วันอังคารที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2567

ชีวิตคู่ : ครอบครัว (NTR)

 
 
 
ผมคือวิน อายุ 33 ปี จบคณะวิศวกรรมศาสตร์ ทำงานอยู่ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ชีวิตของผมก็ธรรมดาตามประสาชายโสด ทำงานมีเงินเดือน เงินออกก็ไปละลายทรัพย์กับเหล้าสุรา มีผู้หญิงหลายคนที่เข้ามาและออกจากชีวิตผมบ่อย ตามประสาหนุ่มโสด ผมจึงไม่ซีเรีย เพราะส่วนมากผู้หญิงที่ผมมีความสัมพันธ์ด้วยก็ได้มาจากตามร้านเหล้าทั้งนั้น

มันเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ยั้งยืน ผมจึงไม่ได้ให้ใจแลกไปจึงไม่ได้รู้สึกอินอะไร ไม่ซีเรียส เพราะผมก็มีแต่ได้กับได้

แต่กำแพงหัวใจที่ผมสร้างไว้ต้องพังลงไปตั้งแต่วันที่ได้พบกับคุณแพร

ผมจะเท้าความสั้นๆ เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นจากการที่รุ่นพี่คนสนิทของผม เขาโทรมาเพื่อจ้างผมไปควบคุมงานในโครงการของเขา ซึ่งเขาเป็นข้าราชการตอนแรกผมก็ปฏิเสธ แต่เพราะเขาต้องการตัวผมมาก เขาบอกผมว่าเพราะผมมีฝีมือเขาไว้ใจผม และประเด็นหลักๆก็คือถ้าผมทำงานให้เขาเสร็จ ผมจะสบายไปทั้งชาติ เขาบอกขนาดนี้ยื่นโอกาสให้ขนาดนี้ ถ้าผมไม่รับก็เสียดายแย่

พอเจรจากันลงตัวถึงเวลาผมก็ลาออกจากงาน เพราะโครงการของรัฐมันใช้เวลาค่อนข้างนาน ซึ่งผมไม่ซีเรียสอะไร เพราะเงินเก็บผมก็มีใช้ไม่ได้ลำบากอะไร

ก่อนจะลงปฎิบัติงานเขาก็เชิญผมไปร่วมประชุมด้วย เขาวางแผนการสร้างกันเบ็ดเสร็จ ผมมีหน้าที่ทำหน้างานตามแบบแผนให้เขาอย่างสมบูรณ์แบบเท่านั้นเอง ซึ่งมันง่ายสำหรับจากประสบการณ์ทำงานมา 10 ปีของเขา แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือในตอนประชุม ผมได้พบกับคุณแพร ผมถูกใจเธอตั้งแต่แรกเห็น เธอสวยแบบที่มีออร่าแบบนางฟ้าท่ามกลางผู้คน เธอคนน้ันคือคุณแพร แล้วยิ่งผมต้องทำงานประสานงานกับเธอด้วย ยิ่งรู้สึกว่าคิดไม่ผิดที่รับงานนี้



พอถึงเริ่มงานผมก็ทำหน้าที่ได้อย่างไม่ตกบกพร่อง ซึ่งผมจะพบกับคุณก็อาทิตย์ละครั้งสองครั้ง แล้วแต่รอบ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็คุยกับคุณแพรผ่านไลน์อยู่แล้ว และก็รู้ๆมาว่าเธอแต่งงานแล้ว ผมเลยต้องกินแห้วไป

ความสัมพันธ์ของผมกับคุณแพรนั้นตอนแรกเราเป็นแค่เพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมงานจริงๆไม่มีอะไรมากกว่านั้น

แต่ว่าผมได้ล้ำเส้นก่อนโดยคืนนั้นผมได้ไปเลี้ยงสังสรรค์กับคณะของคุณแพร โดยหัวหน้าของเธอเป็นผู้ชวนผมไปด้วยตัวเอง ผมก็ไปดื่มกับเขา ร้องเล่นเต้นรำกับคณะของเธอ ซึ่งมันก็กรึ่มๆแต่คนอื่นๆก็เมาเละแบบผมต้องห่ามไปส่งที่โรงแรม และ นั้นเป็นโอกาสที่ผมได้ทำเรื่องอย่างว่ากับคุณแพร

ผมยอมรับว่าผมหน้ามืดตามัว ตั้งแต่ที่ผมเกิดมาผมไม่เคยยุ่งกับเมียชาวบ้าน พูดได้เต็มปากว่าถ้าผมรู้ผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยเลย แต่กับคุณแพรผมกลับทำลายกฏที่ผมตั้งไว้สิ้น ผมขับรถไปส่งคุณทุกคนไปส่งถึงห้อง ยกเว้นคุณแพรที่ผมปล่อยให้เธอนอนเมาหมดสติอยู่ที่รถ และพอผมลงมาก็ยังเห็นเธอไม่ได้สติ ผมจึงพาเธอไปเปิดโรงแรมใกล้ๆ

พอเข้ามาในห้องก็อุ้มเธอไปวางบนเตียงและจัดแจงถอดเสื้อผ้าของเธอออกจนหมด หุ่นเธอดีมาก อวบอัดแน่นทุกส่วน หน้าใหญ่แบบถูกใจผมมากๆ ร่องกลีบกับหน้าอกอมชมพู เหมือนสาววัยรุ่น ทำเอาผมเองแปลกใจว่าเธอแต่งงานจริงรึเปล่า …

ผมที่ตอนนี้อารมณ์หื่นมาเต็มระบบ ผมเริ่มถ่างขาเธอออกแล้วยื่นลงใช้ลิ้นละเลงที่กลีบ รสของเธอมันหอมมาก ผมเลียดูดของเธออย่างเมามันส์จนเธอตื่น “อือ...อ...”

“คุณวินคะ...ค่ะ ซี๊ดด”  เธอพยายามดันหน้าผมออก แต่ผมก็ขืนต้านแรงของเธอ

“อูยย อย่า...อย่านะ...ซ..ซ....คุณวิน..หยุดเถอะค่ะ”

ผมไม่ฟังที่เธอร้องขอเพราะมาถึงขั้นนี้แล้วจะเหี้ยก็เหี้ยให้สุด ซึ่งมันได้ผมทำให้เสียวจนยอมมีอะไรด้วย ผมที่อารมณ์ถึงขีดมันจึงหยุดไม่อยู่ก็เลยแตกในเธอไป ซึ่งดูคุณแพรเองก็ดูฟินมีความสุขมากตอนนั้น แต่ทุกอย่างจบลงผมก็ถูกคุณแพรตบหน้า เธอต่อว่าผม

"ทำไมถึงทำแบบนี้!"

"แต่ผมชอบคุณแพรนะครับ”

"ชอบ!? ชอบเหรอ! ชอบแล้วมีสิทธิ์อะไรมาทำกับฉันแบบนี้!"

"คุณแพรครับ ใจเย็นก่อนนะ"

"อย่า!" เธอตะหวาดใส่ผมราวกับคนเสียสติ ทำเอาผมรู้สึกผิดที่ทำแบบนี้กับเธอ ผมรู้สึกผิดมากๆ รับไม่ได้เลยกับสายตาที่เธอมองผมอย่างรังเกียจแบบนี้ เหตุผลนี้เองผมจึงทำทุกอย่างที่มีผมใช้คำพูดปลอบโยนสารพัด งัดทุกวิชาที่มีในตัวกว่าจะทำให้เธอผ่อนคลายลงได้

ผมกอดเธอพูดคำหวานซึ่งจากที่เธอร้องไห้ เธอเริ่มคลายมือลง เธอผ่อนคลายและเริ่มพูดดีกับผม

"คุณวินค่ะ เรื่องที่เกิดขึ้นแพรขอร้องอย่าบอกใครนะคะ"

เธอถึงขั้นยกมือไว้ผมทั้งๆที่เราก็อายุไล่เลี่ยกัน "ไม่ต้องห่วงนะครับคุณแพร ผมสัญญาว่าเรื่องนี้จะรู้กันแค่เราสองคนครับ"

"ขอบคุณนะคะ" เธอมองหน้าผมอย่างมีความหวัง

ผมจ้องหน้าเธอก่อนที่จะปาดคราบน้ำตาที่แก้มออก "ครับ"

หลังจากนั้นก็ให้อารมณ์นำพา เรามีกันต่อถึง 2 ยก รอบนี้เธอเต็มใจที่จะทำให้ผม ผมติดใจในรสชาติสวาทของเธอ เธอต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆที่ผ่านๆมา เธอเร้าร้อนและแพรวพราวมาก ผมชอบมากในจังหวะที่เธอขึ้นให้ผมจนผมอดใจไม่ได้ ผมแตกในใส่ไปในยกแรก



ยกที่ 2 ก็ตามมาหลังจากนั้นด้วยความที่น้ำของผมเต็มท้องคุณแพร ความสุขมันก็บังเกิดขึ้นตาม คุณแพรเป็นผู้หญิงที่ภายนอกดูเรียบร้อยผู้ดีมากๆ ซึ่งผมไม่คิดว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่อารมณ์รุนแรงขนาดนี้ พอเอาเข้าจริง คุณแพรดูเชี่ยวชาญในเรื่องนี้มากถ้าจะให้เห็นภาพ เหมือนผมกำลังเอากับซ้อที่ใช้เงินเปย์เด็กหนุ่มเลยก็ได้

"อ่าส์ เสียวไหมครับ"

"อืม..ม… ซี๊ด…ด.. เสีย..ว…เสียวค่ะ"

ปั๊บๆๆๆๆๆๆ  พั่บๆๆๆๆ  ยกที่สองบอกเลยว่าใช้เวลามากนานๆกว่าที่ผมจะเสร็จ ส่วนคุณแพรน่าจะเสร็จไปหลายครั้งแล้ว เเต่เธอก็เอ่ยปากบอกให้ผมหยุดเลย มีแต่จะเด้งสู้เด้งรับกลัดมันแบบถึงพริกถึงขิง เล่นเอาผมเหนื่อยเกือบหมดแรงกันไปข้าง แต่ก็มีความสุขสุดๆ ผมกับคุณแพรเรานอนพักเอาแรงดูเวลาอีกทีก็ตี 2 กว่าๆแล้ว ก็เลยพาลุกไปอาบน้ำกัน ซึ่งก็อย่างว่าผมที่อยู่กับนางในฝันแบบนี้ และไม่รู้เลยว่าหลังจากนี้จะมีโอกาสอีกไหม เผลอๆหลังจากนี้ผมอาจจะไม่เจอเธออีกเลยก็ได้ ผมคิดแบบนี้ก็เลยใช้เวลาที่เหลืออยู่จะว่าฉวยโอกาสก็มันก็ใช่ แต่ผมเชื่อว่าคนอื่นถ้าอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แน่นอนว่าต้องทำแบบที่ผมทำ 100%

ผมทำกับคุณแพรในห้องน้ำ มันช่างเป็นประสบการณ์ที่ผมจำมันได้ดี เสียงของคุณแพรดังก้องในห้องน้ำ ตอนที่ผมจับเธอเนียบไปกับอ่างล้างหน้า ช้อนมือนวดคลึงเต้าที่ล้นมือช่างนุ่มนิ่มเหลือเกิน สัมผัสแล้วรู้เลยว่านี้คือของจริงไม่ได้ผ่านมีดหมอ ทั้งสะโพกบั้นท้ายของคุณแพรคือของจริงทั้งหมดทั้งตัว มันตรงไทป์ผมทุกอย่างแบบนี้จะให้ผมอดใจไหวได้ยังไง



หลังจากที่เราเสร็จกันไปแล้วงานเลี้ยงมีวันเลิกลา ผมขับรถไปส่งคุณแพรที่โรงแรมตอนตี 3 ผมอดใจไม่ได้อยากจูบคุณแพรก่อนจากลา เพราะผมไม่รู้ว่าหลังจากนี้ ความสัมพันธ์ของผมกับเธอจะเป็นยังไงต่อไป

"คุณแพรครับ" ผมมุ่งหวังจะจูบเธอ

แต่ว่าคุณแพรกับเมินหน้าหนีและขัดขืนผม "พอแค่นี้เถอะค่ะคุณวิน แค่นี้ก็มากเกินไปแล้ว"

พอคุณแพรพูดแบบนี้ผมทำอะไรไม่ถูกเลยครับ หยุดทุกอย่างและปล่อยเธอลงจากรถไป ผมมองเธอจนสุดสายตาถึงจะขับรถกลับบ้าน ผมถึงตอนตี 4 กว่าๆ มีเวลานอน 3 ชม.ตื่นมาก็ออกไปทำงานโครงการ วันนั้นผมดื่มกาแฟไปเยอะกว่าจะตาสว่าง แล้วก็ได้พบกับคุณแพรตอนบ่ายมาตรวจงานกับคณะ ทันทีที่เจอกันเราคุยกันแค่เรื่องงานตามปกติเพราะเป็นหน้าที่ แต่วันนั้นคุณแพรสีหน้าดูหมองมนไม่สดใสเหมือนทุกครั้ง ซึ่งมันก็ไม่แปลกที่จะเป็นแบบนั้น และมีหลายคนที่ทักซึ่งคำตอบที่ให้ก็ "พอดีไม่ค่อยสบายค่ะ ขอบคุณทุกคนมากนะคะที่เป็นห่วง"

ผมอยู่ตรงนั้นมองเธออยู่ห่างๆซึ่งตอนเธอบอกทุกคนเสร็จ ก็มีการชายตามองมาที่ผมก่อนด้วยสีหน้าที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก

หลังจากเรื่องคืนนั้น ผมกับคุณแพรกว่าเราจะกลับมาคุยกันปกติได้ก็ตอนที่เธอกับคณะเดินทางกลับแล้ว โดยการที่ผมบังเอิญไปเจอรถตู้ของคณะที่เสียกลางทาง ตอนที่ผมเลิกงานแล้วกำลังกลับบ้านพอเลยลงไปช่วย และสิ่งที่ได้กลับมาคือคุณแพรทักมาขอบคุณผม จากที่เราไม่ได้คุยกันเลยตั้งแต่ตอนนั้น



ผมตั้งตารอที่จะได้พบกับคุณแพรอีกครั้งหนึ่ง แต่การตั้งตารอของผมมันไม่กระทบกับงานที่ผมรับผิดชอบ เพราะผมมีวุฒิภาวะพอที่จะแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว

ซึ่งการรอคอยของผมคือการรอแบบที่ไม่ได้ทักหา เพราะผมกลัวว่าหากผมทักไปแล้วเกิดสามีคุณแพรเห็นเขา มันคงจะไม่ใช่เรื่องดีๆแน่ๆ และผมคงจะไม่ได้เจอเธออีกเลยก็ได้ การรอคอยของผมจึงค่อนข้างมีความหมายมาก เพราะผมไม่เคยคิดถึงใครเลยนอกจากคุณแพรคนเดียว และ กว่าที่ผมจะพบกับคุณแพรอีกครั้งก็ผ่านไปแล้ว 3 เดือน คุณแพรพร้อมคณะลงมาตรวจงานประจำทุก 3 เดือน โดยก่อนหน้าที่เธอจะเดินทางมาที่นี่ เธอก็ทักบอกผมก่อนแล้วนึกภาพดู ผมดีใจขนาดไหนและยิ่งมุ่งมั่นตั้งหน้าตั้งตาทำงานแบบสุดๆ

พอคณะของคุณแพรเดินทางมาถึงตรวจงานต่างๆแล้วเสร็จ ผมได้รับคำชื่นชมจากหัวหน้าของคุณแพร ซึ่งนั้นทำให้ผมรู้สึกดีแต่ที่น่าภูมิใจยิ่งกว่าคือคุณแพรชื่นชมการทำงานของผม ในตอนที่ผมนำเอกสารค่าใช้จ่ายไปให้เธอตรวจ

"โห่ ละเอียดมากเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณวิน แบบนี้ทำงานได้สะดวกมากเลย ขอบคุณนะคะ เก่งมากค่ะ"

ผมรู้สึกมีพลังและรู้สึกขอบคุณรุ่นพี่ที่โน้มน้าวผมให้มาทำงานนี้

การที่ผมทำงานออกมาดีเกินคาด ทั้งควบคุมหน้างานทั้งงานเอกสารเบิกจ่ายทุกอย่างเบ็ดเสร็จที่ผม จะบอกว่าต่อให้ตรงนั้นไม่มีคุณแพรผมก็ทำงานเต็มที่แบบนี้อยู่แล้ว และคณะของคุณแพรเขาก็ชอบที่จะทำงานกับผม เพราะผมทำงานละเอียดซึ่งเกื้อหนุนพวกเขาที่มาตรวจงาน ทำให้พวกเขามีเวลาเที่ยวพักผ่อนจากงานออฟฟิศแสนวุ่นวาย ผมเข้าใจตรงจุดนี้ดี แต่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่ทำงานกัน

อย่างที่บอกผมเกื้อหนุนพวกเขาเต็มที่นั้นอาจจะเป็นใบเบิกทาง คุณแพรกลับมาคุยกับผมปกติแบบเพื่อนร่วมงาน โดยที่ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นเธอรู้สึกแบบนี้รึเปล่า

แต่ที่แน่ๆผมจะไม่ทำพฤติกรรมที่ส่อเเววชู้สาวกับคุณแพรในที่ทำงาน ผมทำตัวปกติไม่ได้ท่าทีอะไรให้ต้องสงสัย ทำให้คนในที่ทำงานและหน่วยงานของคุณแพรไม่มีใครรู้ความลับระหว่างเรา แต่เธอมักจะมีท่าทีอึดอัดหากมีใครพูดแซวผมกับเธอ ในใจผมก็อยากจะปกป้องคุณแพร แต่หากโต้ตอบกลับไปแน่นอนว่าความแตกแน่ และเหมือนคุณแพรจะคิดแบบเดียวกัน วิธีการหลีกเลี่ยงของเราสองคนคือการเว้นระยะห่างในที่ทำงาน เพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจของใคร แล้วเรื่องก็เงียบไปเอง

แต่นั้นคือตอนอยู่ในที่ทำงาน ตอนเลิกงานผมกับคุณแพรเราก็จะคุยกันหลังไมค์อยู่ตลอด จนในที่สุดผมก็ได้มีหลับนอนกับคุณแพรอีกครั้ง โดยผมเป็นคนชวนคุณแพรออกไปทานข้าวด้วยกัน …

ผมพาคุณแพรไปดินเนอร์ตามแต่โอกาสที่เธอสามารถออกมาจากที่พักได้ ผมจะพาเธอไปเลี้ยงตามร้านอาหารหรูที่ราคาค่อนสูง แต่ทุกครั้งที่พาผมจะจ่ายเองทุกครั้ง เพื่อเป็นการเอาใจจนเธอออกปากว่า "ไม่ต้องพาไปเลี้ยงที่ร้านแบบนี้ก็ได้ค่ะ เกรงใจ"

"เต็มใจครับ" ผมยิ้มตอบ

แล้วเหมือนคุณแพรจะคิดอะไรอยู่ในใจซี่งผมไม่แน่ใจว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ "งั้นรอบหน้าพาไปร้านนี้ได้ไหมค่ะ"

"ครับ ร้านไหนบอกผมได้เลยนะ"

แล้วเธอก็ส่งรูปให้ผมดูซึ่งเป็นร้านอาหารระดับ 5 ดาว และพอถึงวันจริงๆที่ต้องไปบอกเลยว่าอาหารแพงหูฉีกกว่าร้านที่ผมพาไปรวมกัน 10 ร้าน แต่สิ่งที่ผมได้กลับมาคือการได้เห็นคุณแพร …

"ว้าว" ผมมองอย่างหยาดเยิ้ม

"อย่าเอาแต่มองแบบนั้นซิค่ะคุณวิน" เธอพูดพลางเอามือมาปิดหน้าอกที่ล้นทะลักในชุดเดรส



เราดื่มด่ำกับค่ำคืนดินเนอร์สุดโรแมนติกจนอิ่มหน่ำ และ ออกจากร้านมาตอนช่วงประมาณ 2 ทุ่มเศษๆ ระหว่างทางที่เดินออกจากร้านด้วยกันคุณแพรเดินมาเกาะแขนผม เธอดูมีความสุขมากๆ

"ขอบคุณนะคะที่เลี้ยง อาหารที่ร้านนี้ถูกปากมากเลย" เธอยิ้มอย่างสดใส

ส่วนผมตอบกลับไปด้วยสีหน้ายินดี "สำหรับคุณแพรแล้วละก็ผมยินดีเสมอครับ" ผมพูดออกไปเเบบนั้นจริงๆแต่ในใจกลับยิ้มเจื่อนๆพลางเหงื่อไหลเป็นน้ำตก

"ปากหวานตลอดเลยนะคะ กับผู้หญิงคนอื่นคุณวินเปย์ขนาดนี้ไหม?"

"ไม่ครับ แค่คุณแพรคนเดียว"

เธอหยุดเดินแล้วหันมาสบตาผมประมาณจับผิดผมว่าโกหกรึเปล่า "ค่ะ เชื่อก็ได้"

"เชื่ออะไรเหรอครับ?"

"เชื่อว่าคุณวินทำทุกอย่างขนาดนี้กับฉันคนเดียว ต้องให้อธิบายไหมค่ะ ไหนจะกระเป๋าหลุยส์เอย รองเท้าแบรนด์เนมเอย ล่าสุด..ก็ชุดนี้" เธอทำท่าทางพร้อมกับทำหน้าทำตา

ผมได้แต่เงียบรอฟังโดยที่ไม่ละสายตาจากเธอ แล้วเธอก็มองหน้าไม่ลดละเช่นกัน

"ทำทุกอย่างนี้ต้องการอะไรค่ะ?"

ผมอ้ำอึ้งไม่รู้จะหาคำตอบอะไรให้เธอฟังแล้วจะพอใจ หรือตรงใจเธอรึเปล่าเพราะผู้หญิงเพศที่พวกเข้าใจยาก และละเอียดอ่อนในเรื่องที่เธอต้องการหรือสนใจ

"ผม..คือ..ว่า เอ่อ.."

คุณแพรตั้งหน้าตั้งตารอฟังคำตอบจากผม รู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่ถาโถมเข้ามามากๆ

"เฮ้อ" เธอรอผมจนถอดหายใจและจิ๊ปากพูดต่อด้วยสีหน้าจริงจัง "คุณวินค่ะ ฉันแต่งงานมีสามีแล้ว เรื่องเรามันเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ คุณวินเลิกพยายามนะคะ ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะออกมาข้างนอกกับคุณด้วย ส่วนของที่คุณซื้อมาให้ วันนี้ฉันใส่ก็เพื่อให้คุณได้เห็นมันก่อนจะไม่ได้เห็นอีก"

ผมอึ้งกับทุกคำพูดของเธอ จากนั้นเธอก็เดินนำผมไปที่รถ ผมที่ทำอะไรไม่ถูกได้แต่เงียบตลอดทางที่กำลังจะไปส่งเธอกับโรงแรม บรรยากาศในรถเงียบมาก เพราะเราไม่พูดคุยกันเลยตลอดทาง

และพอใกล้จะถึงโรงแรมที่คุณแพรพัก เพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะถึงหน้าโรงแรม ผมก็ตัดสินใจที่จะขับเลยจนทำเอาคุณแพรถึงกับงง

"คุณวินจะพาฉันไปไหนค่ะ? โรงแรมฉันอยู่นี้ จะขับไปไหน?"

ไม่ทันที่ผมจะตอบเธอก็ได้คำตอบแล้วเมื่อผมขับรถเข้าไปในโรงแรมม่านรูด ผมลงจากรถจ่ายเงินเสร็จก็เดินเข้าไปนั่งในรถ ผมนิ่งเงียบและรู้สึกได้ว่าคุณแพรทำเสียงหึดหัด เธอไม่พอใจผมอย่างแรง ผมหันไปหาก็เบี่ยงหน้าหนีผม ผมเห็นผ่านกระจกหน้าต่างรถเห็นเธอน้ำคลอ

ผมมองด้วยสีหน้าที่จริงจังปนอ้อนวอน เรานิ่งเงียบอยู่จนกระทั่งเธอเอ่ยปาก "ครั้งนี้เดียว"

คุณแพรหันหน้ามาพูดกับผมด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเศร้าปนโกรธ "แค่ครั้งนี้เดียว หลังจากจบตรงนี้แล้ว.. อย่า! มายุ่งกับฉันอีก" เธอเน้นคำว่าอย่า

ผมไม่พูดอะไรนอกจากตอบกลับไปว่า "ได้ครับ"

จากนั้นเธอก็โยนกระเป๋าหลุยส์ที่ผมซื้อให้ไว้ที่เบาะหลัง เปิดประตูออกไปด้วยท่าทีที่เหวี่ยงจัด ผมดับเครื่องล็อครถอย่างดีและตามเธอเข้าไปในห้อง

คุณแพรยืนนิ่งอยู่ตรงเตียงโดยไม่พูดอะไรเลยซักคำ ผมจึงเดินเข้าไปโอบเอวจากด้านหลังของเธอแล้วซุกไซร้ที่ไล่ไปตั้งแต่ต้นคอถึงบ่า เสียงพ่นลมหายใจดังขึ้น ตอนแรกเธอยืนเเข็งถือเป็นไม้ยืนต้น แต่พอเวลาผ่านไปซักพักก็เริ่มที่จะขยับร่างกาย เริ่มมีอารมณ์โต้ตอบกลับมาบ้าง ผมจึงค่อยๆเลื่อนมือทั้งสองขึ้นไปจับเต้าของเธอ บีบนวดอย่างเบามือจนเธอซู้ดปาก เบี่ยงหน้ามาซ้ายตรงที่ผมอยู่ เรายืนจูบกันตรงนั้นอย่างเร้าร้อน แขนของเธอยกสูงขึ้นมาไขว้ที่หลังคอของผม

สักพักหนึ่งผมถึงจะถอดชุดเดรสที่เธอใส่ออกจนเธอเปลือยทั้งตัว แล้วเธอก็เป็นคนถอดให้ผมจนได้เห็นท่อนเอ็นที่แข็งผงาด ท่อนเอ็นที่เธอเคยริมลองมาแล้วเมื่อหลายเดือนก่อน

"ทำไมถึงได้ใหญ่ขนาดนี้…ไปทำอะไรมารึเปล่า?" เธอถามด้วยความสงสัย

"ไม่ได้ทำอะไรครับ น่าจะเพราะพ่อผมเป็นต่างชาติ ก็เลยใหญ่กว่าชายไทยทั่วไปละมั้ง"

เธอทำหน้าใส่ผมแบบลังเลอยู่ว่าจะทำอะไรต่อ ผมเลยทักว่า "ลองจับเล่นดูซิครับ"

"อืม"

คุณแพรใช้มือขวากำท่อนเอ็นของผม ค่อยรูดๆขึ้นลงช้าๆ ผมที่ซึ่งมีอารมณ์อยู่แล้วถึงกับร้องครางออกมา ไม่นานนักเธอคงจะมันส์มือรูดขึ้นรูดลงแบบถี่ยิบ

"อ่าาาส์ คุณแพรครับ อูยย เสียวครับ คุณแพร … อมให้ผมหน่อยได้ไหม"

"ไม่ค่ะ" เธอตอบสวนกลับมาทันที

"นะครับ อมให้ผมหน่อยนะ"

"ขนาดสามีฉันยังไม่เคยเลยนะ"

"งั้นใช้สองมือช่วยก็ได้ครับ แล้วก็…อูยย..ย แล้วก็ใช้นิ้ววนๆที่หัวให้ผมหน่อย ผมเสียวมากๆ"

เธอเงียบไปครู่หนึ่งแต่ก็ทำตามที่ผมบอกทุกอย่าง เธอใช้สองมือจับที่ท่อนเอ็นของผม เธอถึงกับอุทานออกมา "โห่คุณวิน! สองมือฉันยังกำไม่มิดเลย ไม่เอาแล้วค่ะ ไม่เอาแล้ว ฉันจะกลับ…"

ผมรีบดึงเธอมาจูบปากทันทีโดยที่ไม่ทันตั้งตัว เธอดันสู้ผมเล็กน้อยจนผละออกได้สำเร็จ จากนั้นก็ตบหน้าผมหน้าหัน ผมเพลายุ่งเยิงปิดหน้าเธอจนต้องเสยขึ้น ผมหันกลับไปมองเธอรู้สึกได้ว่าริมฝีปากผมมีเลือดออก เลยลองใช้นิ้วแตะๆดูปากผมแตกจริงๆจึงมองหน้าไม่พอใจใส่กลับ เธอเองก็ใจสู้ทำหน้าไม่พอใจใส่ผมเหมือนกัน

ผมจึงเดินเข้าใส่เธอแบบจับกดลงที่นอนและใช้แรงบังคับ เธอดิ้นรนและร้องบอกให้ผมหยุด แต่ผมก็ไม่หยุด โหมแรงกระหน่ำจูบเธอจนบริเวณต้นคอกับเต้านมมีรอยแดงจ้ำๆ

"โอ๊ยย หยุดนะ อย่า!!! โอ้ยย ไม่ได้นะ ว้ายย คุณวินปล่อยนะ!!!"

ผมรุกเธอหนักมาแบบที่ไม่เคยทำกับผู้หญิงคนไหวมาก่อน จนเธอเริ่มอ่อนระทวยจากที่ดิ้นไปมาไม่หยุด กลายเป็นเริ่มส่งเสียงครางกระเส่า มือจิกที่แผ่นหลังของผมจนรู้สึกแสบ เพียงไม่นานบทเพลงบรรเลงกามก็ดังระงม
 


เราทำกันถึง 8 ยกตั้งแต่ตอน 2 ทุ่มกว่า เอากันแบบดุเดือดเผ็ดมันส์ ตั้งแต่ที่เข้ามาแทบจะไม่ลุกออกจากเตียงกันเลย และใน 8 ยกนี้นั้นใส่สุดทั้งแตกนอกและแตกในสลับกันไป เหงื่อเราไหลอาบท่วมตัวจนผมเผลอหลับคาอกเธอไป มาได้สติก็ตอนเช้าแล้ว

ที่คุณแพรบอกผมก่อนหน้าว่าครั้งนี้เดียวซึ่งครั้งเดียวไม่มีจริง …

ผมกับคุณแพรหลังจากนั้นมาเราสองคนก็มีกันอยู่เรื่อยๆ ทุกครั้งที่เธอมาตรวจงานจนเวลาเลยไปถึง 1 ปี ซึ่งใน 1 ปีนั้นนับครั้งได้ เพราะเจอกัน 3 เดือนเว้น 3 เดือน ใน 3 เดือนที่มาเธอมาตรวจงานพร้อมคณะก็ 1-2 สัปดาห์ และ ใน 1 สัปดาห์มี 7 วันต้องมี 1-2 วันที่เราจะมีความสุขกันในห้องไม่เกินกว่านั้น เพราะคุณแพรกลัวว่าเพื่อนๆในคณะงานจะจับสังเกต แล้วด้วยความที่นานๆจะเจอกันที ผมเลยไม่คิดเรื่องที่จะป้องกันกับเธอเลยซักครั้ง แต่บางครั้งก็มีบางที่ซื้อไปแต่สุดท้ายก็ใช้มันจนหมดและสดกันอยู่ดี

จนช่วงโครงการใกล้เสร็จผมกับคุณแพรเราจึงมีอะไรกันบ่อยขึ้น เพราะเธอมาตรวจกับคณะทุกๆ 1 เดือนเพราะโครงการใกล้แล้วเสร็จ บางเดือนอยู่เต็มเดือนก็มี

กระทั่งผมรู้ว่าเธอท้องช่วงท้ายๆที่โครงใกล้แล้วเสร็จเต็มที่ ผมดีใจและมั่นใจว่าเด็กในท้องคือลูกของผม ผมจึงโน้มน้าวเธอให้เธอมาอยู่กินกับผม แรกๆเธอก็บอกไม่มั่นใจว่าใช่ลูกของผมไหม แต่ผมกลับมั่นใจเต็มร้อยว่าเด็กในท้องนั้นคือลูกของผมแน่นอน

"แล้วเราจะเอายังไง?" แพรถามผม

"หมายถึงเรื่องสามีแพรนะเหรอครับ"

แพรพยักหน้าตอบผมเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง แต่ไหนๆเรื่องมันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว

"คุณแพรหย่ากับเขาแล้วมาอยู่กับผมได้ไหม?"

เธอมีท่าทีลังเลพอสมควรทำให้ผมรู้ว่าเธอเองยังคงรักสามีอยู่เต็มหัวใจ แต่สุดท้ายเธอต้องยอมจำใจที่จะหย่ากับเขา "อืม มันคงต้องเป็นแบบนั้นแหละค่ะ"

9 เดือนที่แพรอุ้มท้อง ตอนนั้นโครงการที่ผมทำได้เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมได้เงินค่าจ้างจากโครงการนี้เยอะมาก ชนิดที่ว่าสามารถเคลียร์หนี้สินที่มีด้วยเงินสดจนหมด และผมก็ย้ายไปอยู่กับคุณแพรในจังหวัดที่เธอทำงานอยู่ ผมซื้อบ้านด้วยเงินสดโดยเลือกซื้อบ้านที่อยู่ใกล้ที่ทำงานของเธอ โดยเธอเองก็มีส่วนร่วมในการเลือกซื้อด้วย เป็นบ้านที่มีไว้สำหรับลูกของเราโดยเฉพาะ เป็นบ้านหลังเดี่ยว 2 มี 4 ห้องน้ำ 3 ห้องนอน มีสระน้ำ มีสวนหญ้า มีพื้นที่สะดวกในการทำกิจกรรมครอบครัว

หลังจากที่ซื้อบ้านหลังนั้นแล้วผมก็ให้คำมั่นสัญญากับเธอ "ต่อไปนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมจะดูแลแพรกับลูกให้ดีทึ่สุดนะ"

แพรที่ตอนนั้นท้องได้ 3 เดือนแล้วพอผมได้พูดแบบนั้นเธอก็ยิ้มดีในแล้วเข้ามากอดผม และ เราก็มีอะไรกันตลอด มาหยุดทำก็ช่วงที่เธอท้อง 6 เดือน ผมทั้งถนอมเธอดูแลเธออย่างดี จนถึงเวลาที่เธอต้องบอกความจริงกับสามี ตอนนั้นผมอยู่ข้างๆเธอคอยปลอบให้กำลังใจไม่ได้หนีไปไหน และ ตอนท้องแก่ผมก็ขับรถพาเธอไปเซ็นใบหย่าที่อำเภอ

แพรขอให้ผมอยู่รอที่รถห้ามออกไปเด็ดขาด เพราะเธอไม่อยากให้มีเรื่องมีราว ผมจึงรออยู่ที่รถเป็นชั่วโมงก็เห็นเธอเดินออกมาพร้อมกับสามี พวกเขาคุยอะไรกันผมไม่รู้ แต่ที่รู้ๆสามีของแพรทำท่าจะเดินมาทางผม แต่แพรก็รั้งเเขนเขาและร้องไห้ ยื้ออยู่นานจนสามีเธอหยุดแล้วปล่อยเธอเดินกลับมาที่รถ เรื่องเธอกับสามีก็เป็นอันจบ

ในวันที่แพรคลอดลูกผมนั่งรออย่างตื่นเต้นที่จะได้เห็นหน้าลูกคนแรกของผม จนพยาบาลเดินมาบอกว่าผมได้ลูกสาว ผมดีใจแบบสุดๆขอให้พาไปดูหน้า ตัวน้อยหน้าตาน่าเกลียดน่าชัง โดยแพรเป็นคนตั้งชื่อเธอว่า "น้องบีม"

ผมยิ้มอย่างมีความสุขจนพยาบาลนำเอกสารรับรองบุตรมาให้ผมเซ็น ผมที่กำลังดีใจอยู่ก็ต้องมาสะดุดตรงคำพูดของพยาบาล "วันนี้พ่อของน้องมารึเปล่าค่ะ?"

ผมสีหน้าเปลี่ยนทันทีที่พยาบาลพูดแบบนี้ ผมจึงขอดูเอกสารและพบว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของผม แต่เป็นลูกของสามีแพร ใจผมสลายทันทีที่รู้ความจริง

ผมเดินเข้าไปหาเเพรด้วยความโกรธว่าทำไมถึงทำกับผมแบบนี้ แต่เธอพักฟื้นตัวอยู่จึงทำได้แต่รอ และพอเธอฟื้นวันนั้นก็ตรงกับวันที่เธอรู้ว่าสามีของเธอได้คิดสั้นฆ่าตัวตายไปแล้ว เขาตายแล้ว ทำเอาความคิดร้ายๆที่ผมมีตอนนั้นกลายเป็นสิ้นหวังทันที

ไม่สนับสนุนการทำอัตวินิบาตกรรม โปรดใช้วิจารณญาณ

เราสองคนที่รู้ความจริงทั้งเรื่องเด็กกับเรื่องของสามีเเพรแล้วก็ถึงกับกลืนไม่เข้าคลายไม่ออก ในหัวผมหน่วงไปหมด ทำไมถึงเป็นแบบนี้ แพรเสียใจมากที่เรื่องทุกอย่างเป็นแบบนี้ เธอถึงขั้นคลั่งเกือบเป็นบ้าจนผมต้องเข้าไปห้ามเอาไว้ พร้อมกับเรียกหมอมาดูอาการ

ผมเดินเหม่อร้องไห้คนเดียวในห้องน้ำที่โรงพยาบาล คำถามในหัวดังถึงอยู่ตลอด ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ ทำไม…

แต่ทุกคำถามในหัวของผมก็ทำให้ผมนึกถึงคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้กับเเพร "ต่อไปนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมจะดูแลแพรกับลูกให้ดีทึ่สุดนะ"

ผมเดินกลับไปอุ้มเด็กที่อยู่กับแพรอย่างถนอมมือ พูดกับเขาว่า "ขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ ต่อไปนี้พ่อจะดูแลหนูกับแม่เองนะ" ผมพูดทั้งน้ำตาต่อหน้าแพรที่ยังมีความรู้สึกหน่วงๆอยู่

และผมก็ทำตามคำมั่นสัญญาโดยที่เด็กคนนี้ผมเซ็นรับรองเป็นบุตร และทำเรื่องรับเธอเป็นบุตรบุญธรรม ทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุดเลี้ยงดูเด็กคนนี้ที่ไร้เดียงสา ส่งเธอเรียนในโรงเรียนที่ดี สอนการบ้านเธอในวันที่เธอกลับมาจากโรงเรียน ไปรับไปส่งเธอ พาเธอไปเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวทั้งในประเทศและนอกประเทศเหมือนเป็นลูกแท้ๆ แล้วเด็กน้อยก็เรียกและเข้าใจว่าผมเป็นพ่อแท้ๆของเธอ

ส่วนแพรก็ยังคงทำงานของเธอเป็นข้าราชการระดับสูง หลังจากที่ผ่านเรื่องราวร้ายๆ ผมกับเเพรเราอยู่กินด้วยกันฉันผัวเมีย เราแต่งงานกันแบบเงียบๆ โดยผมคุกเข่าขอเธอแต่งงานตอนไป เที่ยวต่างประเทศ …

หลังจากที่ผลัดกันเปลี่ยนท่ากันไปเรื่อยๆหลังจากที่วินคุกเข่าขอเธอแต่งงานแล้ว เสียงจูบดังขึ้นอีกครั้ง พวกเขาทำกันในท่านอนตะแคง เขาจับที่สะโพกของเธอค่อยๆจากช้าไปเร็วสลับช้อนเต้าจากด้านหลัง พอได้จังหวะก็เร่งเครื่องเต็มสูบ

ปั้บ ปั้บ ปั้บ ปั้บ ปั้บ ๆๆๆๆๆ

"อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊า อ๊า อ๊าาาา…..ซี้ดดดด……….อู๊วววว อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ … อ๊าา อ๊าาา"

"เสียวหีไหมที่รัก"

"เสียวหี… อ้าาาา เสียววหีมากก…"

เเพรส่งเสียงกรีดร้องระงมหัวของเธอสั่นไหวไปตามจังหวะเร่งของวินอย่างดุเดือดเผ็ดมันส์ ทำกันไปซักระยะหนึ่ง ก็รู้สึกถึงท่อนเอ็นที่ขยายใหญ่ขึ้น ร่องกลีบของเธอจึงตอดรัดอย่างรุนแรง

"โอ้ยย จะไม่ไหวแล้วนะ รักแพรนะ"

เธอกรีดร้องเสียง "กรี๊ดดดดดดด… รักวินเหมือนกัน แรงๆเลย แพรจะเสร็จแล้ว"

"อ่า..า อ่า..า อา…อ๊าาาาากกกก"

เธอกรีดร้องและตัวกระตุกเสร็จในที่สุดพร้อมกับวินที่กระแทกส่งท้ายอีก 2 - 3 ที  ถึงจะอัดฉีดน้ำเชื้อเข้ามาเต็มท้องของแพร

และพวกเขากระหน่ำกันต่อตลอดทริปเที่ยวโดยแตกในตลอดไม่มีแตกนอก



ใช้เวลานานมากกว่าที่ทางญาติผู้ใหญ่ฝั่งแพรเขาจะยอมรับผม ถึงอย่างนั้นไม่กี่ปีต่อมาเธอก็ท้องกับผม ครั้งนี้ผมได้ลูกชาย

และหลังจากนั้นชีวิตของเราก็พบเจอแต่ความสุข




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น