ผมไม่ได้เข้ามาในที่นี้เสียนาน แต่ทุกอย่างในชีวิตผมยังดำเนินไปเป็นปกติ บล็อกก่อนๆผมมักจะเล่าถึงน้องผู้หญิงกับน้องผู้ชายคู่หนึ่งที่เขาทำโฮมสเตย์อยู่ต่างจังหวัดเล่าถึงน้องกุ๊กไก่ที่ตอนนี้ลาออกจากครู ไปอยู่กับสามีฝรั่งที่เขาทำงานแท่นขุดเจาะไปๆมาๆระหว่างไทยกับดูไบ เล่าถึงแม่ลูกคู่หนึ่งที่น้องกุ๊กไก่แนะนำให้รู้จัก ที่ตอนนี้ชีวิตเธอแฮปปี้ขึ้น ส่วนลูกสาวเธอก็ตัดสินใจเรียนนิติศาสตร์ในปีนี้ตามที่ผมแนะนำ ผมยังมีโอกาสที่ขับรถพาพวกเขาไปไปค้างคืนต่างจังหวัด เพื่อประสบการณ์ใหม่ๆและเติมเต็มความสุขในชีวิต ผมอธิบายความสัมพันธ์ของเรา 3 คนไม่ถูกแต่ถ้าแยกเรื่องการเสพสุขออกจากเรื่องอื่นๆได้จะเข้าใจ
เมื่อไม่นานนี้ น้องผู้ชายโทรมาคุยกับผมบอกว่าเขามีงานถ่ายรูปให้ผมงานหนึ่ง เป็นงาน thank you party มีเจ๊คนหนึ่ง เขานำเข้าเสื้อผ้าคนอวบอ้วนและขายแบบ dropship คือคนที่เป็นคนขายไม่จำเป็นต้องมีเสื้อผ้าในสต๊อกหาแต่ Order ส่วนการส่งสินค้าทีมงานเจ๊จะเป็นคนรับผิดชอบส่งให้เองทั้งหมด เจ๊จึงขอบคุณลูกทีมโดยพาไปเที่ยวทะเล ส่วนผมไปถ่ายแบบเสื้อผ้าในช่วงเวลาเดียวกัน
น้องผู้ชายเช่ารถตู้จากกรุงเทพฯพาเราไปเที่ยวทะเลตะวันออก เราออกรถกันตั้งแต่เช้า ในรถมีแต่คนรูปร่างอวบอ้วนกับผู้ชายหล่อแต่งตัวดีอีก 3 คนหลายชั่วโมงในรถน้องผู้หญิงก็ให้เราแนะนำตัว ทำให้รู้ว่าผู้ชายกับผู้หญิงคู่หนึ่งที่นั่งใกล้ผมเขาเป็นแฟนกัน น้องผู้หญิงก็ชวนเล่นเกมสันทนาการต่างๆ จนมีเกมหนึ่งเรียกว่าเกมเจ้าหญิง คือหาคนขึ้นมาคนหนึ่งสมมุติให้เขาเป็นเจ้าหญิง แล้วเจ้าหญิงสั่งให้ใครทำอะไรก็ต้องทำ เมื่อทำจบคนๆนั้นก็จะเป็นเจ้าหญิงคนต่อไป เราจะไม่ทำตามสั่งแต่จะโยนความเป็นเจ้าหญิงให้คนอื่นต่อไปก็ได้ บรรยากาศในรถก็เฮฮาสนุกสนาน
ช่วงหนึ่งน้องผู้หญิงเขาสั่งให้ทุกคนเล่าว่า "เคยเสียตัวครั้งแรกกับใคร" ทุกคนจึงเงียบกริ๊บ น้องผู้หญิงจึงถามว่าเรามาคุยเรื่องเซ็กส์กันเอาไหมในรถก็ยังเงียบอยู่ เธอจึงพูดต่อไปว่า ถ้าเป็นเรื่องเซ็กส์ "มันต้องเล่าโดยคนนี้" แล้วชี้มาที่ผม โยนให้ผมซะอย่างนั้น ผมจึงเริ่มต้นจากธรรมชาติของเซ็กซ์ เรื่องsex ในมิติของสังคมไทย เราจะหาความสุขจากสิ่งที่ธรรมชาติให้มาได้อย่างไร ในระหว่างนั้นผมก็ถามคำถามเดิมว่าแต่ละคนเคยมีเซ็กส์ครั้งแรกตอนไหน ทุกคนตอบคำถามนี้ บางคนกับแฟนคนแรก บางคนกับเพื่อนพี่ชาย ผมย้ำว่าถ้าเราเข้าใจมัน เราก็จะหาความสุขกับมันได้ เพราะฉะนั้นในที่นี้ ถ้าใครหรือใครแตะเนื้อต้องตัวใครก็ไม่ถือสากันนะครับ ผมสังเกตเห็นน้องผู้หญิงกอดแขนแฟนเขาแน่นเลย
ถึงที่หมายเป็นรีสอร์ทที่มีความเป็นส่วนตัวพอสมควร เราพักนิดนึง ก็เริ่มถ่ายรูปชุดต่างๆโดยที่มีพวกเขาเป็นแบบ สุดท้ายผมก็ถามว่าจะมีใครถ่ายรูปชุดว่ายน้ำบ้างไม่มีใครต้องการถ่ายเลยเพราะเขาคิดว่ารูปร่างไม่สวย ผมคะยั้นคยอคนหนึ่งจนเธอยอมถ่าย ปรากฏว่ารูปออกมาสวย เพราะผมรู้ว่าจะถ่ายยังไงจะหลบยังไงในที่สุดทุกคนก็ถ่าย ถ่ายกันจนถึงกลางคืนในชุดของสาวร่างใหญ่ปาร์ตี้
ตัดมาช่วงดึกที่ปาร์ตี้เปลี่ยนเป็นปาร์ตี้ผ้าขนหนู ทุกคนมีผ้าขนหนูห่มตัวผืนเดียว ผมรู้ว่าทุกคนแฮปปี้มาก การถูกเนื้อต้องตัวกันไม่ใช่เป็นเรื่องที่ต้องถือสาเหมือนที่ผมบอกไว้บนรถน้องผู้หญิงกระซิบบอกผมว่ามีเรื่องจะคุยด้วย ผมจึงแยกตัวออกมา สรุปว่าคู่สามีภรรยาเขาต้องการมีเซ็กส์แบบทรีซัม ผมจึงคุยกัน เขาทั้งคู่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ สามีถูกภรรยาด่าว่าเป็นโรคจิตอยู่นาน จนกระทั่งภรรยาเขาได้คุยกับน้องผู้หญิงจึงตามใจสามี เข้าห้องสามีบอกให้ผมเริ่มเลย เขาอยากจะดู ผมจึงบอกให้เขาทั้งคู่เริ่มกันเองก่อน ภรรยาเขาก็เขิน ผมจึงเอาหน้ากากอนามัยปิดตาภรรยาไว้ เธอร้องบอกว่าอย่าถ่ายรูปนะๆ มันไม่มีรูปใดๆ ที่ไม่เหมาะหลุดออกไปอยู่แล้ว เพราะชีวิตต้องเดินต่อไป สามีเริ่มที่ประกบปากแลกลิ้นกับภรรยา แล้วแกะจุกผ้าขนหนูโลมเลียยอดปทุมถันของภรรยา มันเต่งตึงชูชัน ก่อนเลื่อนตัวขึ้นเอาแท่งของตัวเองให้ภรรยาอม กดเข้าออกในปากภรรยาและเลื่อนตัวลงมาเอาแท่งสอดใสของภรรยา
ผมสะกิดให้เขาหยุดและถอยออกมาก่อน สั่งเขาว่าอย่างไรก็ห้ามถึงก่อนภรรยา ผมคิดว่าถ้ามาแนวนี้คงทำให้ภรรยาถึงได้ไม่กี่ครั้งหรอกผมเอามือลูบคลึงเนินเนื้อของเธอ ก่อนกดนิ้วกลางจมลงไปในร่องแช่ไว้ มันฉ่ำแฉะและบีบรัด คงเพราะโชว์ของน้องผู้ชายอีกห้องหนึ่งก่อนหน้านี้ ผมเอามือกดตื้นลึกหาจุดจีสปอตจนเจอ ผมคลึงเคล้นเธอดันมือผมออกแต่ผมฝืน จากนั้นก็กดนิ้วกลางถูจุดเสียวด้านในค่อยเพิ่มความเร็วแรง เร็วขึ้น แรงขึ้นจนเธอถึงจุดสุดยอด น้ำพุ่งออกมา
ผมเอากระดาษชำระเช็ด น้องผู้หญิงเดินกลับเข้ามาอีกรอบ โน้มตัวปะกบปากและเอามือจับแท่งทวนของหมอผู้ชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้รูดขึ้นลง ผมรู้ว่าเธอเข้ามาควบคุมไม่ให้ผู้ชายถึงจุดสุดยอดเร็ว เพราะหากถึงอารมณ์ก็จะเปลี่ยน ส่วนบนเตียงผมเองทำท่า69เอาขาคร่อมหน้าหญิงไว้เอานิ้วชี้สอดควานแล้วละเลงลิ้นเลียเม็ดเอาแท่งทวนจ่อปากเธอก็อมทันที ผมขยับแท่งทวนเข้าออกเบาๆให้สามีเขาดู ด้านล่างก็ทั้งนิ้วทั้งลิ้นบี้คลึง ร้องอู้ ดูดแท่งทวนผมแรงๆมือเธอเสียว
จนผมกดแท่งทวนของผมเข้าไป ค่อยๆขยับเบาๆจนแรงขึ้น ผมเห็นน้องผู้หญิงนั่งบนเก้าอี้ จับมือชายไพล่หลังไม่ให้จับของตัวเองแล้วให้นั่งบนตักเธอแล้วบีบแรงๆที่แท่งทวน ผมกระเด้า ตับ ตับลึกๆแรงขึ้นแต่ไม่เร็ว หลังจากนั้นก็พลิกให้หญิงโก้งโค้งท่าหมาบนเตียง หันหน้าไปหาสามีที่นั่งทับหน้าขาน้องผู้หญิงอยู่ข้างเตียง ผมสอดใส่ทางด้านหลัง กระเด้าแรงจนตัวโยนตามแรง น้องผู้หญิงดันตัวชายให้ยืนแล้วขยับมาชิดเตียง เธอยังจับมือไพล่หลังอีกมือหนึ่งก็อ้อมมารูดแท่งทวน เธอดันจนแท่งทวนมันมาอยู่ตรงหน้าหญิง หญิงยันตัวขึ้นโอบเอวสามี ส่วนด้านล่างผมยังส่งแท่งทวนเข้าออกอยู่ น้องผู้หญิงมองตาผมและรูดเร็ว แรงขึ้น ผมเองจึงสูดลมเข้าปอดแล้วกลั้นใจกดหมอหญิงเร็วและแรง หน้าเธอถูกับหน้าอกสามีร้อง โอ้ยที่รักๆๆ เสียงตับๆๆๆ จนสามีเธอร้องโอ๊ก ตัวงอ พุ่งน้ำ ผมจึงเร่งเร็วอีกจนหมอหญิงถึงจุดสุดยอดฟุบคว่ำที่นอน ส่วนหมอชายถูกดันให้ไปนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิมและน้องผู้หญิง กำลังใช้ลิ้นทำความสะอาดให้อยู่
คืนนั้นผมได้เจอคนที่ค้นพบวิธีระเบิดความสุขให้ตัวเองอีกคนหนึ่ง เพราะมีรอบสองรอบสาม ตอนเช้าก่อนกลับผมถามสามีเขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง เขาบอกว่าถูกใจมาก มันเหมือนได้เจอในสิ่งที่ต้องการ เขาต้องการให้เมียดูเรียบร้อยในเวลาปกติที่คนทั่วไปเห็น แต่เป็นผู้หญิงที่ร่านเมื่ออยู่กับคนที่ไว้ใจได้
ปาร์ตี้สาวอวบ2
บล็อกก่อนผมเล่าว่าผมเดินทางไปถ่ายรูปที่ระยองกับกลุ่มปาร์ตี้สาวอวบ หลังจากที่น้องผู้หญิงยื่นไมโครโฟนมาให้ "ผมคุยอะไรกับคนในรถบ้าง?"ผมถามซ้ำว่าเราจะคุยกันเรื่องเซ็กส์ดีไหม? คำตอบคือทุกคนเงียบ(ไม่แปลก) บางคนคงนึกในใจว่าทำไมต้องคุยเรื่องนี้ในที่นี้ด้วยใช่ไหมครับผมบอกว่าถ้าตั้งคำถามอย่างนี้คำตอบของผมก็คือเรื่องเซ็กส์ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องซ่อนเร้น แต่ก็ไม่ได้ความหมายความว่าเราจะตะโกนคุยกันเรื่องเซ็กส์ในตลาดนัด ในที่นี้ที่มีแต่พวกเรา " ถ้าเราจะคุยกันเรื่องเซ็กส์ใครจะค้านบ้างครับ" ผมจะใช้ความเงียบให้เป็นประโยชน์ และคำตอบมันคือเงียบ
ผมตีความว่าความเงียบคือไม่มีใครค้าน จึงเริ่มจาก sex ที่เราพบเห็นกันอยู่ทุกวันก็คือการโฆษณา ที่เอาหนุ่มหล่อสาวสวยมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ที่มีแรงจูงใจทางเซ็กส์ทั้งนั้น ผมไม่ได้พูดถึงเซ็กซ์ในมิติของการสมสู่ แต่เซ็กส์ถูกฝังไว้ในส่วนลึกของจิตมนุษย์และสัตว์ เราไม่รู้ตัวหรอกแต่เมื่อเราเห็นพรีเซ็นเตอร์หนุ่มหล่อสาวสวยเรามักจะหยุดและให้ความสนใจ "ใช่ไหม" มีเสียงตอบว่าใช่ (เริ่มมีการตอบรับ) ผมเริ่มลงลึกไปถึงผู้หญิง ผมบอกว่าถ้าหากมองว่าสังคมเราปิดกั้นเรื่องเซ็กส์ในผู้หญิง มันอาจจะถูกแค่บางส่วน เคยนึกกันไหมว่าแท้จริงแล้ว ปัญหามันอยู่ที่การที่ "ผู้หญิงปิดกั้นตัวเองต่างหาก" เช่น ไม่กล้าพูดไม่กล้าโต้แย้ง
ผมกำหนดให้พื้นที่ในรถเป็นพื้นที่เซฟโซน คุยได้ทุกเรื่องแต่จบตรงนี้ แล้วส่งไมโครโฟนเวียนกันในรถ บางคนพูดแต่บางคนไม่พูด กลายเป็นวิวาทะ ในเรื่องของความคิดพื้นๆ เช่น ผู้ชายเห็นแก่ตัวมีแล้วยังไม่พอ มีคนบอกว่าเราอ้วนไม่สวยเราจึงไม่มีแฟน ผมให้เขาวิวาทะโต้กันพักหนึ่งจึงขอให้ยุติและขอโทษกัน ถามคู่วิวาทะว่าจะให้อภัยกันไหม คนนั้นให้อภัยคนนี้ไหม ส่วนคนนี้จะให้อภัยคนนั้นมั้ย ทุกคนให้อภัยกัน ผมบอกว่าเมื่อให้อภัยกันแล้ว จะย้ายที่นั่งไปนั่งข้างๆกันเลยจะได้ไหม? ในที่สุดผมก็ย้ายให้เขานั่งเป็นคู่ๆ แต่ไม่ครบคู่
ผมขยายความวิวาทะหนึ่ง ที่ผมสรุปว่า "ผู้หญิงสงสัยว่าทำไมผู้ชายบางคนจึงมีความคิดให้แฟนร่วมรักกับคนอื่น" บอกว่าผมตอบไม่ได้ ผมไม่สามารถรู้จิตใจส่วนลึกเขาได้ แต่ถ้า "ผู้หญิงเจอเหตุการณ์แบบนี้จะต้องทำอย่างไร?"
1. อย่าตอบรับหรือปฏิเสธทันที มองให้ลึกว่ามีอะไรเป็นสิ่งจูงใจให้เขาคิดอย่างนั้น มีอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลัง เช่น ความสัมพันธ์ที่กำลังง่อนแง่นที่เขาจะเอาเหตุของการกระทำเช่นนี้โยงไปถึงเหตุอื่น ตรงนี้ไม่ควรเอาการกระทำ(ถ้าหากเกิดขึ้น)มาทำร้ายกันแม้แต่วิธีคิดและคำพูดเพราะผู้หญิงมีแต่เสียเปรียบหรืออาจเป็นว่าผู้ชายแค่แสวงหาความตื่นเต้นหรืออาจรู้สึกว่าตัวเองบกพร่องจึงหาสิ่งชดเชยที่เขาคิดว่าดีกว่าตัวเองให้คนรัก บางคนบอกว่าผู้ชายมีปมในใจที่ตอนเด็กไม่ได้รับการยอมรับอย่าเพิ่งสรุปว่าดีหรือเลว ถึงเลวก็ผัวเธอยังต้องอยู่ร่วมกันในภาระและบทบาทอื่น
2.ถามตัวเองว่าถ้าหากไปถึงจุดนั้นเราจะรู้สึกกับตัวเองอย่างไร เราจะด้อยค่าตัวเองไหม มันจบแล้วจบเลยหรือมันจะเป็นตราบาปติดอยู่ในใจเราแต่ผู้หญิงต้องไม่ลืมว่าการใช้ชีวิตร่วมกัน มันต้องแบ่งปัน เสียสละ กันทั้งหญิงและชาย การที่วางตัวเองไว้เป็นหลักโดยไม่โอนอ่อน หวังให้คนอื่นยอมอย่างเดียวมันก็ไม่ถูกต้องในการใช้ชีวิตคู่ ถ้าเรา "รับไม่ไหว" อาจยอมในระดับเบาลง เช่น ยอมไปนวดให้สามีนั่งดูและไม่มีอะไรเกินเลยกว่านั้น ตัดสินใจให้ชัดอย่าทรยศความรู้สึกตัวเอง อย่าทำในทำนองที่ให้ผู้ชายมีความหวัง การใช้ชีวิตร่วมกันให้แก่ตายจากกันไปข้างหนึ่งมันยาก มันมีหลายปัจจัย สวยปานดารายังหย่ากันเลย เซ็กส์มันเป็นเรื่องซ่อนเร้น เวลาหย่ากัน ไม่มีใครบอกกันหรอกถ้ามันเริ่มจากสาเหตุนี้แต่เอาเข้าจริงต้นตอมันอาจมาจากเรื่องนี้ก็ได้ ผู้ชายบางคนหย่าแล้วพอมีเมียใหม่เธอช่างน่าXXX มันบ่งบอกถึงสิ่งที่เขาต้องการจริงๆ
3.ถ้าตัดสินใจที่จะกระทำในจุดนั้นก็อย่ากัวล จงตักตวงความสุขและความแปลกใหม่ที่เกิดจากสิ่งนั้น ถ้าเหตุจูงใจมาจากความรู้สึกอยากเห็นเมียมีความสุขหรือความรู้สึกด้อยของสามีก็จงทำให้สามีรู้สึกว่า "สิ่งที่เขาหามาให้เรามันสร้างความสุขสุดๆ" ปล่อยความรู้สึกเราให้สุด ถ้าเขาจะฆ่าเราด้วยแท่งทวน เราก็จงร้องโหยหวนเรียกสามีให้ช่วย ถ้าสามีอยากเห็นเราเป็นโสเภณี เราก็เป็นโสเภณีที่เริ่มรุกเร้าชายที่มาใช้บริการก่อนเป็นบทบาทในเวลานั้น เมื่อบทบาทนั้นผ่านไปเราก็เป็นเหมือนเดิมที่เป็นตัวเรา
ในรถเริ่มไม่มีเสียงใดๆ ยกเว้นเสียง แฟ้บๆๆๆ ที่เกิดจากมือน้องผู้หญิงและอวัยวะชิ้นหนึ่งของผู้ชายที่นั่งแถวหน้าสุดที่เธองัดมันขึ้นมาชัก ชายยืนหัวค้ำเพดานรถ ไม่มีใครได้เห็นข้างหน้าแต่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร จะมีเสียงวี้ดว้ายก็เมื่อตอนน้องผู้หญิงถามทุกคนว่า "แฉะกันหมดแล้วสิ" ผมบอกว่าผมไม่เชื่อหรอกแล้วให้ผู้ชายที่เป็นคู่วิวาทะที่ผมให้ย้ายไปนั่งข้างกันเป็นคู่ๆล้วงพิสูจน์ บางคู่ร้องวีดว้ายปัดป้อง บางคู่ผู้ชายล้วงเข้าไปจนได้ ยกมือโชว์น้ำเหนียวๆที่ติดมือออกมา
บอยทอย
บล้อกก่อนผมเล่าถึงงานปาร์ตี้คนอวบ ที่เราเดินทางไปเที่ยวทางทะเลภาคตะวันออก ผมนั่งมองน้องผู้ชายเด็กเอ็นหรือที่ผมเรียกเขาว่า "เอ็น-เนอร์" ซึ่งเป็นคำที่ใช้เฉพาะกลุ่มตอนผมวัยรุ่นทำงานในเม็มเบอร์คลับแห่งหนึ่ง เป็น Night Club เฉพาะผู้หญิง ลูกค้าหลักก็เป็นสาวๆกลุ่มโบรกเกอร์ ที่อยู่ในยุครุ่งเรืองก่อนปี 40
"เอ็น-เนอร์" ยุคนี้กับยุคผมก็ทำงานคล้ายกัน คือมุ่ง Entertain ลูกค้าที่ มาใช้บริการ มีลูกล่อลูกชนที่ทันกัน แต่ยุคนี้มันไม่ได้อยู่ในรูปแบบของ Club มันปรับเปลี่ยนมาบริการในงานปาร์ตี้รื่นเริงกลุ่มเล็กๆ หลายคนอาจคิดว่าเป็น"เอ็น-เนอร์"ก็ดีสิ ได้ตี้สาวฟรี ถ้ามองจากคนข้างนอกเข้ามาก็ใช่ครับ แต่ถ้ามองจากข้างในมันคืองาน งานที่ไม่ได้สนุกมันมีมุมมืดๆของมันอยู่
-เมื่อนานมาแล้ว-
คืนนั้นหลังร้านปิดผมออกมานั่งกินข้าวต้มกับสาวที่ชวนผมมา หลังจากนั้นมีหนุ่มรุ่นพี่มานั่งแจมด้วย เธอแนะนำผมว่าเป็นเพื่อนของเธอ นั่งไม่นานเธอเช็คบิลและเราออกมากัน3คน ผมรู้ว่าเธอชวนผมมาทำไม ตอนนั้นผมเข้าใจว่าเธอคงชอบแบบทรีซั่ม พอออกมานอกเมืองสาวเจ้าก็ขอลง จึงเหลือผมกับหนุ่มรุ่นพี่ ผมอึดอัดแต่จะกลับก็ไม่ได้มันออกมาใกลแล้ว นึกในใจว่าเอาวะ อย่างมากผมก็เป็นบอยทอยให้เขาเล่นคืนหนึ่ง ผมไม่ได่ชอบแนวนี้แต่ก็ถอยไม่ได้แล้ว
มาถึงเทาว์เฮ้าหลังหนึ่ง ดึกแล้วทุกอย่างจึงเงียบ หนุ่มรุ่นพี่ให้ผมลงจากรถ ผมอิดออดเขาจึงเปิดเก๊ะหน้ารถหยิบปืนออกมา ผมจึงเดินเข้าบ้านตามที่เขาเอามือดันหลัง
เขาพาขึ้นไปชั้น2 เปิดประตูห้องนอน ไฟหัวเตียงเปิดอยู่ผมเห็นสาวใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นหลับอยู่บนเตียง เขาดันหลังให้ผมนั่งลงบนเตียง บอกผมว่า "มึงเอาเมียกูให้กูดูหน่อย" คงเป็นเพราะเขารู้ว่าผมรับงานจึงล่อผมออกมา เร็วเท่าควมคิด ผมเริ่มเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการ ถึงแม้ว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ครั้งแรก ผมคิดว่าผมน่าจะเอาตัวรอดได้
สิ่งที่ผมกลัวที่สุดคือเมื่อผมลงมือทำ เกิดเขาลั่นกระสุนและบอกว่าผมเป็นชู้กับเมียเขา เขายิงผมเพราะบรรดาลโทสะ ผมก็ตายฟรี ผมมักจะเอาประสบการณ์ตรงนี้
มาคุยกันกับผู้หญิงที่สามีสนใจด้านมืดอยู่บ่อยๆว่า เมื่อเขามีความต้องการมันอยู่ที่การยับยั้งชั่งใจและการเลี้ยงดูภูมิหลังของเขา ถ้าเขามีนิสัยเอาชนะ จะต้องได้ทุกทุก อย่าง "โดยไม่สนใจวิธีการ" บางทีการยอมอ่อนข้อของสาวๆมันก็ต้องพิจรณาเป็นทางเลือกหนึ่ง ไม่งั้นมันจะเกิดสิ่งที่ร้ายแรงกว่า เช่น กรณีนี้เมื่อชวนเมียแล้วเมียไม่เล่นด้วย เขาจึงวางยานอนหลับและใช้ปืนจี้บังคับให้ผมทำตามความต้องการของเขา แรงขับที่เกิดจากรสนิยมทางเพศ เมื่อมันเกิดขึ้นมันอาจรุนแรงกว่าที่เราคิด
ผมสัญญาว่าจะทำและขอให้เขาวางปืนและขอให้เขาเริ่มก่อนแล้วผมค่อยเสริม เขาพูดเสียงเข้มว่า"มึงอย่างเรื่องมาก"แต่ก็ยอมวางปืน ผมจึงหมดทางเลือกและเริ่มจากการนวดร่างที่หลับไหล ผมเริ่มจากปลายเท้า บีบนวดไล่สูงขึ้นมาจนถึงหน้าขาและต่อด้วยเนินเนื้อ ผมเอามือสอดผ่านขากางเกงขาสั้นเข้าไปสัมผัสเนินเนื้อ เธอใส่ชุดชั้นใน ผมจึงสอดนิ้วชี้ผ่านชุดชั้นในเข้าไปกดคลึงติ่ง มันยังแห้งผาก แล้วบรรจงดึงกางเกงขาสั้นเธอลงมากองไว้ปลายเท้า เนินเนื้อภายใต้ชุดชั้นในมันอวบอูม ผมกางฝ่ามือจับมันเต็มฝ่ามือ ผมบอกแฟนเขาว่าเนินเนื้อของแฟนพี่สวยมากครับ เขาไม่ตอบอะไร ผมสอดนิ้วกลางเข้าไปใต้ชุดชั้นในบางๆและกดมันจมลงและวนในร่อง เธอยังนอนนิ่งสนิท
ผมขยับตัวขึ้นและแกะกระดุม รูดซิปปล่อยแท่งทวนที่แข็งให้ดีดผึงออกมา ค่อยๆจับมือเธอกำและกำมือเธออีกที ให้มือเธอรูดแท่งทวนผมขึ้นลง แฟนเธอถึงกับลุกขึ้นยืนดู มันเหมือนเธอตอบสนอง จากช้าๆเป็นเร็วขึ้นและจากกำแท่งทวนมือเดียวเป็นกำสองมือรูดขึ้นลงจนผมรู้สึกเสียวเอง คนที่อยากเห็นแฟนมีเซ็กส์เห็นอย่างนี้ก็ถูกใจแม้แฟนตัวเองยังหลับอยู่ ผมเอามือเธอวางแนบตัวและพลิกให้เธอนอนตะแคง ส่งแท่งทวนเข้าไปในปาก ค่อยๆกดเข้าออกจากตื้นๆไปสู่ลึกๆ สุดท้ายลึกจนเธอเหมือนจะหายใจไม่และสำลัก ผมจึงถอนแท่งทวนและเลิกเสื้อยืดเธอขึ้น ดันบราและเอาลิ้นโลมไล้หัวนม มันแข็งสู้ลิ้นแม้เธอหลับอยู่
แฟนเธอช่วยถอดเสื้อยืด จนเธอล่อนจ้อน ผมเอามือจับเนินเนื้อเธออีกครั้ง พบว่ามันมีน้ำหล่อลื่นซึมออกมา ผมเพิ่มการหล่อลื่นโดยใช้หมอนรองก้นและใช้ปากโลมเลีย
ผมเห็นแฟนเธอปะกบปากเอาลิ้นสอดปากเธอโดยไม่รังเกียจที่ปากเธอเพิ่งอมแท่งทวนของผม ผมเริ่มท่าแรกโดยยกขาเธอทั้ง2ข้างขาดบ่า บรรจงส่งแท่งทวนเข้าไปในเนินเนื้อเธอช้าๆให้แฟนเธอนั่งดู ต่อด้วยลากเธอลงมาพาดขอบเตียง ยกขาข้างหนึ่งพาดบ่า ขาอีกข้างห้อยแตะพื้น ทำให้แฟนเธอเห็นแท่งทวนที่มันเข้าออกชัด
เมื่อทุกอย่างมันลื่นไหล ผมจึงทำท่าต่างๆอีกหลายท่า จนถึงท่าที่เธออยู่ด้านบนเพราะผมพลิกตัวเธอให้นอนคว่ำทับอกผม ส่วนผมใช้แท่งทวนเสยขึ้น ถึงจุดที่ผมทนไม่ไหวจริงๆเพราะเธอครางเบาๆข้างหูผมทุกครั้งที่ผมเสยแท่งทวนขึ้น เธอหลับแต่ก็เสียว ผมจึงพุ่งน้ำอุ่นๆเข้าไปในตัวเธอ เรียกว่าเย็ดสดแตกในกันเลยเพราะก่อนสอดใส่ครั้งแรกผมขอใส่ถุงแต่แฟนเธอให้ผมเอาสด ผมบอกว่าถ้าผมกลั้นไม่อยู่ผมกลัวแตกใน แฟนเขาอยากเห็นร่องเนินเนื้อที่โดนแตกในใส่
ผมขอตัวลงไปอาบน้ำชั้นล่าง กลับขึ้นมาจะแต่งตัว ผมเห็นเขาให้แฟนเขานอนตะแคง ส่วนเขาใส่ซ้ำน้ำจากด้านหลัง เขาบอกว่าเขาแตกไปแล้วแต่มันยังแข็ง ผมใส่เสื้อผ้าและขอตัวกลับเพราะเกือบเช้าแล้ว เขาให้ผมหยิบซองบนโต๊ะเครื่องแป้ง ผมเปิดดูระหว่างนั่งแทกซี่ เขาเขียนว่าให้มันจบลงคืนนี้และอย่ากลับมาที่นี่อีก พร้อมด้วยเงินค่าแทกซี่จำนวนหนึ่ง
"เรื่องของพรุ่งนี้ยังมาไม่ถึง"
"เรื่องของพรุ่งนี้ยังมาไม่ถึง"
ผมไม่ค่อยได้เขียนเล่าเรื่องทั้งๆที่ช่วงนี้มีเวลาเยอะ งานและรายได้หายไปเกือบหมดแต่ก็ไม่เดือดร้อนมากเพราะภาระหนี้สินมีน้อยและรีไฟแนนให้ส่งน้อยลงแต่ระยะยาวขึ้นแต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเจอสภาพอย่างผมนะครับ จำเรื่องสวนผักและโฮมสเตย์ต่างจังหวัดที่ผมเคยเล่าได้มั้ยครับ
ย้อนให้ฟังกันอีกนิดที่ผมเล่าว่า หนุ่มโฮสต์รุ่นน้องผมคนหนึ่งตัดสินใจกลับต่างจังหวัดไปทำสวนผักพร้อมภรรยา เขาไปซื้อโรงกำจัดขยะเก่าที่นายทุนจีนทิ้งหนีไปและเจ้าของที่ดินต้องขายในราคาต่ำเพราะโดนฟ้อง แล้วปรับปรุงเป็นโฮมสเตย์โรงกำจัดขยะเก่าที่อยู่ห่างจากชุมชน เมื่อถูกปรับปรุงจึงเป็นโฮมสเตย์จึงมีความเป็นส่วนตัวสูงมาก
ช่วงแรกด้วยความที่เคยเป็นหนุ่มโฮสต์ หน้าตาดี คมเข้ม เข้าใจในงานบริการจึงมีคนไปพักที่โอมสเตย์ของเขาบ่อย ส่วนมากเป็นผู้หญิง แฟนเขาก็ดูแลเรื่องความสะดวก อาหารการกิน ส่วนเรื่องอื่นๆก็ปล่อยให้สามีดูแล จนกระทั่งเขาขยับไปรับกลุ่มที่มาจองพักที่พักที่เป็นกลุ่มเล็กๆ เพื่อจัดปาร์ตี้เล็กๆแบบเอ็กคลูซีฟ ผมจึงได้มีโอกาสไปช่วยงานพวกเขา
วันนี้โอมสเตย์ยังเปิดอยู่ เริ่มทำรายได้มากกว่าสวนผัก ช่วงหลังเขาไม่ได้เป็นแม่งานจัดมินิปาร์ตี้เองแต่ให้เช่าสถานที่ให้คนอื่นเป็นแม่งานจัดงาน โดยเขาดูแลเฉพาะเรื่องอาหารและความปลอดภัย ที่น่าแปลกคือพอเศรษฐกิจไม่ดีกลับมีคนใช้บริการมากขึ้น อาจจะราคาต่ำกว่าไปต่างประเทศที่บางกลุ่มนิยมไปจัดงานกัน หรืออาจเพราะทุกคนเริ่มล้าแล้ว ก็หาความสุขกันบ้าง จะเอาอะไรกับชีวิตนักหนา
สิ่งหนึ่งที่เขาทำก็คือเมื่อเขารับทริปที่เขาไม่แน่ใจว่าจะเอาอยู่ เขามักจะให้ผมไปช่วย มีอยู่ทริปหนึ่งที่แม่งานเป็นคนมีชื่อเสียง วงการไหนไม่ขอบอกครับ แต่ผมแน่ใจว่าต้องรู้จัก ผมเดินทางไปก่อนทริปจะมาถึง เมื่อกลุ่มทริปมาถึงเราก็ทักทายต้อนรับ เป็นปกติ ผมเห็นแม่งานก็ตื่นเต้นนิดหน่อยเพราะเคยเห็นบ่อยในทีวีตอนผมเป็นวัยรุ่น แม้เวลาผ่านไปและตอนนี้เห็นเธอในทีวีน้อยลง แต่เธอก็ยังดูสวย มีรอยยิ้มสดใสเหมือนเดิม เธอมากับหนุ่มสองคนหน้าตาดีและสาวอีกสี่คน น่าจะเป็นมี้ตติ้งแฟนคลับ ตรงนี้ไม่ลงรายละเอียดครับ
พลบค่ำประตูเลื่อนบานใหญ่ก็ปิด งานปาร์ตี้เล็กๆก็เริ่ม แม่งานชวนกินมื้อเย็น ตักเองแล้วมานั่งโต๊ะ แม่งานให้หนุ่มย้ายที่นั่ง หนุ่มแต่ละคนจึงถูกสองสาวนั่งปะกบ ชวนสาวคุยตักนั้นนี้ให้จนอิ่ม วงเหล้าจึงได้เริ่มขึ้นในเวลาต่อมา แม่งานก็เล่าเรื่องเผาสองหนุ่มให้สาวๆทั้งสี่คนฟัง เรียกเสียงเฮฮาครึกครื้น ส่วนสุราสองหนุ่มก็ชวนสาวๆชนเป็นระยะๆจนทุกคนเริ่มเมา
วงสุรายังครึกครื้น หนุ่สาวขยับกายออกลีลา พอใกล้ดึก แม่งานก็ชวนเล่นเกม น้องผู้หญิงเจ้าของบ้านก็เข้าร่วมสมทบเพราะเป็นสิ่งที่เธอถนัด ผมขอตัวออกมานั่งที่โซฟาที่เป็นอีกมุมหนึ่ง เกมเริ่มจากเบาๆแล้วขยับไปจนถึงมีเสียงวีดว้ายสลับกับเสียงหัวเราะ จากเสียงที่ผมได้ยินคงประมาณเกมกินถั่วเดิมๆ จนมาถึงเกมที่เขาแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม แต่ละกลุ่มมีผู้ชายหนึ่งและผู้หญิงสองใครแพ้ก็ถูกจับขังในห้องฝ่ายละ10 นาที ช่วง10นาทีที่ลับตาคนนั้นผมไม่รู้ว่าสาวจะขย้ำหนุมหรือหนุ่มจะขย้ำสาว
พวกเขาผลัดกันแพ้ชนะจนทั้งหมดปิดประตูลงกลอนอยู่ในห้องเดียวกัน
แม่งานถือแก้วเดินมานั่งกับผมที่โซฟา ผมขอนุญาตไปผสมเหล้ามานั่งดื่มเป็นเพื่อน ผมรู้สึกตื่นเต้นจนเธอจับอาการได้ผมบอกว่าดีใจที่ได้เจอตัวจริง เคยเห็นแต่ในทีวี ผมคุยอะไรไม่ออกเหมือนกัน เธอถามว่าทำไมจึงรีบลุกออกจากโต๊ะก่อนเกมเริ่ม ผมตอบว่าผมแก่แล้วให้หนุ่มๆเขาเล่นกันไปเถอะ เธอก็บอกว่า เน๊อะ แก่แล้วก็หมดสวยไม่มีใครสนใจ ผมบอกว่ามันไม่เสมอไปหรอก บางคนก็แล้วยังดูดีมาก น่าค้นหาก็ยังมี ความประหม่าของผมลดลงเมื่อมีความเป็นกันเองจากเธอ
ผมคิดว่ามันไม่ใช่เวลาที่ผมจะนั่งบื้อๆให้เธอเอ็นเตอร์เทนผม ผมต่างหากที่ต้องเอ็นเตอร์เทนเธอ จึงขอแก้วของเธอไปเติมยกกลับมานั่งดื่มกันต่อ ผมก็ชวนคุยเรียกเสียงหัวเราะจากเธอได้เป็นระยะ และได้รู้ว่าเธอมาที่นี่2ครั้งแล้ว ครั้งแรกเธอมากับคนรู้จัก ครั้งนี้คนรู้จักของเธอให้เธอพาน้องๆมาเอง เขาไม่ได้มาด้วย
เธอค่อนข้างคิดลบกับชีวิต ชีวิตครอบครัวที่เริ่มต้นเหมือนดีแต่ในที่สุดก็อย่าร้าง อายุเยอะขึ้นงานน้อยลง (แต่ผมยังเห็นในทีวีอยู่นะ) ผมบอกว่าชีวิตมันมีช่วงจังหวะของมัน เราต้องใช้ชีวิตในวันนี้และพรุ่งนี้ ชีวิตเมื่อวานเราใช้หมดไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน อะไรที่ทำให้เรามีความสุข ความพอใจในวันนี้ก็ทำมันในวันนี้ เรื่องของพรุ่งนี้ยังมาไม่ถึง ผมรักษามารยาทไม่เหลือบมองไปยังจุดใดจุดหนึ่ง ทั้งๆที่เธอแต่งตัวสบายๆ แต่รูปร่างมองนอกเสื้อแล้วจินตนาการได้ชัด
สักพักน้องผู้หญิงเจ้าของบ้านเข้ามาชวน**เราไปดูหนังสดกัน** เธอดูงงๆแต่ผมเข้าใจ จำเรื่องที่ผมเล่าว่ามันมีห้องสองห้องที่มันมีช่องกระจก 70/30อยู่หลังกรอปรูปได้มั้ยครับ เมื่อถอดกรอบรูปออกและจัดแสงให้น้อยกว่า30เปอร์เซ็นต์เราจะมองทะลุไปยังอีกห้องได้ น้องผู้หญิงจูงมือเธอเข้าไปในห้อง ผมเดินตามไปติดๆ นั่งบนโซฟาปลายเตียงหันไปทางกรอบรูป โซฟาตัวไม่ใหญ่นั่งสามคนเธอนั่งกลาง นั่งขนาบด้วยผมและน้องผู้หญิง มันเบียดกันจนแขนชิด เมื่อเอากรอบรูปออกและปิดไฟมืดสนิท ภาพที่ปรากฎอยู่ในอีกห้อง มันทำให้เธอเข้าใจว่า2ห้องมันมองเห็นกันได้ เธอร้องอุ๋ย ลุกขึ้นยืนแต่น้องผู้หญิงดึงมือให้เธอนั่งลง
ภาพของคนที่อยู่ห้องใหญ่7คน มีน้องเจ้าของบ้านชายเพิ่มอีกคน มีทั้งผู้เล่น ผู้ถูกเล่น ผู้ที่นอนนิ่งหลับเหมือนสลบอยู่ริมเตียงและทีสำคัญเธอรู้จักพวกเขาทั้งหมดมันคงป่วนใจเธอ เธอนั่งดูต่อไม่นานก็จะลุกยืนอีกครั้ง คราวนี้น้องผู้หญิงเอื้อมมือมารูดซิปกางเกงผมงัดสิ่งที่อยู่ข้างในที่มันแข็งตัวแล้วของผมออกมารูดขึ้นลง เอาข้อศอกกดหน้าขาเธอไว้ให้นั่งบนโซฟาเหมือนเดิม เธอขืนตัวจะลุกยืน น้องผู้หญิงจึงเปลี่ยนมาใช้ปากกับของแข็งของผมเอาหน้าอกทับหน้าขาไว้ เธอจึงหมดสิทธิ์ที่จะลุกยืน น้องผู้หญิงจับมือเธอให้กำของผมไว้ ก่อนกำมือทับมือเธออีกชั้นและขยับมือให้เธอรูดขึ้นลงเบาๆเธอขืนมือนิดหนึ่ง ตอนหลังก็ปล่อยให้น้องผู้หญิงกำมือเธอรูดให้ผม ผมปะกบปาก เธอเม้มปากแน่นแต่ผมก็ใช้ลิ้นล่วงล้ำเข้าไปถูลิ้นเธอทั้งด้านบนและด้านล่างจนได้
ผมปะกบปากยังไม่ถอน เมื่อผมถอนลิ้นกลับลิ้นเธอก็ตามลิ้นผมมา ผมจึงล้วงลงไปด้านล่าง เธอไม่ได้ขัดขึนปกป้องแล้ว ผมตื่นเต้นมากเพราะเป็นครั้งแรกที่ผมใด้สัมผัสกับของคนมีชื่อเสียง น้องผู้หญิงที่เอาตัวทับหน้าขาของเธออมท่อนล่างของผมก็ขยับตัวให้ผมล้วงส่วนที่มันชุ่มแฉะแล้วตอนนี้ได้ถนัด
ผมบอกตัวเองว่าผมไม่ได้กำลังนอนฝัน คนนี้แหละเป็นคนเดียวกับที่ผมเห็นในทีวีตอนผมวัยรุ่น บอกตัวเองว่าระงับความตื่นเต้นไว้แล้วทำให้ดีที่สุด หลังจากนั้นน้องผู้หญิงช่วยผมบนเตียงอีกไม่นาน เมื่อเธอเห็นว่าไม่มีอะไรข้องขัดเธอก็ออกจากห้องไป ส่วนผมก็ทำในสิ่งที่ผมอยากจะทำให้เธอและทำให้ตัวเอง มันเนิ่นนานจนเหลือเวลาเพียงหลับไปงีบเดียวก็เช้าแล้ว
ตอนเช้ามืดผมตื่นปืนบันไดขึ้นไปนอนในเต็นส์ชั้นบนด้วยอาการขาสั่นๆเพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่าผมนอนอยู่บนนี้ตั้งแต่เมื่อคืน เราทุกคนตื่นสายกันหมด ผมตื่นปีนลงมาจากเต็นส์หลังคนอื่นสุด คนอื่นเขาทานกาแฟเตรียมไปเก็บเงาะที่ต้องนั่งรถไปอีกที่กันหมดแล้ว ตอนช่วยกันเก็บเงาะให้พวกเขาใส่รถกลับ ผมส่งเงาะลูกหนึ่งให้เธอชิมและถามเธอว่าหวานมั้ย รสชาติเป็นอย่างไรบ้าง เธอชิมแล้วบอกว่าหนวาน ผมย้อนว่า ผมถามถึงรสชาติเมื่อคืน เธอตีแขนผมดังเผี๊ยะ ผมถามย้ำว่าหวานมั้ย เธอมองหน้าและตอบว่าก็หวาน อิ่ม จุก ผมแซวว่ามันไม่มีบางช่วงที่รู้สึกว่ามันเค็มๆเลยเหรอ เธอก็ลุกเดินหนีผม ไปช่วยคนอื่นเก็บเงาะต่อ
วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2568
ปาร์ตี้ สาวอวบ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น