สวัสดี ผมชื่อ กิ่ง ครับ ผมก็เป็นนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาคนนึง พ่อแม่เป็นคนกรุงเทพฯ แต่ย้ายไปทำงานต่างจังหวัด ผมเป็นคนง่าย มีงานอดิเรกเป็นการสะสมหนังโป๊ญี่ปุ่น เพื่อน ๆ ยกย่องให้คนหื่นหลบในแบบผมเป็นโคตรกูรู เห็นขอบปกก็แทบจะตอบได้ว่ามาจากหนังรหัสอะไร ดาราคนไหนแสดง ผมเองจริง ๆ ก็อยากมีความแฟน อยากมีชีวิตวัยรุ่นทั่ว ๆ ไป แต่ที่บ้านผมอยู่ต่างจังหวัด พ่อแม่อยากให้เรียนโรงเรียนที่เคยเรียนเมื่อตอนเด็กในกรุงเทพฯ ก็เลยจัดการเช่าอพาร์ทเมนต์ให้ผมมาอยู่คนเดียว
ตอนนี้อยู่ม. 6 แต่เพิ่งจะมีคนตกลงเป็นแฟนกัน เธอชื่อ พลอย อยู่ม. 6 เหมือนกัน แต่คนละโรงเรียน โรงเรียนของพลอยเป็นโรงเรียนหญิงล้วนเลยไม่มีผู้ชาย ไม่งั้นเธอคงมีแฟนไปแล้ว
พลอยเป็นคนน่ารัก ตัวเล็ก ผมดำยาวถึงกลางหลัง คิ้วเข้ม ตาโต ริมฝีปากเรียวบาง ดูแบ๊ว ๆ ตามสมัยนิยม ที่สำคัญหน้าอกใหญ่มาก พลอยมักจะใส่เสื้อตัวใหญ่ ๆ แต่ผมดูออก เพราะเวลาใส่เสื้อพละ หน้าอกของพลอยมันจะค้ำเสื้อจนชายเสื้อนั้นลอยห่างจากหน้าท้องของพลอยมากพอดู เท่าที่กะด้วยสายตา พลอยนอกจากอกใหญ่แล้ว สะโพกก็น่าจะไม่ธรรมดาด้วย แต่เอวอาจจะหนาไปหน่อยไม่ได้คอดกิ่วแบบดาราหนังโป๊ที่เราเห็น ๆ กัน
ผมกับพลอยไปด้วยกันได้ดี เราคบกันมาราว ๆ 2 เดือนแล้ว ไปเที่ยวดูหนังกินข้าวกันตามประสาวัยรุ่นทั่ว ๆ ไป ใจจริงผมและพลอยเราก็ใจตรงกัน เรามีความต้องการลึก ๆ อยากรู้อยากลองเรื่องเซ็กส์เหมือนกัน ทุกอย่างเหมือนจะง่าย แต่ปัญหาของเรามันไม่ได้ลงตัวง่าย ๆ เพราะอพาร์ทเมนต์ที่ผมอยู่นั้น ผนังบางมากแถมเจ้าของก็เป็นเพื่อนแม่ผมอาจจะโดนรายงาน ส่วนบ้านของพลอยก็มีพี่สาวอีก 2 คน ทำให้เรายังไม่สบโอกาสที่จะได้ลองทำกันเสียที
วันหนึ่งในช่วงก่อนสอบ พลอยชวนผมไปติวหนังสือที่บ้าน พลอยเป็นคนเรียนดี แต่ภาษาเลขไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ ส่วนผมก็ไม่ค่อยคล่องภาษาอังกฤษนัก ซึ่งพลอยเขาถนัดก็ต้องให้พลอยช่วยสอนด้วย ทำให้ผมได้เจอพี่สาวทั้ง 2 คนของพลอยในวันนั้น
บ้านของพลอยเป็นบ้านเดี่ยว รอบมีต้นไม้รอบบ้านทึบ บ้านเป็นไม้ผสมปูนดูท่าทางจะผ่านลมผ่านฝนมานานทีเดียว เมื่อผมเดินเข้าบ้าน เจอพี่สาวคนหนึ่งท่าทางจะเป็นพี่สาวคนโตของพลอย
“กิ่ง นี่พี่จันนะ พี่สาวคนโตของเรา” พลอยแนะนำ อย่างเสียมิได้ ดูจะไม่เต็มใจนัก
“สวัสดีครับ พี่จัน” ผมก็ยกมือขึ้นไหว้ตามมารยาท
“...” จัน พี่สาวของพลอยไม่พูดอะไร เพียงแค่ยิ้มรับแล้วเดินคนของเหลวสีดำในแก้วกาแฟเดินผ่านไป พลอยก็ทำท่าทางไม่สนใจแล้วจูงผมเดินเข้าไปนั่งในบ้าน
“พลอย นี่โกรธอะไรกันอยู่เหรอ” ผมเอ่ยถามเบา ๆ
“เดี๋ยวเล่าให้ฟังนะ” พลอยตอบปัดคำถามของผม แล้วพาผมไปที่ห้องนั่งเล่นในบ้าน ตรงนั้นมีโต๊ะกินข้าว เก้าอี้ โซฟาและโทรทัศน์วางอยู่ใกล้ประตู
“พี่อร นี่กิ่งมาติวหนังสือกับหนูนะ” พลอยแนะนำพี่สาวอีกคนให้ผมรู้จัก
“สวัสดีครับ พี่อร” ผมยกมือไหว้อีกครั้ง แต่คราวนี้เหมือนจะได้รับการตอบรับดีกว่าพี่จัน
“ดีจ้า พี่ชื่ออร อรรวี พี่สาวพี่ชื่อ จันจิรา ส่วนน้องสาวพี่ชื่อ พลอย พรทิวา เอ้อ รู้จักกันแล้วเนอะ ตามสบายนะ” พี่อร เดินเข้ามารับไหว้และพูดแนะนำเรื่อยเปื่อยแบบไม่เว้นจังหวะให้พูดตอบเลย ก่อนจะหันควั่บกลับไปนั่งแปะที่โซฟาหน้าโทรทัศน์เช่นเดิม
“เออ พลอย พี่ว่าเพื่อนพลอยหน้าคุ้น ๆ นะ” พี่อร พูดลอย ๆ ขึ้นมาหลังนั่งลงมองหน้าผม ตอนเดินไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว เพื่อติวหนังสือกับพลอย
“พี่ไม่ต้องสนใจหรอก งี้ตัวเอง เริ่มที่เลขก่อนแล้วกันเนอะ” พลอยตอบผ่าน ๆ ไม่อยากให้สนใจ และชวนให้เริ่มอ่านหนังสือสอบ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วอาจเป็นเพราะผมได้ใช้เวลาใกล้ชิดกับพลอยได้มองหน้า ได้หายใจใกล้ ๆ กัน เป็นความสุขแบบวัยรุ่น แบบที่ผมก็ไม่แน่ใจว่าที่อ่านหนังสือมันเข้าหัวไม๊ แต่ที่แน่ ๆ เสื้อยืดบาง ๆ คอกว้างของพลอย มันเผยให้เห็นเนินอกนูนเนียน บ่อยครั้งจนผมต้องพยายามลดสายตาลงไปมองหนังสือจนพลอยนั้นสงสัยว่าทำไมผมเอาแต่ก้มหน้าก้มตา พลอยนั้นยิ้มเขิน ๆ คอยสะกิดแซวเป็นระยะ จนผมชักจะไม่ไหวในความน่ารักของเธอ ก่อนมาผมก็คิดว่าคงไม่มีใครอยู่บ้าน ทึกทักไปเองว่าจะได้เผด็จศึกแฟนสาวเสียที ผมก็อดทนไม่ปลดปล่อยมาทั้งอาทิตย์ ที่ไหนได้ดันมีพี่สาวอยู่ตั้ง 2 คนแบบนี้ทำเอาผมอัดอั้นจนทะลุขีดจะทนได้ ต้องขอไปปลดปล่อยในบ้านแฟนนี่แหละครับ
“พลอย ขอไปห้องน้ำแป๊บนึงนะ” ผมพูดด้วยท่าทางรน ๆ
“ห้องน้ำอยู่ที่สุดทางเดินนี่แหละ ให้พาไปไม๊?” พลอยบอกทางพร้อมปล่อยคำถาม
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวกลับมานะ" ผมเดินไปตามทางที่พลอยชี้บอก ก็เห็นประตูแง้มอยู่บานหนึ่ง เข้าใจว่าคงเป็นห้องน้ำผมถอนหายใจเฮือกใหญ่เดินเข้าไป
“กรี๊ดดด!! “ ภาพพี่จันกำลังดึงกางเกงขาสั้นพร้อมกางเกงในขึ้นมาจากหัวเข่า ขณะลุกขึ้นจากโถส้วมปรากฎตรงหน้า ทำเอาผมถอยกรูดหลังชนฝาบ้านอย่างตกใจ
“พี่จัน.... เอ่อ ผม.. คือว่า... ไม่ได้ตั้งใจ” ผมพยายามแก้ตัวอย่างละล่ำละลัก
“....“ พี่จันไม่พูดอะไร แต่หน้านั้นแดงกล่ำ กัดริมฝีปากแน่น รีบดึงกางเกงขึ้นแล้วปิดประตูด้วยใบหน้าแดงกล่ำ แล้วกระแทกประตูดังปังใหญ่ จนพลอยโผล่หน้าออกมาดู
“กิ่งมีอะไรรึเปล่า” พลอยส่งเสียงถามจากขอบประตู
“เอ่อ... อ๋อ พอดีตกใจลมมันพัดประตูกระแทกหนะ” ผมที่ยืนพิงผนังอยู่ก็รวบรวมสติแก้ตัวตอบไป
“จ๊ะ เออใช่ กิ่ง กลอนประตูมันเสียตั้งแต่เมื่อวันนี้นะล็อคไม่อยู่ ก็คอยปิดด้วยหละ” พลอยพูดจบก็หายตัวจากกรอบประตูไป
“...บ้า... ทำไมไม่บอกกันก่อน....” พี่จันแง้มประตูออกมา คงจะได้ยินที่พลอยบอก บ่นด้วยเสียงเบา ๆ
“พี่จัน... เอ่อ ผมขอโทษนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ” ผมพยายามแก้ตัว แต่พี่จันยิ้มเจื่อน ๆ โบมือแล้วเดินออกจากห้องน้ำไป
“เฮ้ออ หดหมดงานนี้ .... พี่จันนี่ก็หุ่นดีเหมือนกันนะเนี่ย... ฮึ?? เสียงอะไร เฮ้ยยย” ผมเข้าไปในห้องน้ำ ปิดประตูแล้วนั่งลงถอนใจ
ขณะนั่งอยู่นั้นผมก็ไปนึกถึงใบหน้ารูปไข่ที่แดงกล่ำด้วยความเขินอาย ผมดำขลับยาวประบ่า และรูปร่างอันบอบบางของพี่จัน หน้าอกที่เสื้อยืดนั้นปกปิดอยู่อย่างรัดรูปจนเห็นทรวดทรงโค้งเว้า เอวที่คอดบาง สะโพกผายกลมตึง ต้นขาที่ขาวเนียน แม้จะเป็นพี่สาวที่อายุมากกว่า ราว ๆ 6 ปี เห็นจะได้ แต่ก็ไม่ใช่สาวใหญ่อะไร เซ็กซี่มาก ๆ อีกต่างหาก คิดแล้วผมก็บังเกิดอารมณ์ขึ้นมาอีกรอบ แต่จู่ ๆ ผมก็สังเกตว่าในห้องน้ำมีเสียงหวี่ ๆ ดังอยู่ ผมพยายามมองหาที่มาของเสียง อยู่ครู่หนึ่ง ก็เจอที่มาของเสียง ผมอุทานออกมาเบา ๆ ผมหยิบมันขึ้นมาดู ร้อง “เฮ้ย” ด้วยความตื่นเต้น มันเป็นของบางอย่างรูปหัวใจ แต่ตรงแหลมของรูปหัวใจนั้นกลับเป็นหยักคล้ายคลิปหนีบ แถมมันยังสั่นแรงมาก ผมรู้ได้ทันทีด้วยสัญชาติญาณนักสะสมหนังโป๊ญี่ปุ่นตัวยง... สิ่งนี้มันคือ ไข่สั่น แถมยังเปิดค้างอยู่ด้วย ผมหยิบมันขึ้นมาลูบสำรวจดูก็เจอของน่าสนใจ คือมันเปียกลื่น... ว่าแล้วผมก็คลำหาปุ่มปิดจนเจอ พิจารณามันใกล้ ๆ ตัวของไข่สั่นนั้นทำจากซิลิโคน ตรงกลางรูปทรงคล้ายหัวใจมีปุ่มซ่อนอยู่ใต้ซิลิโคน ผมกดมันดู ไข่สั่นมันก็หยุดสั่น ผมถอนหายใจ ผมยัดมันเข้ากระเป๋ากางเกงแล้วเดินออกจากห้องน้ำไป ก่อนที่พลอยจะผิดสังเกต ผมนั่งลงที่โต๊ะอย่างเงียบ ๆ พยายามรวบรวมสมาธิอ่านหนังสือ ท่าทางวันนี้ผมจะไม่สามารถอ่านหนังสือต่อไปได้อีกแล้ว จินตนาการของผมเตลิดเปิดเปิงไปไกลเสียแล้ว คงยากจะคุมให้อยู่แล้ว
“พลอย ... เราปวดหัว เราว่าวันนี้เรากลับก่อนดีกว่า” ผมพูดไปพลางกลืนน้ำลายเหนียวคอไปพลาง
“จู่ ๆ ไม่สบาย ไปหาหมอป่าว พลอยไปเป็นเพื่อนนะ” พลอยทำหน้ากังวลขณะพูดขึ้น
“ไปเป็นแฟนเห้อออ น้องเอ๊ยยย จะมานั่งแช่คานในเฟรนโซนทำไม” พี่อรส่งเสียงทักแทรกขึ้นทันที
“พี่อรหนะเงียบไปเลย ตัวเองคานแล้วอย่ามาแช่งคนอื่นเลย” พลอยตอบ ด้วยท่าทางเขิน ๆ
“พี่อะนะคาน พี่สวยเลือกได้ต่างหาก” พี่อรตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ ซึ่งก็จริง พี่อรก็เป็นคนสวยมาก จริง ๆ ต้องบอกว่าสวยทั้ง 3 ใบเถาเลยต่างหาก
“แล้วกิ่งว่าเราสวยไม๊?” พลอยหันมายิงคำถามทันที... เล่นเอาผมใบ้กิน
“เอ่อ... ก็...” ผมลังเลที่จะตอบทั้งที่จริง ๆ ก็คิดว่าไม่สวยแล้วจะจีบเหรออยู่ในใจ
“ชักช้า! ตอบเร็ว ๆ ซี่” พลอยเร่งให้ผมตอบ
“สวยจ้า” ผมเลี่ยงโดยการกระซิบที่ข้างหูของพลอยเบา ๆ แทนการตอบปกติ
“นี่.. คนไม่สบายเขามากุ๊กกิ๊กกันแบบนี้นะเหรอ...” พี่อรส่งเสียงอีกครั้ง แต่ตาก็ยังจ้องอยู่ที่โทรทัศน์เช่นเดิม
“เรื่องของหนูน่า... เนอะ! กิ่งไปหาหมอกันเนอะ” พลอยดึงตัวแขนผมไปกอด หน้าอกอันอ่อนนุ่มของเธอแนบชิดอยู่ที่แขนของผมอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำเอาผมต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ข่มใจ ไม่ให้กระทำการอุกอาจต่อหน้าพี่สาวของเธอ
“เอ่อ เดี๋ยวเรากลับก่อนก็ได้นะ ไม่สบายอยู่เดี๋ยวเป็นภาระ” ผมกล่าวตอบพลางลุกขึ้น
“เหรอ จะกลับแล้วเหรอ เพิ่งจบไปวิชาเดียวเอง เรายังไม่ได้ติวอังกฤษให้กิ่งเลยนะ” พลอยส่งสายตาเว้าวอน
“...เอ่อ ไว้คราวหน้าก็ได้ ยังมีเวลา” ผมยิ้มกลบเกลื่อนตอบ โดยที่ภายในนั้นอัดอั้นอยากปลดปล่อยจนแทบระเบิดแล้ว
“เหรอ... งั้น...” พลอยทำท่าทางลังเล แต่ก็มีเสียงดังขึ้น
“ก็ให้ขึ้นไปนอนพักที่ห้องสิ บ้านเราก็มียานะ” เสียงของพี่จันนั่นเองที่ตอบแทรกขึ้นมา ผมหันมองไปตามเสียงที่ประตูห้องนั่งเล่น พบพี่จันยืนอยู่แต่ใบหน้ายังแดงเรื่อ ๆ ผมเดาเอาเองว่าพี่เขาคงรู้แล้วว่าผมเก็บเจ้าของเล่นของพี่เขาไป
“พี่จัน... จะดีเหรอพี่” พลอยพูดขัดขึ้นท่าทางลังเล
“เฮ้ออ แล้วแต่พี่แล้วกัน” พี่อรพูดปัดโบกไม้โบกมือแบบไม่สนใจ ผมหันไปมองหน้าพลอย ท่าทางพลอยจะเป็นกังวลพอควร
“ไม่เป็นไรครับ ผมกลับบ้านได้ ขอบคุณพี่จันมากนะครับ ขอตัวก่อนนะครับ สวัสดีครับพี่อร พี่จัน ไปก่อนนะพลอย” ผมกล่าวคำลา แล้วเดินออกไปอย่างช้า ๆ เพราะบรรยากาศอึดอัดขณะพลอยกำลังเก็บของบนโต๊ะ ผมเดินผ่านพี่จันพร้อมได้ยินเสียงกระซิบเบา ๆ
“เอาคืนมา” พี่จันมองผมขณะกระซิบด้วยหางตา แววตาคมกริบ นัยตาลึกลับทำให้ผมกลัว ท่าทางพี่จันจะโกรธจริง ๆ ผมล้วงกระเป๋าแล้วเดินคล้อยหลังออกจากประตูห้องไป ยื่นของ “สิ่งนั้น” ให้กับพี่จันที่ยืนพิงกรอบประตู เธอรับไปโดยไม่พูดอะไร
พลอยเดินตามออกมาส่งผมที่หน้าบ้าน อย่างเงียบ ๆ โดยไม่ได้เริ่มอธิบายอะไร
“พลอย บอกรึเปล่า มีอะไรกันเหรอ?” ผมถามพลอยด้วยความสงสัย
“คือ พลอย ไม่ค่อยถูกกับพี่จันหนะ” เธอตอบพร้อมรอยยิ้มแหย ๆ
“อ้าว พี่น้องกันไม่ใช่เหรอ” ผมตอบเพราะความที่ผมเป็นลูกคนเดียวเลยไม่เข้าใจ แถมรอบตัวพี่น้องคนอื่นเขาก็ดูรักกันดีแท้ ๆ
“มันก็ใช่หรอก แต่ถ้าเรื่องแฟนเนี่ย พี่จันเขามักจะค้านหัวชนฝาเสมอเลย บางคนไม่ยอมให้เข้าบ้าน ทีแรกยังเสียว ๆ เลยนะว่า กิ่งจะโดนตะเพิดออกนอกบ้านไป นี่ยิ่งแปลกใหญ่จะให้นอนพัก พลอยเลยไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น” พลอยอธิบายเหตุผล ที่เธอไม่ค่อยเข้าใจ แต่ผมเข้าใจดีเลย เพราะผมไปเจอความลับของพี่สาวคนสวยเข้าเสียแล้ว
“เป็นอย่างนี้เองเหรอ งั้น....อาทิตย์หน้ามาติวใหม่นะ” ผมทำท่าครุ่นคิดก่อนจะตอบพลอยไป
“ได้จ๊ะ ถ้าไม่สบายไม่ต้องมาก็ได้นะ พลอยไปหาเอง” พลอยเบือนหน้าหนี ขณะตอบ ผมเดาว่าเธอคงจะเขินอยู่
“ได้สิ ห้องเรารกหน่อยนะ อาจจะนั่งไม่สะดวก อาจจะต้องนอนแทนนะ” ผมหยอกกลับ
“คนบ้า! นอนอ่านมันจะไปรู้เรื่องได้ยังไงเล่า” พลอยทุบไหล่ผมเข้าทีนึงแก้เขิน ท่าทางเธอจะเข้าใจว่าผมต้องการสื่ออะไรเหมือนกัน
“บาย ไปก่อนนะ” ผมกล่าวอำลาขณะเดินออกนอกรั้วบ้าน หันกลับไปมองพลอย แต่พอมองเลยพลอยไป ผมก็เห็นพี่จันยืนอยู่หน้ากอดอกอยู่ที่ประตู ด้วยหน้าตาเหมือนรออะไรบางอย่าง
เมื่อกลับมาถึงบ้านในใจผมตอนนี้ได้แต่คิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างไม่เข้าใจว่าจริง ๆ แล้วพี่จันคิดอะไร แต่ยังไงเสียก็คงต้องปล่อยมันผ่านไป ตอนนี้ผมก็ต้องขอปลดปล่อยก่อน ใบหน้าและเนินอกขาว ๆ ของพลอยมันลอยเต็มหัวผมไปหมดแล้ว
หลังจากวันนั้นผมก็ยังพบพลอยหลังเลิกเรียนตามปกติ เรานัดกินข้าวกัน อ่านหนังสือด้วยกันถ้าผลการเรียนผมไม่ดีขึ้นผมคงแปลกใจเป็นแน่ และแล้ววันอาทิตย์ที่ผมรอคอยก็มาถึง ผมจัดเตรียมข้าวของและไม่ลืมที่จะพกถุงยางไปด้วย แน่นอนถ้าพลอยท้องขึ้นมาคงเป็นเรื่องใหญ่น่าดู ผมขึ้นรถเมล์เดินเข้ามาจนถึงหน้าบ้านของพลอย ผมเอื้อมมือไปกดกริ่งแต่ก็ไม่มีใครตอบ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาพลอย แต่เธอก็ไม่รับสายเช่นกัน ทำให้ผมค่อนข้างจะงงว่านัดกันแล้วทำไมไม่อยู่บ้าน ผมเดินกลับออกไปอย่างเสียอารมณ์ แต่พี่อรเดินกลับมาบ้านพอดี
"อ้าว กิ่ง มาทำอะไรละ" พี่อรเอ่ยถามพร้อมใบหน้าแปลกใจ
"พลอย นัดให้มาติวหนังสือครับ แต่ไปไหนก็ไม่รู้" ผมตอบ พร้อมมองหน้าพี่อร
"ยุ่ง ๆ เลยยังไม่ได้บอกใครสินะ พี่จันโดนรถชนเข้าหนะสิ ตอนนี้พี่เปลี่ยนให้พลอยช่วยนอนเฝ้าดูอาการก่อน พี่จะกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้ากับเก็บของให้ พลอยกลับมาอยู่บ้านนะจ๊ะ กิ่งเข้ามารอในบ้านก่อนก็ได้" พี่อรพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล
"งั้นให้ผมช่วยด้วย จะได้ไปที่โรงพยาบาลพร้อมกัน" ผมขันอาสาทันที
"ก็ได้จ๊ะ งั้นเข้ามาสิ" พี่อรเปิดประตูบ้านและเชื้อเชิญให้ผมเข้าไปในบ้าน พี่อรหยิบกระเป๋าและเสื้อผ้ามาจัดแจงวางไว้บนเตียงนอน เพื่อเตรียมของจัดลงกระเป๋า โดยไม่ทันสังเกตว่าเธอยื่นกางเกงในลายลูกไม้ที่แทบจะเป็นกางเกงในซีทรูจีสตริงสุดเซ็กซี่มาให้ผมด้วย เธอรับไปแล้วหันมามองหน้าผม พร้อมหัวเราะแหะ ๆ ก่อนจะก้มหน้าจัดกระเป๋าต่อ
"เอ่อ พี่อรครับ... ผมขอถามอะไรจะได้หรือเปล่าครับ" ผมนึกอะไรขึ้นได้จึงเอ่ยถามขึ้น
"ได้สิ" พี่อรยังคงก้มหน้า ตระเตรียมของต่อ
"พี่จัน ทำไมไม่อยากให้พลอยมีแฟนละครับ?" ผมยิงคำถามตรง ๆ ให้พี่อรตอบเสียเลย ไม่อยากอ้อมค้อม
"ฮ่า ๆ ๆ นี่ก็ตรงเกิ๊นนน เลียบ ๆ เคียง ๆ เป็นรึเปล่าคะน้อง... ฮ่า ๆ ๆ ยัยพลอยน้ารับมาได้ยังไง๊ ผู้ชายทื่อขนาดนี้" พี่อรหันมาทำตาโตก่อนระเบิดหัวเราะในความขวานผ่าซากของผม
"ว่าไงละครับ" ผมทำหน้าจริงจังแล้วตีหน้านิ่งเซ้าซี้ต่อ
"เอาก็เอา คือ แฟนเก่าพี่จันหนะเข้าชื่อ ต้น เขาก็เป็นคนดีแหละ แต่ไม่รู้อีท่าไหน พี่จันมาจับได้ว่า ต้นหนะพยายามจะปล้ำพลอย ตอนพลอยอยู่ป. 4 พี่จันโกรธมาก หลังจากนั้นก็ไม่ยอมให้พลอยมีแฟนอีกเลย พี่ก็รู้เท่านี้แหละ" พี่อรเล่าเรื่องราวอย่างคร่าว ๆ
"งี้ก็ไม่ค่อยแฟร์เลยนะครับ แฟนตัวเองไม่ซื่อสัตย์เอง มาลงกับน้องแบบนี้" ผมทำหน้านิ่วคิ้วขมวดไม่พอใจ
"อีกอย่างนะกิ่ง ควยแฟนพี่จันหนะ ใหญ่มาก เสียวมากด้วย อย่าบอกพี่จันนะ" พี่อรป้องปากกระซิบผมเบา ๆ
"เอ๊ะ งี้พี่อรก็...โดน... พี่ต้น" ผมอึ้งไปครู่หนึ่ง จะว่าตกใจก็ใช่กับสิ่งที่ได้ยิน ไม่คิดว่า ผู้ชายที่ชื่อ ต้น คนนั้นจะกะกินเรียบทั้งบ้านแบบนี้
"เดี๋ยว ๆ พี่ต้นเขาไม่ได้ปล้ำหรอก พี่เห็นพี่จันกับพี่ต้นเขาเอากัน พี่ก็วัยรุ่นนะ อยากรู้อยากลอง ก็เลยไปให้ท่าเขานะสิ" พี่อรตอบแบบเขิน ๆ
"แล้วพี่จันว่าไงละครับ" ผมเกิดสงสัยต่อ
"พี่จันเขาไม่รู้หรอก เขาเอาจนพี่จันหลับไปเลยนะ แล้วมาต่อกับพี่" พี่อรเล่าทำหน้าเคลิ้มไปด้วยขณะเล่า
"แล้วพี่ทำอะไรบ้างละครับ" ผมตาเป็นประกายจ้องหน้าพี่อร ถามต่อทันที
"นี่แน๊!! มันใช่เรื่องเด็กจะรู้ไม๊ ฮึ๊" พี่อรดีดหน้าผากผมจนเป็นรอยแดง แต่ผมก็ไม่ตอบโต้ ใช้เพียงสายตาจ้องมองพี่จันอย่างตั้งใจ
"เฮ้อ เบื่อจังเลยไอ้ลูกตื้อเนี่ย... พี่ก็ไม่ค่อยถูกโรคกับไอ้พวกนี้ด้วยสิ .... โอ้ยยย กลุ้ม พอ ๆ ยอมแล้วพี่จะทำให้ดู" พี่อรบ่นอย่างอารมณ์เสีย แต่ก็เหล่ตามามองผมที่กำลังจ้องหน้าด้วยความตั้งใจ
"อืมมม ฮ่าาา อืมมม" พี่อรประกบปากผมทันที พี่อรค่อย ๆ สอดลิ้นเข้ามาในปากของผมใช้ปลายลิ้นนั้นเขี่ยและปัดลิ้นของผมไปมา พอผมสอดลิ้นเข้าไปในปากของพี่อรบ้าง พี่อรก็ใช้ริมฝีปากเม้มลิ้นของผมและดูดปลายลิ้นของผมและสลับมาจูบแบบเดิมซ้ำอีกรอบ
"พี่อร อืมมม" มือของผมชักอยู่ไม่สุก ผมใช้มือทั้ง 2 ตะปบไปที่หน้าอกทั้ง 2 ของพี่อร แล้วดันพี่อรไปจนติดผนังบ้าน ผมขยำหน้าอกของพี่อรที่มีเสื้อยืดและชุดชั้นในปกปิดอยู่อย่างแรง ตามที่เคยเห็นในหนังโป๊ ผมคลึงมันเป็นวงกลมและกดให้หน้าอกนั้นเบียดกันเป็นจังหวะ ทำให้พี่อรท่าทางมีอารมณ์ไม่น้อย ลมหายใจเดิมที่มีอายอุ่น ตอนนี้ก็มีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นเป็นอุ่นร้อนผ่าว ขาก็ยกขึ้นมาเกี่ยวกระชับเอวผมให้ตัวเข้าไปแนบชิดกัน
"นี่ฝึกกับพลอยมาเหรอ จูบเก่งเหมือนกันนะเรา" พี่อรเอ่ยชมหลังผละออกจากจูบ
"ไม่เลยครับ ฝึกจากหนังที่ดูนี่เองครับ" ผมซุกหน้าลงบนอกของพี่อร แม้หน้าอกของพี่อรจะไม่ใหญ่เท่าพลอย แต่ความแน่น เอวที่คอดกิ่วแบบนักกีฬา ทำให้มันน่าสัมผัสทีเดียว
"งั้นมาต่อกันเถอะ พี่ไม่ได้โดนเย็ดมาตั้งนานแล้วนะ มาช่วยพี่หน่อย ไหน ๆ ก็มาจุดไฟให้พี่แล้ว" พี่อรดึงผมไปที่ห้องนอนของเธอ พี่อรรีบถอดเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็ว แล้วกระโดดขึ้นไปนอนรอบนเตียง ผมก็ไม่รีรอรีบถอดเสื้อผ้าออกแล้วกระโดดตามขึ้นไปคร่อมพี่อรทันที
"พี่อรสวยจังเลยครับ อืมมม" ผมกดพี่อรลงบนที่นอน ผมจ้องมองใบหน้ารูปไข่ ผมบ๊อบสั้น ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อน ริมฝีปากเรียวบางสีชมพูที่ผมเพิ่งถอนจูบออกมา ริมฝีปากของพี่อรยังฉ่ำเยิ้มด้วยน้ำลายของผมและของพี่อรที่ผสมปนเปกัน จนผมอดไม่ได้ที่จะจูบพี่อรต่ออีกครั้ง
"อืมมมม พี่ช่วยนะ อืมมม หือออ ใหญ่จังเลย กิ่ง เปลี่ยนชื่อเป็นท่อนแทนได้ไม๊เนี่ย ใหญ่ขนาดนี้ไม่กิ่งแล้วแหละ ฮิฮิฮิ" พี่อรดันผมให้ถอนจูบออกอีกครั้ง แล้วใช้มือจับควยของผม แล้วร้องอุทานอย่างประหลาดใจ
"จะท่อนหรือจะกิ่งก็แล้วแต่พี่อรเลยคับ ซี๊ดดดด พี่อร เสียวหัวควยนะครับ อูยยย" ขณะที่ผมกำลังพูด พี่อรก็ใช้หัวควยของผมถูไถไปมากับปากร่องกลีบของพี่อรจนเป็นเสียงเปียก ๆ ดังออกมา
"อีกนิดนะกิ่ง ซี๊ดดดด พี่ใกล้พร้อมแล้ว อูยยย นึกถึงตอนนั้นจังเลย อูยยยย โดนควยหยอกแบบนี้ กดจะเข้าไม่เข้าแบบนี้ถูกับเม็ดแตดแบบนี้เลย อื้อออ เสียว อะ อื้อออ" พี่อรจับปลายควยของผมถูไปมาอย่างแรง ไม่เคยคิดเลยว่าแค่ข้างนอกจะเสียวขนาดนี้แล้ว
"พี่อรครับ ให้ผมเอาพี่ซักทีเถอะครับ ผมเงี่ยนจะแย่แล้ว ซี๊ดดด พี่อร" ผมลดแขนที่กดไหล่พี่อรกับที่นอนลง ไปกอดพี่อร เพราะเสียวจนแขนอ่อนแรงลง
"อ้าาา มาเลย ๆ อืมมมม อื้ออออ" พี่อรให้สัญญาณว่าพร้อมแล้ว
"อูยพี่อร ซี๊ดดด แน่นจังเลย เสียวหัวควยมากเลย อาาาา" ผมค่อย ๆ กดควยเข้าไปโดยมือมือของพี่อรช่วยจับนำทางให้เข้าไป ผมออกแรงกดสะโพกส่งลำควยเข้าไปได้ครึ่งหนึ่งอย่างไม่ยากนัก เพราะร่องของพี่อรนั้นลื่นมาก
"ซี๊ดดดส์ กิ่งควยกิ่งอุ่นจัง เข้ามาอีกสิจ๊ะ อะ อะ...อูยยย เสียวหีจัง" พี่อรเรียกร้องให้ผมกดลำควยเข้าไป ซึ่งผมก็ไม่รีรอที่จะตอบสนอง ผมกดลำควย เข้าไปทีละน้อย จนสุดโคนลำบดเข้ากับติ่งเสียวของพี่อรจนเผลอครางออกมาด้วยความเสียว
"อูย เสียวชะมัดเลย... ซี๊ดดด" ผมกัดฟันข่มความเสียวจากการแทงควยเข้ารูหีผู้หญิงเป็นครั้งแรก ไม่คิดเลยว่าผมจะเสียซิงให้กับพี่สาวของแฟนแบบนี้
"เสียวกว่าชักว่าวเยอะเลยใช่ไม๊หล่ะ ฮิฮิ" พี่อรยิ้มและกอดผมไว้แน่น
"ใช่ครับ เสียวแบบเทียบกันไม่ได้เลย อาาา พี่อร ... ตอด ...ซี๊ดดด " ผมค่อย ๆ ขยับเอวซอยหีพี่อรช้า ๆ หีพี่อรนั้นขมิบตอดลำควยเป็นจังหวะ ผมทนแทบไม่ไหวเลย มันเสียวกว่าที่ผมเคยคิดไว้มาก ทั้ง ๆ ที่เคยมั่นใจว่าตัวเองอึด มาเจอของจริงสงสัยจะแตกไวเสียแล้ว
"ไม่ต้องอั้นนะจ๊ะ แตกมาเลย เดี๋ยวเราค่อยเริ่มรอบ 2" พี่อรกอดรัดผมแน่นขึ้น ลมหายใจอุ่น ๆ แทรกตัวเข้ามาในรูหูของผม พร้อมกับกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูผมแล้ว ใช้ลิ้นเลียที่ใบหูของผม ไม่คิดว่าการมีพี่สาวมาสอนเสียวมันจะระทึกใจขนาดนี้
"อาาา ซี๊ดดด อาาาา พี่อร อาาา" ผมกระเด้าเอว ซอยอัดลำควยเข้าออกหีพี่อรอย่างสุดกำลัง แค่ 10-20 ทีผมก็ไม่ไหวแล้ว ความตื่นเต้นมันยิ่งทำให้ผมอดกลั้นไม่อยู่ จนผมน้ำแตก พ่นน้ำเงี่ยนอัดจนเต็มรูของพี่อรเลย
"ซี๊ดดดดด น้ำอุ่น ๆ แบบนี้แหละ อืมมมมม ดีจัง มาพี่ช่วยนะ" พี่อรจิกเล็บลงที่หลังของผมอย่างแรง พี่อรกัดริมฝีปากแน่นตอนนี้น้ำเงี่ยนผมกระฉูดเข้าไปจนเต็มปรี่ เมื่อผมฟุบลงกับหน้าอกของพี่อร ผมเห็นพี่อรเลียริมฝีปากด้วยท่าทางยั่วยวน
"อาาาา อาาา ดีจังเลยยังแข็งอยู่เลย ซี๊ดดด" พี่อรดันตัวผมให้พลิกลงไปนอน ทำให้พี่อรอยู่ในท่า Woman on Top จากนั้นก็เริ่มร่อนเอวบดติ่งเสียวกับร่างกายผม และคงเพราะตื่นเต้นขนาดเพิ่งเสร็จไปลำควยผมก็ยังตั้งแข็งจนพี่อรเสียวซ่านได้
"ซี๊ดดด พี่อร ท่านี้หีพี่ตอดดีจังเลย อูยยยยย เสียวควยจัง อาาา" ผมเด้งควยสวนจังหวะที่พี่อรนั้นร่อนเอวลงมา
"นี่ครั้งแรกยังรู้งานขนาดนี้ แล้วจะให้พี่สอนอะไรละคะ อาาา อาาา อาาาา ควยอุ่น ๆ ควยแข็ง ๆ แบบนี้ชอบจัง ซี๊ดดดด" พี่อรปล่อยตัวลงมาซบกับอกของผมก่อนจะเร่งจังหวะสะโพกโยกขึ้นลง ให้ผมเด้งแทงสวนได้อย่างถนัด พี่อรคงจะเสียวมากจิกไหล่ผมจนเจ็บไปหมดเลย
"โอ้ยยย กิ่ง พี่.... อื้อออ พี่ไม่ไหว... อืมมมมมม อื้ออ อาาาาา อาาาา อ๊าาาา" พี่อรเร่งขย่มสุดฤทธิ์ ทั้งเร็วทั้งแรง ผมเองก็เสียวมากจนรู้สึกได้เลยว่า รูหีของพี่อรนั้นตอดรัดเป็นจังหวะแน่นขึ้นถี่ขึ้นทุกที จนในที่สุดพี่อรก็ซุกหน้าลงที่อกผมอย่างแรงครางในลำคอแล้วก็กระตุกตัวเกร็ง รูหีนั้นเกร็งแน่น บีบรัดลำควยของผมทั้งลำจนแทบขยับไม่ได้
"ซี๊ดดด อาาา พี่อร แน่นเหลือเกิน ไม่ไหวแล้ว อาาาาา" ผมน้ำแตกเป็นครั้งที่ 2 คราวนี้ผมรู้สึกอุ่น ๆ ที่หัวหน่าวตัวเองเลย คงเป็นน้ำเงี่ยนของผมเองที่มันไหลล้นออกมาจากรูหีของพี่อร
"โอ้ยย ไม่ได้เสียวแบบนี้มานานแล้ว ดีจังเลย แฮ่ก ๆ" พี่อรล้มตัวลงนอนข้าง ๆ ผมอย่างเหนื่อยอ่อนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
เราสองคนจูบกันอีกครั้งก่อนจะแยกย้ายไปล้างตัวและแต่งตัวในห้องน้ำคนละห้องภายในบ้าน
"กิ่ง งั้นเดี๋ยวพี่ฝากบ้านด้วยนะ" พี่อรกล่าวก่อนจะออกจากบ้านไป
"ได้ครับ เดี๋ยวผมจะรอพลอยที่นี่เอง บายครับ" ผมกล่าวจบก็โน้มคอพี่อรมาจูบปากแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่มอีกครั้ง ก่อนจะปล่อยให้พี่อรเดินออกจากบ้านไป
ผมนั่งรอพลอยให้กลับมาอยู่ที่บ้านไม่นานนักผมก็ได้ยินเสียงเปิดประตูหน้าบ้าน ผมยื่นหน้าออกไปมองก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามา
"พลอย!" ผมรีบวิ่งออกไปรับที่หน้าบ้านด้วยความเป็นห่วง
"กิ่ง ขอบใจนะ แล้วเราขอโทษนะที่ไม่รักษาสัญญา" พลอยเอ่ยขึ้น
"โอ้ย ไม่ต้องคิดมากหรอก อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้เสมอแหละ เนอะเข้าบ้านมาพักก่อนเถอะ" ผมช่วยพลอยถือถุงสัมภาระเดินเข้ามาในบ้าน
"พลอยเป็นห่วงพี่จันจังเลย ไม่รู้จะเป็นอะไรรึเปล่า เฮ้อ..." พลอยทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ ใช้ศอกวางบนโต๊ นั่งเท้าคางถอนหายใจ
"อยู่กับหมอแล้ว ไม่เป็นไรหรอกน่า" ผมพยายามปลอบ
"กิ่ง นี่พี่จันเขาโดนรถชนเลยนะ จะไม่เป็นไรได้ยังไง" พลอยทำหน้าฉุน พูดขึ้นเสียงใส่ผม
"แล้วหมอเค้าว่ายังไงละครับ คุณพลอย" ผมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ตอบกลับไป แต่ไม่วางทิ้งเรียกชื่อแบบเหินห่างให้รู้ว่าไม่พอใจติดปลายนวมไปหน่อย
"หมอเค้าก็ว่า ให้นอนรอดูอาการก่อนหนะสิ โดนรถชนจะให้เดินกลับมาเลยเหรอไง" พลอยยังค้อนพูดประชดทำแก้มป่องดูแล้วก็ยิ่งน่ารัก
"โอ๋ ๆ อย่าเพิ่งโกรธสิ ผมก็เป็นห่วงน่าก็เลยถาม" ผมยื่นแก้วน้ำนั่งลงข้าง ๆ ตัวพลอย
"นี่! มาทำงอนกิ่งมายั่วโมโหเราก่อนเองนะ" พลอยยังคงงอนต่อว่าผมต่อ
"พลอย ไม่เอาน่า เราขอโทษนะ" ผมอ่อนใจเลย พยายามเปลี่ยนมาง้อแทน
"ไม่นี่ชีวิตพี่พลอยนะ จะมาทำล้อเล่น เราไม่ขำด้วยหรอก" พลอยเบือนหน้าหนี แต่ผมฟังเสียงออกจริง ๆ เธอแอบยิ้มอยู่แน่ ๆ
"งั้นจะให้เราทำไงละ พลอยถึงจะหายโกรธ" ผมตามน้ำง้อต่อ แต่ก็นึกในใจว่า แหมเล่นตัวงอนนิดเดียวก็หายแบบนี้แกล้งกันชัด ๆ ไหนบอกเครียดพี่โดนรถชน
"ไม่บอก" พลอยตอบผมสั้น ๆ
"งั้นเราไปเยี่ยมพี่จันแล้วกันนะ" ผมลุกพรวดตั้งใจจะเดินออกไปจากห้องนั่งเล่น
"เอ้ยย เดี๋ยว ๆ กิ่งเราล้อเล่น อย่าจริงจังน่า นะ ๆ" พลอยจับมือรั้งตัวผมไว้ทันที เข้าทางผมพอดีเลย
"อ้าว ทำไมละ" ผมหันกลับไปพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
"นั่นแน่ หยอกเราเหรอเนี่ย เดี๋ยวก็งอนอีกหรอก" พลอยพูดหยอกผมตอบ
"ไม่เครียดเรื่องพี่จันแล้วเหรอ" ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้หน้าพลอยก่อนจะถามกลับ
"เออ ก็... หมอเขาว่าไม่เป็นอะไรมากนะ แค่นอนรอดูอาการ 24 ชั่วโมงส่วนมากก็ฟกช้ำแหละ" พลอยพูดจบก็หัวเราะแหะ ๆ กลบเกลื่อนอาการไป
"นั่นไง ทำแบบนี้ต้องโดนเราลงโทษนะ" ผมจับข้อมือพลอยเอาไว้แน่น แล้วกดพลอยลงนอนกับโซฟา
"เดี๋ยว! กิ่ง! ทำอะไรหนะ ปล่อยนะ!!" พลอยท่าทางตกใจมาก
ถึงจุดนี้ผมตัดสินใจจะรวบหัวรวบหางพลอยเสียให้เสร็จไป จึงไม่พูดพล่ามทำเพลงใด ๆ จัดการประกบปากพลอยทันที ท่าทีของพลอยยังขัดขืน เธอดิ้นพยายามสลัดแขนผมให้หลุด ขาก็ถีบไปมา แต่ก็ยังสู้แรงผมไม่ได้อยู่ดี ผมกดเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะอ่อนลง จนผมละปากออกจากปากของเธอได้
"กิ่ง ไม่เอานะ ครั้งแรกเราไม่อยากให้เป็นแบบนี้" ผมลุกขึ้นมองพลอยที่พูดขึ้นทั้งน้ำตา
"พลอยเราขอโทษนะ แต่เราทนไม่ไหวแล้วเราอยากให้พลอยเป็นของเรา มาเป็นของเราเถอะนะ" ผมพูดตอบพลอยไปด้วยบทพูดที่จำเพื่อน ๆ มา
"ไม่เอา... เราไม่เอาตรงโซฟา..." พลอยเบือนหน้าหนีแบบเขิน ๆ ก่อนจะตอบผม อื้อหือ เข้าทางสิครับ
"งั้นพลอยอยากทำตรงไหนเหรอ" ผมถามกลับเชิงหยอก ๆ
"คนบ้า มาให้ผู้หญิงเลือกได้ไง ผู้ชายเค้าต้องนำสิ" พลอยทุบอกผมทีหนึ่งขณะพูด
"งั้นไปที่ห้องพลอยนะ" ผมจูงพลอยลุกขึ้น แล้วให้พลอยเดินนำไปที่ห้องนอนของเธอ
"พลอยถอดก่อนเลยนะ" ผมพูดขึ้นเมื่อพ้นวงกบประตูห้องของพลอยเข้าไป ผมปล่อยมือของพลอยให้เดินเข้าไปกลางห้อง
"... อื้อ..." พลอยค่อย ๆ ถอดเสื้อผ้าออกอย่างเขินอาย พลอยถอดเสื้อยืดและกางเกงลงไปกองกับพื้นก่อนจะค่อย ๆ ปลดตะขอเสื้อชั้นในโดยใช้ท่อนแขนเรียวบางของเธอปิดหัวนมเอาไว้ ผมมองรูปร่างของพลอยก็สมวัยเด็กม. 6 ทั่ว ๆ ไปจะมีก็แต่หน้าอกเท่านั้นที่ดูใหญ่โตเกินมาตรฐานเด็กมัธยมไปไกล ทำเอาผมตาลุกวาวที่มือของพลอยนั้นปกปิดมันได้ไม่หมดมันเหมือนจะล้นทะลักออกมาจากแขนของเธอเลย
"กางเกงในด้วยสิพลอย" ผมหยอกพลอย ขณะถอดเสื้อผ้าของตัวเองจนตอนนี้เหลือแต่กางเกงในที่เป้ากางเกงนั้นมันตุงรัดเปรี๊ยะจนแทบจะระเบิดออกมาแล้ว
"ไม่เอานะ พลอยเขิน" พลอยทิ้งตัวลงไปบนที่นอน แล้วนอนตะแคงหันหลังให้ผม
"งั้นเราถอดให้นะ" ผมเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ ลูบไล้ฝ่ามือตั้งแต่หัวไหล่ไล่ลงไปที่ท่อนแขน เอว และสะโพก ผมสังเกตเห็นขนตามผิวกายของพลอยนั้นลุกชันตามมือของผม ขณะที่ผมกำลังจะจับดึงกางเกงในสีชมพูของพลอยลงนั้น มือของพลอยก็มาจับมือของผมไว้
"เดี๋ยว... กิ่ง เรามีอะไรจะบอก" พลอยจับมือผมไว้แน่นมือของเธอชื้นไปด้วยเหงื่อ ผมเข้าใจว่าเธอคงตื่นเต้น แต่พลอยลุกขึ้นนั่งจ้องตาผมด้วยแววตาเต็มไปด้วยความกังวล
"พลอยกลัวท้องเหรอ...?" ผมถาม
"เปล่า... เรามีเรื่องต้องบอกกิ่ง" พลอยทำหน้าจริงจังและกระชับมือผมแน่นขึ้น
"พลอยเป็นอะไรเหรอ?" ผมชักสงสัยและเป็นกังวล
"กิ่ง... กิ่งรับได้หรือเปล่า... ถ้า..." พลอยพูดขึ้นด้วยท่าทางอึกอัก
"ถ้า..." ผมทวนคำของพลอย
"ถ้า...กิ่งไม่ใช่คนแรกของเรา ... เอ่อ ... เราเคย...โดนเอามาแล้ว" พลอยพูดด้วยท่าทางไม่มั่นใจ ผมผงะทำท่าตกใจเมื่อได้ยิน และแล้วก็เป็นเหมือนที่ผมคิดไว้ว่าที่แฟนพี่จันพยายามปล้ำพลอยนั้น ผมว่าไม่น่าพลาด ก็เลยพอทำใจได้ เพราะยังผมเองก็โดนพี่อรเปิดซิงไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วนี่เอง ไม่ใช่คนแรกของพลอยเหมือนกัน
"เอ่อ พลอย ... เราไม่ถือหรอกนะ ว่าพลอยจะผ่านใครมา เรารักพลอย ขอแค่พลอยรักเรา เราก็ไม่ว่าอะไรหรอกมันเป็นอดีต" ผมจับไล่ของพลอยไว้แน่นก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เพื่อให้พลอยคลายกังวล
"..... อืมม ...." พลอยยิ้มไม่ตอบ แต่หลับตาแล้วจูบผม พร้อมกับกอดและดึงตัวผมลงไปคร่อมเธอทันที ริมฝีปากของพลอยนั้นบาง นุ่มและอุ่น มือของผมขยำลงบนหน้าอกคู่โตอย่างหนำใจ ทีแรกที่ได้เอาพี่อร ไม่ค่อยได้จับหน้าอกเพราะของพี่อรไม่ค่อยใหญ่เท่าไหร่ติดจะเล็กด้วยซ้ำ
"กิ่ง บีบนมพลอยแรง ๆ เลย พลอยเสียว อืมมม" พอผมผละจากจูบลงไซร้ที่ลำคอและใบหูของพลอย สูดดมกลิ่นสาวของแฟนตัวเองจนฉ่ำปอดก็ได้ยินเสียงเรียกร้องที่แสนเซ็กซี่ เร่งเร้าอารมณ์ของผมเอามาก ๆ เลย
"แบบนี้เหรอพลอย? ชอบไม๊?" ผมบีบขยำมันอย่างแรงแล้วกดมันวนให้หน้าอกของพลอยนั้นบดเบียดเข้าหากัน พลอยนั้นนอนหนีบขาบิดไปมาด้วยท่าทางเสียวซ่าน
"ชอบ บีบแรง ๆ นะ อูยยย กิ่งจ๋า พลอยเสียวนมจังเลย" คำเรียกร้องของพลอยทำเอาผมแทบเป็นบ้า ใบหน้าแดงระเรื่อจากความเสียว ดวงตาที่ฉ่ำเยิ้มไปด้วยความต้องการ ผมเลยหมดความอดทน ผมงัดเอาควยของผมออกมาสอดไว้กลางหน้าอกของพลอย แล้วใช้หน้าอกของพลอยหนีบมันไว้
"อุ๊ยย ... ของกิ่งใหญ่จังเลย... อู้หู" พลอยมองควยผมด้วยท่าทางพลอยตกใจนนิดหน่อย ที่หน้าอกของเธอนั้นหนีบลำควยของผมไว้แต่ยังเลยออกมาเกือบถึงปากของเธอ
"เราอยากทำแบบนี้มานานแล้ว ซี๊ดดดด พลอยจ๋า เสียวควยจัง โอ้ยยยย ซี๊ดดด เลียให้ด้วยเหรอ อูยย" ผมบดหน้าอกของพลอยถูกกับลำควยของตัวเองและซอยเอวเป็นจังหวะเบา ๆ แต่พลอยท่าทางจะรู้ดีเธอแลบลิ้นออกมาเลียหัวให้ผมอีกต่างหาก
"เสียวป่าว" พลอยถามสั้น ๆ ก่อนจะแลบลิ้นเลียต่อ
"รู้ดีจังเลย นี่ใครสอนมาเหรอเนี่ย" ผมแซวเธอ ก่อนจะหยุดขยำหน้าอก แล้วบีบหัวนมของพลอยดึงขึ้นมาแรง ๆ แทน บอกตามตรงว่าผมจับมันไม่ค่อยถนัดนัก ผมคิดว่าหัวนมของพลอยจะใหญ่กว่านี้ แต่มันเป็นจุกเล็ก ๆ มีฐานสีน้ำตาลอ่อน ๆ ทำให้จับดึงได้ไม่ถนัดนัก
"ก็... ซี๊ดดดด ดึงแบบนี้... พลอยเสียวนะ..." พลอยเกร็งตัวตามแรงดึงของผม
"บอกมาสิ แล้วเราจะปล่อย" ผมก้มลงไปกระซิบพลอยเบา ๆ
"ก็... พลอยก็ดูจากหนังแบบที่กิ่งดูไง ซี๊ดดดด อย่าบิดสิ เราเสียวนะ อูยยย" พลอยตอบผมด้วยคำตอบที่ผมผิดคาดไปเล็กน้อย
"งั้นพลอยก็รู้สินะ ว่าต่อไปเราจะทำอะไร หึหึ" ผมยิ้มแล้วกระซิบเบา ๆ ที่หูของพลอย ผมปล่อยมือจากหน้าอกคู่โตที่ผมชื่นชอบ ผมไล้ฝ่ามือลงมาดึงกางเกงในของพลอยลงจนเห็นขนอุย ๆ ไม่หนานักที่หัวหน่าว พลอยพยายามหนีบขาเอาไว้ เพื่อไม่ให้ผมเห็นจุดสำคัญของเธอ
"กิ่ง! อย่านะพลอย อาย" พลอยใช้มือปิดหน้าขณะผมใช้มือจับขาของเธอแยกออกจากกันอย่างเขินอาย
"เราจะใส่เข้าไปแล้วนะ ซี๊ดดด" ผมขยับตัวจ่อหัวควยเข้าไปที่ปากรูหีของพลอย แล้วกดมันเข้าไปอย่างช้า ๆ
"อื้ออ กิ่ง.... ซี๊ดดดดด" พลอยโผเข้ามากอดผม ทำให้หัวควยที่ผลุบเข้าไปได้เล็กน้อยนั้นหลุดออกมา แขนของพลอยที่กอดผมสั่นเล็กน้อย ท่าทางเธอจะกลัวนิดหน่อย ผมเดาว่าครั้งแรกของเธอคงไปได้ไม่สวยนัก
"อยู่นิ่ง ๆ นะไม่ต้องกลัว" ผมพยายามปลอบพลอยแล้วค่อย ๆ เอนตัวลงไปพร้อมเธอ ขณะเอาหัวควยมาจ่ออีกรอบ คราวนี้ผมกอดพลอยเอาไว้เธอจะได้ไม่หนีผมอีก
"อื้อออ กิ่ง ซี๊ดดดด เสียวจังเลย พลอย อื้มมมม" พลอยดิ้นส่ายไปมา มือของเธอจิกที่ไหล่ของผมแน่น ขาของเธออ้าออกและเกร็งไว้อย่างรู้งานทำให้ผมกดเจ้าท่อนควยเข้าไปได้ลึกขึ้นเรื่อย ๆ จนสุด
"หีพลอย ตอดของเราแรงจัง เสียวจะแย่แล้วเนี่ย ซี๊ดดด หือ? พลอยเป็นอะไรเหรอ?" ผมเสียวจนตัวเกร็ง หีของพลอยเสียวกว่าของพี่อรมาก มันทั้งอุ่นและแน่นกว่า แต่พอกลับไปมองหน้าพลอย เธอกลับมองผมด้วยแววตาไม่พอใจผมเลยเอ่ยถามขึ้น
"เรียก...หีได้ไง ไม่เพราะเลยนะ" พลอยทำแก้มป่อง ทำหน้าค้อน ๆ แล้วขมิบเป็นจังหวะจนผมเสียวจี๊ดขึ้นมา
"ซี๊ดดด แล้วจะให้เราเรียกว่าอะไรหละ อูยเสียวจัง" ผมตอนนี้หน้าตาคงจะเหยเกหุบปากแทบไม่ลงแล้ว จังหวะตอดรัดมันเสียวไม่เบาเลย ดีว่าเพิ่งเสร็จกับพี่อรไป 2 น้ำ ถึงใจอยากจะแตกแต่ความอึดจากการเพิ่งเสร็จมันช่วยได้มากทีเดียว
"เรียกว่า ร่องของพลอยสิค๊าาา ซี๊ดด" พลอยยิ้มแล้วยกเอวขึ้นแล้วปล่อยลงเบา ๆ ร่องของพลอยตอนนี้มันตอดรัดลำควยผมเป็นจังหวะพร้อม ๆ กับที่ลำควยของผมขยับเข้าออกสั้น ๆ ช้า ๆ ตามจังหวะยกเอวของพลอย ถ้ามีใครมาขัดจังหวะตอนนี้ผมก็คงหยุดไม่ได้แล้ว
"ร่องพลอย เสียวจังเลยจ๊ะ อูยยย เราขยับช้า ๆ ก่อนนะ" ผมค่อย ๆ สาวลำควยเข้าออกร่องของพลอยช้า ๆ พลอย บิดตัวลดมือลงจิกผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ในจังหวะที่ผมแทงกลับเข้าไปจนสุด
"อื้อออ กิ่ง... อืมมม... พลอยเสียวจัง ซี๊ดดด ซอยเร็ว ๆ สิ อ๊าาาา" ทุกครั้งที่ผมขยับตัวสาวลำควยเข้าออกช้า ๆ พลอยจะเม้มกัดริมฝีปากแน่น แป๊บเดียวพลอยก็เริ่มขอให้ผมเร่งจังหวะ
"พลอย บอกเราก่อนสิ ชอบของใครมากกว่ากัน ระหว่างของ "กิ่ง" กับของ "พี่ต้น" " ผมยิ้มแล้วก้มลงไปกระซิบข้าง ๆ หูของพลอย
"กิ่ง!! กิ่งไปรู้มาจากไหน!" พลอยดันตัวหนีจนควยของผมหลุดพรวดออกจากร่องของพลอย ด้วยใบหน้าตื่นตระหนกสุดขีด จนผมเองก็งงว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนจะขึ้นเสียงใส่ผม
"ก็พี่อรเขาเล่าให้ฟังตอนเก็บของนะสิ" ผมทำหน้างง ๆ ตอบพลอยไปแบบนั้น แต่ท่าทางพลอยจะไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก เธอไม่สบตาผม แถมยังทำหน้าไม่พอใจเป็นอย่างมาก
"งั้นกิ่งกลับไปก่อนเลย เราไม่มีอารมณ์แล้ว" พลอยสะบัดหน้าหนี พลางลุกขึ้นเดินไปหยิบเสื้อผ้า แต่มีหรือผมจะยอม มาขนาดนี้แล้ว ผมคว้าข้อมือของพลอยเอาไว้ โดยไม่พูดอะไร
"กิ่ง! พลอยบอกให้ปล่อย" พลอยพยายามสะบัด แต่ผมฉุดตัวเธอลงมากดไว้กับที่นอนในท่านอนคว่ำ
"พลอยไม่มีอารมณ์แต่เรามี ซี๊ดดดด ไม่มีอารมณ์ยังตอดขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย เสียวจริง ๆ" ผมกดตัวพลอยไว้กับเตียง ในท่านี้ก้นของพลอยก็แอ่นรอผมอยู่ตรงหน้า แม้จะพยายามดิ้นแต่ก็ไม่หลุด ว่าแล้วผมก็จับควยจ่อเข้าไปที่ร่องของพลอย แล้วค่อย ๆ กดมันเข้าไปในท่า doggy การบังคับยัดควยเข้าไปในร่องของพลอยตอนนี้มันคับแน่นและเข้าได้ลึกกว่าเดิม การตอดรัดของร่องที่ขัดขืนช่างรุนแรงและเสียวซ่านได้อารมณ์มาก ผมรู้เลยว่าพวกที่มันข่มขืนนี่ทำไมมันชอบทำซ้ำ มันได้อารมณ์เสียวมากกว่าปกติแบบนี้นี่เอง
"อ๊าาา กิ่ง พลอยเจ็บ ปล่อยนะ อื้ออออ อื้อออ อื้ออออ" พลอยที่ถูกผมกดตัวอยู่ก็พยายามพูดห้าม แต่ผมเลื่อนมือขึ้นไปจับหัวของเธอ กดหน้าให้จมลงไปกับที่นอน เดี๋ยวจะร้องดังจนคนข้างบ้านได้ยิน เอวผมก็เด้งซอยไปเรื่อย เสียงกระแทกดังปั่ก ๆ ๆ ของเนื้อแน่น ๆ กระทบกันมันฟังแล้วเสียงดีแท้ ผมสังเกตเห็นคอของพลอยเริ่มแดง ๆ สงสัยผมจะกดแรงไปหน่อย ผมผ่อนมือให้พลอยได้เงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย
"ฮ้าาา หายใจไม่ออกปล่อยพะ... อื้ออออ ......อื้ออออ .........อื้ออออ .....อ๊าาาา" ผมปล่อยให้พลอยได้พักหายใจ ใบหน้าของพลอยตอนที่โผล่ขึ้นมานั้นแดงกล่ำจากการขาดอากาศไปจนถึงลำคอ ผมก็ยิ่งกระแทกหนักขึ้นจนผมทนไม่ไหว เพราะร่องของพลอยนั้นตอดรัดแน่นเป็นจังหวะจนมันรัดแน่นเกร็งไว้ไม่ปล่อย ผมที่กระแทกอยู่ก็เสียวจนยืนจะไม่อยู่ จึงต้องปล่อยพลอยให้เป็นอิสระ
"ฮ้าาา แค่ก ๆ ๆ ๆ อ๊าาา อู๊... อู๊... อู๊... อ่อก!!" พลอยสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะไออย่างหนักที่โดนกดจนหายใจไม่ออก ผมที่เสียวจนถึงที่สุดแล้ว ก็จิกผมของเธอมายัดลำควยเข้าไปในปากของเธอทันที พลอยใช้มือดันขาผมออก แต่ผมกดหัวของเธอเข้าไปแน่น
"โอ๊ยยย พลอย เราไม่ไหวแล้ว อาาาา" ผมครางอย่างเสียวซ่านที่ได้ พ่นน้ำเงี่ยนใส่ปากแฟนอย่างเต็มรักตามที่เคยอยากทำ เรียกได้ว่าฟินมาก ครั้งแรกก็ได้ถึงใจขนาดนี้ สุดยอดสุด ๆ ไปเลย
" แค่ก ๆๆ เฮ้อออ แค่ก ๆ ฮื้ออ เฮ่อออ ฮื้ออออ" ผมปล่อยมือจากผมของพลอย กะว่าจะปล่อยให้เธอได้พัก ว่าแล้วพลอยก็ก้มหน้าลงไปสำลักเอาน้ำเงี่ยนของผมลงมากองบนพื้นกองใหญ่ ก่อนจะพักหายใจ แล้วเงยหน้าขึ้นมาจ้องผมอย่างโกรธเคือง
"เป็นไงเล่า เสียวดีไม๊ละครับ พลอย" ผมนั่งยอง ๆ ลงไปถามพลอยด้วยรอยยิ้ม
"..." พลอยยังคงไม่ตอบอะไร แถมยังส่งสายตาโกรธกลับมา พอผมจะจับตัวเธอก็ปัดมือออกอย่างแรง
"โถ พลอย ก็พลอยไม่ยอมตอบ แถมหนี เหมือนจะคิดถึงไอ้พี่ต้นนั่น เราก็เลยโกรธทำพลอยไปแบบนี้ เราขอโทษนะ" ผมปลอบพลอยด้วยคำโกหกคำโต โดยที่ผมไม่สนใจว่าพลอยจะคิดยังไงกับคำตอบนี้ แต่ท่าทีของพลอยอ่อนลง แต่ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ผิวกายที่มีเหงื่อซึมจนดูโทรม ผิดกับหญิงสาววัยใสคนที่ผมจีบเป็นแฟน ผมเองก็คิดว่ามันไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่
"....คราวหน้า ถ้ามีแบบนี้อีกเราเลิกกัน" พลอยมองผมแบบโกรธ ๆ
"จ้า แล้วพลอยเสียวไม๊ละ?" ผมโผเข้าไปกอดทันทีที่พลอยไม่ไล่ผมไป แก้มของผมกับพลอยแนบกัน ผมรับรู้ได้ถึงไออุ่นที่แก้มของเธอส่งผ่านมา
"ก็.... เสียวดีนะ แต่แรงไป เราไม่ชอบ" เมื่อได้ยินคำตอบของพลอย ผมที่กอดพลอยอยู่ก็อดเผลอยิ้มออกมาไม่ได้
"งั้นเรามาทำกับแบบนุ่มนวลต่อไม๊?" ผมถาม
"ไม่ต้องมายิ้มเลยนะ ใครเค้าจะทำด้วย ตอนนี้ไม่เอาแล้ว" พลอยพยายามดันตัวผมออก แต่ผมยังกอดเธอไว้
"รู้ได้ไงว่าเรายิ้ม ไม่ได้มองหน้าซักหน่อย" ผมตอบแบบกวน ๆ
"คนบ้า ไม่รู้ได้ไง เสียงแบบนี้เรารู้นะ ว่ายิ้มอยู่" พลอยตอบด้วยน้ำเสียงที่ผมก็ฟังออกว่าคงยิ้มอยู่เหมือนกัน
"แล้วเรากับพี่ต้นใครเสียวกว่า" ผมยังไม่ละความพยายามที่จะถาม อาจเป็นเพราะผมกังวลว่าจะมัดใจเธอด้วยลีลามือใหม่ของผมไม่ได้กระมัง
"ก็... พี่ต้น เพราะพี่ต้นไม่ทำรุนแรงกับเรา" กิ่งตอบด้วยน้ำเสียงยียวน เหมือนจะยั่วผมให้โกรธ แต่ผมรู้ทันซะนี่
"จริงเหรอ ถ้าไม่ชอบทำไมแฉะขนาดนี้เล่า" ผมฟังแล้วก็ยั่วพลอยตอบ ด้วยการถอยออกมาใช้นิ้วชี้ล้วงเข้าไปในร่องของพลอย ที่ตอนนี้มันอ้าพร้อมรอรับการเสียบอยู่แล้ว แถมยังชุ่มโชกไปด้วยน้ำหล่อลื่นอีกต่างหาก
"ก็มัน.... ก็เสียวเหมือนกันนี่... โดนเอานะ ไม่เสียวได้ไงเล่า" พลอยหน้าแดง บิดหลบหน้าผมแบบเขิน ๆ ขณะตอบ
"งั้นคราวนี้เราจะเบา ๆ นะ" ผมพูดพลางไซร้คอของพลอย แล้วค่อย ๆ กดเธอลงนอนบนพื้นห้องนอนของเธออย่างแผ่วเบา
"ไม่เอาด้วยหรอก อืมมมม" พลอยตอบผมสั้น ๆ ก่อนจะจูบผมตอบ
"คราวนี้เราขอแตกในนะ" ผมผละจากจูบของพลอย แล้วเอ่ยถามขึ้น
"... ช่วงนี้วันปลอดภัย ... เอาก็ได้..." พลอยยิ้มตอบอย่างขี้เล่น ขณะผมยกขาของพลอยขึ้นจนโหนกเนื้อตรงหัวหน่าว แอ่นขึ้นมา แถมร่องของพลอยที่ฉ่ำเยิ้มยังมารอตรงหัวควยแบบนี้ ผมก็ค่อย ๆ กดลำควยซ้ำลงไปจนสุด ก่อนที่คืนนั้นผมกับพลอยจะบรรเลงเพลงเสียวกันอย่างถึงพริกถึงขิงสลับกันโยกรับถึงใจและผลอยหลับไปในที่สุด
เช้าวันรุ่งขึ้น ผมตื่นขึ้นบนเตียงนอนของพลอย ด้วยเสียงโทรศัพท์มือถือของเธอที่ดังขึ้น ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเมื่อคืนเราจัดกันไปกี่รอบ แต่ที่แน่ ๆ กลีบของพลอยนั้นบวมแดงกล่ำช้ำไปหมด สงสัยผมจะกระแทกกระทั้นพลอยมากเกินไปหน่อย ผมนั่งงัวเงียอยู่ครู่หนึ่งเพราะเสียงโทรศัพท์ของพลอยไม่หยุดเสียที ผมจึงลุกขึ้นไปยิบโทรศัพท์มาแล้วจูบที่หน้าผากของพลอยเบา ๆ ครั้งหนึ่ง
"อรุณสวัสดิ์จ๊ะที่รัก ฝันดีรึเปล่า" ผมพูดทักทายเธอในสภาพเปลือยเปล่าทั้งคู่
"อือออ ใครโทรมาเหรอ" พลอยท่าทางงัวเงียตอบกลับมา
"อืมมม พี่อร" ผมมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์ อ่านชื่อบนหน้าจอว่า "อีอร" ทำให้ผมแปลกใจเล็กน้อย
"งั้นเอามา! โหล พี่อรว่าไง" พลอยทำตาลุกแล้วคว้าโทรศัพท์ไปจากมือผม
"จ้า ๆ เดี๋ยวไปเปลี่ยนนะ พลอยหลับเพลินไปหน่อย.... จ้า แค่นี้นะ" พลอยกล่าวตอบด้วยเสียงปกติ ผมได้แต่นึกในใจ ในบ้านนี้มีใครถูกกันบ้างหรือเปล่า พี่น้อง 3 คนไม่ถูกกันอยู่บ้านเดียวกันได้ยังไงหนอ ลูกคนเดียวแบบผมไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าแล้วพอสิ้นเสียงพลอยก็กดวางสาย
"กิ่ง งั้นเราไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะ กิ่งจะกลับเลยรึเปล่า" พลอยหันมาถามผมพลางเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว ผมสังเกตเห็นคราบน้ำเงียนของผมเองไหลย้อยลงมามาตามง่ามขาของพลอยขณะที่ยืนหยิบผ้าออกมาจากชั้นวางของ เธอเดินกลับมาแล้วยื่นผ้าเช็ดตัวให้กับผม
"เรารอที่นี่ก่อนก็ได้ พลอยไปนานเหรอ" ผมถามต่อ
"ก็ไม่นานหรอก พลอยจะไปรับพี่อร กับพี่จันกลับบ้านหนะ" พลอยตอบขณะเดินไปหยิบเสื้อผ้าของตัวเอง
"งั้นทำไมพลอยไม่รอที่บ้านกับเรา แล้วทำอะไรสนุก ๆ รอหละ" ผมเดินเข้าไปกอดพลอยจากด้านหลัง ลำควยของผมตั้งโด่แทงที่ก้นแน่น ๆ ของพลอย
"บ้า! นี่แน่! เมื่อคืนก็ทำจนเราสลบยังจะมาต่ออีก" พลอยตีมือผมที่โอบกอด ประสานกันอยู่ที่บริเวณท้องน้อยของพลอย
"ล้อเล่นหรอกน่า เดี๋ยวเรากลับบ้านก่อนนะจ๊ะที่รัก เดี๋ยวมาหาใหม่นะ" ผมหอมแก้มพลอยทีนึงก่อนจะปล่อยให้พลอยไปอาบน้ำ
เช้าวันนั้นหลังจากผมและพลอยแยกกัน ผมกลับถึงบ้านก็ล้มตัวลงนอนหลับเป็นตายจากความเหนื่อยอ่อนทั้งจากที่โดนพี่อรเปิดซิง แล้วมาจัดหนักกับพลอยจนผลอยหลับไปอีก ความเหนื่อยล้าเหมือนยังไม่คลายไป ทำให้ผมต้องขอนอนพักเอาแรงอีกซักวันนึง เดี๋ยววันพรุ่งนี้ผมค่อยเริ่มต้นอ่านหนังสือใหม่ก็แล้วกันยังมีเวลาอีก 2 วันก่อนจะสอบ คิดได้แบบนั้นแล้วผมก็สลบเหมือดไป มารู้สึกตัวอีกทีแม่ของผมก็โทรมาสอบถามสารทุกข์สุขดิบตามปกติ เมื่อคุยจบผมมองนาฬิกาเป็นเวลาเย็นแล้ว ท้องของผมตอนนี้หิวมาก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปดูจะเป็นทางออกที่เร็วที่สุด ผมฉีกซองเทบะหมี่และเครื่องปรุงใส่หม้อ แล้วเดินไปที่เตาไฟฟ้ากะว่าจะเทน้ำขวดใส่ความซวยก็บังเกิด ไฟดับ... ผมได้แต่ทอดถอนใจหันไปหาหยิบซองบะหมี่ที่ยังไม่ได้ทิ้งวางไว้ที่โต๊ะพับ ผมหยิบเจ้าก้อนบะหมี่สอดกลับเข้าไปในซองแล้วทุบ ๆๆๆๆ มันจะแหลกเทมันกลับลงไปคลุกกับเครื่องปรุงรสในหม้อแล้วจกกินอย่างเหนื่อยหน่าย พร้อมจิบน้ำหนึ่งขวดที่เหลืออยู่ประทังความหิวไปอีกมื้อนึง
วันเสาร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2568
บ้านสามใบเถา ตอนที่ 1
บนเส้นทางชีวิต --"ปฐมบท" ---
โลกมันเหวี่ยงเรามาให้เจอกัน แล้วทำให้เราจากกันเหลือแต่ความรู้สึกที่ระลึกถึงกัน จนวันหนึ่งมันเล่นตลกกับเราเหวี่ยงเรามาให้เจอกันอีกครั้ง
หลังจากที่ผมบอกเล่าในเว็บว่า "เราอย่าท้อและอย่าด้อยค่าชีวิตเราเอง" ตัวเรามีค่าและพัฒนาชีวิตตัวเองได้เสมอถ้าเราวางเป้าหมาย เข้าใจความสามารถของตัวเองจริงๆและยกตัวอย่างน้องผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้ามาทำงานกรุงเทพ เก็บเงินแล้วกลับไปทำเกษตรที่บ้านเกิดตัวเอง ได้กลับไปเรียนต่อจนจบและทำธุรกิจพึ่งพาตัวเองได้ มันช่างบังเอิญที่เขาเองก็เข้าเว็บนี้และเจอเรื่องราวของเธอเอง ผมจึงถามตัวผมเองว่าโลกมันกลมหรือสังคมที่สนใจเรื่องราวในเว็บนี้มันแคบคือมีคนอยู่จำนวนหนึ่งเท่านั้นที่เปิดใจคุยกันได้
เราโทรคุยกันบ่อยขึ้น ทั้งตัวเธอเองและแฟนของเธอพวกเขาทั้ง2คนไม่มีความลับอะไรกัน แฟนเธอเสียอีกที่มีความลับกับผมที่ผมรอโอกาสถามอยู่ ตอนที่แฟนผมไปติดต่องานต่างจังหวัด แฟนผมเขาขอให้แฟนเธอไปเป็นเพื่อนและขับรถให้โดยบอกว่าเบื่อลูกค้าขี้หลีชอบกะลิ้มกะเหลี่ยเวลาเข้าไปเสนองานแต่ถ้ามีผู้ชายไปด้วยลูกค้าก็ไม่กล้า ตลอด3วันที่แฟนผมอยู่กับแฟนเธอที่เป็นอดีตเอน-เนอร์หล่อๆ กลับมาผมถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง แฟนผมตอบยิ้มๆบอกว่าไม่มีอะไร ผมไม่เซ้าซี้เธออยากบอกเธอก็บอกเองมันเป็นรื่องที่ผมคิดเองเออเองได้ ส่วนน้องผู้ชายแฟนเธอก็ไม่เคยปริปากพูดถึงเรื่องนี้ เรื่องนี้มันเกิดขึ้นนานแล้ว ตรงนี้ผมขอเสริมกับผู้อ่านนิดหนึ่งว่าการที่เราได้เห็น ได้อ่านเรื่องของเซลล์ไปทำอย่างนั้นนี้กับลูกค้า มันอาจจริงบ้างไม่จริงบ้างนะครับ ปกติเซลล์เขาจะไม่ขายแบบ "ฮาร์ดเซลล์" ขนาดนั้น เขาขายสินค้ากำไรได้บริษัทถึงเราได้ค่าคอมกันก็ไม่คุ้มกัน แฟนผมเขาไม่เคยมีอะไรกับลูกค้า แฟนผมว่าบอกมันไม่ปลอดภัยทั้งทางด้านร่างกายและการเก็บเป็นความลับ ถ้าเขาไม่ต้องการสินค้าของเรา เราก็ไปหาขายคนอื่นไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้น ส่วนพวกลูกค้าที่มีทริคหน่อยก็ขอเบอร์ไว้ ถ่วงไว้ไม่ให้เซลล์ปิดการขาย หลังจากนั้นก็โทรกะลิ้มกะเหลี่ย อาจมีจริงๆที่ได้บ้างแต่ไม่มากนักหรอก ไม่เชื่อลองถามพวกจัดซื้อชายดูว่าเขาเคยได้เซลล์หญิงไหม บางคนเจอกันเพราะงานขายก็จริงแต่สานต่อเรื่องอื่นจึงชอบพอกัน
น้องผู้ชายแฟนเธอชวนผมไปพักที่โฮมสเตย์ของเขา "พาพี่ผู้หญิงมาพักผ่อนบ้างก็ได้" เขาบอกอย่างแฝงนัย ผมเองก็ไม่ว่างและระยะทางที่ไกลจึงรับปากว่าถ้าว่างเมื่อไหร่ก็จะหาโอกาสไปเที่ยว ผ่านไปไม่กี่วัน น้องผู้หญิงก็โทรมาถามว่า ถ้าคุยยาวผมพอมีเวลาไหมเธอจะขอคำปรึกษา เธอบอกว่ามีเจ๊คนที่แฟนเธอรู้จักตั้งแต่เป็นเอน-เนอร์ในงานปาร์ตี้ที่กรุงเทพ เขาจะพาราชการท้องถิ่นมาดูงานอยู่แบบพอเพียงอะไรประมาณนี้เพื่อจะได้เอาไปเผยแพร่ต่อแต่การดูงานของข้าราชการ เขาต้องทำรายงาน มีชื่อ-สกุลจริง สถานที่ที่ไปดูงานจริง เธอไม่สะดวกที่จะรับแต่ไม่รู้จะปฎิเสธเจ๊เขาอย่างไรเพราะเขามีบุญคุณกับแฟนเธออยู่มาก สรุปคือเธออยากให้โฮมสเตย์ของเธอไร้ตัวตน สืบค้นไม่ได้จากเอกสารหรืออินเทอร์เน็ตแต่ไม่รู้ว่าจะหาวิธีปฎิเสธอย่างไรให้รักษาน้ำใจผู้มีบุญคุณไว้
ผมถามเธอว่า เจ๊รู้มั้ยว่าโฮมสเตย์เรา (ไปลงทุนกับเขาเมื่อไหร่ว่ะ) มีคอนเซ็ปต์อย่างไร เธอตอบว่ารู้ เจ๊เคยมาพักแต่แฟนเธอเป็นคนต้อนรับเธอเคยคุยกันแต่ไม่สนิทกัน ผมบอกเธอว่า "บางทีเมื่อชีวิตเราโตขึ้น เราจะเจอกับบททดสอบที่ยากขึ้น" เราต้องเข้มแข็งพอที่จะรู้จักปฎิเสธ ถ้าสิ่งนั้นมันอาจทำให้เราลำบากในภายหลังได้ ถ้าเลือกปฎิเสธแฟนเธอต้องเจอกับความเจ็บปวดในใจไประยะหนึ่ง ขอให้ดูแลเอาใจใส่เขาให้ดี นี่คือวิธีแก้ตรงที่ปลายปัญหาสุดแต่คิดว่ามีวิธีอื่นอยู่นะ คือถ้าเจ๊เขารู้ว่ามีคอนเซ็ปต์อย่างไร เขาต้องไม่คิดให้คนอื่นมายุ่ง(โดยเฉพาะราชการ)แต่แรกแล้ว "ตรงนี้เจ๊มีสิ่งอื่นแฝงอยู่หรือเปล่า? ให้แฟนเธอคุยกันแบบเปิดใจบางทีเราอาจได้คำตอบที่ไม่ต้องปฏิเสธก็ได้" เช่น ถ้าเจ๊จะเล่นการเมืองท้องถิ่นจะสร้างการยอมรับ เราก็ให้พวกเขาพักในตัวเมืองแล้วไปติดต่อหาคนปลูกผักแบบเราแถวนั้น ขอใช้พื้นที่เขาให้เจ๊ดูงาน ใช้ชื่อสวนผักเขา เงินให้เขา เช้ามืดเราก็จัดรถไปรับ เย็นก็ไปส่งกลับ อาจมีค่าใช้จ่ายแต่มันจะรักษาความเป็นส่วนตัวและไม่ลำบากใจเราเอง เธอบอกว่าจะเอาไปปรึกษากับแฟน
วันถัดมาแฟนเธอโทรมาหาผม บอกว่าคุยกับเจ๊แล้ว จริงๆแล้วเจ๊อยากจัดแท้งคิวปาร์ตี้แบบเอ็กคลูซีฟ งานเลี้ยงขอบคุณมากๆสำหรับคนที่เกี่ยวข้อง เจ๊เขาเป็นเจ้าของสำนักงานบัญชี เป็นนายหน้าขายที่ดินและรับผิดชอบการโอนส่งมอบที่ดินและแคชเชียร์เช็ค รวมถึงการขออนุญาตท้องถิ่นปลูกสร้าง พึ่งทำงานใหญ่สำเร็จมา ค่าตอบแทนงามจึงจะชวนมือกฎหมาย เจ้าหน้าที่นโยบายท้องถิ่นและครูโรงเรียนสังกัดท้องถิ่นที่เป็นเพื่อนเจ้าหน้าที่นโยบาย รวมเจ๊ด้วย 4 คนเป็นผู้หญิงทั้งหมดมาปาร์ตี้เล็กๆแบบเอ็กคลูซีฟปาร์ตี้ห้องหญิง แล้วให้แฟนน้องผู้หญิงเป็นเอน-เนอร์ ผมถามย้ำว่าพวกเขารู้ใช่ไหม? แฟนน้องเขาตอบว่ารู้ เขาเองก็ถามย้ำเพราะมีมือกฎหมายมาด้วยจากปาร์ตี้มันจะติดคุกเอา จากข้อหาอนาจารแต่ถ้าทุกคนยินยอม นิดหน่อยไม่เป็นไรเพราะมันเป็นปาร์ตี้ ได้รายละเอียดครบครับ แฟนน้องเขาฉลาดหรืออาจเพราะเอน-เนอร์ต้องไหวพริบดีและจำชื่อ รายละเอียดผู้คนได้แม่น
ก่อนวางสายน้องผู้หญิงขอคุยกับผม อยากให้ผมมางานด้วย เธอรู้สึกกลัว เธอบอกว่าปกติแขกที่จะมาพักจะกลัวเธอแต่คราวนี้เธอกลับกลัวแขก ผมบอกว่าคีย์หลักคืออย่าหลอกเขา อย่าทำอะไรที่เขาไม่เต็มใจ อย่าคิดเองเออเองว่าทำอย่างนี้เขาต้องชอบและสมมุติให้ทุกคนมีเครื่องหมายห้ามเอน-เนอร์แตะเนื้อต้องตัว ไล่งานเอ็นเตอร์เทนจากเบาก่อน ดูถ้าไม่ไหวก็เป็นปาร์ตี้สายฮาธรรมดา ถ้าเอนเตอร์เทนหนักแบบเอ็กคลูซีฟจะต้องสร้างเงื่อนไขให้เขามี "ทางเลือกเดียว" คือจบปาร์ตี้แล้วเงียบไว้เพราะถ้าเขาไปเล่าใครเขาจะเสียหายมากกว่าเรา เธอบอกว่าตรงนี้รู้แล้ว แต่ยังกลัวอยากให้ผมไปอยู่ด้วย พี่เคยสอนหนูว่าเมื่อเราจวนตัวจริงๆ เราแก้ปัญหาเองแล้วแต่แก้ไม่ได้ "อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือ" ผมเพิ่งสอนเธอไป สอนจบผมถูกลองของทันที "ผมเหลือทางเลือกเดียว" เพราะถ้าเธอขอช่วยแล้วผมวางเฉย ถ้ามันเกิดอะไรขึ้นผมคงต้องเสียใจไปอีกนาน แต่ถ้าเธอหลอกต้อนผมให้ไม่มีทางเลือกอื่นเหมือนที่ผมสอน เธอฉลาดที่จะเรียนรู้เร็วมาก
เอ็กคลูซีฟปาร์ตี้ คืออะไร อย่างไร? ผมเล่าต่อตอนหน้าครับ (ในวันอาทิตย์หน้า) ปกติผมจะเขียนบล้อกไม่ค่อยจบมันขึ้นอยู่กับอารมณ์แต่เรื่องนี้ผมตั้งใจเขียนให้จบ
--ไว้พบกันใหม่ครับ--
-ข้อความข้างต้นทั้งหมดมันเป็นนิยายที่ผู้เขียนจินตนาการขึ้น สถานที่ เรื่องราว ชื่อบุคคลใดๆทั้งหมดที่เกี่ยวข้องถูกสมมุติขึ้น หากคล้ายหรือพ้องกับผู้ใดผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาและไม่ได้หมายถึงผู้ใด-
น้าสาวโดน 2 หลานชายเล่นซะแล้ว ( ปฐมบท ) Ep.1
น้าสาวโดน 2 หลานชายเล่นซะแล้ว ( ปฐมบท ) Ep.1
เขมิกา พี่สาว 28
แคทรียา น้องสาว 21
ราเชนทร์ ( ใหญ่ ) หลานชายคนโต 12
ราชันย์ ( น้อย ) หลานชายคนเล็ก 11
หนูชื่อแคทรียาพี่สาวชื่อเขมิกา เราอายุห่างกัน 7 ปี เราเป็นคนเชียงใหม่ อาศัยอยู่กับพ่อ-แม่รวม 4 คนเป็นบ้านสวนผลไม้ รายได้ พ่อแม่มาจากการทำสวน
พี่เขมิกาแต่งงานตั้งแต่อายุ16 มีลูกชาย 2 คนอายุห่างกันแค่ 1 ปี หนูช่วยพี่เขมิกาเลี้ยงหลานตั้งแต่หลานเล็กๆเราอายุห่างกันแค่ 9 ปี ไม่เหมือนน้า-หลานเหมือนพี่สาว-น้องชาย มากกว่า
ต่อมาหนูมาเรียนที่กรุงเทพจนจบทำงานที่กทม. เช่าบ้านอยู่เป็นของตัวเองมีกิจการส่วนตัว ฐานะไม่เดือดร้อนเคยมีแฟนยังไม่เคยมีอะไรกัน ก็เลิกกันไปก่อน ครองตัวเป็นโสดทำงานเก็บเงินอยู่คนเดียวอย่างมีความสุข ว่างก็แวะไปบ้านที่เชียงใหม่พบ พ่อ-แม่พี่เขมิกา และหลานชาย 2 คนที่ซนเป็นลิง
ตอนนี้พี่เขมิกาอายุ28 หนู 21 ราเชนทร์(ใหญ่)คนโต อายุ 12 ราชันย์(น้อย)คนน้องอายุ 11 ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีอย่างมีความสุข
จนปัจจุบัน....พศ.2567
เกิดน้ำท่วมเชียงใหม่อย่างไม่ทันตั้งตัวน้ำท่วมมาก..มาก อย่างที่เป็นข่าว ทุกอย่างพังหมด บ้าน สวนไร่นา พ่อ-แม่ พี่เขมิกาแทบหมดตัว เครียดไปหมด สามีพี่เขมิกา ก็พยายามสร้างขึ้นมาใหม่พอดีช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ 2 เดือน พี่เขมิกา จึงเอาหลานชาย 2คนลงมาฝากให้หนูเลี้ยงที่ กทม.. ส่วนเธอต้องไปกอบกู้บ้านและสวนที่เชียงใหม่พ่อ-แม่ก็ห่วงบ้านไปยอมมาอยู่ กทม..จึงมีแค่ หลานทั้ง 2 ลงมาอยู่ที่ กทม.กับหนู..
หลานทั้ง 2 อายุ แค่11-12 ปีเอง เรียนชั้น ป.5 และ ป.6ฉลาดอยากรู้อยากเห็น เชื่อฟังเป็นเด็กดี จึงอยู่ด้วยกันไม่มีปัญหา แต่เด็กสมัยนี้อาหารการกินดี ตัวโตเกินวัย ร่างการโตใหญ่กว่าน้าสาวอีก
เมื่อพี่เขมิกานำหลานชายมาฝากฝังเรียบร้อยพี่ก็กลับไปเชียงใหม่ ดูหลานหลานเศร้าไปเลย เพราะนิสัยเด็กไม่เคยห่างพ่อ-แม่ตอนนี้ต้องมาอยู่กับน้าสาว ยังไงก็ไม่เหมือนอยู่กับ พ่อ-แม่
หลานๆ ดูแลตัวเองไม่ได้วันๆเล่นกันสกปรกไปหมด เราเป็นน้าสาวต้องดูแล การกินการนอน การอาบน้ำสารพัด แต่ไหวเพราะเคยดูแลตั้งแต่เล็กๆ เพียงแต่เดี๋ยวนี้ตัวโตไปหน่อยแต่ความคิดอ่านก็เด็กอยู่ดี เด็กประถม....พอดีเป็นช่วงศุกร์สุดสัปดาห์เลยหยุดดูแลเขาที่บ้าน ให้เขาเล่นแบบเด็กๆ วาดรูป เล่นเกมส์ไป 2คนก็อยู่ได้ แต่น้าสาวสังเกตุได้ว่า หลาน 2 คน ชอบหนังในมือถือกัน 2 คน โดยเธอไม่รู้เลยว่าหนังที่หลานดูเป็นหนัง XXX ด้วยความอยากรู้อยากเห็นอยากลอง
……ทานอาหารเย็นเสร็จ...
น้อย(ราชันย์) ทำโอวัลตินร้อนลวกมาที่กางเกงเกือบโดนเป้าหนูต้องรีบจูงเขาไปห้องน้ำ เปิดน้ำเย็นราดบล้าง แล้วถอดกางเกงเขาออก โชคดีไม่บาดเจ็บอะไร เลยต้องถอดเสื้อผ้า ออกจนหมด แล้ว ฟอกตัวอาบน้ำให้เขา เพราะ น้อยยังอาบน้ำเองไม่เป็นพอราดน้ำไปทั่ว มือผสมสบู่ลูบไล้ไปมาจนทั่ว พอมาถึงที่อวัยวะเพศ หนูตกใจ...อะไรนั่น..
เพราะมันค่อนข้างอ่อนแต่ใหญ่น่ากลัวห้อยอยู่เคยเห็นของแฟนที่เลิกกันไป มันเล็กกว่านี้ เลยค่อยๆฟอกสบู่ไป มา มันก็ค่อยๆพองแข็งมากขึ้นจากที่ห้อยนิดหน่อย มันก็เด่ผงกขึ้นมาเกือบ 90 องศา ปลายหนังเริ่มเปิดแง้มหัวถอกโผล่ออกมา เงี่ยงเกือบหลุดออกมาข้างนอก หนูใจไม่ดี มือสั่น กล้าๆ กลัวๆ รีบฟอกสบู่ล้างจนสะอาดทั้งตัวแล้วราดน้ำทำความสะอาด มันก็พองขยายยาว ไม่ยอมหยุดรีบเช็ดตัวแล้วพาไปแต่งตัวอย่างโล่งอก
เมื่ออาบน้ำให้คนน้องแล้วก็พาคนพี่ราเชนทร์(ใหญ่)ไปอาบบ้าง เมื่อฟอกสบู่ก็ยิ่งตกใจเพราะท่อนเอ็นมันใหญ่กว่าคนน้องอีกยิ่งฟอกยิ่งลูบมันยิ่งพองโต ยาวเป็นคีบ จนดึงหนังปลายออกหัวบานเงี่ยงพ้นออกมายิ่งฟอกสบู่มันยิ่งพองใหญ่ ยิ่งยาว หนูใจคอไม่ดี รู้สึกแปลกๆ รีบอาบให้เสร็จแล้วพาไปแต่งตัวด้วยมือที่สั่นๆ ใจก็สั่น ไม่พูดอะไรกับหลานสักคำ เสร็จแล้วก็พาทั้ง 2 คนไปดู ทีวี
ทั้ง 2คนขอร้องว่าอยู่ที่บ้าน เขาจะปูที่นอนดู ทีวี ก็เลยตามใจ เอา เบาะที่นอนขนาดใหญ่มาปูพร้อมหมอนผ้าห่มให้เขาดูทีวีกัน แล้วหนูก็ไปอาบน้ำที่ชั้น 2
(บ้านนี้ปิดประตูเปิดแอร์ ยุงไม่เข้า)
เมื่อถอดเสื้อผ้าหมดหน้าห้องน้ำก็เข้าไปอาบน้ำมันเหนื่อยไปหมดกับการดูแลหลาน 2 คน โดยไม่รู้ตัวว่า ที่หน้าห้องน้ำ หลานทั้ง 2มาแอบชะเง้อดูน้าสาวอาบน้ำ แบบอยากรู้อยากเห็น สักพักก็ลงไปนอนดูทีวีที่ชั้นล่าง
เมื่ออาบน้ำเสร็จ ส่วมชุดนอนทาแป้ง พรมน้ำหอมเสร็จก็ลงไปดูทีวีเป็นเพื่อนฝนเริ่มตั้งเค้าพายุฝนเริ่มมาฝนตกหนัก หนูเป็นห่วงบ้านที่เชียงใหม่จึงโทรไปหาพี่เขมิกาพบว่าที่เชียงใหม่ฝนยังตกหนัก แต่ไม่ต้องห่วง จึงมานอนดูทีวีกับหลานๆ
จนเริ่มดึกถึงเวลานอน จะพาไปนอน ฝนตกหนักกว่าเดิม มีฟ้าผ่าฟ้าร้องดังมาก หลานๆกลัวมากเข้ามากอดน้าอย่างตัวสั่น ขอให้นอนเป็นเพื่อน พอดีที่บ้านมีแต่เตียงเดี่ยวนอนคนเดียวหลานๆ คงนอนด้วยไม่ได้ สรุปคือ นอนที่พื้นหน้าทีวีทั้ง 3 คน โดยน้าสาวนอนตรงกลางหลานนอนขนาบ 2 ข้าง
นอนไปได้สักพักฟ้าผ่าดังมาก
“ ใหญ่กลัวครับน้าแคท....”
“น้อยก็กลัวครับ...”
หลาน 2 คน ส่งเสียงร้องระงมทุกครั้งที่ฟ้าผ่า พลิกมากอดน้าที่นอนตรงกลาง ทั้ง ซ้ายและขวาหน้าซุกเข้ามาแน่น จนน้าแคทคนสวย ต้องโอบทั้งคู่ปลอบใจให้หายกลัว
“เปรี้ง.....เปรี้ยง....เปรี้ยง...”
ฟ้าทั้งผ่าเสียงดังทั้งแสงสว่าง วาบ วาบ น่ากลัว จนบ้านสั่นสะเทือนไปหมด
หลาน 2 คนกลัวจนขนพองสยองเกล้า กอดแน่นกว่าเดิม หลับตาปี๋ทั้งคู่โอบกอดรัดน้าสาวหนักกว่าเดิมจนน้าหายใจแทบไม่เอา เธอจึงเอาแขน 2ข้างมาแนบตัว ขณะที่หลานทั้งคู่ตะแคงหันเข้าหาเธอทั้งคู่
แล้วมือเจ้ากรรมเธอก็ไปโดนไอ้จู๋ของหลานใหญ่มันแข็งจนตำมือเธอ ลองขยับไปมา มันแข็งกว่าเมื่อตอนอาบน้ำให้ ยาวและใหญ่กว่าเดิมน้าสาวใจสั่น ตัวแข็ง
หลาน 2คนก็นอนดิ้นไปดิ้นมา เธอนอนตรงกลางนอนหงายใจสั่นๆ ใจหวิวๆทางขวาเป็นหลานคนโตทางซ้ายเป็นหลานคนเล็ก พลิกไปพลิกมาทั้งคู่แล้วก็ตะแคงเข้ามาหาเธอเอาแขนสองข้างโอบกอดร่างสวยหอมกรุ่นของเธอ ส่วนท่อนควยของเด็กๆ มันก็ค่อยๆแข็งแล้วมันก็มาทิ่มแทงต้นขา 2 ข้างของเธอจนเธอรู้สึกได้ ด้วยความอยากรู้เธอลดมือลงไปทั้ง 2 ข้าง คลำเจอท่อนควยหลานทั้งคู่ แข็งปั๋ง ตั้งเด่ดันกางเกงนอนออกมาจนตุง มีผงก งึกๆ เป็นจังหวะ มันทั้งร้อนทั้งแข็ง จนเธอต้องหดมือกลับมา
มือของหลานทั้งสองคนก็วุ่นวายซุกซนขยับไปมา ยกมือลูบตามแขนเธอ จนเธอเริ่มรู้สึกสยิว เสียวขนลุกพยายามปัด หยิบแขนของหลานออกไปจากตัวเธอสักพักมันก็กลับมาอีก
ไม่นาน มือหลานๆ ก็เริ่มลูบไล้ตามตัวเธอทั้งๆที่เธอส่วมชุดนอน เธอเริ่มไม่แน่ใจว่าหลาน 2คนนี้ทำไปเพราะละเมอหรือว่าแกล้งทำ หรือว่ารู้ตัว แต่ตอนนี้ที่รู้แน่ๆอารมณ์เธอเริ่มกระเจิงใจสั่นหวิวๆเหงื่อซึมเล็กน้อย เพราะแฟนเธอไม่เคยรุกรานทำกับเธอมากขนาดนี้ ความรู้สึกแปลกมันเริ่มเกิดขึ้นแต่นี่มันหลานชายนะ
เธอรู้สึกว่านอนหงายคงจะแย่เธอจึงนอนตะแคงข้างขวาหันหน้าไปหาหลานชายคนโต-ใหญ่ พอหันตะแคงขวา ต้นขาขวาของเธอก็ไปโดนท่อนควยที่โผล่ออกมานอกกางเกงนอนของใหญ่เพราะมันแข็ง ยาวดันจนพ้นกางเกงนอนออกมา หนังรูดจนหัวบานพ้นออกมา แดงก่ำ มีน้ำใสๆ เยิ้มที่รูปลายท่อนควย
หลานใหญ่ยกมือมาบีบบี้จุกเต้าที่เริ่มแข็งชูชันของน้าแคท บีบเค้นเต้านมที่เริ่มขยายแข็งหยุ่น ความเสียวเริ่มเกิดกับน้าคนสวย
“ซี๊ด..ซู๊ด...” เสียงครางเบาๆ โดยไม่ตั้งใจหลุดออกมาจากปากหญิงสาวแรกรุ่น
เธอรีบพลิกตะแคงไปทางซ้ายหันไปหาหลานน้อย-ราชันย์ทรวงอกเธอ ตรงกับระดับปากหลานน้อยพอดู เขาดูดจุกนมที่แข็งตั้งผ่านเสื้อนอนที่บางเบา อีกมือ จับเต้านมอีกข้าง บีบเบาๆเป็นจังหวะน้าสาวรู้สึกใจจะขาด ขณะเดียวกัน ด้านหลังก็รู้สึกว่า หลานใหญ่ขยับเข้ามาประกบเธอท่อนควยที่ตะหง่านมันทิ่มแทงร่องก้น จนดุนมาถึงด้านหน้า เธอรู้สึกได้เลย ว่ามันไปสัมผัสกับ ปากแคมของเธอ และท่อนควย มันผงก งึกๆ แล้วหลานใหญ่ก็ล้วงมือเข้าไปใต้เสื้อนอนน้าสาวแล้วลูบไล้แผ่นหลังที่เนียนขาวอ่อนละมุน ไปมา ดึงเสื้อนอนตลบขึ้น หน้าแนบไปจูบ ดมเลียไล้ไปตามแผ่นหลัง น้าสาวสยิวใจจะขาด ขนลุก แทบไม่มีแรง จึงไม่รู้ตัวว่ากระดุมเสื้อนอนด้านหน้าโดนปลดหมดแล้ว ด้วยฝีมือหลานน้อย
น้าสาวพลิกตะแคงหันไปทางขวาใหญ่ได้โอกาส ซบหน้าเข้ามาที่หน้าอกที่เปลือยเปล่า ใบหน้าซุกไซ้ไปๆ มาๆจนเธอเริ่มรู้สึกมีอารมย์มือหลานบีบเค้นเต้านม อ้าดูดนมจุกนม ลิ้นดุนดัน เธอเริ่มครางเป็นพักๆด้วยความเสียว
“ซี๊ด...โอ็ว.....อย่า....หยุ..ด...อย่า..ไม่...นะ.”
เสียงห้ามเบาๆหลุดออมาจากปากน้าสาวร่างงามเริ่มบิดสยิวร่อนไป..มา จนเธอเริ่มรู้สึกหมดแรงจนต้องนอนหงายเสื้อนอนหลุดรุ่ย เต้านมเต่งเปล่งประกายกลางแสงไฟใหญ่พลิกกายขึ้นไปบนร่างของน้าแคท
พอเธอรู้ตัว เธอก็ดันหลานชายคนโตออกไปแล้วเธอก็พลิกตะแคงไปข้างซ้ายหาหลานชายคนเล็ก ไม่ต่างกันกับหลานชายคนโตหลานชายคนเล็กพอเธอหันไปหาเด็กน้อยก็ซบมาที่หน้าอกเปลือยของเธอ คลอเคลียดูดจุกนมแข็งชูชันของเธอ แล้วมือก็ซนควานไปจนทั่วทั้งเอวทั้งหน้าท้องทั้งเต้านมที่เริ่มแข็งเป็นไตหยุ่นๆสู้มือหลานบีบมันอย่างมันมือเริ่มมีเสียงครางฮือๆออกมาจากหลานชาย
“..อูย.น้าแคทหอมจัง น้าแคทสวยจัง....โอ๊ว....”
น้าสาวพยายามจ้องมองหน้าว่าหลานตื่นหรือหลานละเมอแต่หลานก็ยังหลับตาสนิทมือลูบคลำเต้านมเธอไปมา ลูบคลำร่างกายเธอ ลูบไล้ไปหน้าท้อง เอานิ้วเขี่ยสะดือเธอจนเธอสยิวเธอเสียวซ่านจนต้องครางซี๊ดเบาๆขนลุกไปทั้งตัว
เธอเริ่มไม่แน่ใจว่าหลานทั้งคู่หลับแล้วละเมอหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆเธอเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาแล้วด้วยความสยิวจากการกระตุ้นของมืออันบอบบางของหลานชายทั้งคู่ที่ผลัดกันมาบีบทรวงอกอันอล่างฉ่างเต้านมงามของเธอไปมาแถมยังเอามือลูบไล้ไปตามร่างกายแขนที่ขาวเรียว บางทีก็เอามือไปลูบรอบสะดือหน้าท้องของเธอจนเธอขนลุกขนชันกลิ่นกายหลานทั้ง 2 ก็หอมกรุ่นแบบเด็กชายวัยรุ่นมีกลิ่นที่บอกไม่ถูกว่าอะไรแต่มันกะตุ้นอารมย์รัญจวนในใจเธอ
“หลาน..นะ..หลาน....”
เธอพยายามห้ามใจ ไม่ให้ฟุ้ง ซ่าน.....
ตอนนี้เธอนอนหงายเสื้อนอนเกือบจะหลุดไปแล้ว แล้วมือ 4 อันก้มาลูบคลำตัวเธอ บีบทรวงอกอูมวุ่นวายใจอย่างมาก
“ น้า ครับ...น้าหอมจังเลย...น้าสวยจังเล.ย.” เสียงหลานคนโตดังออกมาเบาๆ
แล้วใหญ่ก็ก้มหน้ามาจูบปากน้าสาว เหมือนไฟฟ้าดูด เธอไม่เคยโดนจูบมาก่อน แม้แฟนเก่าก็ได้แค่จับมือรสขาติการจูบมันเร้าใจจนเธอเผลออ้าปาก แล้วลิ้นอันอ่อนนุ่มของทั้งคู่ก็มาสัมผัสกันแรงตัณหา ทำให้ทั้งคู่ทำไปตามธรรมชาติโดยไม่ต้องมีใครสอน ต่างดูดดื่มลิ้นของกันและกันมาน้าสาวจิต-สมองพร่ามัวแล้ว เลือดกำดัด ไหลเวียนในร่างเธอมันเร้าร้อนจนเธอไม่อาจต้านทานได้ จนเผลอยกมือ 2 ข้างโอบร่างใหญ่อ้อมไปลูบไล้แผ่นหลังที่บึกบึนร่างใหญ่เกินเด็กประถม
“..อ้า...โอ๊ว...ซี๊ด...” น้าสาวครางเสียงกระเส้าอย่างเคลิบเคลิ้ม
หลานคนเล็กก็ไล่จูบเลียตั้งแต่ซอกคอลำคอ ไปทรวงอกสล่าง ลงต่ำไปที่หน้าท้องเลียรอบสะดือแล้วค่อยๆรูดกางเกงนอนน้าสาวออกไป
น้าแคทตอนนี้ไม่มีแรงขัดขืนเพราะเพลิงไฟปรารถนาคุโชน จากไม่เคยสัมผัสอะไรแบบนี้มาก่อนกางเกงนอนปลิวออกไปแล้ว หลานคนเล็ก บุกจู่โจมเลียแคมสองข้างของน้าสาวจนทั่ว
น้าสาวกางขา 2 ข้างอย่างตั้งใจ เพื่อรับรสสวาทที่สุดยอดในชีวิต การรุกเลียของหลานคนเล็กที่ได้ดูมาจากหนังโป๊ทำให้เด็กน้อยทำเลียนแบบได้อย่างไม่ยากเย็น เมื่อเลียแคม ดูดดุนจนทั่ว ก็โจมตีเม็ดแตด แค่นี้ น้าแคทก็ดิ้นเป็นปลาโดนทุบหัว
“อย่า..อย่า.เลียตรงนั้น..น้า...น้า..เสียว..อย่า..ซี๊ด..หยุดเถอะ..อย่า... “
เสียงน้าสาวที่อ่อนไหวกระเส่าแสดงถึงความเงี่ยนในอารมย์ยิ่งกระตุ้นให้หลานคนเล็กยิ่งระดมเลีย นิ้วแหวกแคมออกเป็นช่องลิ้นเลียเข้าไปในช่องหลืบ เกร็งลิ้นเป็นแท่งแทงเข้าออก เลียกินน้ำรักน้าสาว ที่หอมหวานที่เริ่มหลั่งไหลออกมา ร่องรูสวาทมีบีบรัดเกร็งเป็นจังหวะตามความเสียว สยิวที่เกิดขึ้น
แล้วหลานคนเล็กก็ขยับแทรกเข้าไปหว่างขาของน้าสาวที่กำลังโดนปรนเปรอความสุขแล้วสิ่งที่หลานแรกหนุ่มไม่เคยทำ เคยแต่ดูในหนังโป๊ เขากำลังจะได้ลิ้มรสแล้ว มันตื่นเต้นดีใจแทบจะทนไม่ไหว
นิ้วมือแหวกแคมทั้ง 2กลีบเป็นช่องรู จ่อปลายควยที่แข็ง แดงก่ำออกม่วง ถูไถปลายบานกับน้ำรักจนชุ่มแล้วค่อยๆดันชำแรกแทรกเข้าไปในร่างน้าสาวคนสวย
“อ๊าก..แน่น...อย่..อย่า......หยุด..เอา...ออก..อย่า..ไม่ได้นะ..อย่า.. “ น้าสาวยังพอ มีสติ บ้าง ร้องห้าม..
ตอนนี้เอาช้างมาฉุดก็ไม่หยุดแล้ว หลานคนเล็กเงี่ยนจนสำนึกผิด-ชอบ ไม่มีแล้วมีแต่ความสุขที่อยู่ตรงหน้า มีแต่ความอยากลอง
น้าแคทดิ้นรน ปัดป้องหลานคนโต รีบเอาตัวทับร่างน้าสาว จูบปากปิดเสียงร้อง มือ 2 ข้าง คลำคลึงเต้าทั้ง 2หลานคนเล็ก รีบดันท่อนควยเข้าไปช้าๆ น้าสาวดิ้นรนขัดขืนไม่ได้ รูสวาทเธอเป็นเป้านิ่งรับการชำแรกจากท่อนควยหลานคนเล็ก
“อูย..น้าครับ...ดีจังเลย...ดีกว่าดูในหนังอีก..”
แล้วเด็กหนุ่ม ก็ค่อยๆดันเข้าไปช้าๆน้าสาวคนสวยร่างเกร็งด้วยความเสียว ไม่กล้า ดิ้น เพราะยิ่งดิ้นรูสวาทเธอยิ่งเสียดสีกับท่อนควยที่ค่อยๆ จมลึกเข้าไป ยิ่งดิ้นความเสียวซ่านในรูสวาทยิ่งมากจนเธอแทบบ้าตาย แม้มันจะติดขัดเด็กหนุ่มก็เกร็งเอวดันเข้าไปจนทะลุทลวงเยื่อพรมหจรรย์ ของน้าสาวจนได้...
“ผึ๋ง....แคว๊ก.....”
เมื่อเยื่อขาดท่อนควยก็ดันต่อไปเรื่อยๆไม่มีอะไรต้านที่ปลายถอก
“.โอ๊ว...ซี๊ด..อย่า.พอแล้ว..เอา..ออก...พอ.แล้ว...”
แม้จะเสียวสยิวแต่น้าสาวกยังออกปากห้าม..สบลับกับการจูบปากของหลายคนโต...
“อุ๊บ...”
น้าแคทคนสวยรู้สึกจุก เพราะ เด็กหนุ่มดันท่อนควยเข้าไปสุดแล้ว ท่อนควยจมหายไปท้งแท่ง แคม 2 ข้างอ้าอมควยจนบวมเป่งแคมสีดแงชมพูเต็มไปด้วยเลือดฝาดของหญิงสาวปากมดลูกโดนกระแทกด้วยปลายถอก เสียวจุกที่มดลูก ปล๊าบขึ้นไปที่ท้องน้อยวิ่งไปยอดอกจนน้าสาวผวากอดร่างหลานคนโตแน่นด้วยความเสียว นิ้วทั้ง 10 จิกลงที่แผ่นหลังของหลานหน้าเชิด ปากจู๋ ยั่วยวนจนหลานต้องก้มไประดมจูบปากอย่างเสียวซ่าน
พอหลานคนเล็กคลายความเสียวจากความสุขที่เพิ่งได้รับในชีวิตก็เริ่มเกร็งเอวถอนท่อนควยสาวออกมาจากรูสวาท เงี่ยงควยครูดผนังช่องคลอดน้าสาวยิ่งเพิ่มความเสียวจนสุดทน
“..อ๊าก..เบา.บา.น้า.เสียว..ช้าๆ.ช้าๆ...”
น้าสาวครางยาวตลอดทางการถอนท่อนควยออกมาจนสุดพลางยกก้นตามขึ้นมา ปากก็จูบกับหลานคนโต แอ่นอกดันเต้านมให้บีบเค้นได้สะดวกมือ
“ส๊วบ...อึ๊บ...”
หลานชายเกร็งควยแทงสวนเข้าไปเร็วกว่าครั้งแรกสร้างความสุขเสียวให้แก่น้าคนสวยและหลานอย่างมากมายยิ่งกว่าเมื่อกี้...ร่างน้าสาวเกร็งเหยียดทั้งตัว ร่างหลานซบลงแลบเลียหน้าท้องขาวเนียนเพื่อลดความเสียวที่ปลายหัวควย
จากนั้นศึกใหญ่หลวงก็เกิดขึ้น หลานเด็กน้อยควยใหญ่ เริ่มกระเด้ารูสวาทของน้าแคทคนสวยอย่างมีความสุขเหมือนเขาได้ของเล่นชิ้นใหม่ที่ถูกใจและให้ความสุขกับเขามากอย่างไม่เคยเจอมาก่อนยิ่งซอย ยิ่งกระเด้า น้าสาวแทบขาดใจ ตัณหาเด็กหนุ่มยิ่งเพิ่มขึ้น
“อูย..ซี๊ด..ราชันย์น้า..เสียวจังเลย..ราชันย์..”
ความสุขที่ราชันย์ประเคนให้น้าสาวช่าง หนักแน่น ดุดัน สุดยอด ร่างน้าสาวแทบแหลกลาน จากพละกำลังที่มากมายของเด็กวัยรุ่นน้าสาวร่างสะท้านทุกครั้งที่โดนกระแทก น้ำรักกระสานซ่านเซ็นเลือดสีชมพูจางๆจากการฉีกขาดของเยื่อพรหมจรรย์ แทรกไหลย้อยมากับน้ำรักที่เจิ่งนองแคม 2 ข้างบานหุบ ทุกครั้งที่ท่อนควย วิ่งเข้าออกรูสวาทน้าแคทเสียงน้าตคนสวยครางอย่างมีความสุขที่สุดในชีวิต
หนอกหลานชายกระแทกเม็ดแตดน้าสาวใจน้าสาวแทบขาด การซอยเย็ดแบบหนังโป๊ ทั้ง ซ้าย ขวา ลึกตื้น คว้านเอว ไปมา แบบที่ดูในหนังจนจำได้ถูกนำมาใช้ในทุกท่วงท่า น้าสาวยิ่งเสียวซ่าน
น้าแคทส่ายเอว เด้งเอวรับการกระเด้าของหลานอย่างเป็นจังหวะปรุงรสสวาทให้ทั้งคู่มีความสุขมากขึ้น
หลานราเชนทร์เห็นแล้วเงี่ยนมาก เลิกจูบปากน้าสาว คุกเข่าจ่อปลายควยที่ปากน้าคนสวย
“น้า..ครับช่วยอมควยผมด้วย...น้าจะสนุกกว่านี้...”
ตอนนี้น้าแคทแสนร่านไม่สนใครเป็นใครแล้วฤทธิ์ดำกฤษณาราคะบดบังความผิดชอบ ชั่วดี มีแต่ความสุข ความเสียว ที่ต้องการ สัญชาตญาณดิบครอบคลุมเธอแล้วเธออ้าปากอมท่อนควยอันทมึนใหญ่ เข้าปากหลานกระเด้าเข้าออกในช่องปากเธออย่างเสียวซ่าน ยิ่งอม ยิ่งรูด ท่อนควย ยิ่งพองโตยาวมากขึ้น แม้น้าสาวจะอมไม่เก่ง แต่ความขรุขระในช่องปากลิ้นที่อ่อนนุ่มก็กระตุ้นท่อนควยได้เป็นอย่างดี การอม รูด ดูดพร้อมกับเอวหลานที่กระเด้าเข้าออกที่รูสวาท ยิ่งกระตุ้นหลานให้อารมย์กามารมย์กระเจิง
“อูย...น้า ครับผมเสียว..จังเลย น้า...”
ยิ่งได้ยินอย่างนี้น้าสาวยิ่งเงี่ยน ยิ่งรัวปาก อมดูดรูดดุนอย่างเมามัน เป็นการใหญ่
เบื้องล่างหลานคนเล็กก็กระเด้าเย็ดรูสวาทของน้าสาวอย่างหนักหน่วงทั้งซอยทั้งกระเด้าทั้งคว้าน อย่างถึงพริกถึงขิง กระตุ้นราคะ ตัณหาให้แก่น้าสาวไม่หยุดความเสียวที่ได้จากรูสวาทมันส่งมาที่ปากแรงดูดแรงรูดแรงเลียของเธอก็รุนแรงขึ้นทำให้หลานชายคนโตยิ่งเสียวซ่านเงี้ยนจนท่อนควยพองใหญ่ยาวเต็มที่ในโพรงปากของน้าคนสวย
“อูย..เสียว..น้าครับ..ผม.เสียวมาก.จะไม่ไหวแล้ว.น้า.”
ยังไม่พอหลานคนเล็กล้วงมือข้างขวาสอดเข้าไปใช้นิ้วหัวแม่มือกดบี้ขยี้เม็ดแตดน้าสาวไปมาพร้อมกับการสาวเอวกระแทกกระทั้นอย่างรุนแรง เพื่อรีดความสุขให้แก่ตัวเองและมอบความสุขให้แก่น้าสาวยิ่งซอยยิ่งมัน ยิ่งกระเด้ายิ่งลึกความเสียวไฟราคะของน้าสาวขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุดเธอดึงท่อนควยของหลานชาย-ราชัน ออกมา
“โอ๊ว...น้าเสียวจะแย่แล้ว..น้าจะแย่แล้วจะขาดใจ...มัน..มันบอกไม่ถูก...”
น้าแคทกำลังจะถึงจุดสุดยอดของความสุขในชีวิตครั้งแรกในชีวิตแล้วรูสวาทของเธอเริ่มบีบรัดเป็นพักๆ มันไปรัดท่อนควยของหลานคนเล็กทำให้เขายิ่งเสียวซ่านการกระเด้าเข้าออกช้าลง ยิ่งช้ายิ่งเสียวมาก แรงดูดรูดรีดกับผนังช่องคลอดยิ่งมาก ความเสียวของหลานชายก็ยิ่งมาก รูสวาทของน้าสาวก็ยิ่งเสียว
“ น้า..ครับ..รูน้า.รัดของผมแน่นมากเสียวจะแย่แล้ว “
ต่างฝ่ายต่างร้องระงมไป มา เพราะความเสียวสยิว อัดอั้นอยู่เต็มอก นอกจากจะบีบรัดเป็นจังหวะแล้ว มันเริ่มมีแรงตอดดูดที่ตรงปลายหัวถอกเป็นจังหวะการดูดอย่างรุนแรงให้ความรู้สึกอย่างแปลกประหลาด หลานคนเล็กไม่เคยเจอมาก่อน ความสุขความสยิวที่มันสะสมมานานมันพุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุดจนกระทั่งไม่อาจทนได้
“ .น้า..ผมเสียว..ผมเสียว..เสียวมาก...ผมปวดฉี่...”
แล้วเด็กน้อยก็กระแทกท่อนควยเข้าไปจนสุดอัดแน่นเข้าไปในโพรงสวาทของน้าคนสวย เธอสะดุ้ง ผวา เอามือ ไปโอบรัดหลานคนนี้เข้ามากอดไว้แนบอกความรักและความสุข ด้วยไฟตัณหาหน้ามืดที่ปกคลุมเธออยู่ พร้อมทั้งขมิบรูสวาท รีดรัด ท่อนควยของหลานเป็นจังหวะเดียวกันกับที่น้ำกามครั้งแรกของเด็กหนุ่มพุ่งกระฉูดออกมาแม้มันจะมีไม่มากเพราะเพิ่งจะเพิ่งจะผลิตเป็นครั้งแรกในชีวิตแต่แรงพุ่งของมันก็ไปราดรดปากมดลูกของน้าสาวจนเธอเสียววาบกอดหลานจนแน่น
น้าสาวสะดุ้งเฮือกรีบขมิบรูหีรับทั้งขมิบทั้งตอดทั้งดูดสูดเอาน้ำกามที่มีค่าครั้งแรกในชีวิตเข้าไปลึกที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้
หลังจากที่ต่างคนต่างขมิบต่างคนต่างตอดดูดไปสักพักแรงตอดดูดแรงขมิบก็ค่อยๆเบาลงเบาลง หลานคนเล็กหมดแรงเอนตัวนอนทับลงไปบนหน้าอกอันอล่างฉ่างของน้าสาวเธอกอดรัดหลานคนเล็กที่ทำให้เธอมีความสุขที่สุดในชีวิต
“..ทำไมหลานราชันย์..เก่งจังเลย..หลานทำให้น้ามีความสุขมาก...”
จากนั้นเธอก็พรมจูบใบหน้าหลานคนเล็กอย่างอย่างแสนรักและซึ้งในความสุขที่หลานคนเล็กมอบให้
ราเชนทร์เห็นทุกอย่างเขาเดินอ้อมมาค่อยๆดึงร่างของน้องชายออกไป
“ น้าครับ..ราชันย์มีความสุขไปแล้วผมขอด้วยนะครับ...”
ตอนนี้ไม่ว่าเป็นใครน้าสาวก็รับอยู่แล้วเพราะความสุขที่เธอได้รับมันช่างสวยงามจนเธอปฎิเสธไม่ได้ เธออ้าแขนรับการกระโจนเข้ามาของหลานชายคนโตอย่างต่อเนื่อง
ไม่รอช้าหลานชายแทรกเข้าไปจ่อท่อนเอ็นที่โดนปลุกจากปากของน้าสาวจนตอนนี้มันพองโตยาวใหญ่มาก เขาจ่อไปที่รูสวาทที่บวมเป่งด้วยเลือดราคะแคม 2 ข้าง บวมอวบอูมชิดกัน หลานคนนี้แหวกแคมที่บวมเป่งออกจากกันแล้วชำแรกแทรกปลายทวนที่กางเงี่ยงเป็นเห็ดใหญ่กว่าน้องคนเมื่อกี้จ่อตรงแล้วค่อยๆดันเข้าไปช้าๆ
“..โอ้ย..เบา.ๆนะ..ของหลานใหญ่กว่าของราชันย์อีก...”
ราเชนทร์ยิ้มด้วยความภูมิใจที่น้าสาวชมอย่างนี้เขาค่อยๆดันมันเข้าไปอย่างช้าๆรสสัมผัสจากความเสียวซ่านตั้งแต่รู้เปิดของหัวถอกหัวบานค่อยๆผ่านปากรูสวรรค์ลึกผ่านเข้าไปตรงปากทางช่องคลอดผิวขรุขระเป็นลอนคลื่นแต่ชโลมไปด้วยน้ำรักปนเลือดพรหมจรรย์สีชมพูระเรื่อเจิ่งนอง ทำให้มันหล่อลื่นไม่ฝืด
“โอ๊ย..น้าครับ..สุดยอดผมเสียวมากเลย ..เสียว..”
น้าสาวไม่พูดอะไรเพราะเธอเสียวแทบขาดใจ หลานค่อยๆดันเข้าไปน้าก็เสียว ทั้งคู่ต่างๆแข่งกันส่งเสียงระงมเป็นเสียงแห่งความเสียวซ่าน และความสุข หลานรักค่อยๆชำแรกดันควยเข้าไปช้าๆ
“ซี๊ด...ราเชนทร์ดีจัง เสียว..ช้าๆ นะ..”
“น้า..รูน้าคับแน่น..รัดบีบ ควยผมแน่นมากๆ เลย...”
น้าสาวเกร็งกัดฟันเพื่อสะกดความเสียวรองรับความสนุกที่หลานคนโตกำลังมอบให้ท่อนเอ็นอันเขื่องค่อยๆจมหายเข้าไปในรูสวาท เหมือนเสาลำใหญ่จมหายไปในบ่อทรายดูด รูสวาทอ้าอมดูดกลืนอย่างช้าๆทั้งที่เมื่อกี้เพิ่งผ่านศึกมาไม่นานจากนั้นมันค่อยๆจมลึกเข้าไป ลึกเข้าไป เหมือนรูสวาทเธอกำลังเขมือบท่อนควย
จนไปถึงปลายควยชนบี้กับมดลูกสุดทางตันหลานชายรู้ดีว่ามันสุดแล้วแต่ความสุขที่ได้รับเขาอยากได้มากกว่านี้ความไม่รู้ เขาก็พยายามดันเข้าไปอีก หญิงสาวรู้สึกจุกไปถึงยอดอกเพราะหลานชายพยายามดันต่อจนเธอต้องยก 2 มือดันอกหลานไว้
“พอ.แล้ว สุดแล้วจ้า...”
หลานชายได้ฟังก็ยิ้มเขาค่อยๆบีบเค้นจูบนม 2 ข้างจูบปากน้าสาวไปมาเค้นคลึงเต้านม จูบซอกคอและเล็มใบหูแลบเลียซอกคอจนน้าสาวสยิวขนลุกซู่
แล้วค่อยๆถอนท่อนควยที่เข้าไปชนมดลูกเมื่อกี้ถอนออกมาอย่างเสียวซ่านมันยิ่งครูดถูผนังรูสวาทของน้าสาวยังความสุขยิ่งขึ้น ไฟราคะที่เมื่อกี้ระเบิดไปแล้วจากหลานคนเล็กแต่มันยังไม่มอดเมื่อได้รับการกระพือจากลมตัณหาอีกครั้งมันก็ลุกขึ้นอีกอย่างรวดเร็วเสมือนหนึ่งมันไม่เคยดับไปเลย เมื่อสาวออกมาจนสุดน้าสาวซู๊ดปากกอดกอดคอหลานชายแล้วกระเด้าเอวสวนตามขึ้นไปเพื่อรีบอมดูดกลืนท่อนควยถอกที่ถอนออกมาอย่างเสียดายความสุขที่ถดถอยไป
หลานชายสุดเสียวเลยกระเด้าสวนลงมาแรงดันกระแทกของหลานชายไม่น้อยแรงกระเด้ายกเอวขึ้นของน้าสาวก็ไม่น้อย เมื่อ 2 แรงรวมกันแรงที่กระแทกเข้ามาความลึกที่เกิดขึ้นความเร็วที่มีสร้างความสยิวเสียวซ่านให้กับทั้งสองคนมากยิ่งกว่านั้นเพลงกามที่ร่วมกันบรรเลงช่างสุขสันต์อะไรอย่างนี้
“อ๊าก..น้า..เสียว...ดีจังเลย..น้าแคท...”
หลานชายคนโตมีแต่ความเงี่ยนมีแต่ความอยาก จนกระทั่งไม่อาจห้ามใจได้เขาเร่งซอยเร่งแทงเร่งกระเด้าน้าสาวคนสวยอย่างบ้าระห่ำน้าสาวตอนนี้เธอไม่มีความเจ็บปวดอีกแล้วมีแต่ความเสียวซ่านมีแต่ไฟราคะที่ต้องการกลืนกินกามารมย์ที่หลานคนโตมอบให้
มันสุขมันสนุกยิ่งกว่าหลานคนเล็กเมื่อกี้ยิ่งมันในทุกท่วงท่าที่หลานชายคนโตมอบให้ทั้งสไตล์การกระเด้าความลึกของของท่อนควย ความใหญ่ของท่อนเอ็นความถี่ ความเร็ว ความแข็งแรง ร่างกายที่บึกบึนของหลานชายคนนี้เหนือกว่าคนเล็กในทุกๆอย่างน้าสาวได้รับการปรนเปรออย่างแสนมีความสุขส่ายร่อนเอวเหมือนหงส์ร่อน มังกรรำรับการแทงทะลวงของหลานชายไม่ลดละเพราะความสุขที่ได้มันมากล้น
เสียงครางกระเส่าของน้าสาวมีดังไม่หยุดเสียงกระเด้า หนอกกระแทกหนอกดัง
“ ปั๊ป...ปี๊ป..ป๊าป...ป๊าป...”
ร่างน้าสาวสั่นไหวสะท้านสะเทือนไปตามแรงการเย็ดของหลานร่างใหญ่
เสียง “เจ๊าะแจ๊ะ....เจ๊าะแจ๊ะ....”
เสียงน้ำรักที่หล่อลื่นจากท่อนควยที่วิ่งเข้า-ออกรูสวาทที่คับแน่น เสียงเหล่านี้ดังเป็นจังหวะการซอย การโยก เป็นเสียงที่ยั่วกามอารมณ์ยั่วอารมณ์ให้ทั้งคู่ยิ่งสนุกยิ่งมีความสุขไปกับการขย่มยิ่งนัก
เพราะหลานชายคนนี้ยังอายุน้อยแรกเข้างวัยรุ่น จึงมีความอดทนเป็นอย่างมากสามารถซอยสามารถเย็ดปรนเปรอความสุขให้น้าสาวได้นานกว่าน้องคนเล็กเมื่อกี้เพราะน้องคนเล็กตื่นเต้นมากกว่าแต่คนนี้อดทนได้มากกว่า ความสุขที่ได้รับจากน้องคนเมื่อกี้มากแล้วก็จริงแต่เมื่อมาเจอหลานคนโตเธอไม่อาจบรรยายได้เลยว่ามันมากมายกว่ากันแค่ไหน
ในที่สุดเพลงกามอันยิ่งใหญ่ครั้งแรกในชีวิตของคนทั้ง 2 ที่รุนแรง ยาวนาน ก็มาถึงจุดสูงสุดความเสียวซ่านที่น้าสาวมีในตอนแรกและได้ดับไปแล้วจากจากหลานชายคนแรกแล้วตอนนี้มันก็ไต่ขึ้นไตขึ้นสูงขึ้นไปสูงยิ่งกว่าในครั้งแรกจนถึงจุดระเบิด
“..ราเชนทร์...น้าเสียว..น้าจะ..จะ...ไม่ไหว..แล้ว น้า.. น้าไม่ไหวแล้วน้าจะแย่แล้วราเชนทร์...”
หญิงสาวร้องครางพลางกอดราเชนทร์แน่นอย่างสุดรักมือจิกไปที่หลังของราเชนทร์จนเป็นรอยเล็บทั้ง 10 นิ้ว ยกเอวขึ้นมารับการสวนแทงของท่อนควยของหลานคนเก่งหลานคงเก่งก็สุดจะแสนเสียวเพราะตอนนี้รูสวาทของน้าสาวกำลังบีบรัดท่อนเอ็นของเขาอย่างรุนแรงจนเขาไม่อาจทนความเสียวสุขได้มันสุดทน สุดกลั้น
เด็กหนุ่มแทงท่อนเอ็นอัดเข้าไปในรูสวาทอันแสนน่าพิศมัยเป็นครั้งสุดท้ายแทงเข้าไปจนสุดชนปากมดลูกเมื่อถึงตรงปากมดลูกปฏิกิริยาของน้าสาวก็จะขมิบรูสวาทด้วยความเสียวเพื่อดูดรัดดูดกลืนเอาน้ำกามของหลานน้ำกามขาวข้นจำนวนมาก ร้อนผ่าวพุ่งปริ๊ดราดรดปากมดลูกของน้าสาวอย่างรุนแรงเป็นจังหวะจังหวะพร้อมกับจังหวะการบีบรัดของรูสวาทน้าสาวอีกทั้งมีการดูดตอดของช่องคลอดเพื่อดูดกลืนน้ำกามของหลานเข้าไปให้ลึกที่สุดน้ำกามของของหลานคนนี้มากกว่าคนน้องเพราะเขาอายุมากกว่าและอาจจะเคยมีการช่วยตัวเองมาแล้วน้ำกามจึงออกมาเยอะ
เมื่อพ่นน้ำกามเป็นจังหวะจนหมดแล้วจังหวะการดูดรัดของน้าสาวก็ค่อยๆเบาลงเหมือนพายุที่พัดกระหน่ำดั่งเรือน้อยที่ท่องอยู่ในทะเลเมื่อพายุสงบลมก็แผ่ว บางเบาลงฝนก็ซา เรือลำน้อยก็ค่อยๆลอยไปกลางทะเล
ทั้งราเชนทร์และน้าสาวค่อยๆนอนซบอย่างอ่อนแรงลงไปกองอยู่ที่พื้นหน้าทีวี ทีวีกำลังเสนอข่าวว่าพายุฝนยังตกต่อเนื่องในประเทศไทยทั้งในกรุงเทพฯและเชียงใหม่ทั้ง 3 คนนอนกอดก่ายเกะกะกันอย่างมีความสุขหลังจากที่พายุกามสงบลงไปแล้ว แต่พายุฝนข้างนอกยังไม่สงบ
............................................................................
ไม่นาน สักพักน้าแคทก็ลุกขึ้นอย่างอ่อนเพลียเอาชุดนอนมาส่วม หลานราเชนทร์ส่วมชุดนอนแล้วเดินไปที่กระเป๋าส่วนตัวแล้วเดินกลับมาพร้อมยา2 เม็ด
“น้าแคทครับนี่เป็นยาคุมชั่วคราว กันท้องได้ทันที อีกเม็ดเป็นยาคุมชั่วคราวกันท้องได้ 72ชม.ครับ พอดีที่ โรงเรียนมีสอนเรื่องเพศศึกษา การป้องกันไม่ให้ท้อง “
หญิงสาวดีใจเพราะเธอกำลังกังวลว่าเธอจะท้องไหมได้ยาอย่างนี้สบายใจ เธอรับมากินเข้าไปทั้ง 2 เม็ด แล้วก็เดินไปห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย.......
โดยเธอไม่รู้เลยว่ายาเม็ดที่ 1 คือยาคุมชั่วคราว ออกฤทธิ์ทันมทีป้องกันการท้องได้ถึง 72ชม..อีกเม็ดนึงคือ “ ยาอี “
หลานคนโตมองน้าแคทคนสวยเดินเข้าห้องน้ำอย่างมีเลศนัย..พร้อมกับปลุกน้องราชันย์ให้ตื่นเพื่อ...........( ต่อ ภาค 2 )
เธอมากับเพื่อน
นี่คืออีกหนึ่งเหตุการณ์จริง ที่ผมได้พบได้เจอมา แล้วนำมาเล่า นำมาแชร์กันอีกครั้ง
…เรื่องราวเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็เพิ่งจะเกิดขึ้น สดๆร้อนๆ ช่วงต้นเดือน 4 ปี 2566 ซึ่งตัวผมไม่รู้จริง ๆ ว่า มันเป็นความบังเอิญจริง ๆ หรือว่าดวงผม 2 คน ได้ถูกใครกำหนดไว้ เพราะผมเจอกับเอในครั้งแรก ก็เป็นช่วงเวลานั้น "เดือนเมษายน"
………..หลังจากเหตุการณ์เมื่อ 2 ปีก่อน ผมกับเอเคยได้อยู่ที่ตึกหอพักเดียวกัน ห้องเช่าติดกัน จนทำให้ผมกับเอได้รู้จักกัน และเผลอใจถึงขั้นแอบมีเซ็กส์กัน หลังจากนั้นมา 6 เดือน เอกับยู (สามีเธอ) ก็ได้ย้ายที่พักใหม่ ทำให้ผมกับเอก็ไม่ได้เจอกันอีก
……….จากวันนั้นจนเวลาผ่านไปนาน 2 ปี ตัวผมเองก็แทบจะลืมเอไปด้วยซ้ำ เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมา ตัวผมเองก็มีเรื่องวุ่น ๆ จนมาถึงวันอาทิตย์ก่อนหน้าสงกรานต์ที่ผ่านมา ในระหว่างที่ผมกำลังขับรถกลับ ด้วยเวลาในตอนนั้น อยู่ในช่วงบ่าย 3 โมง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อากาศร้อนมาก (เกือบ ๆ จะ 40 องศา) ผมจึงตัดสินใจแวะเข้าห้าง เพื่อที่จะเดินตากแอร์ที่ห้างก่อนจะเข้าห้องพัก โดยในตอนนั้นเอง ผมก็เลือกที่จะไปเดินห้างแถว ๆ สะพานควาย
……….ในระหว่างที่ผมกำลังเดินตากแอร์ในห้าง คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ได้สักพักใหญ่ ๆ และในจังหวะนั้นเอง ผมก็กำลังจะเดินออกประตูห้าง เพื่อไปสูบบุหรี่ข้างตึกห้าง อยู่ ๆ ก็มีผู้หญิง 2 คน เดินสวนเข้ามา พร้อมกับจังหวะสบตากันกับผม ก่อนจะเดินผ่านสวนกันไป วินาทีนั้นผมรีบหยุดแล้วหันหลังมอง โดยที่เธอเองก็หันกลับมามองผม….โอ้วววครับ….ตอนนั้นผมจำได้ทันที ว่านั่น คือเอ และตัวเอเองก็จำผมได้ จากนั้นก็เป็นตัวเอเอง ที่ได้เดินย้อนกลับมาที่จุดผมยืน ด้วยสีหน้าที่เต็มไปความรอยยิ้ม เธอดีใจที่ได้เจอผม และตัวผมเองในตอนนั้นก็รู้สึกดี ที่ได้เจอเธออีกครั้งเหมือนกัน (จริง ๆ ผมไม่คิดว่า ในชีวิตนี้จะได้มาเจอกับเธออีก) ในระหว่างนั้นผมกับเอก็ได้เดินออกไปคุยที่ด้านข้างตึกห้าง ผมได้จุดบุหรี่สูบและก็ได้ยืนคุยสนทนากันกับเอ เรา 2 คนได้ถามไถ่ความเป็นอยู่ซึ่งกันและกัน จนผมรู้ว่าเธอย้ายไปพักหอที่แถวงามวงศ์วาน และในช่วงเวลาที่ผม 2 คนกำลังยืนคุยกันอยู่ ผมก็พยามมองสังเกตุที่ตัวเอซึ่งเธอก็ยังคงดูเหมือนเดิม แค่อายุเธอที่มากขึ้น (จาก 32 เป็น34 ปี) ผิวตัวก็ยังดูขาว หน้าตาก็ยังดูดุ ดูคมในแบบคนภาคใต้ แต่ด้วยเธอตัดผมสั้นแถมทำสีทอง ๆ ภาพรวม ๆ เธอ กลับดูเด็กกว่า 2 ปีก่อนเสียอีก และตอนนั้นเอเอง ก็ยังอยู่ในชุดฟอร์มทำงาน โดยที่เธอใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาว ทรงรัดรูปรัดตัว ที่ติดเครื่องหมาย บั้งสีดำขีดสีเงินติดบนสองบ่า รวมไปถึงเครื่องหมายแพรแถบและป้ายชื่อ ที่ติดอยู่เหนือ 2 หน้าอกใหญ่ ๆ ส่วนกางเกงใส่ทับเสื้อ เป็นกางเกงผ้าสีกลมท่าเข้ม ทรงรัดแนบเนื้อต้นขา รัดเป้า รัดตูด เหมือนที่ผมเคยเห็นมาตลอด แต่ผมมองว่าคล้าย ๆ แต่ไม่ใช่ ผมจึงถามเธอว่าเปลี่ยนงานหรือเปล่า ซึ่งเอก็ตอบว่าใช่ เธอย้ายจากพนักงานเก็บงานรถเมล์มาเป็นแอร์รถทัวร์ต่างจังหวัด ได้เกือบปีแล้ว
………..ในช่วงเวลาที่ผมกำลังยืนคุยกับเอ ด้านนอกของห้างได้ซัก 3-5 นาที ก็มีเพื่อนเอที่มาด้วยกัน ได้เดินตามออกมา และเดินตรงมาที่ผม 2 คนยืน ซึ่ง้อเองก็ได้รีบแนะนำให้ผมรู้จักทันที ว่านี่คือเพื่อนรุ่นน้อง ที่สนิทที่สุดของเธอ ชื่อวิ อายุ 24 ปี ทำงานที่เดียวกัน เอก็บอกต่อว่า วิยังไม่แต่งงาน แต่มีคนคบอยู่ กับคนที่ทำงานที่เดียวกัน และตัวเอเองยังได้ไปนอนค้างห้องวิบ่อย ๆ ในวันที่เธอทะเลาะกัยผัว ๆ ในขณะเดียวกัน ที่เอกำลังแนะนำตัววิให้ผมรู้จัก ผมก็ได้มองไปที่วิ ซึ่งตัววิเอง เธอเป็นคนรูปร่างใหญ่ (ตัวอวบสูง สะโพกน่าจะ 38up ) หน้าอกใหญ่ สูงกว่าเอที่สูงประมาณ 163 ซม. (วิน่าสูงไม่เกิน168 ซม. ) ส่วนหน้าตาก็ดูน่ารักดี เพราะเสริมจมูกโด่งเป็นแท่ง ไว้ผมยาวซอยหน้าม้า แต่งชุดฟอร์มแบบเดียวกับเอ และชุดก็รัดและฟิตตัวเหมือนกัน แต่ที่ต่างกันก็คือ ชุดฟอร์มที่วิใส่เป็นเสื้อเชิ้ตแขนสั้น ใส่ทับในด้วยกระโปรงสีกลมท่าทรงเอวสูง ทรงสอบเข้ารูป ปลายกระโปรงยาวเสมอหัวเข่า และที่เป็นจุดเด่นของตัววิจริง ๆ ก็คือ เธอมีผิวตัวที่ขาวจั๊วะ (ขาวออร่า) ขาวกว่าตัวเอแบบเห็นได้ชัดเจน แต่ในนาทีนั้น ผมไม่ได้สนใจอะไรกับตัววิมากนัก เพราะผมโฟกัสไปที่คู่นอนเก่าผมมากกว่า นั่นก็คือตัวเอ
…….ในระหว่างที่ผม 3 คนยืนคุยกัน และกำลังจะแยกย้ายกัน อยู่ ๆ เอก็ได้เอ่ยถามผมว่า "พี่มีธุระไปต่อที่ไหนหรือเปล่าค่ะ" พอผมได้ยินที่เธอถาม และในตอนนั้นผมก็ว่างอยู่แล้ว และที่สำคัญผมยอมรับว่าพอผมเห็นอร ตัวผมเองก็เริ่มมีอารมณ์ (เงี่ยน) ผมจึงรีบตอบกลับเอไปว่า "ว่างดิ...ไม่ได้มีธุระไปไหน" จากนั้นเอก็รีบพูดเอ่ยปากชวนผม เดินห้างด้วยกัน แล้วตอนเย็นก็ไปหาอะไรทาน โดยที่ผมก็รีบตกลงตามนั้นทันที เพราะคิดว่าเธอน่าจะทะเลาะกับผัวแน่ ๆ และในตอนนั้นเอง ผม 3 คนก็พากันเดินในห้างต่อ ในระหว่างที่ผม 3 คนเดินแวะดูของที่ห้าง เอกับผมก็เดินคู่กันตลอดแทบจะไหล่ชิดไหล่ (ถ้าคนไม่รู้ก็คงคิดว่าเป็นผัวเมียกัน ) ซึ่งผมเองก็รู้สึกฟินกับกลิ่นน้ำหอมจากตัวเอไปด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงที่ผม 3 คนหยุดแวะดูของ พวกมือถือ และพวกเสื้อผ้าที่กำลังลดราคา เอก็แทรกตัวเข้ามา ยืนหันหลังตรงหน้าผมแบบชิดตัวผม ทำให้เป้าผม (ที่ควยกำลังเริ่มโด่แข็ง) ได้ทิ่มแนบไปที่ก้นของเอ ที่รัดแน่นรั้งตึงด้วยกางเกงผ้า ผมรู้สึกได้ทันที ถึงความนุ่ม และความใหญ่ของก้นเธอ และก็มีบางจังหวะที่เอได้เดินเข้ามายืนชิดแนบตัวผม จากทางด้านข้าง ทำให้บริเวณช่วงแขนตรงข้อศอกผม สัมผัสไปโดนที่เต้านมใหญ่ ๆ ของเอ ทั้งโดนในแบบสกิด ทั้งแบบกระทบกระแทก และก็มีแบบแนบแช่ที่ข้อศอกผมในบางจังหวะ……โอ้วววครับ….ระหว่างที่ผมเดินคู่กับเอ ทุก ๆ จังหวะที่หยุด ทุก ๆ จังหวะที่เดิน ร่างกายผมได้สัมผัสโดนตัวเออยู่ตลอด ๆ ทั้งก้นทั้งตูด (ในแบบเนียน ๆ )
………….ในห้วงเวลาที่ผมกำลังเดินคู่กับเอ ตัวผมเองก็รู้สึกมีอารมณ์ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ…..จากสิ่งที่ผมได้สัมผัสและได้ใกล้ชิดกับตัวเอ….ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่าตัวเอเองจะตั้งใจหรือไม่ แต่ทุกครั้งในจังหวะที่เรา2 คนได้สัมผัสตัวกัน มันสปาร์คไฟราคะในตัวผมได้อย่างดี ผมเชื่อลึก ๆ ว่าตัวเอเองก็คงจะมีอารมณ์ ในแบบที่ผมกำลังเป็น ไม่มากก็น้อย ผมสังเกตได้จากสีหน้า และท่าทางของเธอที่มันได้แสดงออกมาให้เห็น……และมันคือจุดเริ่ม ที่ทำให้ตัวผมคิดขึ้นได้ว่า แม้ว่าตัวผมกับเอในสายตาคนอื่น ๆ รวมไปถึงตัววิเอง ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเอ ที่กำลังเดินอยู่ด้านหน้าผม 2 คน อาจจะมองว่าผมกับเอก็แค่คนรู้จักกัน แค่เคยพักอยู่ห้องติดกัน และก็ไม่ได้เป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก่อน…..แต่ในใจลึก ๆ ผมกับเอเราต่างก็รู้กันอยู่เต็มอก ว่าเรา 2 คนเคยเป็นมากกว่าที่ทุกคนรู้ เพราะเราเคยเป็นทั้งผัวเมีย เป็นทั้งชู้ หรือแม้แต่เป็นคู่นอน คู่ซ้อมกันมาก่อน
………….ในช่วงที่ผมเริ่มตั้งสติ และก็เพิ่งจะคิดได้ ผมจึงตัดสินใจ เลิกที่จะปิดกั้นตัวเอง อย่างที่ผมกำลังเสแสร้งแกล้งทำ และพยามจะกดมันอยู่ตลอดเวลาในตอนนั้น โดยการเลิกฝืนทำเป็นเนียน เลิกแกล้งทำเป็นว่าไม่รู้สึกอะไร แล้วแสดงออกไปตรง ๆ แบบชัดเจนให้รู้กันไปเลย อย่างน้อย ๆ ผมยังมั่นใจว่า "วัวเคยขาม้าเคยขี่" และในจังหวะที่ผม 3 คน กำลังจะลงบันไดเลื่อน ตัววิเองที่เดินอยู่ด้านหน้าก็ ได้เหยียบขั้นบันไดเลื่อนลงไปก่อน ต่อมาเป็นคู่ผมกับเอที่กำลังจะก้าวตาม ในจังหวะนั้นเองผมได้ยื่นแขนซ้ายอ้อมผ่านที่ด้านหลังเอ แล้วคล้องไปจับที่สะโพกด้านซ้ายเธอ พร้อมกับดึงตัวเอเข้ามาแนบติดกับตัวผม….ในจังหวะที่ผมได้ทำลงไปเพื่อสื่อสารให้เธอรู้ และตัวเอเองก็ได้เงยหน้าขึ้นมองที่หน้าผม ด้วยใบหน้าที่ดูเขินอาย พร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก และก็ปล่อยให้ผมทำแถมยังเอียงหน้าเอาแก้มขวามาซบตรงไหล่ซ้ายผม…..โอ้วววครับ…..ดูเหมือนว่าตัวเอเอง ก็รอให้ผมทำในแบบนั้นอยู่แล้ว มันยิ่งทำให้ผมมั่นใจและได้ใจ ในจังหวะที่ผมและเอกำลังยืนแนบติดกัน บันไดเลื่อนก็กำลังเลื่อนมาจะถึงพื้น ผมมองไปที่วิที่กำลังเดินหันหลังอยู่ และผมก็ไม่รอช้าผมปล่อยมือซ้ายจากสะโพกเอ แล้วเอียงตัวพร้อมกับยกมือ 2 ข้าง จับที่ใบหน้าเอแล้วโน้มตัวก้มหน้าไปหอมที่แก้มขวาเธอ 2 ฟอดแบบเน้น ๆ มันหอมชื่นใจดีจริง ๆโดยที่เอเองก็ทำตาโตเขินยิ้ม แล้วเอามือขวาเธอมาหยิกที่เอวซ้ายผมเบาๆ แล้วพูดขึ้นเบาๆว่า "อยู่ ๆ พี่จะมาหอมแก้มเอแบบนี้ไม่ได้น่ะ เดี๋ยวน้องมันเห็น" ผมก็ตอบกลับทันที แบบที่เล่นทีจริงว่า "งั้นพี่พาไปหอมที่เงียบ ๆ ได้ไหมหละ" พอเอได้ยินก็หัวเราะ แล้วหยิกที่เอวผมแรงขึ้น ในท่าทางแบบเขินอาย
………….ในระหว่างที่ผม 3 คนเดินในห้างได้เกือบชั่วโมง หลังจากที่ผมได้แสดงเจตจำนงค์กับเอตรง ๆ จากนั้นผมก็ได้ทั้งจับมือถือแขนกัน โอบเอวเกาะไหล่กันเดิน และก็มีบางจังหวะที่ผมใช้มือจับไปที่ก้นเอแล้วบีบแบบดื้อ ๆ ในระหว่างที่กำลังเดิน โดยทุกอย่างได้ทำจังหวะที่ลับหลังวิ จนกระทั้งถึงเวลาที่ต้องออกจากห้าง เพื่อไปหาอะไรกินด้านนอกห้าง ในตอนนั้นผมบอกแค่ว่า ทุกอย่างอยู่ในกำมือผมหมดแล้ว ขึ้นอยู่กับผมว่าจะเอายังไงต่อ และตลอดเวลาตรงนั้นผมก็พยามกระซิบ เอ่ยปากจะชวนเอไปต่อที่ห้องผม แต่เธอก็ยังดูลังเล เพราะมีวิมาด้วย และเธอต้องกลับที่ห้องเธอ เพราะเมื่อคืนเอได้นอนค้างที่ห้องวิ และยังไม่ได้กลับไปหาลูกกับผัว แต่ในหัวผมตอนนั้น ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แม้ว่าการที่ผมจุดไฟติดง่าย ๆ แบบไม่อยากเย็น แต่โอกาสแบบนี้มันไม่ได้มีให้ผมเจอได้บ่อย ๆ ก่อนจะเดินไปร้านก๋วยเตี๋ยวที่จะไปกินกัน ตัวผมเองก็คิดว่า ถ้าผมเร้าอารมณ์เธอไปเรื่อย ๆ สุดท้ายก็คงจะจบในแบบที่ผมต้องการ ผมเองก็ได้แวะไปซื้อถุงยางที่เซเว่นรอไว้ก่อน
………..พอในระหว่างที่ได้สั่งก๋วยเตี๋ยว และกำลังนั่งรอกันที่โต๊ะ ผมกับเอก็นั่งคู่ตัวติดกัน และผม 2 คนยังได้แอบนั่งจับมือกัน แบบประสานนิ้วกันที่ใต้โต๊ะ โดยมีวินั่งอยู่ตรงข้ามผม 2 คน ช่วงที่กำลังนั่งกินกัน ในตอนนั้นวิก็พยามถามเกี่ยวกับตัวผม เหมือนเธอเริ่มจะสงสัย หรือเธออาจจะเห็นในบางจังหวะ เพราะการที่ผมและเอได้แสดงออกมา มันเหมือนมาเป็นคู่ตัวติดกันที่เกินกว่าคนรู้จักปกติทั่วไป ผมจึงได้พยามอธิบายกับวิว่าตอนนั้นผมและเอ ที่อยู่ห้องติดกันก็เจอกันทุกวัน ทักทายและเล่นหวยลาวกันทุกวัน เป็นประจำเลยทำให้เราซี้กัน (ทั้ง ๆ ที่มันไม่จริงเลยซักเรื่อง) ในสิ่งที่ผมอธิบายไป และเอก็นั่งอมยิ้มเกือบ ๆ จะหัวเราะออกมา ตัววิเองก็เหมือนจะรับฟัง แต่ก็ยังไม่เชื่อสนิทใจ และในจังหวะวิลุกขึ้นจากโต๊ะ เพื่อไปซื้อน้ำที่เซเว่น ผมเองก็ถือโอกาสนั้น พยามพูดชวนเอไปต่อที่ห้องผม ตัวเอเองในตอนนั้น ก็มีท่าทีสองจิตสองใจ (เหมือนเธออยากไปตามที่ผมชวน)…แต่ในระหว่างที่ผมกำลังเร้าหรือเอ จากการอ้อนด้วยคำพูด พร้อมกับมือซ้ายผมพยามลูบไล้ไปที่ต้นขาของเอเบา ๆ…อยู่ ๆ โทรศัพท์เอก็ดังขึ้น และเป็นยูผัวเอที่โทรมา และสิ่งที่ผมได้ยิน จากการที่เ คุยโทรศัพท์กับยู….และผมได้ยินเสียงยูที่บอกให้เอกลับห้องด่วน เพราะลูกไม่สบาย….วินาทีนั้น ตัวผมรู้ได้ทันทีว่าคงอด 100 % จากที่ผม เพิ่งกินก๋วยเตี๋ยวอร่อย ๆ กลายเป็นไม่อยากกินต่อ…..และเอก็ว่างสายมองหน้าผม สื่อสารให้ผมรู้ว่าเธอต้องกลับไปหาลูก…..ซึ่งผมก็เข้าใจ..แต่ลึก ๆ ต้องทำใจ ทั้ง ๆ ที่ความเงี่ยนยังอยู่เต็มหัว และสุดท้ายผม 3 คน ก็ต่างคนต่างแยกกัน…..ตอนนั้นผมไม่รู้จะได้เจอกับเออีกไหม หรือจะชวนเธออีกยังไง เพราะจริง ๆ ผมแค่อยากที่จบกับเธอวันนี้ ก่อนที่กลับผมก็ได้ขอเบอร์เอเผื่อไว้……
…………หลังจากวันนั้น ที่ผมได้เจอกับเออีกครั้ง ก็ผ่านมาหลายวัน เกือบ ๆ จะ 1 อาทิตย์ ทุกอย่างก็ได้จบลงตรงนั้น ผมก็ไม่เคยได้โทรไปหาเธอ หรือแม้แต่เธอก็ไม่ได้ติดต่อกลับผม….จนถึงวันเสาร์ช่วงสาย ๆ 10 โมงเช้า ในช่วงจังหวะที่ผมกำลังเดินเข้าห้อง โดยผมได้เดินผ่านหน้าห้อง ที่เอเคยมาเช่าพัก ที่ติดกับห้องผม ซึ่งเป็นห้องที่ผม 2 คน เคยมีเซ็กส์กันเกือบ 1 วันเต็ม ๆ…ทำให้ผมนึกถึงหน้าเอขึ้นมาทันที ผมนึกย้อนกลับไปที่ตัวเอ เธอคืออีกหนึ่งคนที่ผมยอมรับว่า ผมมีเซ็กส์ด้วยแล้วผมรู้สึกมันส์ และได้อารมณ์มาก ๆ เพราะด้วยลีลาบนเตียงเอที่ไม่ธรรมดา (เธอรู้งาน) …และยิ่งทำให้ผมเงี่ยนมีอารมณ์มากขึ้น ก็เป็นคำที่เธอเรียกผมระหว่างที่กำลังมีเซ็ก ส์กับคำว่า "ผัวค๊ะ ผัวขา…เมียยังงั้นเมียอย่างนี้"……ผมยิ่งคิดผมยิ่งมีอารมณ์ เธอเด็ดจริง ๆ
…….ในตอนที่ผมนั่งคิด ใจผมที่อยากจะเย็ดเออีกรอบ แต่ในความเป็นจริง มันก็ไม่ได้ง่าย เพราะนั่นคือเมียชาวบ้าน ถ้าโอกาสมันไม่บังเอิญแบบที่ผมเพิ่งได้เจอมา มันยากที่จะหาข้ออ้าง….แต่ในอีกมุมหนึ่ง ผมก็อยากลองกับเออีกซักครั้ง เช่นเดียวกันถ้าเธออยากมีอะไรกับผม มันก็แค่ผู้หญิง ผู้ชายที่มีอารมณ์เงี่ยน โดยที่สมัครใจร่วมมีเซ็กกัน เสร็จแล้วก็ทางใครทางมัน แค่นั้น….และในตอนนั้นด้วยความเงี่ยนที่มีจนล้น ผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เพื่อที่โทรหาเอ ซึ่งตอนนั้นถ้าเธอปฎิเสธมันก็จบ ผมต้องยอมรับ และจะได้ตัดเธอออกจากสารบบในสมอง
……….วินาทีทีผมโทรหาเอ โดยที่เธอก็รับสายทันที (เธอรับโทรศัพท์ เร็วมาก) แต่ตอนนั้นผมรู้สึกเสียงภายนอกดัง และเสียงรถทัวร์ที่กำลังวิ่ง ผมแทบไม่ได้ยินเธอพูด และดูเหมือนเธอกำลังทำงาน จากนั้นสายก็ตัดไป ตอนนั้นผมก็งง ๆ มึน ๆ และคิดว่าคงจะไม่ได้จริง ๆ…(ผมโครตเซ็ง)…..จนกระทั้งผ่านไปเกือบ ๆ 2 ชั่วโมง ซึ่งเป็นช่วงบ่าย 2 โมง ผมเองก็กำลังนั่งทำใจที่ห้องคนเดียว…..แต่อยู่ ๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น และเป็นเอที่โทรกลับเข้าเครื่องผม ผมเองก็รีบรับสายทันที โดยที่เธอก็รีบขอโทษผมที่เธอวางสาย แล้วบอกว่าที่ผมโทรมา เธอเองยังไม่สะดวกเพราะทำงานอยู่ จากนั้นเธอก็ได้ถามผมต่อ ผมว่า "พี่โทรหาเอมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ" เพราะตัวผมไม่เคยโทรหาเธอซักครั้ง ในตอนนั้นผมก็รีบตอบกลับเอไปแบบตรง ๆ ว่า "พี่อยากเจอเอ และอยากจะชวนเอเดินหาอะไรทาน และหาอะไรดื่มแบบสองต่อสอง"….ซึ่งเอได้ยินก็ตอบตกลงทันที….โอ้วววครับ……อารมณ์ผมเปลี่ยนทันที….แต่เอมีข้อแม้ว่าต้องมีวิไปด้วย ไม่งั้นเธอจะไปไม่ได้ เพราะไม่มีข้ออ้าง….ซึ่งผมก็พยามจะต่อรองให้เอมาคนเดียว แต่สุดท้ายเอยังยืนยันว่าต้องมีวิอยู่ด้วย และเธอยังแนะนำว่า ถ้าจะกินเบียร์ด้วย ก็ให้ซื้อกับแกล้มแล้วมานั่งกินที่ห้องวิ เพราะเธอจะได้เต็มที่พอเมาจะได้นอนนั่นเลย ตอนนั้นผมก็ตกลง เพราะอย่างน้อยก็ได้เจอเออีก และส่วนบนเตียงผมจะไปตะล่อมหน้างานเอา ถ้าเธอเมาก็ยิ่งจะคุยง่าย
………….จากนั้นผมก็ได้ออกเดินทางไปตามที่นัดไว้ นั่นคือหน้าห้างเดิมที่เราเพิ่งเจอกัน ในเวลา 5 โมงเย็น พอผมไปถึงที่นัด ผมก็ได้ยืนรอ 2 คนนั้นที่ข้างตึกห้าง ผมยื่นรอสูบบุหรี่ยังไม่ถึงครึ่งมวน เอกับวิก็เดินตรงมาที่ผม โดยที่สองคนนั้นยังอยู่ในชุดฟอร์มทำงานเต็มยศเหมือนเดิม แต่สลับกันแค่ส่วนด้านล่าง วันนั้นเอเปลี่ยนเป็นใส่กระโปรงเอวสูงสีกลมท่า ทรงสอบรัดรูป และสั้นสูงขึ้นเลยเข่าจนมองเห็นต้นขาขาว ๆ ได้อารมณ์ดีมาก ส่วนวิเอง ก็เปลี่ยนมาใส่กางเกงสีกลมท่า และเป็นกางเกงเอวสูง ที่ทรงรัดและฟิตแนบเนื้อ โดยเฉพาะตรงเป้ากางเกงที่รัดแน่นตึง มองจากเป้าขึ้นมาหน้าท้องจนถึงเอว เห็นเป็นรูปโค้งนูนขนาดใหญ่ ซึ่งผมมองวิเธอดูฟิตดูแน่นไปหมด ก็น่าเย็ดไปอีกแบบ ในช่วงที่ผมยืนมอง 2 คนเดิน จนกระทั้งมาถึงตรงหน้า….โอ้ววว....ครับ…อยู่ ๆ เอก็เดินมาชิดที่ตัวผม พร้อมยื่นมือทั้ง 2 ข้าง คล้องที่แขนซ้ายผม แล้วขยับตัวแนบตัวไหล่ซ้ายผมในแบบกอดรัด แล้วพูดกระซิบเบา ๆ ว่า "พี่รอเอนานยังค๊ะ" ตอนนั้นผมตกใจ เพราะตรงหน้าผมนั่นคือวิ ที่ยืนดูอยู่ใกล้ ๆ มันยิ่งทำให้ผมตกใจและงงไปใหญ่…..จากนั้นเอก็จับมือผมเดินออกมา พร้อมกับเอพูดเล่าให้ผมฟังประมาณว่า ไม่ต้องปิดบังแล้ว เพราะตัวเอเล่าให้วิฟังหมดแล้ว และเรื่องนี้รู้แค่วิ ที่เธอเล่าเพราะวิสงสัยตั้งแต่คราวก่อน และถ้าเอไม่พูดความจริงวิก็จะไม่มาด้วย เอยังยืนยันกับผมว่า น้องเธอคนนี้เชื่อใจได้ เพราะเธอ 2 คนไม่เคยปิดบังกัน คุยกันได้ทุกเรื่อง และปิดความลับซึ่งกันและกันได้ 100% พอผมได้ฟัง ผมก็ต้องรับสภาพไป (เพราะไม่รู้จะแก้ไขยังไง )
………..จากนั้นผม 3 คน ก็ได้เดินเลือกซื้อกับแกล้ม ที่ตลาดนัดที่ตั้งขายหน้าห้าง และบริเวณรอบ ๆ ห้างอีกฝั่ง ผมและเอก็เดินจับมือ จูงมือ พร้อมกับสลับโอบเอวกันและกัน ในแบบเปิดเผย โดยมีวิเดินข้าง ๆ กันไป (ซึ่งมันก็รู้สึกดีไปอีกแบบ เพราะไม่ต้องเหนื่อยกับการปิดบัง) พอได้กับแกล้มมาหลายถุง ต่อด้วยการซื้อเบียร์ยกแพ็ค มา 3 แพ็ค 9 ขวดที่เซเว่น จากนั้นก็ได้เดินทางไปที่หอพักวิ ที่อยู่แถวบางซื่อด้วยแท็กซี่ ซึ่งก็ไม่ได้ไกลจากตรงนั้นมาก พอเดินทางไปถึงหอพักวิซึ่งเป็นคอนโดสูง 8 ชั้น ทุกคนก็ช่วยกันขนของเดินขึ้นตึก และห้องพักวิก็อยู่ที่ชั้น 3 ห้องมุมสุดทางเดินฝั่งขวา ในจังหวะที่วิเปิดประตูห้องออก จากนั้นก็เดินไปเปิดแอร์เปิดไฟ….สิ่งแรกที่ผมเห็น…..ห้องพักวิซึ่งมีขนาดกำลังดี มีห้องโถ่ง และมีห้องนอนแยกต่างหาก สะอาดมาก
……………ในช่วงที่จัดเตรียมทุกอย่างเสร็จ ผม 3 คนก็นั่งลงที่พื้นตรงห้องโถง โดยที่ผมนั้งหันหลังเอาเอวพิงที่โซฟา และมีเอนั่งพับเพียบข้าง ๆ ตัวผม อีกฝั่งตรงข้ามก็เป็นตัววิที่นั่งขัดสมาธิเอาหลังพิงโซฟาอีกตัว ในระหว่างที่ตั้งวงทั้งกินทั้งดื่ม ทั้งหมดก็ได้พูดคุยกันในเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย รวมทั้งวิและเอก็นั่งคุยนินทาในเรื่องคนที่ทำงาน โดยที่ผมก็นั่งฟัง ซึ่งทุกอย่างก็ราบรื่น และก็นั่งดื่มอย่างสนุกสนานกัน (ผมรู้สึกเพลินกว่าที่คิด) จนเวลาล่วงเลยมาเป็นชั่วโมง ผมรู้สึกว่าในตอนนั้นผม 3 คนก็เริ่มมีอาการตึง ๆ จากการดื่มเบียร์ ในระหว่างที่คุยกันไปเรื่อย ๆ เอเองก็เริ่มตัวขยับนั่งเอียงตัวเอาหน้าฝั่งซ้ายมาซบที่ไหล่ขวาผม และตัวผมเองก็ตอบรับ ด้วยการใช้มือขวาคล้องจับที่เอวเอแล้วดึงแนบเข้าหาตัวผม โดยที่แหวนเองก็พูดแซวขึ้นว่า "นั่น ๆ ๆ พอเมาแล้วเริ่มเอาเชียวนะคู่นี้ แล้วหัวเราะ" ในตอนนั้นผมและอรก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะทุกอย่างไม่มีอะไรจะต้องปิดวิ
……….ยิ่งพอเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ฤทธิ์จากเบียร์ที่ผมยกดื่ม มันก็เริ่มซึมซับเข้ามาควบคุมสมอง สติที่ยั้งคิดก็น้อยลง ความหน้าด้านก็เริ่มจะมากขึ้น ที่สำคัญความเงี่ยน ที่มีอยู่เต็มหัวก็เริ่มที่จะคุมไม่อยู่….ในตอนนั้นผมก็เริ่มฉุดคิดได้ว่า การที่ผมมานั่งอยู่ตรงนี้ มันไม่ใช่แค่มานั่งคุยสนุก ๆ และจากไป เหตุผลหลักของผมตั้งแต่แรก ผมมาที่นี่ก็เพื่อที่จะมาเย็ดเอ…..ด้วยความเมาและมีอารมณ์ที่ผมมี มันทำให้ผมเริ่มที่จะไม่สนใจในสิ่งรอบข้าง และผมได้ตัดสินใจ โดยใช้มือสองข้างจับตัวเอ ยกตัวเธอออกจากไล่ซ้ายผม พร้อมกับโน้มเอาหน้ายื่นตาม แล้วเอาจมูกแนบหอมที่แก้มขวาเอไปหนึ่งครั้ง…(หอมแบบเน้น ๆ ) ทำอย่างหน้าด้าน ๆ…..โอ้วววครับ….สิ่งที่ผมทำซึ่งมันได้ผล เพราะตัวเอเองที่อยู่ในอาการเมาและเพิ่งถูกผมหอมแก้ม เธอก็รีบยืดตัวขึ้นเอามือ 2 ข้างคล้องที่คอผม แล้วยื่นเอาปากมาจุ๊บที่ปากผมคืน โดยที่ตัววิก็ได้แต่นั่งมองตาม
…….….พอหลังจากนั้นมา แม้ว่าผมกับเอจะเปิดหัวด้วยการหอมแก้มและจุ๊บปากกัน แต่ในระหว่างนั้นผม 3 คนก็ยังคงนั่งดื่มและก็พูดคุยกันต่อ แต่ในห้วงเวลานั้น ผมและเอที่ทั้งเมาและก็มีอารมณ์ ในหว่างที่นั่งคุยกัน ผมและเอก็มีจังหวะหยุดคุยแล้วหันมาหอมแก้มกัน ผมหอมแก้มธอ เธอหอมแก้มผมตอบ สลับกันไปมาที่ตรงนั้น…..สิ่งที่ผมกับเอทำอยู่แบบนั้นตลอด ๆ ในระว่างนั่งดื่มที่วงกัน 3 คน….โอ้ววครับ…..ทุกอย่างตรงนั้น….มันไม่มีอะไรที่จะต้องไปแคร์อีกต่อไป แม้กระทั้งตัววิเอง ที่นั่งตรงข้ามและได้มองอยู่ตลอด จนกระทั้งตัวเอเองที่ดูจะเมากว่าคนอื่น อยู่ ๆ จากที่เอที่นั่งสลับหอมแก้มกับผม ได้เปลี่ยนมาเป็นการยื่นปากเข้ามา จ่อที่ริมฝีปากผมพร้อมกับแลบลิ้นออกมา…..วินาทีที่ผมเห็น ผมไม่รอช้า ผมรีบอ้าปากรับแล้วอมลิ้นเธอตอบ จังหวะพร้อมกันนั้น ผมและอรก็ใช้มือรวบตัวกัน นั่งกอดกัน โดยที่ปากก็ดูดกินน้ำลายกันและกันอยู่…..ทำต่อหน้าต่อตาวิ…..มันเป็นห้วงเวลาที่ผมและเอมาอยู่ในจุดที่คุมตัวเองไม่อยู่แล้ว
………ในช่วงที่ผมและเอนั่งกอดดูดปากกัน ต่อหน้าวิได้นานเป็นนาที จากนั้นเอก็ชักปากแล้วหันไปพูดกับแหวนแบบตรง ๆ ว่า (เท่าที่ผมจะจำได้)
เอ:/ "วิกูขอร้องหละ มึงออกช่วยไปข้างนอกก่อนได้ใหม? ซักชั่วโมงน่ะ น่ะ"
วิ :/ "พี่เอ มึงไม่เกรงใจผัวมึง กูก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วนี่มึงจะมาเกรงใจกูทำไมว๊ะ มึงอยากทำอะไรก็ทำไป"
เอ:/ "อีบ้า มึงจะบ้ารึไง ออกไปก่อนกูจะเย็ดกัน (พูดเสียงเบา) กูไม่ไหวแล้ว มึงออกไปก่อน กูขอหละ"
วิ :/ "พี่นี่มันห้องกู มึงจะให้กูออกไปที่ไหนว๊ะ นี่ก็ดึกแล้ว กูก็เองก็เมา มึงเคยคิดบ้างไหมเนี่ย”
เอ:/ "ทำเพื่อพี่ไม่ได้หรือไงว๊ะ!! แล้วมึงจะนั่งดูพวกกูเย็ดกันหรือไง อีบ้า"
วิ:/ "เอ้า!! พี่เอ มึงจะให้กูทำยังไง เอาอย่างนี้นะ กูก็จะนั่งกินเบียร์ต่อเรื่องก็ของกู ส่วนมึงกับพี่เขา จะนอนเย็ดกันที่เตียงนอนของกูก็เชิญเลย ก็เป็นเรื่องของพวกพี่ละกัน จบน่ะ"
……….ในระหว่างที่เอกับวิกำลังนั่งเถียงกันอยู่ ซึ่งผมดูแล้ววิก็คงไม่ไปไหน ในตอนนั้น ผมก็ไม่ไหว และไม่อยากจะหาที่ใหม่แล้ว ที่สำคัญซึ่งมันต้องวันนี้เท่านั้น!! ผมคิดได้
เรื่องเล่าของผัวเมีย #20
"เฮียโจ้ สถาปนิกนักรัก 3"
เนื่องด้วยจากเรื่องราวเมื่อตอนที่แล้วยังไม่จบจะขอเล่าต่ออีกนิดหน่อยแต่ว่าเป็นเรื่องในตอนเช้าของวันถัดมา
ผมรู้สึกตัวขึ้นประมาณหกโมงครึ่งซึ่งก็เป็นเวลาปกติที่ผมและกลอยจะตื่นเป็นประจำทุกวันยกเว้นวันหยุด แต่วันนี้วันเสาร์เป็นวันหยุดของผมกับกลอยด้วย แต่ผมตื่นมาก็ไม่เห็นกลอยแล้ว เร็วเท่าความคิด ผมคลานไปแอบดูที่จุดเดิม
ภาพขมุกขมัวในเวลาเช้าที่ห้องข้างล่างเป็นภาพชายหญิงกำลังโรมรันพันตูกันอยู่บนที่นอน ร่างกลอยเปลือยเปล่านอนหงายให้เฮียโจ้ซึ่งนุ่งกางเกงตัวเดียวเฟ้นฟอนสองเต้าอยู่อย่างเมามัน จากนั้นเฮียโจ้ก็เลื่อนหน้าลงต่ำซุกลงหว่างขาของกลอยพร้อมกับลงลิ้นเลียอย่างหื่นกระหายทำเอากลอยถึงกับส่ายเอวดิ้นพล่านๆ
เมื่อเห็นว่าได้ที่แล้วแกก็ลุกขึ้นถอดกางเกงออกปล่อยควยใหญ่ให้เป็นอิสระ แกนั่งคุกเข่าลงฉีกขากลอยออกกว้างจับควยจ่อเข้าสู่เป้าหมาย ไม่ต้องอารัมพบทให้มากความในเมื่อของมันคุ้นเคยกันมาแล้วตั้งแต่เมื่อคืน เฮียโจ้ค่อยๆ ดันเอวส่งควยเข้ารูสวาทช้าๆ กลอยครางซี๊ดด้วยความเสียวเมื่อควยใหญ่แน่นรูค่อยมุดเข้าถ้ำที่คับแคบของเธอ
"เมียจ๋า...หีเมียมันแน่นจริงๆ ตอดควยผัวตุบๆ เลย"
เฮียโจ้พูดข้างหูกลอยเบา เธอได้แต่หัวเราะคิกๆ หยิกแขนเฮียโจ้เบาๆ แล้วก็สูดปากด้วยความเสียวเมื่อเฮียโจ้เริ่มสาวควยเร็วขึ้น เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นมาถึงหูของผม มันสร้างอารมณ์ได้อย่างประหลาดเมื่อได้เห็นภาพเมียรักกำลังโดนชายอื่นกระแทกและได้ยินเสียงเนื้อกระทบกันผสมเสียงครางอย่างสุดเสียวของทั้งสองคน ผมจึงกระถอกเจ้างูเขียวในมือไปมาอย่างอย่างได้อารมณ์ยิ่งนัก
เฮียโจ้หยิบหมอนมาสอดรองก้นของกลอยให้แอ่นสูงขึ้นแล้วแกก็กระแทกใส่เนินโหนกอย่างแรงเสียงดังผับๆ กลอยร้องครางด้วยความเสียวซ่าน
"เมียจ๋า...เมียจ๋า...เมียจ๋า...เรียกผัวหน่อยเมียจ๋า" เฮียโจ้พูดไปก็กระแทกเอวใส่แรงๆ "พูดสิ...เมียจ๋า..ผัวใกล้แล้วนะ....แล้วเมียล่ะ"
"แรงๆ เลย...เมียก็ใกล้แล้ว...แรงๆ..ผัวขาาา"
เสียงกลอยร้องครางพูดแผ่วๆ มันเสมือนเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีให้เฮียโจ้มีแรงคึกขึ้นกว่าปกติ เมื่อแกได้ยินกลอยเอ่ยเบาแผ่วๆ เสียงขาดหายออกจากปากแบบนั้น แกก็โผนทะยานกระหน่ำเอวใส่กลอยอย่างเร็วและแรงขึ้นทันใด ส่งผลให้เกิดเสียงดังพร้อมกับเสียงร้องครางของคนทั้งสอง
"โอว..อ๊า...ผัวจ๋า..ระ..เร็ว"
"เมียจ๋า ...เมียจ๋า..ผัว..โอ๊วววว"
"อ๊าาา...."
ทั้งสองร้องครางเสียงยาวๆ พร้อมกันเมื่อเฮียโจ้กระหน่ำเอวเร็วระวิงและแน่นหนักส่งควยใส่รูของกลอย แล้วก็หยุดเอวกึกกระทันหันพร้อมบดอัดเอวเข้าแนบตัวกลอยอย่างแนบแน่น ทั้งสองนอนก่ายเกยกันพร้อมส่งเสียงหายใจอันหอบหืดดังขึ้นมาถึงผม ทั้งสองลูบคลำตัวกันและกันก่อนที่เฮียโจ้จะถอนควยใหญ่ของแกออกจากรูของกลอยแล้วนอนแผ่หราอย่างคนหมดแรง แต่สักครู่ ผมก็เห็นทั้งสองคนลุกขึ้นพากันเดินเข้าห้องน้ำ
ผมเปลี่ยนมาดูจุดที่เห็นในห้องน้ำ ทั้งสองคนหยอกเอินพูดคุยและผลัดกันถูสบู่ให้กันเสมือนหนุ่มสาวข้าวใหม่ปลามันก็ไม่ปาน ทำไห้ผมมีอารมณ์คึกคักเป็นอย่างยิ่ง เพราะได้เห็นชายอื่นชื่นชมและชื่นชอบเมียของตัวเองมากถึงขั้นหลงใหลในรูปกายของเธอจนอารมณ์ผมแทบกระฉูดน้ำคามือ แต่ผมต้องอดกลั้นไว้ก่อนขอแตกในใส่รูของเธอดีกว่ากันเยอะ
ทั้งสองอาบน้ำเสร็จผมก็กลับมาแอบดูจุดเดิมอีกครั้ง เห็นกลอยกัยเฮียโจ้ยืนกอดกันกลมอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ทั้งสองพูดคุยอะไรกันอยู่นานหลายนาทีก็ผละร่างออกจากกัน เฮียโจ้แต่งตัวและกลอยก็นุ่งผ้าเช็ดตัวเดินขึ้นชั้นบน ผมรีบกลับไปนอนแล้วทำเป็นหลับแต่ควยแข็งโด่ก็ดันกางเกงนอนของผมจนเห็นได้ชัด ซึ่งนั่นเพราะผมตั้งใจให้กลอยเห็นนั่นเอง
"นอนหลับยังแข็งโด่เลยนะเจ้างูเขียว"
ผมทำเป็นงัวเงียตื่นเมื่อได้ยินกลอยพูดพร้อมกับที่เธอลูบไล้ควยผมนอกกางเกง ผมลุกขึ้นนั่งปลดปมผ้าขนหนูเธออกจากร่างซุกหน้าลงดอมดมสองเต้าที่หอมละมุนด้วยกลิ่นสบู่และทำท่าจะก้มลงใช้ปากกับร่องเสียว กลอยคงจะรู้ว่าผมอาจจะได้กลิ่นควยและน้ำรักของชายอื่นที่ไม่ใช่ของผัวจากร่องเสียวของเธอแม้ว่าจะได้ชำระล้างแล้วก็ตาม เธอจึงรีบผลักผมให้นอนหงายแล้วถอดกางเกงผมออก จากนั้นเธอก็ปีนขึ้นร่างผมสอดงูเขียวเข้าร่องรูของเธอ
มันมุดเข้าช้าๆ ตามที่เธอค่อยๆ หย่อนก้นลงมา เธอขยับซอยอยู่สอง-สามครั้งงูเขียวของผมก็มุดเข้ารูได้จมมิด กลอยครางอือเมื่อเธอเริ่มขยับเอวบดควยผมผมไปมา สองมือเธอท้าวหลังไปจับสองเข่าผมแอ่นหน้าอกหราให้สองมือผมเคล้าคลึงสองเต้างามอย่างมันมือ
ไม่ต้องเล้าโลมอะไรกันมากเพราะเธอนั้นโดนเฮียโจ้สร้างอารมณ์ให้มาแล้ว กลอยโยกเอวเธอเร็วๆ รัวๆ พร้อมร้องครางอือๆ อยู่ตลอดเวลา ผมนั้นด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านก่อนหน้านั้แล้วก็แทบจะกลั้นไม่ไหวเหมือนกัน เมื่อเมียรักกำลังนั่งโยกคลีงอยู่บนตัวผม ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นไม่กี่นาที่ เธอยังโดนชายอื่นจับแหกกระแทกกระทั้นอยู่เลย
"เมียจ๋า...เมียจ๋า..ผัวมีความสุขจัง เมียมีความสุขไหม? เมียจ๋า...เรียกผัวสิ เมียจ๋า"
ผมพูดด้วยอารมณ์อยากจะล้อเฮียโจ้ที่พูดก่อนหน้านั้นกับเมียรักของผม ซึ่งเป็นสองคำพูดที่ผมใช้พูดอยู่บ่อยๆ เวลากระตุ้นอารมณ์ให้กันและกัน ระหว่างคำว่า "ที่รัก" กับ"เมียจ๋า-ผัวจ๋า"
"อ๊า....ผัวจ๋า ..เมีย...."
ผมรู้ว่ากลอยหมายถึงอะไรเมื่อเธอโยกเอวเร็วขึ้น ส่วนผมนั้นก็สุดจะกลั้นแล้วชิงออกตัวไปก่อนเธอเมื่อผมกระฉุดน้ำรักเข้าโพรงลึกแห่งความหฤหรรษ์ ผมบีบนมสองเต้าของกลอยแทบจะแหลกคามือด้วยความเสียวซ่าน กลอยเธอรับรู้ว่าผมถึงฝังแล้ว เธอโน้มตัวเอาสองมือมายันที่หน้าอกผมแล้วก็เร่งเอวเร็วๆ
"อ๊าาาาา....."
ไม่นานเสียงหวานๆ ก็ร้องเสียงยาวพร้อมกับบดเอวลงแรงๆ แล้วก็ฟุบร่างงามลงบนอกผมหายใจหอบแรงจนตัวโยน ผมเอามือลูบไล้ไปมาตามแผ่นหลังเพื่อปลอบประโลมเบาๆ แล้วกลอยก็พลิกร่างลงจากตัวผมนอนหายใจช้าๆ หลับตาพริ้มพร้อมรอยยิ้มหวานๆ สะท้านหัวใจผม ผมเสยเส้นผมที่ปิดบังใบหน้ากลอยออกพร้อมก้มหน้าลงหอมเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นสวมกางเกงเดินลงมาข้างล่าง
ผมเห็นเฮียโจ้นอนเอกเขนกอยู่บนโชฟาดูโทรทัศน์อยู่ แกมองยิ้มๆ มาที่ผมเสมือนบอกว่าผมล้างหน้าไก่มาแน่ๆ ผมยิ้มตอบบอกขอตัวอาบน้ำสักครู่แล้วก็ออกมาคุยกันกับแก ก่อนจะพาขับรถนำแกไปดูสถานที่ที่ผมจะสร้างบ้าน แกแนะนำหลายอย่างให้ผม พร้อมบอกว่าถ้ามีปัญหาใดใดก็โทรติดต่อได้ตลอดเวลา และก่อนที่จะร่ำลากันแกขอบคุณที่ให้ผมพักที่ห้อง ผมถามหยอกๆ ไปว่า หลับสบายไหมเมื่อคืน? แกหัวเราะบอกว่า หลับสบาย ฝันดีมากเลย
สัปดาห์ต่อมาทั้งสัปดาห์ ผมง่วนอยู่กับการเตรียมที่ ต้องตัดต้นมะม่วงทิ้งหลายต้น ถมดินนิดหน่อยเพราะที่สูงอยู่แล้ว ติดต่อหาทรายมากองเตรียมไว้ เมื่อเสร็จแล้วก็โทรแจ้งเฮียโจ้ให้ทราบ
บ่ายวันหนึ่ง เฮียโจ้ก็ขับรถนำลูกน้องจำนวน 5 คนมาที่ที่ผมจะปลูกบ้าน โชคดีที่ป๋าเด็จเจ้าของที่เดิมแกได้สร้างที่พักให้คนงานใว้เฝ้าสวนมะม่วง เป็นเพิงสังกะสีเสาสี่ต้นและมีห้องน้ำด้วย พวกคนงานพอจะนอนเบียดๆ กันได้ทั้งหมด แต่ก็เห็นพากันต่อเพิงออกมาอีกนิดหน่อยบอกว่าเอาไว้ทำเป็นครัว
หนึ่งเดือนผ่านไป การก่อสร้างบ้านผมเป็นไปอย่างไม่มีปัญหาใดๆ เฮียโจ้ก็มาดูการทำงานของลูกน้องด้วย แต่เป็นการมาดูแบบเช้ากลับเที่ยง แกมาทุกครั้งก็จะมาพบผมด้วยแต่ไม่ได้พบกลอยเพราะเธอต้องทำงาน แต่มีครั้งเดียวที่พบกันเมื่อเที่ยงวันหนึ่ง เราพากันไปกินข้าวเที่ยงหลังจากดูหน้างานเสร็จ ผมก็โทรบอกกลอยให้มาร่วมด้วย เฮียโจ้ยิ้มร่าเมื่อเจอหน้ากลอย เห็นทั้งสองสอบถามสารทุกข์สุกดิบกันพร้อมยิ้มหัวหยอกเอินกันไปผมก็ได้แต่นั่งยิ้ม เฮียโจ้บอกว่าช่วงนี้แกไม่ค่อยว่างต้องเดินทางออกตรวจงานตามต่างอำเภอบ่อยๆ จนแกเหนื่อยล้า แกว่าแกรับงานหลายงานจนแทบไม่มีเวลาให้ครอบครัว ผมแซวว่า อย่าหักโหมมากนักนะเฮียเดี๋ยวไม่มีแรง แกก็หัวเราะหึๆ แกบอกว่า ที่จริงน้าเทพแกขอมาทำบ้านให้ผมแต่แกให้น้าเทพไปคุมงานใหญ่กว่าอีกอำเภอหนึ่ง แกบ่นใหญ่เลยว่าเสียดายมากไม่ได้กินกลอย อ้อ..ไม่ได้กินกับข้าวฝีมือกลอยน่ะ พูดแล้วแกก็หัวเราะซึ่งกลอยก็พลอยหัวเราะไปด้วย
เรากินข้าวเสร็จ กลอยก็กลับไปทำงาน เฮียโจ้ก็กลับบ้านบอกว่า ต้องแวะไปดูงานอีกอำเภอหนึ่งก่อนจะเข้าบ้าน สงสัยแกจะโหมงานเยอะจริงๆ แหละเพราะแกดูเซียวๆ ไปเยอะเหมือนกัน
เดือนที่สองผ่านไป บ้านผมเป็นรูปเป็นร่างแล้วทั้งหลังรองานฉาบเก็บรายละเอียดและติดตั้งกระจก เดือนที่ผ่านมาผมพบเฮียโจ้แค่ครั้งเดียวในเวลาสั้นๆ แต่ก็รู้ว่าแกมีเวลาแล้วเพราะโครงการต่างๆ ที่แกรับงานทยอยเสร็จแล้วหลายงาน แกเหมือนจะอยากให้ผมชวนพักที่ห้องผมอีก แต่ว่าตอนนั้นผมไม่สะดวกจริงๆ จึงไม่ได้เอ่ยชวนแก
เช้าวันศุกร์วันหนึ่ง ผมชวนกลอยว่า ไปเที่ยวในเมืองกันไหม?ให้เฮียโจ้พาเที่ยว กลอยถามว่า แล้วแกจะว่างไหมล่ะ? เออ...ผมก็ลืมคิดไป ผมจึงโทรศัพท์หาเฮียโจ้ทันที แกบอกอย่างดีใจว่า มาเลย เฮียว่างตลอด ผมจึงให้กลอยลางานครึ่งวันเพื่อจะได้เดินทางเข้าตัวจังหวัดซึ่งเป็นระยะทางกว่า 90 กิโลเมตร
ที่ผมวางแผนไปเที่ยวกับเฮียโจ้ในตัวเมืองนั้นเพราะว่าจะเดินทางไปงานศพของพ่อตำรวจที่ทำงานที่โรงพักเดียวกันและจะได้ไปเยี่ยมลูกสาวที่เรียนอยู่ในเมืองด้วย ไหนๆ ได้ไปแล้วก็อาศัยคนในพื้นที่อย่างเฮียโจ้นั่นแหละเป็นคนพาพวกเราเที่ยวกันโดยที่จะได้ไม่ไปเสียเที่ยวเปล่าๆ
เราออกจากบ้านงานศพประมาณประมาณหกโมงเย็น แล้วก็พากันไปหาลูกสาวที่หอพัก เรานอนขลุกอยู่กับลูกสาวอยู่นานแล้วก็อาบน้ำแต่งตัวไปพบเฮียโจ้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งเรานัดกันสองทุ่ม กลอยสวมชุดเสื้อกระโปรงเป็นคอวีแขนกุดชายกระโปรงเสมอเข่าดูดีไม่ได้เซ็กซี่อะไรเลยแต่เฮียโจ้ก็จ้องเธอตาไม่กระพริบเมื่อพวกเราเจอกันครั้งแรก
ร้านอาหารที่พวกเราเข้าไปเป็นร้านที่หลังคามุงด้วยหญ้าคาขนาดใหญ่ มีโต๊ะและเก้าอี้เป็นไม้ไผ่ซึ่งมีประมาณห้าสิบโต๊ะได้ ตรงกลางเป็นเวทีที่มีไว้สำหรับการเล่นดนตรีสดซึ่งจะเริ่มเวลาสามทุ่ม พวกเราพากันมานั่งหลบมุมอยู่ท้ายๆ เป็นโต๊ะเล็กขนาดสี่คนนั่ง แสงไฟเปิดสลัวพอเห็นกันได้ มีลูกค้ามาใช้บริการแล้วประมาณสาม-สี่โต๊ะได้ เฮียโจ้สั่งเหล้าชุดใหญ่กับแกล้มอีกสอง-สามอย่าง กลอยขอข้าวเปล่าหนึ่งจานด้วยส่วนผมกับเฮียโจ้ไม่สั่งเพราะแค่กับแกล้มก็คงจะพอดีแล้ว
เรานั่งคุยกันแบบสบายๆ ถามสารทุกข์สุกดิบกันพอประมาณ แล้วก็คุยกันเรื่องบ้านของผม เฮียโจ้กับกลอยก็หยอกล้อกันไปมาเฮฮาสนุกสนานกันดี พอสามทุ่มดนตรีก็เริ่มเล่นซึ่งเป็นเพลงสมัยพวกเรายังเป็นวัยรุ่น สลับกับเพลงเพื่อชีวิต เวลาประมาณสี่ทุ่มลูกค้าเริ่มเข้าร้านกันเยอะขึ้น สังเกตุดูส่วนใหญ่จะเป็นวัยทำงานไม่ค่อยมีวัยรุ่นสักเท่าไหร่และเพลงที่เล่นก็เน้นเพลงเก่าซะส่วนใหญ่จึงค่อนข้างจะถูกใจพวกเรากันมาก ยิ่งดึกคนยิ่งเยอะอาจจะเพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดด้วย
ผมดูกลอยเธอปลดปล่อยอารมณ์เต็มที่ อาจจะฤทธิ์แอลกอฮอล์ด้วย บรรยากาศรอบข้างและการคะยั้นคะยอของเฮียโจ้ด้วยที่เมื่อเป็นจังหวะเพลงเร็วก็จะลุกขึ้นเต้นกันอยู่สองคน เธอชวนผมเต้นด้วยกันซึ่งก็ขัดเธอไม่ได้ ผมก็พลอยสนุกไปด้วยจึงได้ร่วมกันเต้นอย่างสนุกสนาน
ถ้าเป็นจังหวะเพลงช้าก็จะพากันนั่งคุยกัน ผมเห็นมือของเฮียโจ้วางอยู่ข้างล่างโต๊ะเกือบตลอดเวลา ผมคิดว่าแกคงกำลังลูบคลำขาของกลอยอยู่แน่ๆ แต่จะขนาดล้วงกันไหมนั่นผมไม่รู้ ผมทำไม่รู้ไม่เห็นไม่มองทำเป็นซาบซึ้งไปกับอารมณ์ของเพลง มีช่วงหนี่งเป็นเพลงเร็วเราทั้งสามออกมากอดคอเต้นและร้องเพลงตามนักร้องบนเวทีไปด้วย หางตาผมแอบเห็นเฮียโจ้หอมแก้มกลอยอยู่หลายครั้ง และเมื่อเป็นเพลงช้าก็เห็นเฮียโจ้ก้มหน้าไปคุยกับเธอแบบใกล้ชิดแล้วแอบหอมแก้มกันอยู่บ่อยๆ ยิ่งแสงไฟสลัวๆ มันยิ่งเพิ่มเสริมบรรยากาศได้ดีชะงัดนัก
พวกเราสามคนสนุกสนานไปกับบรรยากาศและเสียงเพลงพร้อมกับปลดปล่อยอารมณ์กันอย่างสุดๆ ยิ่งดึกยิ่งสนุก ช่วงหนึ่งผมกลับมาจากห้องห้องน้ำเป็นช่วงเพลงช้าซึ้งๆ ผมเห็นกลอยกับเฮียโจ้ยืนประคองกอดกันส่ายตัวช้าๆ ตามเสียงเพลง ผมยืนดูอยู่ครู่เมื่อทั้งสองผละออกจากกันจึงได้เดินเข้าไปร่วมโต๊ะ
เกือบตีหนึ่ง พวกเราทั้งเมาเหล้า เมาบรรยากาศและเมาอารมณ์ได้เช็คบิลออกจากร้านมา เฮียโจ้บอกให้ผมขับรถตามแกเพื่อจะพาไปที่บ้านพักของแก กลอยร้องแซวว่า รถเฮียโจ้สวยมากอยากจะลองนั่งดูจัง เฮียโจ้บอกกลับมาว่า ก็มานั่งดูสิ กลอยมองหน้าผมเหมือนขอความเห็น ผมยิ้มพยักหน้าให้ เธอทำท่าทางดีใจวิ่งไปนั่งรถสปอร์ตยี่ห้อยุโรปของเฮียโจ้ ตลอดเส้นทางที่ผมขับตามรถเฮียโจ้ ผมก็พยายามมองดูภายในรถของแกว่าทั้งสองทำอะไรกันบ้าง แต่ก็ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เพราะรถติดฟิล์มทึบมาก
บ้านพักของเฮียโจ้อยู่นอกตัวเมืองไม่มากนัก เป็นบ้านชั้นเดียวอยู่โดดเดี่ยวจากหมู่บ้านพอสมควรและมีต้นไม้ครึ้มอยู่รอบๆ ตัวบ้านมีทุ่งนาอยู่รอบทิศ แกบอกว่าเอาไว้เมื่อเวลาเครียดๆ จากงานแกก็จะออกมานอนเล่นที่บ้านพักหลังนี้ประจำ ด้วยบรรยากาศแบบบ้านทุ่งทำให้ผ่อนคลายจากความเครียดได้เยอะ อีกทั้งเอาไวัรับรองเพื่อนๆ ที่หนีความวุ่นวายในเมืองมาพักสบายๆ แบบบรรยากาศบ้านทุ่งด้วย
เฮียโจ้ได้ให้ผมกับกลอยพักอยู่อีกห้องซึ่งแกทำไว้รับแขก ผมเห็นแกส่งสายตาซึ้งให้กับกลอยเหมือนบอกอะไรเป็นนัยๆ ก่อนแกจะกลับเข้าห้องแกไป ถ้าจะให้ผมเดาล่ะก็คงจะหมายถึงให้กลอยแอบไปหาแกเมื่อตอนที่ผมหลับแน่ๆ แต่ยังไงซะคืนนี้ผมจะไม่ทำอย่างนั้นแน่นอนเพราะผมมีแผนการเอาไว้แล้ว
อ๊ะ อ๊ะ...ผมมีแผนอะไร? หรือผมคิดอะไรอยู่? เก็บความเสียวเอาไว้ต่อในตอนหน้าดีกว่าเนอะ คิดเห็นประการใดก็ฝากคอมเมนต์เป็นกำลังใจด้วยนะครับ