอกไม่ถูกไม่มีคำพูดใดๆแล่นอยู่ในหัวผมเลยสักนิดทุกอย่างมันช่างว่างเปล่าไปหมด มันกอดคอผมบอกว่า ถ้ามึงรักมันกูก็ไม่ว่าอะไร ไหนๆมึงอยากให้มันสวิงอยู่แล้ว ต่อไปนี้ทุกครั้งที่อีอุ๋ยมาหา มันจะถ่ายทอดสดให้ผมชมทุกครั้ง

 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น