วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2568

บันทึกรักแม่-ลูก ตอนที่1 สปูนนิ่ง

 
 

ตอนที่ 1 สปูนนิ่ง
บ้านผมมีเพียงผมกับแม่อยู่ด้วยกันเพียงสองคน แม่ผมเป็นคนที่มีใบหน้าอาจจะไม่สวยตามแบบพิมพ์นิยมเท่าไหร่บางคนก็ว่าโครงหน้าตาดี บางคนก็ว่าดูสวยแบบจืดๆบ้านๆ แต่ถ้าใครเคยเห็นแม่แต่งหน้าทาปากจัดๆล่ะก็สวยสุดแซ่บเลยล่ะ  รูปร่างอกเป็นอกเอวออกจะตันๆแต่ก็ยังมีเว้ามีโค้งนิดๆ ถ้านั่งงอตัวอาจจะเห็นชั้นไขมันที่พุงชัดหน่อย ตูดใหญ่เต็มก้นกางเกงต้นขาอวบแน่นปั๊ก ผิวสองสีนวลเนียนดีดูผิวเผินเหมือนจะไม่ใช่คนผิวขาวนักแต่ถ้าถอดเสื้อผ้าออกเรือนร่างด้านในกลับดูขาวเนียนสวยงามสะอาดตา วันที่แม่สวมเสื้อยืดบางๆจะเห็นทรวงอกฐานกว้างเต็มตัวรูปทรงเต่งตึงดันเสื้อออกมาชัดเจน ยิ่งวันไหนแม่สวมกางเกงออกกำลังกายสำหรับโยคะโหนกนูนบนเป้ากางเกงอวบอิ่มนูนเด่นแทบจะเห็นร่องแคม เล่นเอาผมคิดเตลิดไปไกล เคยแอบมองเป้าของตอนแม่ตอนเช้าๆตอนที่แสงสาดส่องเข้ามาในห้องนอนในขณะที่แม่ยังคงหลับอยู่ กางเกงนอนขาสั้นพริ้วๆบางๆแต่เมื่อมันถูกขยับขึ้นรัดเป้าของแม่ ภาพที่เห็นแสดงให้เห็นสัดส่วนอวบอิ่มของทั้งสองแคมที่โหนกหนาและมีความกว้างกว่าฝ่ามือของผมเสียอีก แม้แต่ในท่าตะแคงมันยังดันตัวนูนออกมาให้เห็นเมื่อมองลอดต้นขาด้านหลังของแม่เข้าไป
สำหรับผมแล้วแม่ผมคือสวยมากบอกตรงๆมองข้างหลังแค่เห็นตูดเต็มๆกางเกงก็หื่นขึ้นแล้วล่ะ

บางคนเดินผ่านแม่ผมจากด้านหลังนี่มองก้นของแม่ตาแทบจะไม่กระพริบ แต่พอได้เห็นหน้าแล้วก็ทำเฉยๆหันไปทางอื่น
เลยไม่ค่อยมีใครเข้ามาสุงสิงกับแม่สักเท่าไหร่ จะมีมาบ้างแม่ก็ไม่เคยเปิดใจรับ คนหน้าตาไม่ดีแม่ก็ไม่ชอบ พอคนหน้าตาดีเข้ามาแม่ก็กลัวจะโดนเขาหลอกใช้ แม่ชอบพูดว่าคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ

เรื่องฐานะครอบครัวเราก็เรียกได้ว่ามีอยู่มีกินไม่ลำบาก แม่ผมเกิดมาบนครอบครัวที่มีเหลือไว้ให้มากพอควรครอบครัวเราได้รับเงินปันผลจากการลงทุนในทุกๆปีแม้มันจะไม่ทำให้เราร่ำรวยมั่งคั่งมากมายแต่ถ้าบริหารค่าใช้จ่ายดีๆยังไงก็มีกินมีใช้ไปจนตาย

ผมเคยเห็นรูปพ่อบ้างนิดหน่อย จัดว่าเป็นคนหน้าตาดี แม่ว่าพ่อเป็นพวกกะเลวกะลาดใช้หน้าตาหลอกผู้หญิงไปวันๆ แม่ดูค่อนข้างเจ็บแค้นเมื่อมีการเอ่ยถึงพ่อผมจึงไม่กล้าถามอะไรมากนัก ส่วนตัวผมเองเรียกว่าตั้งแต่โตมายังไม่เคยเจอพ่อตัวเป็นๆเลยสักทีจึงไม่รู้สึกผูกพันอะไรเลย



***0***


ผมนอนเตียงเดียวกับแม่ตั้งแต่เด็ก บางทีก็นอนกอดแม่จากด้านหลังในลักณะเดียวกับการกอดขาคีบหมอนข้าง จนกระทั่งถึงช่วงวัยรุ่นมัธยม ผมมีร่างกายที่เติบใหญ่ขึ้นจนสูงกว่าแม่ การนอนขาก่ายคีบสะโพกแม่จึงทำให้แม่บ่นว่าหนัก สิ่งที่พอจะทำได้ไกล้ชิดกันมากที่สุดคือนอนแขนกอดและส่วนร่างกายและขาทำได้เพียงแนบซ้อนขนานกันไป ผมเคยเห็นในหนังฝรั่งเขาเรียกท่านี้ว่าสปูนนิ่งเปรียบดั่งช้อน2อันวางตะแคงซ้อนกันอยู่ ปัญหาก็คือทุกครั้งที่ลำตัวแนบกันเจ้าน้องชายของผมภายไต้กางเกงบอลขากว้างเนื้อผ้านิ่มๆกลับมีปฏิกิริยาแข็งตัวดันเข้ากับตูดของแม่ แม่ไม่ว่าอะไรแต่ผมกลับรู้สึกงุ่นง่านที่ปลายหัวท่อนเอ็น ยิ่งนานวันจิตใจผมก็ยิ่งหมกมุ่นอยู่กับความเงี่ยนไม่รู้จะทำอย่างไร แล้ววันหนึ่งก็มีความคิดหื่นๆแล่นเข้ามาในหัวสมองเลยทำทีออกไปเข้าห้องน้ำแล้วถอดกางเกงในออกให้ท่อนเอ็นมีอิสระมากขึ้นภายไต้กางเกงทรงแบบเดียวกับกางเกงบอลขากว้างแต่เนื้อผ้าจะนิ่มๆบางๆ เมื่อกลับมาสปูนนิ่งกับแม่ก็แอบเอาส่วนหัวดันๆถูๆกับบริเวณก้นของแม่ให้หายงุ่นง่าน แต่ยิ่งถูยิ่งเงี่ยน ยิ่งเงี่ยนก็ยิ่งถูไถจนเผลอลืมตัว แม้จะเป็นเพียงการถูไถภายนอกกางเกงของแม่ ผมได้ยินเสียงแม่หายใจแรงขึ้นแต่ตอนนั้นผมเองยังไม่ได้คิดอะไรแค่อยากถูไปถูมาให้รู้สึกดีนิดๆหน่อยๆทำจนรู้สึกเหนื่อยแล้วก็ผล็อยหลับไปแค่นั้นเอง

****0****

เมื่อโตมาอีกหน่อยพอผมได้รู้จักการดูหนังโป๊ก็พบว่าท่าสปูนนิ่งที่นอนกอดแม่อยู่นั้นแท้จริงแล้วหัวของท่อนเอ็นจะตรงกับหีของคู่นอนและสามารถสอดใส่ควยกับหีเข้ากันจากท่านั้นได้อย่างพอดิบพอดี หลังจากนั้นทุกครั้งที่ผมได้นอนกอดซ้อนตัวกับแม่จะมีแต่ภาพควยที่แทงเข้าไปในหีตามแบบหนังโป๊ผุดขึ้นมาในหัว ยิ่งทำให้ผมอยากจะทำแบบนั้นกับแม่บ้าง
ผมนอนตะแคงซ้อนตัวแม่อย่างที่ทำมาเสมอๆในขณะที่ถูไถผมพยายามให้ปลายควยของผมให้สัมผัสกับโหนกหีอวบอูมของแม่ที่ล้นออกมาทางด้านหลัง ทุกครั้งที่ประกบหลังสปูนนิ่งผมรู้สึกถึงสัมผัสกลิ่นกายของแม่ กลิ่นครีมอาบน้ำหลากหลายชนิดที่แม่วางไว้ในห้องน้ำแต่กลิ่นที่ทำให้ผมรู้สึกชอบแบบบอกไม่ถูก สิ่งนึงที่ผมชอบคือเมื่อได้สูดกลิ่นที่ติดอยู่บนต้นคอและหลังของแม่แล้วจะทำให้ผมรู้สึกเคลิ้มล่องลอยขึ้นมาวิบๆพาให้เจ้าหนูพองขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวจนมันไปดันกับร่องแคมโหนกหีของแม่ที่ล้นมาด้านหลังส่วนที่ประกบติดกับเป้าของผม ผมรู้สึกได้ว่ามันอุ่นๆขึ้นมาและมันช่างอบอุ่นนุ่มนวล บางครั้งผมก็มือโอบกอดบนตัวแม่โดยแอบตั้งใจให้สัมผัสกับเต้านมของแม่ไปด้วย เสื้อยืดบางๆของแม่ทำให้รู้สึกได้ถึงว่ามือสัมผัสโดนฐานเต้านมหรือบางทีก็รู้สึกได้ว่าแตะโดนหัวนม มือที่แอบลูบไล้ไปมาบนเต้านมได้เพียงไม่กี่ทีผมก็รู้สึกสัมผัสได้ถึงหัวนมที่เริ่มแข็งตัวเป็นไตสู้มือขึ้นมาเล็กๆ
 แม่ยังคงนอนหลับไหลไร้การขยับเขยื้อน ผมแอบถลกขากางเกงบอลบานๆขึ้นมาทำให้ท่อนเอ็นของผมเป็นอิสระสู่โลกภายนอกอย่างง่ายดาย หลังๆมานี่ผมไม่เคยสวมกางเกงในตอนนอนเลย พัฒนาการต่อมาคือผมเริ่มเอาควยที่แข็งตัวดันและถูกับบริเวณที่คาดว่าจะเป็นหีของแม่อย่างที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ หลังจากถูไถอย่างที่เคยทำคราวนี้ผมรู้สึกได้ถึงความชื้นแฉะของเป้ากางเกงที่บริเวณหีของแม่ ผมชอบเนื้อผ้าบางฯนิ่มๆของกางเกงที่แม่ชอบใส่นอนจริงๆ มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้สัมผัสแม่แนบเนื้อจนแอบจินตนาการได้ถึงการสัมผัสเรือนร่างเปลือยเปล่าของแม่
ผมคิดว่าที่แม่ไม่ว่าอะไรตอนผมเอาหัวเอ็นดุนดันตรงเป้าของแม่คงจะเป็นเพราะว่าแม่เองก็ชอบความรู้สึกตอนที่ถูกสัมผัสแบบนี้ ผมทำแบบนี้อยู่หลายคืนจนสังเกตุได้ว่าทุกครั้งเป้ากางเกงแม่ก็เหมือนจะชุ่มๆชื้นขึ้นมาพร้อมกับกลิ่นบางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกเคลิ้ม..ตามตำราเรียกกลิ่นนี้ว่าฟีโรโมน แต่ผมก็ทำได้เท่านี้เพราะใจไม่กล้ารุกคืบต่อกลัวว่าแม่จะไม่ไว้ใจ ฟินกลิ่นเพลินๆพอเหนื่อยแล้วก็ผล็อยหลับไปเช่นเคย

****0****

ผมเองก็สงสัยนะว่ากลิ่นครีมหรือกลิ่นแป้งบนตัวแม่มันคือกลิ่นอะไร ผมจับขวดสบู่ ขวดแป้งหลากหลายชนิดบนโต๊ะแต่งตัวของแม่มาดมจนพบว่ามันคือกลิ่นของแป้ง ““ทาบู่ กลิ่นหอมต้องห้าม””  มันเขียนว่าผสมหัวน้ำหอม อืม..มันฉุนแปลกๆแต่กลับทำให้ผมรู้สึกเคลิ้มขึ้นมาทันได ด้วยความที่มันมีคำว่า”ต้องห้าม” ผมเลยไปหาข้อมูลในเน็ตว่ามันคืออะไร ค้นหาในภาษาไทยก็เจอแต่รูปแป้งและสบู่ แต่พอพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้นแหละ ลิ้งค์วีดีโอหนังคลาสสิค Taboo ก็โผล่ขึ้นมาเพียบ ผมนั่งดูอย่างใจจดใจจ่อโดยเฉพาะเรื่องที่เป็นความสัมพันธ์ระหว่างแม่-ลูก จนกลายเป็นว่าทุกครั้งที่ผมได้กลิ่นแป้งหรือสบู่ทาบู่ ภาพการมีเซ็กส์ระหว่างแม่-ลูกในวีดีโอเหล่านั้นก็โผล่ขึ้นมาเต็มหัวไปหมด มันทำให้ผมคิดและจินตนาการไฝ่ฝันถึงการมีเพศสัมพันธ์ของผมกับแม่ขึ้นมาแทบจะทุกวันทุกคืน

****0****

แม่เห็นพัฒนาการด้านร่างกายของผมว่าเป็นหนุ่มขึ้นชัดเจน และแม่เองก็น่าจะรับรู้อยู่บ้างว่าโดนผมแอบเอาดุ้นตุงๆดุนเป้าสวาทของแม่ตอนกลางคืนบ่อยๆ
วันหนึ่งหลังจากทานมื้อเช้ากันเสร็จแล้วแม่ก็ชวนผมคุยที่โซฟาห้องนั่งเล่น
"ลูกชายแม่เป็นหนุ่มแล้วจริงๆสินะ" แม่พูดใบหน้าอมยิ้ม
"หือ.." ผมอุทานเบาๆทำหน้าสงสัยว่าวันนี้แม่จะมาแบบไหน แถมยังแอบหวั่นๆในใจว่าแม่จะว่าอะไรรึเปล่านะที่ผมแอบเอาควยถูตูดครูดหีแม่จากทางด้านหลังบ่อยๆ
"มีแฟนหรือยังอ่ะเราน่ะ" แม่ถาม
"ยังไม่มีหรอกแม่"ผมตอบ
"แอบชอบใครรึยัง" แม่ซักต่อ
"ก็มีบ้าง"ผมตอบสั้นๆเขินๆ
"เห็นสาวๆแล้วรู้สึกยังไงบ้าง ตื่นเต้นมั้ย"แม่ถามต่อ
"ก็แหงละสิแม่ แหม..คนนะแม่ไม่ใช่รูปปั้นอิฐหินปูน" ผมตอบกลับยิ้มแย้มอารมณ์ดี
"จะคบหาเป็นแฟนกันก็เผื่อๆใจไว้หน่อยนะลูก เดี๋ยวโดนหักอกมาได้ร้องไห้ฟูมฟายกันอีก" แม่ว่า
"ผมเป็นผู้ชายนะแม่ ไม่เสียเปรียบหรอก" ผมตอบยิ้มๆวางตัวสบายๆ
"พูดแบบนี้แสดงว่ายังไม่เคยรักใครเข้าจริงๆน่ะสิ" แม่พูด
"แล้วอีกอย่างเรื่องได้เปรียบเสียเปรียบน่ะ แม่ฟังดูแล้วเหมือนเด็กคบกันแล้วหลอกได้เสียกันเล่นๆ แบบนี้ไม่ดีเลยนะ ลองคิดดูนะคนเราทุกคนมีแม่ที่รักพวกเราอยู่ มันจะไม่ดีแน่ถ้าลูกของเราถูกหลอกให้รักแล้วทิ้งไป ไม่ว่าลูกชายหรือลูกสาวมันก็เจ็บกันทั้งนั้น" แม่เริ่มเทศนายาวขึ้น
"อ่อ..ครับ.."ผมตอนสั้นๆสงวนท่าทีเมื่อเห็นว่าแม่ดูจริงจังขึ้น
"อย่าไปคิดจะฟันแล้วทิ้งกับใครนะ หลอกผู้หญิงทำให้เขาเสียใจจะบาปหนัก แม่จะเสียใจมากถ้าลูกเป็นคนที่มีความคิดแบบนี้ เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าเพิ่งไปคิดเรื่องมีเพศสัมพันธ์อะไรกับใคร" แม่เทศนาต่อ
"แต่ แหม..คนนะแม่ไม่ใช่รูปปั้นอิฐหินปูน" ผมตอบออกไปและตอบต่อท้ายในใจว่า”ใครๆก็เงี่ยนเป็นนะแม่”
"ก็ใช่นะสิ ก็เพราะคนมันมีจิดใจไม่ใช่รูปปั้นอิฐหินปูน ถ้าคิดจะหลอกฟันกันอะไรแบบนี้น่ะ มันแย่มากเลยนะ อย่าหาทำ ไม่รักเขาก็อย่าไปมีเซ็กกับเขา" แม่พูดตรงประเด็นมาขึ้นเสียงเน้นหนักแน่นเหมือนจะมีอารมณ์ตึงๆหน่อย
"อ่อครับ ถ้ารักจริงก็มีได้สินะครับ"ผมพูด
"บางที รอให้เป็นผู้ใหญ่กันจริงๆก็คงจะเข้าใจอะไรได้มากขึ้น แม่รีบพูดตอนนี้เพราะกลัวว่าเราจะมีความคิดผิดๆแล้วไปทำร้ายจิดใจลูกสาวใครเขาอีก" แม่พูดเสียงซอฟต์ลง

จะว่าไปแม่ก็คงจะนึกถึงเหตการในอดีตที่ถูกพ่อทิ้งไปมีคนอื่น ผมคิดแล้วก็รู้สึกสงสารแม่ขึ้นมาจับใจ

"ครับแม่..ผมเข้าใจแล้วครับ" ผมตอบแม่่ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ด้วยควาบรู้สึกเข้าอกเข้าใจแม่

ผมใจลอยนึกคิดอะไรบางอย่างสั้นๆเมื่อรู้ตัวอีกทีก็มีแม่อยู่ในอ้อมกอดของผมซะแล้ว ผมกอดปลอบอารมณ์ของแม่ไม่ให้จริงจังมากไปเพราะไม่อยากให้แม่หงุดหงิด แม่เองก็กอดตัวผมไว้ เบาๆ กลิ่นสบู่และแป้งผสมกับกลิ่นเหงื่อในตัวแม่ลอยเข้าจมูกผม และสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือน้องชายของผมแข็งตัวขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ มันผงาดอยู่กางเกงบอลผ้าบางของผม ไกล้ๆกับหน้าท้องของแม่ ผมยังคงกอดแม่แน่นไม่กล้าถอนตัวออกมาเพราะกลัวว่าแม่จะเห็นว่ามันแข็งตัวพองออกมา แต่เจ้ามังกรตัวแสบก็แข็งขันอย่างไม่ลดละจนไปดุนๆเข้ากับหน้าท้องของแม่ ผมทำตัวไม่ถูกเพราะกลัวแม่เห็นว่ามันผงาดดันตัวออกมาเลยยิ่งกอดแม่ให้แนบลำตัวมากขึ้นยิ่งกอดมันก็ยิ่งดันเข้ากับหน้าท้องของแม่ แม่เริ่มหน้าแดงขึ้น ผมต้องหาทางออกแล้ว ทำยังไงดี

"ผมปวดฉี่่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ" ว่าแล้วผมก็พรวดออกไปจากตรงนั้นดิ่งไปที่ห้องน้ำในสภาพเป้ากางเกงตุงโด่ แม่มองตามหลังมาเชื่อว่าแม่คงสังเกตุเห็นได้เพราะว่ามันตุงออกมามากซะขนาดนั้น

ในห้องน้ำผมชักว่าวไป1รอบเพื่อให้มันสงบลง กลิ่นน้ำหอมหรือเครื่องสำอางค์ของแม่ยังติดอยู่ที่เสื้อของผมระหว่างชักว่าวจึงมีภาพหน้าของแม่ลอยเข้ามาอยู่บ้าง ประกอบกับกลิ่นหอมที่ติดมาจากแม่ผสมผสานกับกลิ่นจากขวดสบู่ที่วางอยู่ในห้องน้ำ มันจึงเป็นการชักว่าวมีมีกลิ่นบนตัวแม่ประกอบอยู่ด้วย อืมมม...กลิ่นติดตัวแม่.. กลิ่นหอมหวล.เย้ายวน..ต้องห้าม….ซืดดด..ผมสูดลมหายใจเข้ายาวๆลึกๆโดยไม่รู้ตัว

****0*****

เรายังคงนนอนบนเตียงเดียวกัน หลังๆมาผมเริ่มสนใจสังเกตุเนื้อตัวและรูปร่างของแม่มากขึ้น แม่สูงประมาณ165ซม. มีรูปร่างค่อนข้างอวบต้นขาใหญ่และมีสะโพกผายก้นใหญ่พอตัว กางเกงทุกตัวที่แม่ใส่จะดูเหมือนรัดรูปก้นดูอวบอัด ยิ่งดูยิ่งน่าหลงไหล
ผมยังคงนอนซ้อนตัวในท่าสปูนนิ่งกับแม่ตามอย่างเป็นปกติที่เคยทำ
“กลิ่นแป้งบนตัวนี่หอมดีจังเลยแม่” ว่าแล้วผมก็ถือวิสาสะซุกจมูกเข้าไปที่ต้นคอของแม่แล้วสูดลมหายใจเข้าไปซื้ดใหญ่ “โอ๊ย..จั๊กจี๋ขนลุกไปหมดแล้วเนี่ย”แม่ร้อง ผมสังเกตุเห็นขนแขนแม่ลุกวาบ ส่วนผลที่ตามมาของผมก็คือเจ้าหนูผงาดขึ้นมาทันที และผมก็ได้แต่ถูๆดุนๆภายนอกไปเนียนๆจนเป้าหมายชุ่มชื้น พอเหนื่อยก็ผล็อยหลับไปเช่นเคย

*****0*******



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น