วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

บุพเพสันนิวาส ภาคพิสดาร ตอนที่ 2



“พวกแกมันรังแกผู้หญิงไม่มีทางสู้ ไอ้พวกนักเลงใส่ผ้าซิ่น”
แม่หญิงการะเกดตวาดใส่พวกจีนเฝ้าซ่องสองคนที่ตบใส่นังผินจนล้มคว่ำเลือดกบปาก กลายเป็นจุดสนใจท่ามกลางบรรดาไทยมุงบริเวณตลาดบ้านจีนยิ่งนัก จีนเฝ้าซ่องทั้งสองคนจึงพุ่งตรงเข้าใส่แม่การะเกดหมายจะสั่งสอนให้แม่หญิงปากกล้าผู้นี้ได้เจ็บตัวเสียบ้าง แต่เพียงชั่วอึดใจแม่หญิงคนสวยก็ใช้ศิลปะป้องกันตัวที่มีจัดการพวกมันทั้งสองคนจนล้มกลิ้งล้มหงายไม่เป็นท่า จู่ๆในจังหวะที่การะเกดไม่ทันระวังตัว หนึ่งในสองคนนั้นก็พุ่งเข้ามาด้านหลังและกำลังสาวหมัดจนเกือบจะถึงตัวหล่อนอยู่แล้ว ทันใดนั้นบาทาของใครคนหนึ่งก็ยันเข้าไปที่ท้องของมันจนกระเด็นล้มก้นจ้ำเบ้า
“มีกระไรกัน” เสียงตวาดอันดังของชายผู้มาใหม่ทำให้ทุกคนตรงนั้นหยุดชะงักและหันไปมองเจ้าของเสียง
“มิได้มีอันใดดอกขอรับ ท่านหลวงศรียศ” พอเห็นว่าเป็นใคร ไอ้พวกจีนเฝ้าซ่องทั้งสองคนก็รีบคุกเข่ายกมือไหว้ปะหลกๆ
หลวงศรียศเดินเข้าไปหาแม่หญิงคนงาม
“มีอะไรให้ข้าช่วยหรือไม่ แม่หญิง”
“ไม่มีเจ้าค่ะ” การะเกดตอบหลวงศรียศด้วยรอยยิ้ม
“เป็นเช่นนั้น หากแต่แม่หญิงบอกกล่าวข้าได้หรือไม่ ว่าแม่หญิงเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ทำไมข้าไม่คุ้นหน้าออเจ้าเลย”
“ข้าชื่อการะเกด เป็นหลานของออกญาโหราธิบดีเจ้าค่ะ”
“แม่การะเกด โชคดีที่ข้ามีราชการทะเวนแถวนี้พอดี มิเช่นนั้นพวกของออเจ้าคงเหนื่อยมากกว่านี้”
แม่หญิงการะเกดยกมือไหว้แล้วเอ่ย “เป็นพระคุณเจ้าค่ะ แต่ตอนนี้ข้าคงต้องกลับแล้ว ขอตัวก่อนนะเจ้าคะ”
“ประเดี๋ยวก่อนเถิด เสื้อผ้าของเจ้าขาดรุ่งริ่ง คงเพราะต่อยตีกับพวกจีนพวกนั้นกระมัง อย่างไรเสียก็ให้ข้าเป็นธุระหาเสื้อผ้าใหม่ให้ออเจ้าใส่ก่อนเถิด” หลวงศรียศสังเกตเห็นสไบแลผ้านุ่งของแม่หญิงคนงามมีรอยขาดหลายจุดจึงเสนอความช่วยเหลือ แต่ก็ลอบมองผิวพรรณผุดผ่องที่ปรากฏออกมาตามรอยขาดด้วยแววตาเป็นประกายลึกลับ
“ที่ด้านบนของโรงน้ำชาแห่งนี้มีห้องหับที่พอจะให้ออเจ้าผลัดผ้าได้อยู่ เจ้าขึ้นไปรออยู่บนนั้นก็แล้วกัน ข้าจะให้คนของข้าไปจัดหาเสื้อผ้าใหม่มาเปลี่ยนให้” หลวงศรียศชี้ไปทางร้านน้ำชาด้านหลัง ซึ่งเป็นที่เดียวกันกับที่พวกจีนเฝ้าซ่องมันนั่งดื่มเหล้าอยู่เมื่อครู่ก่อนจะมามีเรื่องกับหล่อน
“ขอบพระคุณเจ้าค่ะ ถ้าเช่นนั้นข้าขอรับน้ำใจจากท่านนะเจ้าคะ” แม่หญิงการะเกดรับคำเดินเข้าไปในโรงน้ำชาและขึ้นบันไดไปชั้นบน
ที่ด้านบนของโรงน้ำชาแห่งนี้มีการจัดห้องหับเอาไว้อย่างดี มุมหนึ่งของห้องมีทั้งถังน้ำขนาดใหญ่ที่รองน้ำเอาไว้เต็ม มีบันไดเตี้ยๆให้ก้าวขึ้นไปได้ดูราวกับว่าถังนี้มีไว้สำหรับให้คนลงไปแช่น้ำเล่น อีกด้านหนึ่งก็มีตั่งพร้อมฟูกอยู่หลังฉากบังตา นี่ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในสมัยอยุธยา หล่อนคงคิดว่าที่นี่คือห้องทำสปาแบบในยุคปัจจุบันเป็นแน่แท้ กลิ่นเครื่องหอมอ่อนๆที่โชยมาจากตะเกียงทำให้หล่อนรู้สึกผ่อนคลายยิ่งนัก หล่อนเดินชมห้องไปรอบๆด้วยความอยากรู้อยากเห็น เพียงไม่นานหลวงหนุ่มรูปงามก็ตามขึ้นมา โดยมีเสื้อผ้าใหม่สำรับหนึ่งติดมือมาด้วย การะเกดจึงเอ่ยถาม
“คุณหลวงเจ้าคะ นั่นใช่ไหมเจ้าคะเสื้อผ้าที่จะให้ข้าผลัด”
“ใช่ นี่คือเสื้อผ้าที่ข้าหามาให้ออเจ้า แต่ก่อนหน้านั้นขอให้ข้าได้เชยชมเรือนร่างของแม่หญิงก่อนเถิดหนา ข้าจึงจะมอบเสื้อผ้าชุดนี้ให้ออเจ้า” หลวงศรียศเอ่ยด้วยน้ำเสียงกรุ้มกริ่ม
“อะไรนะเจ้าคะ ตกลงนี่มันยังไงกัน ท่านจะทำอะไรข้ารึเจ้าคะ” แม่หญิงการะเกดเริ่มเอะใจ แต่ก็รู้สึกวูบวาบในท้องน้อยขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด
“ออเจ้ารู้หรือไม่ว่า กิจการโรงน้ำชาแลโรงชำเราชายในย่านนี้ล้วนอยู่ในความดูแลของข้า พวกจีนเฝ้าซ่องที่ออเจ้าเล่นงานจนหมอบนั้นก็เป็นคนของข้า คิดหรือว่าการที่เจ้ามามีเรื่องในถิ่นของข้าแล้วจะกลับออกไปได้ง่ายๆ”
“คุณหลวง ข้าขอโทษนะเจ้าคะ ข้าแค่ป้องกันตัว ก็คนของท่านจะเข้ามาทำร้ายข้าก่อน ข้าก็เลยต้องทำเช่นนั้น ยังงั้นข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ ป่านนี้พวกพี่ผินพี่แย้มคงรอข้านานจนผิดสังเกตแล้ว” แม่หญิงการะเกดรีบขอโทษและหาทางออกจากสถานการณ์นี้โดยเร็ว แต่ขาของหล่อนจู่ๆก็เหมือนไม่มีแรงแม้แต่จะทรงตัว เพียงก้าวขาออกไปได้สองสามก้าวก็กลับต้องทรุดลงนั่งพับเพียบอยู่บนพื้น
“ฮ่าๆๆ...ออเจ้าหมายถึงบ่าวสี่คนที่ตามเจ้ามาน่ะรึ ข้าให้คนของข้าจับตัวพวกมันไปขังไว้ในซ่องข้างๆนี้แล้วแลบอกให้พวกมันทำกระไรก็ได้ตามใจพวกมัน ป่านนี้บ่าวของเจ้าคงกำลังโดนโล้สำเภากันสนุกสนานอยู่น่ะสิ” แม่การะเกดตกใจจนหน้าซีดเผือดที่ได้ยินว่า บัดนี้บ่าวของหล่อนทั้งพี่ผินพี่แย้ม อีกทั้งบ่าวของคุณหญิงป้าทั้งจวงและจิก ต่างกำลังโดนข่มขืนอยู่
“ข้า..ข้าผิดไปแล้ว ข้าสัญญาว่าข้าจะไม่มาหาเรื่องคนของท่านอีกแล้ว คุณหลวงปล่อยข้าไปเถอะนะเจ้าคะ” แม่การะเกดอ้อนวอนคุณหลวงทั้งน้ำตา แต่เบื้องล่างกลับมีน้ำเมือกใสๆหลั่งออกมาจนหล่อนรู้สึกชื้นแฉะที่หว่างขา ตั้งแต่เข้ามาในห้องนี้หล่อนก็รู้สึกถึงความกำหนัดแปลกๆ
“ช้าก่อน บอกแล้วไงว่า ขอให้ข้าได้เชยชมเรือนร่างของออเจ้าให้ถ้วนทั่วเสียก่อน แล้วข้าจึงจะปล่อยเจ้าไป”
พูดจบเขาก็กระตุกผ้าสไบออก จากนั้นเสื้อเครื่องที่อยู่ด้านในก็ถูกกระชากจนกระดุมขาดกระจุย ปทุมถันขาวผ่องคู่งามก็ออกมาอวดสายตาแก่หลวงศรียศทันที เขาไม่รอช้ารีบใช้มือบีบเค้นขยำหน้าอกคู่งามทั้งสองข้างจนมันบิดเบี้ยวผิดรูป แม่หญิงผู้นี้นอกจากใบหน้าที่งดงามยิ่งกว่าผู้ใดในพระนครแล้ว ยังมีหน้าอกหน้าใจที่สวยงามยิ่งนัก ไม่ว่าหญิงงามเมืองคนใดในโรงชำเราของเขาก็มิอาจเทียบได้เลยแม้แต่น้อย คิดแล้วเขาก็ใช้ปากและลิ้นชิมรสเนื้อนมขาวผ่องคู่นั้นทันที
“โอว...ซี้ด...คุณหลวงเจ้าขา อย่าทำข้าเลย ข้าขอโทษ โอว...ข้าเสียวเจ้าค่ะ” แม่หญิงการะเกดรู้สึกกลัวจับใจ แต่ก็อดเสียวซ่านขึ้นมาไม่ได้เมื่อถูกชายหนุ่มรูปงามโลมเลียไปทั่วทั้งสองเต้าเช่นนี้
การะเกดนึกย้อนกลับไปครั้งก่อนที่หล่อนถูกลวงเข้าไปเสพสังวาสในหอหนังสือโดยท่านออกญา กว่าที่อาคมของคุณลุงจะสิ้นฤทธิ์จนหล่อนจำความที่เกิดขึ้นภายในห้องนั้นทั้งหมดได้ก็หลังจากที่คุณลุงปล่อยน้ำกามเข้าไปในหีของหล่อนจนทะลักล้นท่วมรูแล้ว เหตุเพราะเมื่อรับเอาน้ำกามที่เป็นของเหลวจากร่างกายของคุณลุงซึ่งมีพลังมนตราแฝงอยู่ จึงทำให้ข่ายอาคมในห้องนั้นไม่ส่งผลใดๆต่อหล่อนอีก แต่เวลานั้นหล่อนกำลังตกอยู่ในห้วงราคะจนลืมหมดสิ้นซึ่งความรู้สึกผิดชอบชั่วดี จนลืมตัวปล่อยกายปล่อยใจให้กับคุณลุงโดยมิได้รังเกียจ หนำซ้ำยังรู้สึกติดใจในรสกามสังวาสที่คุณลุงมอบให้อีกด้วย
แต่คราวนี้หล่อนคิดว่าคงมิใช่ผลจากอาคมเป็นแน่ จริงสิ กลิ่นเครื่องหอมที่ทำให้หล่อนรู้สึกแปลกๆตั้งแต่ทีแรกที่ก้าวเข้ามานั่นกระมัง เดิมทีมันทำให้ผ่อนคลาย แต่พอสูดดมนานเข้าก็ทำให้ความกำหนัดในตัวนั้นเพิ่มขึ้นช้าๆจนหล่อนแทบไม่ทันรู้สึกตัว มารู้สึกอีกทีก็หีแฉะไปหมดแล้ว ยิ่งถูกหลวงศรียศเล้าโลมแบบหื่นกระหายราวกับหมาป่าหิวโซแบบนี้ด้วยแล้ว หล่อนจึงมิอาจขัดขืนใดๆได้เลย
พลันที่แม่การะเกดนึกทบทวนเสร็จ โจงกระเบนท่อนล่างก็ถูกหลวงศรียศแก้ปมออกโยนทิ้งไปอย่างไม่ใยดี เรียวขาขาวผ่อง เนินเนื้อโหนกขาว แคมเบียดชิดดูราวกับว่ายังไม่เคยโดนใครเบิกร่องมาก่อนก็เผยโฉมออกมาให้เขาได้เห็น อันที่จริงถ้าเป็นชายทั่วไปที่มิเคยเสพสังวาสมาก่อนคงแยกไม่ออกระหว่างหีสาวบริสุทธิ์กับหีของหญิงที่มีผัวแล้ว แต่เพราะความชำนาญของเขาจึงดูออกว่า หีของแม่การะเกดคงเคยผ่านการทะลวงจนเยื่อพรมจรรย์ขาดมาก่อนแล้วเป็นแน่ แต่เขาก็หาได้ใส่ใจไม่ ก็ในเมื่อแม่การะเกดเป็นคู่หมายของขุนศรีวิสารวาจา (ยศใหม่ของพี่พมื่น) แลนางก็อยู่ในเรือนเดียวกับเขามาร่วมขวบปีแล้ว การจะโดนล่วงละเมิดจนไม่เหลือเยื่อพรมจรรย์ก็มิใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด แต่กระนั้นมันก็ยังคงได้รูปสวยงามราวกับของใหม่แกะกล่องก็มิปาน เห็นดังนั้นแล้วเขาจึงอดใจไม่ไหว ก้มลงไปใช้ลิ้นชมรสคาวสวาทที่เอ่อท้นอยู่เต็มร่องรูนั้นทันที
“ว้าย ซี้ด...คุณหลวง จะทำอะไรเจ้าคะ ตรงนั้นมันสกปรกนะเจ้าคะคุณหลวง อย่าเจ้าค่ะ ซี้ด...ข้าเสียว...อูย”
“ออเจ้ารู้หรือไม่ว่าข้ามิใช่คนอยุธยาแท้แต่มีเชื้อสายเปอร์เซีย (อิหร่านในปัจจุบัน : ผู้เขียน) ชาวเปอร์เซียอย่างข้ารู้วิธีที่จะทำให้หญิงสาวขึ้นถึงสวรรค์ชั้นเจ็ดด้วยลิ้นนี่แหละ”
พูดจบเขาก็บรรจงละเลงลิ้นลงบนร่องเสียวของแม่หญิงการะเกด ทั้งห่อลิ้นแยงเข้าไปในช่องสังวาส ทั้งกระดกรัวเร็วหยอกล้อกับติ่งแตดบนยอดเนินจนแม่หญิงคนงามถึงกับครางไม่เป็นศัพท์ แอ่นสะโพกสูงลิ่วจนไม่ติดพื้น การทำรักด้วยปากเช่นนี้มิเคยปรากฏในสมัยอยุธยามาก่อน ด้วยผู้ชายอยุธยารังเกียจว่าช่องสังวาสของผู้หญิงนั้นเป็นของต่ำ แต่ชาวเปอร์เซียนั้นหารังเกียจไม่ เขาจึงโลมเลียเนินเนื้อนั้นอย่างเมามันจนแม่การะเกดส่ายสะโพกเร่าๆ จนกระทั่งในที่สุดก็เกร็งกระตุกอย่างแรง เมือกสวาทไหลทะลักออกมาจากช่องน้อยนั้นจนเปรอะเปื้อนใบหน้าของหลวงศรียศไปทั่วปากและจมูก
หลวงศรียศยังคงทั้งขบทั้งดูดเม็ดแตดของแม่การะเกดต่อไม่หยุดแม้จะรู้ว่าแม่หญิงผู้นี้ได้ถึงสวรรค์ไปหนหนึ่งแล้ว มือข้างหนึ่งก็ยังขยำเคล้นคลึงเต้านมสลับไปมา ส่วนมืออีกข้างก็สอดนิ้วเข้าไปในช่องสังวาสของหล่อนพลางชักเข้าออกเพื่อขยายร่องรูให้พร้อมสำหรับการสอดใส่
“อา...คุณหลวงเจ้าขา ข้าจะทนไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ เสียวเหลือเกิน เสียวไปหมดทั้งตัวแล้วเจ้าค่ะ ซี้ด...อูย”
แม่การะเกดร่างบิดเกร็งด้วยความเสียวซ่านอย่างต่อเนื่อง คุณหลวงก็ยังซอยนิ้วเข้าออกไปเรื่อยๆ ซักพักก็ชักนิ้วออกจนการะเกดแอ่นเอวตามด้วยความเสียดาย
“มากงนี้เถิดแม่หญิง โล้สำเภาบนพื้นไม้กระดานนั้นมิใคร่สบายกายนัก ออเจ้ามานอนบนฟูกดีกว่า” หลวงศรียศพูดจบแม่การะเกดก็ลุกขึ้นเดินตามไปอย่างว่าง่าย เพลานี้ต่อให้บอกให้หล่อนทำอะไรหล่อนก็จักทำตามโดยมิขัดขืนแล้ว ด้วยไฟราคะที่ครอบงำจิตใจทำให้หล่อนไม่สนใจแล้วว่าหล่อนจะเป็นลูกหลานพระยามาจากไหน ขอแค่ปลดเปลื้องอารมณ์ของหล่อนตอนนี้ให้ได้ก็พอ
หลวงศรียศพลันปลดผ้านุ่งออกจนกระโดงสำเภาตั้งเด่ชี้ไปที่ใบหน้าของการะเกดที่เพิ่งจะทรุดตัวลงนั่งบนฟูก หล่อนตะลึงจนอ้าปากเหวอเอามือปิดปากแทบไม่ทัน ด้วยความใหญ่ยาวของเสากระโดงนั้นผิดแผกไปจากชาวอยุธยาทั่วไป หล่อนเกรงว่าหีน้อยๆของหล่อนคงจะต้านรับมิไหวเป็นแน่แท้
“กลัวหรือแม่หญิง”
“กะ..กลัวเจ้าค่ะ”
“กลัวกระไรรึ”
“กลัว...ขะ...ของท่าน” แม่หญิงการะเกดไม่กล้าพูดออกมาเต็มเสียง
“ออเจ้ากลัวอะไรนะ ข้าฟังไม่ถนัด พูดออกมากงๆเถิด อย่าได้อายไปเลย” หลวงหนุ่มถามซ้ำ
“ขะ..ควย..เจ้าค่ะ ข้ากลัวควยของท่าน มันใหญ่เหลือประมาณ ท่านจะใส่เข้าไปในตัวข้าได้อย่างไร” หล่อนรวบรวมความกล้าพูดออกมาทั้งที่กระดากปากเหลือทน แต่พอได้พูดออกไป อารมณ์กำหนัดก็ยิ่งเพิ่มขึ้นจนหล่อนนั่งหนีบขาไปมา คันยุบยิบในร่องรูอยากได้อะไรมาเสียบเต็มที
“ลองสัมผัสดูสิ ออเจ้าจะคุ้นเคยกับมันแลไม่กลัวมันอีกต่อไป” คุณหลวงเอ่ยชวนพลางดึงมือแม่การะเกดมาเกาะกุมท่อนควยของเขาเอาไว้ การะเกดชะงักเล็กน้อยเมื่อได้กำเจ้าท่อนเนื้อนั้นอยู่ในมือ นิ้วมือเธอโอบแทบไม่รอบความใหญ่ยักษ์ของเขา เธอใช้สองมือกำต่อกันจนเหลือเพียงส่วนปลายถอกที่โผล่พ้นขึ้นมาท้าทายหล่อน ท่อนควยอุ่นร้อนกระตุกหงึกๆสู้มือเธอราวกับกวักเรียกให้ต้องก้มลงไปดูใกล้ๆ กลิ่นของมันจะว่าหอมก็ไม่หอม จะเหม็นก็ไม่เหม็น แต่ยิ่งดมก็ยิ่งทำให้ใบหน้าของหล่อนโน้มลงไปเรื่อยๆจนปลายถอกแตะเข้ากับริมฝีปากของเธอ อึดใจนั้นการะเกดก็ตัดสินใจอ้าปากงับส่วนหัวควยของเขาเข้าไปเต็มปาก โพรงปากน้อยๆของหล่อนบรรจุท่อนควยของเขาเข้าไปได้เพียงพ้นส่วนหยักตรงคอลงมาหน่อยเดียวเท่านั้น ปลายควยของเขาก็เข้าไปอัดแน่นถึงคอหอยของหล่อนจนสำลัก หล่อนถอนปากออกมาสูดหายใจลึกๆแล้วอ้าอมมันกลับเข้าไปใหม่อีกครั้ง ครั้งนี้หล่อนกลืนมันเข้าไปได้เกือบครึ่งลำจึงเริ่มผงกหัวขึ้นลง ท่อนควยผลุบเข้าผลุบออกตามจังหวะการรูดปากของหล่อน หลวงศรียศรู้สึกเสียวซ่านจนต้องเอามือจับศีรษะของหล่อนไว้
“โอว...แม่หญิงช่างเก่งเหลือเกิน ออเจ้าไปเรียนวิธีใช้ปากแบบนี้มาจากที่ใดกัน”
“เปล่านะเจ้าคะ ข้าไม่เคยทำแบบนี้หรือจำจากผู้ใดมา ข้าแค่ทำไปตามความรู้สึกของข้า” แม่หญิงการะเกดละปากออกตอบคำหลวงศรียศ ก่อนจะก้มหน้าใช้ปากกับท่อนเนื้อของเขาต่อไป
“ออเจ้าช่างเก่งยิ่งนัก ขนาดไม่เคยทำกับผู้ใดมาก่อนยังทำให้ข้ารู้สึกดีได้ถึงขนาดนี้ นับว่าออเจ้านี้ไม่ธรรมดาเลยหนา มาเถิด ให้ข้าได้ลองโล้สำเภากับออเจ้าดูหน่อยเถิดว่าเจ้านั้นจะเก่งเหมือนที่ข้าคิดหรือไม่”
แม่การะเกดชะงักนิดหนึ่งเมื่อได้ยินว่ากำลังจะถูกหลวงหนุ่มผู้นี้โล้สำเภาเข้าแล้ว อันที่จริงหล่อนเคยโดนท่านออกญาคุณลุงของหล่อนโล้สำเภามาครั้งหนึ่งแล้ว แต่หล่อนจำได้แค่เพียงตอนที่คุณลุงฉีดน้ำกามเข้ามาในรูหีของหล่อนเท่านั้น ก่อนหน้านั้นด้วยฤทธิ์ข่ายอาคมของคุณลุงจึงทำให้หล่อนจำไม่ได้ว่าขณะที่โล้สำเภานั้นเป็นอย่างไร แต่แค่ความเสียวซ่านตอนที่น้ำกามอุ่นๆพุ่งวาบเข้าไปในโพรงสวาทก็เพียงพอที่จะทำให้หล่อนติดใจอยากลิ้มลองรสชาติของมันอีกครั้ง
หลวงศรียศประคองแม่การะเกดลงนอนหงายบนฟูก จากนั้นก็ช้อนขาสองข้างของหล่อนขึ้นมาประคองไว้ในวงแขนทั้งซ้ายขวา ท่านี้ร่องรูสังวาสของการะเกดจึงเปิดอ้าออกเต็มที่ ท่อนควยของเขาก็จ่อเข้ามาถึงปากถ้ำของหล่อน ทิ่มๆตำๆไปมา บ้างก็พลาดเสยขึ้นไปโดนเม็ดแตดจนหล่อนสะดุ้งร้องซี้ด เพียงชั่วอึดใจปลายถอกของเขาก็ถูกชโลมด้วยน้ำเงี่ยนของหล่อนจนเป็นมันวาว ความลื่นของเมือกสวาททำให้ปลายควยค่อยๆปักมุดลงไปในรูหีของหล่อนช้าๆ ความใหญ่โตของเสากระโดงเรือลำนี้ทำให้หญิงสาวจุกแน่นในท้องน้อยจนหายใจแทบไม่ออก หล่อนรู้สึกราวกับหีของหล่อนกำลังจะฉีกขาดออกจากกัน แต่ด้วยเมือกลื่นที่หลั่งออกมาไม่หยุดทำให้ท่อนควยของหลวงศรียศทะลวงเข้าไปในโพรงสังวาสได้เรื่อยๆ และเมื่อหนอกเนื้อของเขาแนบสนิทกับเนินเนื้อของหล่อน การะเกดก็ระบายลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างโล่งใจที่ช่องรักของหล่อนสามารถรับท่อนควยที่ใหญ่ขนาดนั้นเข้าไปได้จนหมด
ไม่ทันที่หญิงสาวจะได้พักหายใจเท่าใดนัก หลวงศรียศก็ยกสะโพกขึ้นจนท่อนควยหลุดออกไปครึ่งหนึ่งแล้วกระแทกกลับเข้ามาทันทีโดยไม่ให้การะเกดทันตั้งตัว ทำเอาหล่อนจุกจนตาเบิกโพลงแต่ก็หาได้ถอยหนีไม่ แม่หญิงแห่งเมืองสองแควกระดกสะโพกส่ายเอวขึ้นรับจังหวะของหลวงหนุ่มอย่างไม่ยอมแพ้ เสียงเนื้อกระทบเนื้อป้าบๆๆดังจนได้ยินทั่วห้อง นี่หากมีบ่าวไพร่คนใดอยู่ใกล้ๆคงจะนึกว่ามีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นเป็นแน่
“โอว...คุณหลวงเจ้าขา ควยคุณหลวงใหญ่ถูกใจข้าเหลือเกิน กระแทกแรงๆเลยค่ะ ข้าชอบ”
“รูของเจ้าก็ช่างกระชับแน่นยิ่งนัก ข้าเสียวเหลือเกินแม่หญิง”
“คุณหลวงเรียกรูของข้าว่าหีก็ได้เจ้าค่ะ ข้าไม่ถือ กระแทกหีข้าแรงๆเลยค่ะ ซี้ด”
หลวงศรียศได้ยินคำพูดตรงๆเช่นนั้นก็ให้กระสันซ่านยิ่งนัก ยิ่งเร่งเอวซอยสะโพกเร็วขึ้นแรงขึ้นอีก
“หีของแม่หญิง...รัดควยของข้าแน่นยิ่งกว่าผู้ใดในพระนคร ข้าชอบหีของแม่หญิงยิ่งนัก แม่หญิงจักมาเป็นเมียของข้าเลยได้หรือไม่ ข้าอยากโล้สำเภากับออเจ้าเช่นนี้ทุกวัน...ซี้ด”
“หาได้ไม่เจ้าค่ะ ข้าเป็นคู่หมายของคุณพี่เดชอยู่แล้ว...ซี้ด...วันหนึ่งข้าก็ต้องออกเรือนกับเขา อูย...ข้าจักให้ท่านโล้สำเภากับข้าเพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น ถือเป็นการไถ่โทษที่ข้าทำร้ายคนของท่าน โอเคนะเจ้าคะ...โอว”
“ถ้าเช่นนั้น ขอข้าแสดงฝีมือโล้สำเภาให้ออเจ้าจดจำไปจนกว่าจะถึงวันออกเรือนเลยได้หรือไม่”
“โอว...คุณหลวงเจ้าขา อย่าว่าแต่วันออกเรือนเลยเจ้าค่ะ ถึงข้าจะหาชีวิตไม่แล้วข้าก็จักมิลืมรสควยของท่านเลยเจ้าค่ะ...ซี้ด”
“ข้าจักทนไม่ไหวแล้วหนา ออเจ้าพร้อมแล้วหรือไม่”
“เจ้าค่ะ ซี้ด...ข้าพร้อมทุกเมื่อเลยเจ้าค่ะ คุณหลวงใส่มาให้เต็มที่เลยเจ้าค่ะ...โอว...ข้าถึงแล้ว..ถึงแล้ว...” แม่การะเกดหวีดร้องออกมาเต็มเสียง
“ข้าก็ถึงแล้ว...โอว”
หลวงศรียศโหมกระเด้าเอวใส่แม่การะเกดเต็มที่อีก 7-8 ครั้งก็เกร็งสะโพกบดกระแทกเข้ากับเนินโหนกของแม่หญิงการะเกดเต็มแรง น้ำกามข้นคลั่กพุ่งทะลักเข้าไปจนเต็มช่องสังวาสของหญิงสาวจนไม่มีที่ว่างจึงไหลล้นย้อนออกมาเปรอะเปื้อนเต็มง่ามขาของหล่อน ช่องรักของหล่อนตอดตุบๆบีบรัดเป็นจังหวะพร้อมกันกับท่อนควยของชายหนุ่มที่หดเกร็งฉีดเอาน้ำกามออกมาเป็นระลอก 3-4 ครั้งติดต่อกัน ทั้งหลวงหนุ่มและแม่หญิงต่างกอดรัดกันพลางหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน
หลังจากพักหายใจอยู่ครู่หนึ่ง การะเกดก็เอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมา
“คุณหลวงเจ้าคะ คุณหลวงอภัยให้ข้าที่ข้าล่วงเกินคนของท่านแล้วใช่ไหมเจ้าคะ”
“อืม...ข้าไม่ติดใจเอาความอะไรจากออเจ้าแล้วล่ะ แม่การะเกด”
“ว่าแต่ ข้ามีเรื่องสงสัยอยากถามท่านเรื่องหนึ่ง ท่านอย่าปิดบังข้าได้ไหม”
“ได้สิ เรื่องอันใดรึ ถามมาเถิด ข้าไม่ปิดบังเจ้าหรอก”
“คุณหลวงวางยาอะไรข้าหรือเปล่าเจ้าคะ ทำไมข้าถึงได้รู้สึกกำหนัดยิ่งนัก จนข้าไม่อาจขัดขืนท่านได้เลย”
“เปล่านี่ ข้ามิได้วางยาอันใดแก่ออเจ้าเลยหนา แม่การะเกด”
“อ้าว แล้วกลิ่นหอมๆในห้องนี้ล่ะเจ้าคะ มันคืออะไร”
“ก็แค่กลิ่นเครื่องหอมจากดอกไม้ธรรมดาๆ ข้าซื้อมาจากพวกโปรตุเกส เห็นว่ามันหอมดีเลยเอามาตั้งไว้ในห้อง ออเจ้าสงสัยอันใดรึ”
การะเกดชะงักวูบ รู้สึกอับอายจนหน้าชาในทันทีที่ได้รับคำตอบ นี่หล่อนไม่ได้โดนวางยา แสดงว่า...คิดแล้วหล่อนก็อายจนหน้าแดงเรื่อรีบปฏิเสธทันควัน
“เปล่าเจ้าค่ะ มิมีอันใดแล้ว หมดเรื่องแล้วข้าขอตัวนะเจ้าคะ”
พูดจบหญิงสาวก็รีบลุกขึ้นแต่งตัวด้วยชุดใหม่ที่หลวงหนุ่มผู้นี้ซื้อมาให้ แล้วเดินออกจากห้องไปทันที ทิ้งให้หลวงศรียศนอนฉงนสงสัยอยู่เพียงผู้เดียว
“นี่ข้าไม่ได้โดนวางยาหรอกหรือนี่ เมื่อคราวก่อนกับคุณลุงก็มิใช่เพราะอาคมด้วย นี่แสดงว่าข้าเงี่ยนเพราะสันดานของข้าเองสินะเนี่ย โธ่เอ๋ย การะเกดนะการะเกด โดนเย็ดแค่ทีสองทีก็ติดใจรสควยเสียแล้วหรือนี่ เฮ้อ กลุ้มใจจังวุ้ย”
การะเกดบ่นพึมพำกับตัวเอง แล้วก็ลงมาเจอบ่าวทั้งสี่คนนั่งรอท่าอยู่ด้านล่างแล้ว
“พี่ผิน พี่แย้ม จวง จิก เป็นยังไงบ้าง ข้าเป็นห่วงพวกเจ้าเหลือเกิน” หญิงสาวรีบถามเพราะหลวงศรียศบอกว่าบ่าวของหล่อนถูกลากไปข่มขืน
“มิเป็นไรนี่เจ้าคะ พวกบ่าวก็ได้ทหารของคุณหลวงเป็นธุระจัดหาหยูกยามารักษาแผลที่ไปตบตีกับจีนเฝ้าซ่องมาจนทุเลาแล้วเจ้าค่ะ จากนั้นก็ไปช่วยพ่อค้าแม่ค้าแถวนี้จัดข้าวของที่กระจัดกระจายเพราะทะเลาะกัน จนเสร็จแล้วก็เพิ่งมารอแม่นายนี่แหละเจ้าค่ะ” นังผินสาธยายอย่างละเอียด เล่นเอาการะเกดเมื่อได้ยินก็อ้าปากเหวอทันที
“โธ่เว้ย มีแต่ข้าคนเดียวเหรอเนี่ยที่โดนโล้สำเภาจนปากอ่าวแทบฉีก โอ๊ย...เซ็งโว้ย”
บ่นกับตัวเองเสร็จการะเกดก็รีบเดินไปขึ้นเรือทันที ปล่อยพวกบ่าวที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยวิ่งตามจนเกือบไม่ทัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น