เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับชีวิตครอบครัวคนธรรมดาๆอย่างผม..โดยมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นและกำลังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องที่ทำให้เมียผมเปลี่ยนไปจนกู่ไม่กลับ..ซึ่งผมได้รับรู้จากข้อมูลทั้งทางตรงและทางอ้อม..ไม่ว่าจะจากคำบอกเล่าของพยานบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์หรือผู้รับฟังคนอื่นเล่าต่อมา..รวมทั้งจากเครื่องมืออีเล็คทรอนิกส์ที่ผมติดตั้งไว้แอบถ่ายภาพและดักฟัง..และจากไดอารี่ลับส่วนตัวภาษาอังกฤษของเมียผมที่เธอบันทึกเรื่องราวต่างๆไว้ค่อนข้างละเอียดในโน๊ตบุ๊คของเธอเองซึ่งผมนำมาปะติดปะต่อเรียบเรียงมาเล่าให้ฟังเป็นข้อมูลให้เพื่อนๆชาวเวปสวิงได้อ่านกัน..แต่คงต้องขอออกตัวไว้ก่อนเลยนะครับว่า..ผมไม่ใช่นักแต่งมืออาชีพอย่างเพื่อนสมาชิกหลายๆท่านที่มีผลงานน่าติดตามมาตลอด..แต่จะพยายามเล่าเรื่องจริงที่เกิดขึ้นให้เพื่อนๆเข้าใจลำดับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นโดยอาจมีการจินตนาการเสริมแต่งรายละเอียดต่างๆเข้าไปบ้างตามข้อมูลเท่าที่มีอยู่..และจะพยายามลงรูปจริงเท่าที่หาได้และเหมาะสมมาประกอบเพื่อให้เห็นภาพเท่าที่จะทำได้
ตอนที่1 จุดเริ่มต้นของการเดินทาง
เมียผมเป็นคนเกาหลีอายุ 42 ชื่อคิม..เธอเคยเป็นครูสอนโรงเรียนนานาชาติที่กรุงโซล..เราแต่งงานกันและย้ายกลับมาอยู่เมืองไทยตั้งแต่ปี1998..และเนื่องจากผมแก่กว่าเมียอยู่หลายปีจึงค่อนข้างจะตามใจเธอมากจนเพื่อนๆผมชอบล้อว่ากลัวเมีย..ซึ่งก็คงจะจริงเพราะหลังจากมีลูกคนที่2 แล้ว..ผมก็ทำแต่งานไม่ค่อยออกไปเจอเพื่อนเลย..นานๆทีไปกินข้าวกับเพื่อนทีเมียผมก็มักจะงอนเพราะเธอไม่ชอบให้ผมออกไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วทิ้งเธอดูแลลูกและบ้านคนเดียว..เรียกได้ว่าตั้งแต่มาอยู่เมืองไทยได้15 ปีมานี้..เธอไม่คบคนไทยเป็นเพื่อนเลยสักคน..ไปไหนมาไหนก็ไปกับผมและลูกๆเท่านั้น..จนบางครั้งผมยังรู้สึกว่าเมียผมดูออกจะชอบทำตัวหยิ่งๆและชอบพูดจาดูถูกคนไทยบ่อยๆ..
สิบกว่าปีที่ผ่านมา..เรา 2 คนผัวเมียก็มีชีวิตครอบครัวเหมือนคนปกติ..เพียงแค่ไม่ค่อยคบค้าสมาคมกับใคร..อยู่กันแบบครอบครัวเล็กๆพ่อแม่ลูก..โดยที่เมื่อก่อนผมทำงานในธุรกิจซื้อขายอะไหล่เก่ารถยนต์ของครอบครัวกับพี่ชายผม..แต่พอลูกๆเริ่มโตเข้าร.ร.ก็เริ่มขยับขยายแยกออกมาซื้อที่เพิ่มปลูกบ้านแล้วทำออฟฟิตและโกดังเก็บอะไหล่เองภายในบริเวณบ้าน..ซึ่งนั่นเกิดขึ้นเมื่อประมาณ2 ปีที่แล้วและเป็นจุดที่ทำให้ชีวิตครอบครัวปกติของเราเกิดการพลิกผันจนสุดขั้ว..การทำธุรกิจเองคนเดียวโดยไม่พึ่งระบบกงสีทำให้เรามีรายได้ดีขึ้นมากแต่ต้องแลกกับการที่ผมต้องเดินทางไปติดต่อซื้อขายเองบ่อยครั้งทั้งในเมืองไทยและตปท..โดยทิ้งเมียไว้ที่บ้านกับลูกๆ..โดยภายในตัวบ้านยังมีเอ๋สาวใช้วัย 18..และบังอรแม่ครัวสาวใหญ่วัย 50..อยู่เป็นเพื่อนคอยรับใช้เวลาผมไม่อยู่..
เล่ามาถึงตรงนี้ก็ต้องอธิบายข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้เพื่อนๆเข้าใจสภาพภายในบ้านผมก่อน..บ้านผมมีเนื้อที่2 ไร่..ตัวบ้านเป็นตึก 3ชั้น..ชั้นล่างภายในเป็นห้องรับแขก ห้องดูทีวี และมีห้องครัว มีทางเชื่อมต่อกับส่วนที่เป็นห้องคนใช้3 ห้อง..โดยเป็นห้องของเอ๋สาวใช้กับห้องของบังอรแม่ครัว..และยังมีนิดสาววัย 26 พนักงานบัญชีของเราที่ขอมาอาศัยอยู่ชั่วคราวเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางเฉพาะในช่วงวันทำงาน..ชั้น2 เป็นห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัว 4ห้อง..ชั้น 3 เป็นห้องพระกับห้องทำงานส่วนตัวของผม..ซึ่งผมมักทำงานและนอนในห้องนี้เป็นปกติ..ยิ่งลูกโตขึ้นยิ่งไม่ค่อยได้ลงไปนอนกับเมียสักเท่าไหร่..ก้อคนมันต้องทำงานหนักหาเลี้ยงลูกเมียจนบางครั้งก็ลืมทำหน้าที่ผัวที่ดีไป..ทางซ้ายของบ้านสร้างเป็นออฟฟิต..มีโรงรถกั้นกลางสามารถมองจากชั้น3 ของบ้านไปยังด้านหน้าประตูออฟฟิตได้ชัดเจน..และด้านหลังเป็นโรงเก็บอะไหล่และเรือนไม้บ้านพักคนงาน5 ห้อง..มีคนงานที่พักอยู่ชื่อ เอ็ม ยาว เฉย ทด และจอนซึ่งล้วนเป็นคนอีสาน..โดยมีไอ้เอ็มหนุ่มอีสานวัยฉกรรจ์ประมาณ 26-27 เชื้อสายขแมร์จากสุรินทร์ รูปร่างล่ำดำบึกเป็นหัวโจกของกลุ่ม ..
แรกๆเมียผมก็ยังไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับงาน..แค่อยู่บ้านรับ-ส่งลูกและช้อปปิ้งไปวันๆเหมือนเคย..ทุกอย่างดูเหมือนจะลงตัวไปได้สวย..แต่แล้ววันหนี่ง(13 เม.ย.55) ผมกลับมาจากวิ่งประมูลงาน ตจว.เมียผมก็มาบอกผมว่า..เธอได้ไล่นิดสาวพนักงานบัญชีออกไปแล้วและเธอบอกจะทำบัญชีให้ผมเองแทนนิดที่ถูกเธอ“เฉดกบาลออกไปจากบ้านด้วยเหตุผลว่า ร่านผู้ชาย”!?!
ด้วยความสงสัยและกังวลกับเหตุการณ์ที่คลุมเครือ..ผมจึงพยายามถามรายละเอียดจากเมียผม..แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่ยอมอธิบายให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น..และเริ่มทำหน้างอปรายสายตาดุๆที่ผมคุ้นเคยเพื่อตัดบทการสนทนาของเราลง..จนผมเริ่มแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้นที่บ้านระหว่างที่ผมไม่อยู่..แล้วนิดพนักงานบัญชีที่ทำงานกับเรามาหลายปีตั้งแต่ยังเรียนไม่จบจะไปร่านกับใครที่ไหน?..แล้วทำไมเมียผมเลือกที่จะไล่นิดออกแบบปัจจุบันทันด่วนโดยไม่รอปรึกษากับผมก่อน..
เพื่อนๆลองทายดูซิว่านั่นเป็นเพราะอะไร?..และนี่จะใช่จุดเริ่มต้นของการเดินทางไปสู่บ่วงกามอันโสมมที่ไม่แบ่งชนชั้นวรรณะของเมียผมกับพวกคนงานหรือเปล่า
ตอนที่2 ฤๅเป็นพรหมลิขิต
ข้อมูลจากไดอารี่เมียผมที่ผมค้นพบและแอบเซฟมาเก็บไว้อ่านเมื่อไม่นานมานี้ทำให้ทราบว่าเหตุการณ์ “ร่านผู้ชาย” ของนิดนี่เอง..ที่เป็นจุดเริ่มต้นของทางเดินไปสู่บ่วงกามอันโสมมที่ไม่แบ่งชนชั้นวรรณะของเมียผมกับพวกคนงาน..ความเหงาและความอ่อนไหวของเมียผม..บวกกับเหตุการณ์นี้ที่กระตุ้นความต้องการทางเพศเธอจนพุ่งพล่านที่บังเอิญไปเจอ..
เรียบเรียงมาจากข้อมูลในไดอารี่ของเธอ..
8 เม.ย.55 เวลาตี 1 ครึ่ง..คิม..เมียผมตกใจตื่นขึ้นมาจากฝันร้ายเรื่องเดิมๆที่คอยวนเวียนเข้ามาในห้วงพะวังความคิดของเธอยามหลับใหล..(ตั้งแต่แรกย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านใหม่หลังนี้เกือบ2 ปีแล้ว..เมียผมก็มักฝันร้ายว่ามีชายผิวดำรูปร่างใหญ่ล่ำพยายามไล่ทำร้ายเธอเป็นประจำ..มีบางครั้งที่ผมตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงเธอนอนร้องไห้สะอึกสะอื้นตัวสั่นเทาเพราะตื่นจากฝันร้าย..ซึ่งสาเหตุคงมาจากการที่เธอต้องนอนอ้างว้างคนเดียวบ่อยมาก..แต่มีสิ่งหนึ่งในความฝันที่เกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมาตลอดโดยที่เธอไม่เคยบอกกับผมเลยคือ..ในฝัน..ไม่ว่าเธอจะพยายามต่อสู้หรือวิ่งหลบหนีชายร่างใหญ่นั้นแค่ไหนก็ตาม..สุดท้ายมันก็จะตามจับเธอจนได้..และทุกครั้งก็จะจบลงด้วยการที่เธอโดนมันข่มขืนอย่างบ้าคลั่งเสมอ..นี่เป็นความลับที่ผมไม่เคยล่วงรู้มาเกือบ2 ปีจนกระทั่งได้อ่านไดอารี่ของเมียผม)..คืนนี้ก็เช่นกัน..เมียผมถูกปลุกให้ตื่นด้วยฝันน่ากลัวเรื่องเดิมๆที่คอยวนเวียนมาให้ตื่นกลัว..เธอลุกออกจากเตียงเดินไปดูลูกน้อยทั้ง2 ในอีกห้องหนึ่ง..นั่งที่หัวเตียงเฝ้าดูลูกที่เติบโตขึ้น..และกำลังจะต้องไปเรียนประจำที่เกาหลีในอีกไม่อีกเดือน..
และคงเป็นพรหมลิขิตที่ถูกกำหนดให้เป็นไป..ระหว่างทางเดินกลับไปยังห้องนอนก็เหมือนมีใครมาดลใจให้เธอเหลือบมองผ่านหน้าต่างฝ่าความมืดลงไปยังด้านล่างที่เป็นห้องคนใช้..ทันใดนั้นใจเธอก็หายวูบอย่างตกใจเมื่อมองเห็นเงาดำยืนทะมึนอยู่ที่ด้านล่าง..แวบนึงที่เธอกำลังตะลึงหยุดมองอยู่ที่หน้าต่าง..เธอรู้สึกคล้ายกับร่างดำทะมึนนั้นได้เงยหน้าขึ้นมองมายังหน้าต่างที่เธอยืนอยู่..เมียผมผวาเข่าอ่อนทรุดลงนั่งด้วยความตกใจกลัว..เมื่อตั้งสติได้เมียผมก็ค่อยๆลุกขึ้นยืนแล้วมองเพ่งลงไปที่เดิม..เงาร่างที่เห็นหายไปแล้ว..เมียผมพยายามกวาดสายตามองผ่านความมืดลงไป..กลับเห็นแสงไฟสาดทะลุผ้าม่านออกมาจากห้องของนิดสาวพนักงานบัญชี..ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงรีบเข้านอนไม่กล้าทำแผลงลงไปดูเองแน่..แต่นิสัยดื้อรั้นแบบเมียผมทำให้เธอย่องแอบไปดูด้วยความสงสัย..และสิ่งที่เธอเห็นลอดช่องผ้าม่านเข้าไปภายในห้องของสาวนิดก็ทำให้คิมสาวใหญ่วัย41 อย่างเมียผมถึงกลับตาค้างตะลึงงันจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างเขม็ง
ภาพร่างอันเปลือยเปล่าของนิดสาวบัญชีจบดีกรีปริญญากำลังนอนอ้าให้ไอ้ยาวหนุ่มคนงานอีสานไม่มีหัวนอนปลายตีนจับยกล้อด้วยท่าพิสดาร..มันกระซวกท่อนควยแท่งยาวดำเข้าออกรูหีของเธออย่างรุนแรงแบบเน้นๆจนหัวสั่นหัวคลอน..หัวนมของเธอตั้งเด่ปากห่อร้องครางอย่างสุดกระสัน..
ตอนที่3 ความเงี่ยนไม่เคยปรานีใคร
ภาพและเสียงการสมสู่กันแบบหนักหน่วงรุนแรงที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าเมียผม..ทำให้เธอยืนตะลึงเบิกตากว้างจ้องลอดผ่านรอยแยกของผ้าม่านเข้าไปเหมือนถูกสะกด..ควยขนาดข้อมือเด็กที่ดำยาวของไอ้ยาวกำลังทะลวงเข้าออกในรูหีของนิดอย่างเต็มสูบแบบไม่ยั้ง..ร่างอันเปลือยเปล่าของนิดถูกไอ้ยาวอัดถล่มอย่างต่อเนื่องไม่มีการปรานี..ทุกดอกที่กระแทกลงไปล้วนรุนแรงหนักแน่นราวกับโกรธแค้นกันมา..เสียงสบถด่าทออย่างหยาบคายพ่นออกจากปากของไอ้ยาว“อีเหี้ยเอ้ย..ทำหยิ่งดีนัก..อย่างมึงมันต้องโดนเย็ดหนักๆแบบนี้ถึงจะสะใจมึง..เป็นไงล่ะมึง..ควยกูเข้าไปกระทุ้งมดลูกมึงสุดๆแบบนี้สะใจมึงมั้ย..อีสัตว์นิด..กูจะเย็ดมึงให้น้ำแตกหมดตัวเลยคืนนี้”..ไอ้ยาวพูดยังไม่ทันขาดคำร่างเปลือยเปล่าของนิดก็เกร็งตัวแอ่นร่างกระตุกขึ้นราวกับโดนไฟช็อต..เธอห่อปากครางอย่างโหยหวน“อูยยยยย..แตกอีกแล้ววววววววว..โอยยยยยยยยยยย”..ไอ้ยาวเห็นดังนั้นแทนที่มันจะผ่อนการกระแทกเบาลง..มันกลับหัวร่อร่าอย่างสะใจที่เห็นนิดเสร็จน้ำแตกกระจายคาท่อนควยของมัน..มันจับขาข้างหนึ่งของเธอยกขึ้นชี้เพดานแล้วอัดถล่มท่อนควยใหญ่ยาวเข้าไปสุดๆแล้วถอนออกมาอัดซ้ำไปจนมิดด้ามซ้ำแล้วซ้ำอีก..จนนิดร้องลั่นด้วยความเจ็บและเสียวสุดใจ..
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังรัวถี่ยิบ..เสียงร้องครวญครางอย่างโหยหวนของนิดที่กำลังน้ำแตกคาควยไอ้ยาวอย่างบ้าคลั่ง..ภาพและเสียงนั้นช่างดูรุนแรงป่าเถื่อนอย่างที่เมียผมไม่เคยเห็นหรือสัมผัสมาก่อน..ความโหดเถื่อนหยาบของการสมสู่ที่ยังคงดำเนินอยู่ตรงหน้าบวกกับความเหงาปล่าวเปลี่ยวใจ..ทำให้สติสัมปชัญญะของเมียผมเริ่มถูกความเงี่ยนความอยากคืบคลานเข้ามาครอบงำ..โดยที่ไม่รู้ตัว..เมียผมรู้สึกขนลุกซู่เมื่อพบว่ามือซ้ายของตัวเองกำลังลูบไล้เต้านมมหึมาจนหัวนมเริ่มตั้งโด่ชูชันราวจะทะลุออกมาจากเนื้อผ้าชุดนอนที่แสนจะบางเบา..เธอรู้สึกถึงความร้อนวิ่งวูบลงไปที่ท้องน้อยเรื่อยลงไปสู่เนินเนื้อที่อวบอูมกลางหว่างขา..ความรู้สึกเบลอๆคล้ายกับคนหน้ามืดจะเป็นลม..แต่สองตาสองหูยังคงเปิดรับภาพและเสียงการสมสู่ที่แสนจะปลุกเร้ากระตุ้นอารมณ์จนเตลิด..และแล้ว..ไม่รู่ว่าผีห่าซาตานตนใดเข้าสิง..เมียผมค่อยๆเอื้อมมือขวาลงไปสัมผัสร่างกายตัวเองใต้ชุดนอน..
และในทันทีที่เธอแหกขาล้วงมือลงไปยังร่องหีที่ชุ่มช่ำของตัวเอง..เพียงสัมผัสแรก..น้ำเงี่ยนเมียผมก็พลันแตกทะลักออกมาเองอย่างมากมายจนไหลนองลงมาตามง่ามขา..ร่างเธอยืนเกร็งกระตุกสั่นผับๆราวกับถูกผีเข้า..ความเสียวกระสันพุ่งพล่านขึ้นถึงขีดสุดไปทั่วร่างจนแทบระเบิด..เหงื่อกาฬแตกชุ่มชะโลมร่าง..เงี่ยนง่านเสียจนเธอต้องใช้มือขยี้ขยำเต้านมตัวเองอย่างสุดแรงจนแทบแหลกรานคามือเพื่อบรรเทาความกำหนัด..น้ำเงี่ยนแตกออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าจนเข่าอ่อนทรุดตัวลงกับพื้น..นี่เป็นการถึงจุดสุดยอดแบบรุนแรงและต่อเนื่องยาวนานที่สุดเท่าที่เธอเคยเป็น(บันทึกไว้ในไดอารี่ว่า “It’sa shocking shame, but that was the best weird orgasm I’ve ever experienced inmy whole life!!”) และนี่คงเป็นรอยจารึกกามที่จะประทับอยู่ในความทรงจำของเมียผม..และความเสียวซ่านสุดบรรยายนี้จะคอยปลุกเร้ากระตุ้นความเงี่ยนที่ซ่อนฝังลึกอยู่ในจิตใต้สำนึกให้พวยพุ่งออกมานำเธอให้ถลำดำดิ่งลงสู่บ่วงกามอันโสมมที่ไม่แบ่งชนชั้นวรรณะต่อไป..
ปล.ท่ามกลางความมืดมิดที่มีเพียงแสงไฟลอดผ้าม่านออกมาเพียงสลัวๆสาดส่องลงมายังร่างอันชุ่มโชกด้วยเหงื่อและน้ำเงี่ยนจนเนื้อตัวเป็นมันวาวของเมียผมที่กำลังทรุดนั่งหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน..มีสายตาคู่หนึ่งที่ได้แอบจ้องมองพฤติกรรมการกระทำของเมียผมอยู่อย่างเงียบเชียบมาโดยตลอดตั้งแต่แรกเริ่มจนกระทั่งถึงตอนนี้..ก็พลันส่งเสียงแค่นหัวเราะออกมาอย่างเยาะเย้ยสะใจ
“หึ..หึ”
ร่างกึ่งเปลือยของเมียผมถึงกับสะดุ้งสุดตัวแล้วหันขวับไปตามเสียงนั้น..ภาพที่เห็นทำให้เธอถึงกับใจหายวาบเมื่อเห็นเงาดำที่หน้าต่างอีกบานหนึ่งที่เป็นห้องติดกันก่อนขยับวูบหายไปในความมืดภายในห้องที่เป็นของบังอรสาวใหญ่ผู้เป็นแม่ครัว..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น